เทพบุตรซาตาน-5 ฉันไม่ใช่

เมื่อปลิตาร้องไห้อยู่ในห้องน้ำสักพักก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าโซนที่ตนดูแลนั้นมีลูกค้าใช้บริการอยู่เช่นกัน และหญิงสาวก็พึ่งคิดได้ว่าตนนั้นหายมานานพอสมควรแล้วจึงรีบล้างหน้าล้างตาและปรับเปลี่ยนสีหน้าให้ดูเป็นปกติ แม้ว่าขอบตาของหญิงสาวนั้นจะมองออกได้ชัดว่าพึ่งผ่านการร้องไห้มา

“มาแล้วเหรอ แล้วหายไปไหนมา พี่ก็หาเราไปเถอะ” อิงอร พนักงานแผนกเดียวกันถามขึ้นหลังจากที่เห็นปลิตาเดินมา ธวัชแนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกัน และยังฝากอิงอรช่วยสอนงานต่าง ๆ ให้กับปลิตา

“คือหนูไปเข้าห้องน้ำมาค่ะพี่อร” ปลิตาตอบไปเพียงสั้น ๆ ไม่ได้ตอบตามความเป็นจริง

“และนั่นทำไมตาบวมแบบนั้น ร้องไห้มาใช่ไหม” อิงอรสังเกตเห็นใบหน้าของหญิงสาวจึงถามขึ้น

“เปล่าค่ะ แค่ฝุ่นมันเข้าตา” ปลิตาโกหกคำโตออกไป

“พี่ไม่เชื่อหรอก คงโดนยายเอมมี่ว่าจนแอบหนีไปร้องไห้ละสิ ยายนี่เห็นเด็กใหม่เป็นไม่ได้ชอบข่ม”

“ปะ...เปล่านะคะพี่อร ไม่เกี่ยวกับคุณเอมมี่” ปลิตารีบเอ่ยท้วงทันที ก็จะไม่ให้ท้วงได้ไงเพราะคนที่ทำให้เธอร้องไห้ไม่ใช่บุคคลที่อิงอรเอ่ยชื่อ แต่เป็นอีกคนต่างหาก

“พี่ไม่เชื่อหรอก ไม่ต้องมาโกหก เมื่อกี้พี่ยังเห็นยายเอมมี่นั่นออกมาเอะอะโวยวายว่าใช้เด็กใหม่ให้ตามบอสตั้งนานแล้วป่านนี้ยังไม่มา สงสัยคิดจะลองดีนู่นนี่นั่น พี่ฟังแล้วอดจะโมโหแทนไม่ได้ ดีนะตอนที่นางบ่นบอสเดินมาพอดีไม่งั้นคงพูดไม่หยุด แหมคิดว่าตัวเองเป็นเด็กเก่า เป็นดาวเด่น มีแขกติดเยอะทำเป็นโชว์พาว” อิงอรร่ายยาวจนปลิตายืนอ้าปากค้าง

“หนูไม่ได้ร้องไห้เพราะคุณเอมมี่จริง ๆ นะพี่อร ส่วนเขาจะว่าหนูยังไงก็ช่างเขาเถอะค่ะ หนูไม่ใส่ใจ”

“ป่านจะต้องเจออะไรอีกเยอะกับสังคมแบบนี้ สังคมที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อิจฉาริษยา สังคมที่มีแต่หน้ากาก และอีกหลายอย่างไม่ใช่ว่ามันจะมีแต่ด้านลบ ด้านบวกมันก็มี ไว้ป่านอยู่นานกว่านี้อีกหน่อยก็จะเข้าใจเอง เรายังเด็กและพึ่งเข้ามาทำงานดังนั้นอย่าโลกสวยมากจนเกินไป”

ปลิตานั้นก็ได้พยักหน้ารับและทั้งสองก็ยืนพูดคุยกันต่อตามประสาเพื่อนร่วมงานใหม่ที่ต่างฝ่ายต่างถูกชะตากัน ไม่นานเสียงคำสั่งดังขึ้น ทว่าไม่ใช่เสียงของเอมมี่ แต่เป็นเสียงของหญิงสาวอีกคนที่นั่งบริการอยู่ข้างสุพจน์ ซึ่งสวยเซ็กซี่ไม่ต่างกันเอ่ยสั่ง

“เอามิกซ์เข้ามาให้ในห้องอีกหนึ่งชุด และตามนีอามาบริการบอสด้วยด่วน!” จากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็ปิดประตู และกลับเข้าไปในห้องตามเดิม

เมื่อได้ยินคำสั่งปลิตาจึงรีบทำตามทันที และไม่นานก็มีหญิงสาวผมยาวประบ่าหน้าตาสวยรูปร่างสูงขาวหุ่นดีเหมือนนางแบบเปิดประตูเข้าห้องไป

อีกหนึ่งเรื่องที่ปลิตาพึ่งได้รู้จากอิงอรว่าหญิงสาวคนนั้นคือนีอา ดาวเด่นของคลับอีกคน และที่คลับยังมีดาวเด่นอยู่อีกหลายคน แต่ถ้าจะให้ฮอตจริงก็มีอยู่สามคนคือ เอมมี่ นีอา และฟ้าใส เพราะทั้งสามสาวนั้นต่างคนต่างกินกันไม่ลงทั้งในเรื่องความสวย และการเอาอกเอาใจรวมถึงการบริการลูกค้า แต่สำหรับนีอานั้นอาจจะดูเด่นกว่าใคร เพราะหญิงสาวนั้นพ่วงด้วยตำแหน่งคู่ขาของบอสหนุ่ม หรือจะเรียกง่าย ๆ อีกอย่างก็คือคู่นอนนั่นเอง

เมื่อลูกค้าเช็กบิลกลับบ้านหมดแล้ว ปลิตาก็เก็บกวาดทำความสะอาดห้อง เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงลงไปรอผู้เป็นอาที่ด้านล่าง หญิงสาวเหลือบเห็นว่ามีคู่หนุ่มสาวที่เดินควงกันมาทางที่ตนยืนอยู่ ซึ่งก็คือนักรบและนีอา ในจังหวะที่กำลังเดินผ่านชายหนุ่มก็หันมาจ้องหน้าเธอจนเธอนั้นต้องรีบก้มหน้ามองพื้น เพราะไม่อยากสบสายตาดุ ๆ ของเจ้านายหนุ่ม เนื่องจากหญิงสาวคิดว่าเขานั้นยังคงโมโหตนที่เข้าไปในห้องส่วนโดยพลการ

“บอสคะ คืนนี้ไม่ให้นีอาดูแลจริงเหรอคะ” หญิงสาวหน้าตาสวยหุ่นนางแบบดาวเด่นของคลับเอ่ยความขึ้นขณะเดินมาที่ลานจอดรถ

“ไม่” นักรบตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“แต่นานแล้วนะคะที่บอสไม่เคยเรียกหานีอาเลย นีอาคิดถึงอยาก...”

“ผมบอกว่าไม่ก็ไม่ อย่ามาเซ้าซี้ จำสิ่งที่ผมเคยบอกคุณได้ไหม” นักรบเอ่ยตัดบทตั้งแต่นีอายังพูดไม่ทันจะจบ เพราะชายหนุ่มเริ่มจะหงุดหงิดกับการที่หญิงสาวนั้นตื๊อไม่เลิกตั้งแต่นั่งอยู่ภายในห้อง

ที่จริงแล้วนักรบไม่ได้เป็นคนที่เรียกหานีอาให้มาดูแลตน แต่เป็นฝีมือของเพื่อนสนิททั้งสองต่างหากที่เป็นคนสั่งให้ฟ้าใสไปเรียกนีอาเข้ามา เพราะสุพจน์และภูวดลเห็นว่าเขาทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ตลอดเวลา ดูไม่สนุก แต่เพื่อนทั้งสองของเขาไม่รู้เลยว่ายิ่งเรียกนีอาเข้ามาดูแลเขานั้นยิ่งสร้างความรำคาญและเบื่อหน่ายให้เขามากขึ้น จนชายหนุ่มต้องไล่เพื่อนกลับ

“นีอาขอโทษค่ะ งั้นคืนนี้ฝันดีนะคะบอส”

เมื่อชายหนุ่มขึ้นรถขับออกไปหญิงสาวก็ยืนกำมือแน่นแววตากรุ่นโกรธที่ถูกชายหนุ่มปฏิเสธและพูดจาไม่ไว้หน้าตน จากนั้นนีอาจึงเดินไปขึ้นรถของตน และขับออกไปทันที

ด้านปลิตาเมื่อกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวเข้านอน นื่องจากพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเพื่อช่วยมาลีทำกายภาพให้กับสายพิน และไปเอาของใช้จำเป็นจากบ้านมาไว้ที่บ้านของธวัชก่อนบางส่วน เพราะหญิงสาวและยายยังต้องอาศัยที่บ้านผู้เป็นอาอีกสักพัก

ส่วนนักรบเองวันนี้เขาต้องกลับมานอนที่คอนโดหลังจากที่ช่วงหลังมานี้ชายหนุ่มมักจะกินนอนอยู่ที่คลับเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากตนนั้นมักจะดื่มหนักจนเมาขับรถกลับมาไม่ไหวเพราะมีเรื่องภายในใจ และเหตุที่เขาต้องมานอนคอนโดส่วนตัวในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาต้องกลับบ้านเนื่องจากบิดาและมารดาที่พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเรียกพบ

นักรบที่นอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างจากุชชี่หลับตาพริ้มเพื่อพักสายตา เพราะวันนี้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการต้องตรวจดูเอกสารทั้งวัน และไหนจะต้องจัดการเรื่องภายในที่มีพนักงานบางส่วนฉ้อโกงและขโมยของภายในคลับไปขาย ในขณะที่ร่างหนากำลังพักสายตา อยู่ ๆ ภาพของหญิงสาวใบหน้าหวานดวงตากลมโตแต่ปนเศร้านิด ๆ จมูกเชิดรั้น เรียวปากบางชมพูระเรื่อ ผมยาวสลวยที่ถูกมัดรวบเป็นหางม้าก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิด

...พรึ่บ...

นักรบรีบลืมตาขึ้นพร้อมกับสะบัดหัวไปมา และยกมือลูบหน้าตนเองพร้อมกับสบถออกมาเบา ๆ

“ไม่สิ เราต้องไม่รู้สึกผิดเพราะเด็กนั่นเข้ามาในห้องเราเองนี่หว่า” ชายหนุ่มพยายามปัดความรู้สึกผิดออก เพราะเมื่อในช่วงค่ำที่ผ่านมาตนนั้นได้ต่อว่าหญิงสาวไป จากนั้นชายหนุ่มจึงลุกขึ้นล้างตัวและพักผ่อน

ปลิตาตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยมาลีทำงานบ้าน พอทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวจึงบอกมาลีกับสายพินว่าตนนั้นจะกลับไปบ้านเพื่อไปเอาของใช้ที่จำเป็นซึ่งทั้งสองก็อนุญาต ส่วนธวัชนั้นยังนอนไม่ตื่นอาจจะเพราะเหนื่อยกับงานวันนี้เลยทำให้ตื่นช้ากว่าปกติ และเมื่อกลับมาแล้วหญิงสาวก็ช่วยทำกายภาพให้กับสายพินจากนั้นจึงขอนอนพักเพื่อคืนนี้จะได้ทำงานต่อ

ถึงเวลาปลิตารีบลุกขึ้นอาบน้ำเตรียมตัวทันที และเมื่อเสร็จแล้วหญิงสาวจึงรีบออกมาคอยผู้เป็นอา แต่มาลีอาสะใภ้ได้บอกตนว่าธวัชออกไปทำธุระให้เจ้านายตั้งแต่บ่ายสองแล้ว ดังนั้นจึงบอกให้ปลิตานั่งรถไปทำงานเอง และถ้าธวัชกลับมาไม่ทันหลังเลิกงานจะฝากลูกน้องคนสนิทมาส่งตนกลับบ้าน ซึ่งคนสนิทที่ธวัชบอกก็คืออัครพลหรือบอยนั่นเอง ซึ่งชายหนุ่มนั้นเป็นเหมือนมือขวาให้กับธวัชอีกทีที่จะคอยดูแลและรับคำสั่งจากธวัช และทั้งคู่ร่วมงานกันมานานดังนั้นธวัชจึงไว้ใจในตัวของลูกน้องคนนี้มาก

เมื่อมาถึงคลับอิงอรก็รีบบอกปลิตาทันทีว่าวันนี้กลุ่มเพื่อนของบอสหนุ่มจะมาเปิดห้องเพื่อสังสรรค์ และมีคำสั่งมาว่าให้หญิงสาวเข้าไปคอยบริการอยู่ในห้อง โดยให้คอยดูแลและชงเครื่องดื่ม เพราะวันนี้พวกเขานั้นจะไม่เรียกผู้หญิงเข้าไป

“พี่อร หนูไม่เข้าไปได้ไหมคือหนูกลัว ไม่กล้า” ปลิตาเอ่ยขอ เพราะตนไม่นั้นไม่อยากเข้าไปอยู่เพียงลำพังท่ามกลางชายหนุ่มแปลกหน้า

และเมื่อคืนที่ตนได้เข้าไปเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหาร หญิงสาวก็เห็นว่าผู้หญิงที่ร้านโดนอะไรบ้างแม้ลูกค้าที่ดูแลเมื่อคืนจะไม่ใช่ห้องของเพื่อนสนิทบอสหนุ่มก็ตาม และหญิงสาวก็คิดไปถึงว่าขนาดลูกค้าที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทของบอสยังขนาดนี้ และถ้าขึ้นชื่อว่าสนิทกับบอสของตนจะขนาดไหน ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งกลัว

“ไม่ต้องกลัวหรอกป่าน พวกเพื่อน ๆ บอสไม่ใช่คนแบบนั้น และที่ต้องการความเป็นส่วนตัวคงจะคุยธุระกัน เชื่อพี่แค่เข้าชงเหล้าแค่นั้น ชงเสร็จก็มายืนอยู่มุมห้องไม่ได้ไปนั่งใกล้ชิดแบบนั้น” อิงอรรีบบอกเพราะดุออกว่าปลิตานั้นคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

“ก็ได้ค่ะพี่ แล้วเขามากันหรือยังคะ” ปลิตาเอ่ยถาม

“เห็นว่ามาถึงแล้วกำลังขึ้นลิฟต์มา ไปเตรียมเถอะ เชื่อพี่ไม่มีอะไรหรอก” อิงอรย้ำเพื่อไม่ให้ปลิตาเป็นกังวล

ภายในห้องทั้งสามนั่งคุยกันเรื่องปัญหาต่าง ๆ ภายในคลับ และที่นักรบเรียกเพื่อนสนิทมาในวันนี้เพราะต้องการขอคำปรึกษา อีกทั้งวันนี้ช่วงบ่ายเขายังให้ธวัชไปทำธุระเนื่องจากชายหนุ่มต้องการรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นหนอนบ่อนไส้ และอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายนี้ แถมบิดามารดาของตนที่กลับมาจากต่างประเทศก็เรียกให้ตนเข้าไปพบแต่เช้าเพราะต้องการพูดคุยและให้ตนรีบจัดการกับปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว ไม่อยากปล่อยให้คาราคาซังอีกต่อไป

ในระหว่างการดื่มและการพูดคุยของทั้งสามนั้นมีปลิตาคอยดูแล ทุกครั้งเมื่อชงเครื่องดื่มเสร็จหญิงสาวก็รีบเดินไปยืนก้มหน้างุดอยู่มุมห้องทันที แม้สุพจน์จะหยอดคำหวานใส่บ้าง แต่ปลิตาก็ไม่ได้สนใจ และพยายามอยู่ห่างจากสามหนุ่มตลอดจนภูวดลนั้นอดที่จะขำเพื่อนไม่ได้ เพราะไม่ว่าสุพจน์จะพูดจะหยอดยังไงสาวเจ้าไม่เล่นด้วย ต่างจากชายหนุ่มอีกคนที่มองด้วยสายตาเชิงตำหนิ และรำคาญที่เห็นหญิงสาวทำท่าทำทางเหมือนรังเกียจพวกตนหนักหนา

“มึงนึกยังไงถึงเรียกเด็กคนนี้เข้ามาดูแลทั้งที่เป็นเด็กใหม่ ดูเงอะงะ คนอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะ” นักรบเอ่ยถามสุพจน์ด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ

“ทำไม ก็กูชอบน้องเขา สายป่านออกจะน่ารักน่าทะนุถนอม ดูแล้วเหมือนแม่กวางน้อย ดูน่าล่าดีออก” สุพจน์บอกเสียงไม่ดังมากนัก เพราะกลัวร่างบางที่ยืนอยู่มุมห้องจะได้ยินและตกใจกลัว

“หึ” นักรบสบถออกมาเพียงสั้น ๆ พร้อมกับยกแก้วดื่มรวดเดียวจนหมด

และเมื่อปลิตาเห็นดังนั้นหญิงสาวจึงรีบเดินเข้าไปชงเครื่องดื่มให้ชายหนุ่มใหม่ทันทีโดยที่หญิงสาวไม่กล้าสบสายตาดุคมของเจ้านายหนุ่ม ต่างจากสายตาอีกสองคู่ที่จ้องมองหญิงสาวด้วยแววตาเป็นประกายและแวววับ

เมื่อดื่มกันไปสักพักทั้งสามหนุ่มก็เริ่มที่จะมึน ๆ และเริ่มจะเมา แล้วอยู่ ๆ สุพจน์ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“กูว่าน้องสายป่านคล้ายน้องน้ำค้างอยู่นะ ทั้งหุ่น ทั้งผิวพรรณ หน้าตา โดยเฉพาะแววตาแม่งมองยังไงก็กวางน้อยชัด ๆ” สุพจน์พูดขึ้นจนทำให้สองหนุ่มหันไปมองที่ตน

“มึงจะเปรียบกับใครก็ได้ เสือกไปเปรียบกับน้องน้ำค้าง สะกิดแผลมันชัด ๆ” ภูวดลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะอ้อแอ้ แต่ถ้าจะให้ฟังดี ๆ น้ำเสียงของชายหนุ่มทั้งสามคงไม่ต่างกัน

“สะกิดแผลห่าอะไรไม่เกินสามเดือนเดี๋ยวมันก็ลืม” สุพจน์พูดติดตลกโดยที่ชายหนุ่มที่ถูกเอ่ยถึงไม่ได้รู้สึกตลกด้วยเลย

“กูไม่ตลก แต่มึงก็พูดถูกเดี๋ยวกูก็ลืมเอง ยังไงตอนนี้น้ำค้างก็คือเมียเพื่อนและเป็นน้องสาวกู” ถึงนักรบจะพูดแบบนั้น แต่ภายในใจของชายหนุ่มก็ยังรู้สึกจี๊ดอยู่ดี หลังจากนั้นนักรบก็ยกแก้วดื่มบ่อยขึ้น และทุกครั้งที่สามหนุ่มชนแก้วกันก็มักจะยกหมดทุกครั้งจนปลิตาชงแทบจะไม่ทัน

ไม่นานทั้งสามก็อยู่ในสภาพที่เมาเละจนแทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ปลิตาจึงวิ่งไปตามอิงอรให้พาคนมาช่วยดูคนทั้งสาม เพราะหญิงสาวนั้นไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดีกับคนเมาทั้งสาม และเมื่ออิงอรรู้จึงเรียกให้พนักงานมาช่วยแบกเพื่อนสนิทของเจ้านายหนุ่มทั้งสองคนไปส่งที่รถ เนื่องจากภูวดลและสุพจน์รู้แล้วว่าคืนนี้จะต้องเมาแน่ จึงได้โทรตามลูกน้องคนสนิทมาคอยรับและรออยู่ที่ลานจอด ทั้งยังได้บอกพนักงานไว้แล้วด้วย

“พี่อร แล้วบอสล่ะคะ จะปล่อยให้นอนตรงนี้เหรอ” ปลิตามองคนเมาแต่ยังพอมีสติอันน้อยนิดที่นั่งพิงโซฟา

“คุณธวัชก็ไม่อยู่ ลูกค้าก็เยอะ ไม่มีใครว่างด้วย เอางี้ป่านช่วยพี่แบกบอสไปส่งหน่อย”

“จะดีเหรอคะพี่อร บอสไม่ชอบให้ใครเข้าห้องส่วนตัวนะ” ปลิตาเอ่ยค้าน

“โอ๊ยไม่เป็นไรหรอก แค่เอาไปส่งในห้อง จะปล่อยให้นอนแบบนี้มันไม่เหมาะป้ะ เร็วช่วยพี่พยุงหน่อย”

จากนั้นทั้งสองจึงพากันหิ้วปีกเจ้านายหนุ่มขึ้นลิฟต์ไปส่งยังห้องส่วนตัวชั้นบนสุดของคลับ และเมื่อพยุงถึงหน้าห้องแล้วอิงอรจึงใช้คีย์การ์ดที่อยู่ในกระเป๋าของชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไป เมื่อประตูเปิดยังไม่ทันที่จะพยุงเจ้านายหนุ่มเข้าไปเสียงแจ้งเตือนจากมือถือของอิงอรก็ดังขึ้น และเมื่อรับสายจึงรู้ว่าบิลลูกค้ามีปัญหาและทำให้ลูกค้ากลุ่มนั้นรู้สึกไม่พอใจ พนักงานด้านล่างจึงเรียกให้ตนไปช่วยดูและจัดการด่วน

“ป่าน พี่ต้องไปดูลูกค้าที่ข้างล่างก่อนพอดีมีปัญหานิดหน่อย แล้วนี่คีย์การ์ดพี่วางไว้ตรงนี้นะ” พูดจบอิงอรก็รีบออกไปทันทีเพราะกลัวว่าลูกค้าจะรอนาน และปัญหาจะเพิ่มมากขึ้น

“อ้าว! พี่อรจะไปไหนคะมาช่วยหนูก่อน พี่อร พี่อร” เมื่ออิงอรออกไปตอนนี้ก็เหลือแค่เพียงตน เธอจึงพยายามพยุงร่างกายที่หนักอึ้งของเจ้านายหนุ่มไปยังเตียงนอน

“อุ๊ย!! หนักชะมัด พี่อรนะพี่อรทิ้งกันเลย เกิดบอสตื่นแล้วมาว่าหนูอีก หนูจะทำยังไง” หญิงสาวได้แต่บ่นงึมงำคนเดียว

ปลิตาเปิดประตูห้องนอนของชายหนุ่มอย่างทุลักทุเล ด้วยเพราะชายหนุ่มนั้นเดินเซบวกกับส่วนสูงและร่างกายที่ต่างกัน จึงทำให้ตอนที่ปลิตาจะเหวี่ยงร่างของชายหนุ่มลงที่นอนนั้นก็ทำให้เสียหลักล้มไปพร้อมกัน จนร่างของเธอล้มไปทาบทับร่างของนักรบ เมื่อเธอลุกขึ้นและกำลังจะพ้น แต่อยู่ ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกมือใหญ่ของชายหนุ่มฉุดรั้งจนปลิตานั้นล้มลงทับร่างของนักรบอีกครั้ง และทันใดนั้นชายหนุ่มก็หมุนตัวพลิกร่างของเธอลงไปอยู่ใต้ร่างของเขาทันที

“น้ำค้าง น้องน้ำค้างจริง ๆ ด้วย”

“มะ... ไม่นะคะบอส นะ...หนูสายป่านค่ะไม่ใช่น้ำค้าง...ปล่อยนะคะบอส!!”