บทที่2.คัดเลือก 2/7
มาดามแพชี่เดินลงมาจากบันไดวนสีงาช้างช้าๆ เธออุ้มแองเจลิน่าไว้ในอ้อมแขน มีสาวใช้ถือตะกร้าของใช้กระจุกกระจิกตามหลังมาติดๆ
ทิพยอาภาสูดลมหายใจลึกๆ เธอกลั้นสะอื้น พยายามกะพริบตาถี่ๆ ไม่อย่างนั้นน้ำตาเธอคงไหลออกมาแน่ๆ ดวงตาใต้กรอบแว่น มองตรงไปยังเด็กน้อยรูปร่างจ้ำม่ำในอ้อมแขนของมาดามแพชี่ ลูกของเธอยังอยู่ดีมีสุข เขามีที่นอนอุ่นๆ มีหลังคาคุ้มหัว และได้อยู่ในบ้านที่เขามีสิทธิ์ เมื่อเป็นหนึ่งในคนของ ‘ดีแลน’ เช่นกัน
“สวัสดี...หลานฉันชื่อแองเจิ้ล!! เด็กที่ต้องการพี่เลี้ยงใจดี...และพี่เลี้ยงที่ฉันต้องการคงอยู่ในกลุ่มของพวกคุณ”
มาดามแพชี่เปรย ท่านทรุดนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ มีแองเจลิน่านั่งซ้อนอยู่บนตัก เด็กหญิงยัดมือใส่ปาก เธอดูดนิ้วเบาๆ กลอกตามองไปรอบๆ ตัวแบบไม่กลัวคนแปลกหน้า อารมณ์ดีขนาดแกว่งแขน แกว่งขาเล่น มุมปากมีน้ำลายไหลย้อย...
“อุ้ยตาย!! น่ารักจังเลยค่ะ แบบนี้ดิฉันเลี้ยงแบบถวายหัวเลย”
เสียงอุทานแบบเสแสร้ง พร้อมกับเสียงสนับสนุนเซ็งแซ่ เมื่อแองเจลิน่าดูเหมือนจะเลี้ยงง่าย
“ถวายหัว หรือถวายตัว!!” ไทรีสยังไม่วายค่อนคอด ทิพยอาภาก้มหน้าซ่อนยิ้ม เธออดขำคำพูดของเพื่อนไม่ได้
“งานไม่ได้ยากอะไร...แค่ดูแลหลานฉันยี่สิบสี่ชั่วโมง...เรามีกล้องวงจรปิดติดไว้ในห้องนอน...และหากหลานฉันมีอันตรายแม้แต่รอยขีดข่วน...ฉันจะเชิญคุณออกทันที โดยไม่มีการต่อรอง...”
มาดามแพชี่กล่าวเสียงเรียบ นางหลงรักเด็กน้อยจนหวงประหนึ่งเป็นสายเลือดตัวเอง ดังนั้นหากใครก็ตามทำให้ดวงใจของนางบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นรอยเล็กๆ นางก็ไม่ต้องการ
“แอะๆ” แองเจลิน่าเตะเท้าแรงๆ เจ้าตัวพยายามแอ่นตัว เมื่อจำเค้าหน้าของทิพยอาภาได้ ต่อให้ปลอมแปลงยังไง สัญชาตญาณการเป็นแม่ลูกย่อมแสดงออกเสมอ...
“ชูว!! จะไปไหนคะแองเจิ้ล...”
มาดามก้มลงถามหลานรัก นางกดปลายจมูกลงบนแก้มยุ้ยๆ จนทิพยอาภาแอบอิจฉา เธออยากกอดลูก อยากแตะตัวลูก แต่ที่ทำได้คือต้องอดทน ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ
“คงอยากเล่นนะคะคุณท่าน...ดีจังเลยไม่ยักกับตื่นคน” สาวใช้ข้างตัวมาดาม นอบตัวลงพร้อมกับกล่าว เธอยื่นมือไปเขี่ยฝ่าเท้าของแองเจลิน่าเล่น
“แอะๆ” เด็กน้อยส่งเสียงดังขึ้น เมื่อไม่สามารถโผไปหามารดาได้อย่างใจ
“สนุกใหญ่เลย งั้นทดสอบเลยแล้วกันนะ...ใครทำให้หลานฉันพอใจได้ งานนี้จะเป็นของคุณ”
มาดามแพชี่เอ่ยบอก เธออมยิ้มเมื่อหลานรักแข็งแรงร่าเริง
แต่ละคนที่นั่งหน้าสลอนทำหน้าฉงน ไม่เข้าใจคำพูดของว่าที่นายจ้าง ทำยังไงให้เด็กพอใจ เมื่อนางไม่ยอมปล่อยเด็กน้อยลงจากตัก แล้วพวกเธอจะทำอะไรได้?
“สิบนาทีนะจ๊ะ พวกคุณมีเวลาเท่านั้น”
มาดามย้ำอีกครั้ง...
ทิพยอาภาเป็นคนเดียวที่ขยับเข้าไปใกล้ๆ เธอทรุดนั่งลงที่พื้น ดวงตากลมโตใต้กรอบแว่นขนาดใหญ่จ้องมองแองเจลิน่า และเด็กน้อยในอ้อมแขนของมาดามก็สงบลง ดวงตาใสแจ๋วนั่น มองตามทิพยอาภาทุกครั้งที่หล่อนขยับตัว หญิงสาวยกมือเสมอใบหน้า เธอดีดนิ้วเป็นจังหวะ เหมือนเวลาที่เธออยู่กับลูกน้อยเพียงลำพัง...
แป๊ะๆ พอเสียงดีดนิ้วดัง...
“แอะๆ” แองเจลิน่าขยับมือรับ มืออ้วนป้อมโบกไปมา ทำเหมือนจะโผเข้าหาทิพยอาภาอย่างเดียว
เพลงกล่อมเด็ก ดังเบาๆ เมื่อทิพยอาภาเริ่มเปล่งเสียงร้อง...เจ้าตัวอ้วนตะแคงหูฟัง ปากจิ้มลิ้มแสยะยิ้มแฉ่งจนเห็นเหงือกสีแดงแจ๋ มือไม้ขวักไขว่ กระเด้งตัวอย่างหนัก!! เมื่อเป้าหมายที่แองเจลิน่าต้องการคือโผเข้าหามารดา...
“เหมือนหลานฉันจะชอบเธอนะ”
มาดามแพชี่พูดยิ้มๆ นางกอดกระชับหลานรักแน่นขึ้น เมื่อเจ้าตัวกำลังดิ้นรนจะไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
หน้าอกทิพยอาภาปวดหนึบ...เต่งเต้าของเธอเต้นตุ๊บๆ เหมือนอยากจะกลั่นน้ำนมออกมาให้บุตรสาวได้ดื่มกิน โชคดีที่เธอรู้ทันจึงเอาทิชชูยัดใส่ไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำนมของเธอที่ไหลออกมา คงทำให้ใครๆ ในที่นี้รู้ว่า เธอเพิ่งจะคลอดลูกไม่นาน
“ขอดิฉันอุ้มคุณหนูได้ไหมคะ?”
ทิพยอาภาช้อนสายตาขึ้นมองมาดามแพชี่ เสียงของเธอเกือบสั่นตอนที่ร้องขอ
มาดามคนที่สองตรองอย่างหนัก แต่เมื่อพิจารณาทิพยอาภาแล้ว หล่อนไม่น่ามีพิษภัย จึงยอมส่งแองเจลิน่าให้กับหญิงสาว