บทที่2.คัดเลือก 1/7
ถนนสีขาวทอดยาวจากรั้ว จนถึงตัวคฤหาสน์หลังใหญ่เป็นระยะทางไม่ต่ำว่า400 เมตร ความกว้างขวางของพื้นที่ บ่งบอกถึงสถานะการเงินของ ‘ดีแลน’ เป็นอย่างดี ตระกูลเก่าแก่ที่ดำรงอยู่ในยุคปัจจุบันโดยไม่ต้องตัดที่ดินส่วนหนึ่งออกขาย ก็คงมีแต่ดีแลนเท่านั้น เมื่อฐานการเงินของตระกูลนี้ไม่เคยสั่นคลอน ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะผันผวนขนาดไหน...ก็ไม่เคยทำให้ดีแลนสะเทือนได้สักครั้ง...
พุ่มไม้เตี้ยๆ สีเขียวสดถูกปลูกไว้ริมถนนเพื่อกำหนดแนวถนนไว้อย่างชัดเจน หญิงสาวทอดสายตามองไปรอบตัวๆ ครั้งแรกที่เธอเหยียบย่างเข้ามาภายในนี้ มีแต่ความหวาดหวั่นเต็มหัวใจ จนไม่กล้าที่เงยหน้ามองอะไรเลย ครั้งนี้ทิพยอาภามาพร้อมกับสติ!! กับความมุ่งมั่น เธอจึงมีสายตาไว้มองอย่างอื่น ไม่ได้หวั่นกลัวเฉกเช่นครั้งแรก
“บ้าน ‘ผัว’ แกนี่รวยหูดับ เฉพาะที่ดินฉันก็ไม่อยากจะคำนวณราคา ฉันกลัวเป็นลมก่อนจะนับเลขศูนย์ได้หมด”
ไทรีสพูดลอยๆ เขามองหาที่จอดรถยนต์ มีสาวใช้วิ่งออกมาดูก่อนจะผลุบกลับไป
“เขาไม่กลัวโจรกันหรือไงนะ...” เสียงบ่นยังมีมาอีกเรื่อยๆ เมื่อชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยกำลังตื่นเต้นไม่ต่างอะไรกับทิพยอาภาเลย
“แก ‘กลัว’ เหรอไท?” หญิงสาวกระเซ้า เธอคลี่ยิ้มอ่อนๆ มองประตูคฤหาสน์ด้วยสายตาแน่วแน่ หลังประตูบานนั้นเธอจะได้พบลูกอีกครั้ง...
“เหอะ!! ทำอย่างกับแกไม่กลัวนี่” ชายหนุ่มหัวใจสีชมพูสะบัดค้อนให้เพื่อนสาวคอแทบเคล็ด
“ฉันกลัว...แต่ฉันจะพยายาม เพื่อ ‘ลูก’ ”
ทิพยอาภาตอบเสียงแผ่ว เธอกัดริมฝีปากล่าง ข่มความกระวนกระวาย เพราะหากแผนแตก แม้แต่เงา ‘แองเจลิน่า’ เธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
“เราผ่านมันได้แน่ๆ เพราะต่อให้แกไม่ได้งานนี้...แกก็ยังได้เห็นแองเจิ้ล!!”
ไทรีสตบหลังมือทิพยอาภาเบาๆ เขาเปิดประตูและก้าวลงไปจากรถยนต์ ทิพยอาภามุดออกมาจากรถยนต์เธอยืนนิ่งๆ ข้างตัวรถเพื่อทำใจ แล้วจึงเดินก้มหน้าตามไทรีส พยายามสำรวมกิริยาไม่ให้หวั่นไหวหรือว่อกแว่ก
สาวใช้คนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับเหมือนรู้งาน แต่ไทรีสก็อดค่อนว่าไม่ได้ เมื่อสาวใช้แต่ละคนที่ตนเองเห็น สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกันทั้งหมด
“แหมๆ มีชุดฟอร์มด้วยว่ะ!!”
หญิงสาวอมยิ้ม...เธอเดินตามไทรีสไปห่างๆ
ห้องโถงกลางบ้าน...
ณ. จุดนั้นมีผู้คนมาชุมนุมกันไม่ต่ำกว่า10ชีวิต แต่ละคนที่มา คงมาเพื่อคัดเลือกการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
ไทรีสเอียงตัวลง เขาจีบปากกระซิบเสียงแผ่ว เมื่อมองเห็นบรรดาสาวๆ ที่จะมาร่วมคัดเลือกครั้งนี้ “แน่ใจนะที่มานี่ มาเพื่อเลี้ยงเด็ก ไม่ได้มาอ่อย หลานเจ้าของบ้าน?”
หญิงสาวพยักใบหน้าเห็นด้วย เมื่อสาวๆ ที่นั่งรออยู่ณ. จุดนี้ ทุกคนจัดเต็ม แต่งองทรงเครื่องเหมือนเพิ่งจะเดินลงมาจากแคทวอล์ค
เครื่องหน้าเต็ม!! ทรงผมเด้ง ชุดที่สวมเหมือนเพิ่งจะถอยออกมาจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง
ไม่แปลกหรอกที่สาวๆ เหล่านั้นจะมีความหวัง เมื่อแมทธิวยังโสด เขาติดทำเนียบหนุ่มที่สาวๆ ลงความเห็นว่ามีเสน่ห์ที่สุดในคศ. นี้
“เชิญนั่งค่ะ อีกสิบนาทีมาดามแพชี่จะพาคุณหนูลงมา หากใครทำให้คุณหนูแองเจิ้ลพอใจ คนนั้นก็จะได้รับเลือก”
สาวใช้อธิบายคร่าวๆ หล่อนหมุนตัวเดินหนีไป ปล่อยให้คนที่เฝ้ารอ ได้มีโอกาสพูดคุยกัน
“เธอๆ คุณหนูที่แม่คนนั้นพูดคือเด็กที่เขาจะให้เราเลี้ยงใช่ไหม?”
“คงงั้นแหละ!! แต่เด็กนั่นลูก ใครล่ะ?”
“ไม่รู้สิ...คนรวยส่วนใหญ่ชอบอุปการะเด็ก คงไปรับมาจากสถานสงเคราะห์ที่ไหนสักที่”
เสียงซุบซิบแว่วมาเข้าหู ทิพยอาภาแค่นยิ้ม...ใช่...คนร่ำรวยมักนิยมทำความดีเอาหน้า เขาอุปการะเด็กตามสถานสงเคราะห์จริงๆ ก็เธอนี่ไงคือเด็กที่เขาอุ้มชู...ทิพยอาภาจึงดีใจที่แองเจลิน่าไม่ถูกส่งไปอยู่สถานที่เช่นนั้น...
“เอ...มาตั้งนาน...ยังไม่เห็น คุณแมทธิวเลย เขาไม่อยู่เหรอ?”
ชื่อของผู้ชายคนนั้นลอยมาเข้าหู
ไทรีสเอียงตัว เขาขยับพูดแบบที่ปากแทบไม่ขยับ แต่ทิพยอาภาจับใจความได้
“มาอ่อย!!”
หญิงสาวถอนใจแรงๆ คนอื่นจะมาเพราะอะไรเธอไม่อยากสนใจ เมื่อเวลานี้เธอใจจดใจจ่อที่จะได้พบหน้าบุตรสาวอีกครั้ง...
เวลาที่ทิพยอาภารอคอยก็มาถึง...