บทที่1.ของขวัญจากพระเจ้า 4/5
“ทำสิ!! แต่...”
หญิงสาวตอบกลับเสียงรัว แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อนึกถึงใครบางคน ที่มีอิทธิพลกับตนเอง เธอกลัวที่สุดคือแมทธิวจับได้...และหากเขารู้ความจริง เธอคงถูกเฉดหัวออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้นแทบไม่ทัน
ไทรีสอมยิ้ม...แค่นี้เขาก็รู้คำตอบแล้วล่ะ
“มานี่สิ ฉันมีอะไรให้แกดู”
ชายหนุ่มกวักมือเรียกทิพยอาภา เขาถอยหลังเดินกลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะนั่งหน้าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่เปิดค้างไว้
หญิงสาวเดินซอยเท้าถี่ๆ กึ่งวิ่งกึ่งเดิน เธอหยุดยืนซ้อนหลังเพื่อน มองกรอบเล็กๆ ที่ไทรีสชี้ให้ดู
น้ำตาทะลักออกมาอีกครั้ง... มือเล็กยกขึ้นปิดปาก กลั้นเสียงสะอื้นไห้ แองเจลิน่าลูกของเธอ ไม่ได้ถูกส่งไปอยู่สถานสงเคราะห์เหมือนที่กลัว...มีคนใจดีรับลูกของเธอไว้ บุคคลคนคนนั้น คือมาดามแพซี่ ภรรยารองของบิดาของแมทธิว...ลูกของเธอได้อยู่ในคฤหาสน์หลังนั้น...ในฐานะส่วนหนึ่งของ ‘ดีแลน’
“ฉันไม่กล้าหรอกไท?” หญิงสาวส่ายใบหน้า ยกมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ แม้มันจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เธอได้อยู่ใกล้ชิดลูก
“กว่าแกจะมาถึงตรงนี้แกผ่านความลำบากอะไรมาบ้างทิพ แกจะยอมง่ายๆ แบบนี้เหรอไง?”
ความลำบากที่ทิพยอาภาผ่านพบมาตลอดชีวิต ไทรีสรับรู้เมื่อเพื่อนสาวเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก ระหว่างเขากับทิพยอาภาจึงไม่เคยมีความลับต่อกัน ดังนั้น... การที่เพื่อนรักเจ็บปวด เขาเองย่อมรู้สึกไม่ต่างกัน...หากเขาจะทำให้ทิพยอาภาได้ใกล้ชิดลูก และหากสวรรค์มีตา...ทำให้หนุ่มสุดจองหองคนนั้นหันมามองผู้หญิงต้อยต่ำอย่างเพื่อนตัวเองได้บ้าง แม้โอกาสจะมีแค่1% ไทรีสก็อยากลอง...
ในความคิดของคนที่ก้ำกึ่งทางเพศ ชายหนุ่มยังไม่รู้ความต้องการของตัวเองแน่ชัด เขารู้แค่ว่าเขาไม่พิศวาสผู้หญิง เมื่อร่างกายของพวกหล่อนไม่สามารถปลุกความกำหนัดในตัวของเขาได้ เรือนกายกำยำต่างหากที่ทำให้เขาพลุ่งพล่าน แต่เขาก็รู้ดี ฤทธิ์ความรักเป็นเยี่ยงไร...หากตกลงไปในบ่วงนั่นแล้ว ชีวิตของตัวเองก็เหมือนเกาะเส้นด้ายห้อยต่องแต่งอยู่กลางเหวลึก!! หากโชคดีคู่ของตัวเองมีความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกัน...ด้ายเส้นนั้นก็มั่นคงขึ้น และถูกดึงจนพ้นปากเหว แต่...หากคนที่ตัวเองปักใจรัก มีแค่คำลวง สักวันด้ายก็จะเปื่อยและขาด ตัวเองก็ตกลงสู่ก้นเหวที่ดำมืด จมดิ่งอยู่กับความทุกข์ระทม
มือเล็กๆ กำชายกระโปรงแน่น เรียวปากอิ่มเม้มจนเป็นเส้นตรง เธอหลุบเปลือกตาลง...และใคร่ครวญอย่างหนัก
“อืม...ฉันจะทำ!!”
ทิพยอาภาลืมตาขึ้น...ดวงตาเธอลุกโชนไปด้วยแสงแห่งความหวัง
หญิงสาวไม่ได้ต้องการกลับไปใกล้ชิดแมทธิว...สิ่งที่เธอต้องการคือการได้โอบอุ้ม ‘นางฟ้า’ ตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่ในฐานะ ‘แม่’ ก็ตาม
“ดี!! ฉันจะเนรมิตให้แกเอง...”
ไทรีสยิ้ม เขาหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมากดโทร. ออก
ตืดดดดดดดดดดดดดดด...
เสียงสัญญาณดังยาวนาน กว่าจะมีคนรับสาย...
“สวัสดีค่ะ บ้านดีแลน ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรคะ?”
ปลายสายกดรับและกรอกเสียงถามกลับมาแบบคนมืออาชีพ
“สวัสดีฮ้า...” ชายหนุ่มดัดเสียงนิดหน่อย...จากเสียงห้าวๆ เป็นเสียงแหลมที่ออกจะดีดดิ้นเกินจริง “ฮั้นเห็นประกาศหาพี่เลี้ยงเด็ก...และฮั้นมีคนงานที่ต้องการทำงานนี้อยู่ ไม่ทราบว่าเราจะพอคุยกันได้ไหมฮ้า” เขายิงตรงเป้า แจ้งความต้องการแบบไม่รอช้า
ปลายสายเงียบไปชั่วครู่...ก่อนจะมีเสียงนุ่ม ๆ ตอบกลับมา
“ไม่ทราบว่าดิฉันคุยกับใครอยู่คะ แล้วคนที่ว่า...มีความชำนาญแค่ไหนที่จะดูแลเด็กเล็กๆ สักคน”
มาดามแพชี่ขอคุยเอง เธอต้องการมืออาชีพสำหรับดูแลใกล้ชิด ‘แองเจิ้ล’
“ของอย่างนี้ต้องพิสูจน์เองฮ่ะ คนของฮั้นฝึกมาดี สามารถเอาอยู่ตั้งแต่นาทีแรก ไม่ว่าเด็กจะดื้อหรือโยเยแค่ไหน?” ไทรีสฟุ้ง!! ทิพยอาภาเลี้ยงเด็กไม่เป็นหรอก เธอเองก็เพิ่งมีลูกคนแรก แต่สัญชาตญาณของแม่กับลูก จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
“มีคนติดต่อมาหลายเจ้าค่ะ...แต่เราจะเลือกคนที่เหมาะที่สุด สำหรับ ‘หลาน’ ดิฉัน”
มาดามแพชี่ตอบแบบไว้ท่า ใครก็ตามที่ผ่านด่านนี้มาได้ ต้องดีจริงๆ เมื่อแต่ละคนที่ส่งใบสมัครมา นางไม่เชื่อว่า ‘หล่อน’ จะอยากมาดูแลเด็ก พวกหล่อนคงใช้เป็นข้ออ้างที่จะแฝงกายเข้ามาอยู่ใต้ชายคาคฤหาสน์ดีแลน เมื่อเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่โฟกัส...คือ แมทธิว...ลูกเลี้ยงของนาง