ตอนที่ 2 : ทักษะบ่มเพาะเทพจักรพรรดิสงคราม
' ตามความทรงจำของเจ้าของร่างคนเก่าชื่อของเด็กหนุ่มคนนี้คือ'
' เฟยหลง '
เฟยหลงชื่อนี้ช่างเหมือนข้าในอดีตมันเป็นความบังเอิญหรืออะไรกันแน่
" ตอนนี้ต้องจัดการกับร่างกายของตัวข้าเองก่อน"
" จากความทรงจำของข้ามีทักษะระดับเซียนที่ดีที่สุดห้าทักษะบ่มเพาะข้าควรเลือกอันไหนดี "
ตอนที่เฟยหลงกำลังนั่งครุ่นคิดว่าควรฝึกทักษะไหนดีก็ได้นึกถึงความทรงจำตอนเป็นเซียนว่ามีอีกทักษะ
" ใช่แล้วทำไมข้าถึงไม่บ่มเพาะโดยใช้ทักษะนั้นละ "
ในตอนเป็นเซียนเฟยหลงเคยได้ลงไปสำรวจซากโบราณจากยุคบรรพกาลซึ่งได้เข้าไปยังห้องหนึ่งตอนแรกเฟยหลงคิดว่าอาจจะมีสมบัติจากยุคบรรพกาลแต่แล้วก็ต้องผิดหวัง
เพราะในห้องแห่งนั้นนอกจากของพวกเสาหินและเพดานที่เป็นหินเช่นกันเฟยหลงได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งที่ตั้งอยู่บนแท่นหิน
เมื่อเฟยหลงเดินเข้าไปใกล้ตอนนั้นเองที่หนังสือเล่มนั้นได้พุ่งเข้าไปในดวงวิญญาณของเฟยหลงทำให้เขาตกใจและรีบสำรวจว่ามีอาการบาดเจ็บหรือมีอะไรที่แปลกไปเกิดขึ้นไหม
เมื่อเฟยหลงเห็นว่าทุกอย่างปกติดีจึงถอยหายใจ
และลองตรวจสอบดวงวิญญาณของตนเฟยหลงได้พบว่ามีหนังสือเล่มนั้นปรากฎอยู่ในดวงวิญญาณของเจาเเละไม่ว่าเฟยหลงจะทำอย่างไรมันก็ยังคงอยู่ที่เดิม
นอกจากนั้นเฟยหลงก็ได้รู้สึกว่าทักษะนั้นได้ผสานเข้ากับดวงวิญญาณเฟยหลงจึงลองบ่มเพาะตามหนังสือที่หลอมรวมกับดวงวิญญาณดูแต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง
เพราะการบ่มเพาะทักษะนี้ต้องทำลายพลังฝึกตนทั้งหมดและเริ่มใหม่ตั้งแต่รากฐานของการฝึกตนตั้งแต่เริ่มแต่เขาไม่มีความกล้าพอที่จะทำลายการฝึกตนทั้งหมดเพื่อบ่มเพาะทักษะนี้
ดังนั้นในชีวิตนี้ในเมื่อเฟยหลงได้เกิดใหม่นั้นจึงตัดสินใจบ่มเพาะโดยใช้ทักษะนี้
" ทักษะที่ข้านำออกมานั้นชื่อของมันคือ "
" ทักษะบ่มเพาะเทพจักพรรดิสงคราม "
เฟยหลงได้ปีนขึ้นไปบนต้นไม้และนั่งลงเพื่อโคจรทักษะบ่มเพาะจักพรรดิสงครามเมื่อเริ่มโคจรทักษะบ่มเพาะเทพจักพรรดิสงครามได้ไม่นานตอนนั้นเองที่เฟยหลงรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนแปลงไป
มีภาพการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่มีโลหิตไหลกลายเป็นสายน้ำโลหิตพื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยจิตสังหารทุกอย่างโกลาหลไปหมดเหมือนว่าโลกใบนี้จะดับสิ้น
เหมือนการต่อสู้ระหว่างทวยเทพและปีศาจพวกที่มีพลังระดับเซียนจำนวนมากตนตายลงราวสายฝนที่โปรยลงมา
และมีผู้ที่พลังสูงยิ่งกว่าเฟยหลงในชีวิตที่แล้วอีกหลายคนที่กำลังต่อสู้กัน
การต่อสู้ดำเนินเรื่อยไปเหมือนไม่มีสิ้นสุด
เเต่เเล้วตอนนั้นเองที่มีเสาแสงสีดำปะทุขึ้นจากฝั่งปีศาจและพุ่งเข้าโจมตีฝ่ายทวยเทพและทำลายพวกเขาโดยฝั่งเทพไม่อาจต้านทานได้เลย
เมื่อเสาเเสงสีดำปรากฎออกมาได้ไม่นานตอนนั้นก็มีเสาแสงสีทองที่สว่างไสวปะทุขึ้นตรงกลางของกองทัพของเหล่าทวยเทพแล้วเข้าปะทะกับอีกฝั่ง
แสงทั้งสองโจมตีเข้าใส่กันและตอนนั้นเองได้มีเสียงที่ให้ความรู้สึกอันบริสุทธิ์เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์มาจากแสงสีทองกล่าวว่า
" ทำไมเจ้าต้องต่อสู้กับพวกข้าด้วยจอมเทพกับจอมปีศาจทั้งสองฝั่งเคยตั้งกฎกันแล้วว่าฝ่ายทวยเทพกับฝ่ายปีศาจจะไม่รุกรานฝ่ายไหนก่อนทำไมเจ้าถึงทำลายกฎนี้ลงและรุกรานเหล่าทวยเทพ"
แสงสีดำได้หัวเราะด้วยเสียงด้วยเสียงเยือกเย็น
"กฎไร้สาระอะไรนั้นหยุดพวกข้าไม่ได้หรอกข้าจะทำลายโลกใบนี้และสังหารเหล่าทวยเทพเพื่อจะได้ปกครองโลกใบนี้โดยพวกเราเผ่าปีศาจ"
พวกเขาทั้งสองก็ได้ต่อสู้กันต่อไปไม่มีทีท่าจะยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่าย
ภาพเหล่านั้นที่เฟยหลงเคยเห็นคือเศษเสี้ยวความทรงจำที่เหลืออยู่ซึ่งอาจจะเป็นภาพความทรงจำของเจ้าของทักษะคนเก่าหรือไม่เฟยหลงไม่ทราบเหมือนกัน
หลังจากเรื่องราวได้ปรากฎขึ้นแล้วหายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เฟยหลงก็เปิดตาขึ้นเเล้วพบว่าตัวเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและเสียงหอบหายใจเพราะความรู้สึกที่เกิดจากภาพเหล่านั้นมันทำให้เฟยหลงกดดันและรู้สึกตัวว่าเฟยหลงนั้นไรพลังที่จะต่อต้าน
เมื่อเฟยหลงสงบสติลงได้ก็เริ่มบ่มเพาะทักษะนั้นโดยที่หนังสือที่หลอมรอมกันดวงวิญญาณของเฟยหลงนั้นก็ได้ปรากฎชัดเจนอย่างยิ่งในห้วงความคิด
เมื่อเฟยหลงลองบ่มเพาะไปก็กล่าวออกมาด้วยความเเปลกใจว่า
" เมื่อข้าลองบ่มเพาะตามหนังสือเล่มนั้นมีทักษะบ่มเพาะทักษะเทพจักรพรรดิสงครามถูกสลักเอาไว้ภายในซึ่งสามารถทำให้พลังลมปราณที่มีบริสุทธิ์ยิ่งกว่าผู้ฝึกตนในระดับเดียวกัน "
" และมีทักษะยุทธ์สี่สัตว์เทพซึ่งเป็นทักษะยุทธ์ที่ปรากฎขึ้นในหนังสือเล่มนั้นพร้อมกับทักษะบ่มเทพจักพรรดิสงคราม '"