บทย่อ
เพราะต้องการทำประชดครอบครัวลันตาจึงพาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับเขาคนที่ไม่มีใครกล้ามายุ่งด้วยอย่างไอศูรย์ นับแต่นั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอพยายามจะหนีเขาก็ยิ่งตามติดทำทุกทางเพื่อให้เธอมาอยู่ข้างกาย
บทนำ
ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าส้นสูงของหญิงสาวใบหน้าสวยเชิดเดินลากกระเป๋าออกมาจากสนามบิน ลันตา สาวนักเรียนนอกที่เพิ่งจบมาหมาดๆ จ้องมองบ้านเกิดเมืองนอนด้วยรอยยิ้ม
สี่ปีที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่ ทุกอย่างที่นี่ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นการจราจรที่ติดขัดหรือผู้คนที่ดูเร่งรีบ แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็เป็นสิ่งบ่งบอกว่าเธอกลับมาถึงบ้านเกิดของเธอแล้ว
"คุณหนูครับ"เสียงเรียกอันคุ้นเคยของชายวัยกลางคนดังขึ้นมา ทำให้ลันตาหันหน้าไปมองตามเสียงของอีกฝ่ายทันที เธอเห็นนายกร คนขับรถที่อยู่กับครอบครัวเธอมานานหลายปี ก่อนจะยกมือไหว้อีกฝ่ายถึงแม้ผู้ชายคนตรงหน้าจะเป็นเพียงคนขับรถแต่ทว่าหญิงสาวก็เคารพนับถืออีกฝ่าย
"สวัสดีค่ะลุงกร"
"ไม่ต้องไหว้ลุงหรอกครับคุณหนู เดี๋ยวผมถือกระเป๋าให้เชิญคุณหนูขึ้นรถเถอะครับ นายท่านกับคุณหญิงกำลังรออยู่"หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะขึ้นรถตู้คันหรู เพียงไม่นานรถก็แล่นสู่ถนนสายหลักเพื่อไปยังบ้านของเธอ เพียงแค่นึกถึงใบหน้าจิ้มลิ้มก็เผยความสุขออกมา
ณ บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวคุณนุสรณ์
ทันทีที่รถจอดแน่นิ่งร่างบางอรชรของหญิงสาวก็ย่างกรายลงจากรถก่อนจะเห็นคุณพ่อคุณแม่ของตัวเองยืนรอรับอยู่พร้อมแม่บ้านคนอื่นๆ เธอมองท่านทั้งสองด้วยความคิดถึงก่อนจะโผ่เข้าไปกอดหญิงวัยกลางคนกับชายชราแน่น
"หนูคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ"น้ำเสียงหวานเอ่ยบอก เฉกเช่นเดียวกันกับคนเป็นพ่อแม่พวกเขาทั้งสองก็คิดถึงบุตรสาวไม่ต่างกัน
"พ่อกับแม่ก็คิดถึงลันนะลูก กลับมาอยู่บ้านเราสักทีนะ"ท่านชีวินผู้เป็นพ่อเอ่ยออกมา การที่บุตรสาวคนเดียวของเขากลับมาสักทีหลังจากที่ไปเรียนอยู่หลายปีทำให้เขาดีใจไม่น้อย
หลังจากที่หญิงสาวพูดคุยกับพ่อแม่สักครู่ก็ขอตัวขึ้นมาพักผ่อนบนห้อง การเดินทางวันนี้ทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียพอสมควร ทันทีที่หญิงสาวเข้ามาในห้องนอนที่ไม่ได้มานอนสี่ปีกว่ามันทำให้เธอรู้สึกคิดถึงอย่าบอกไม่ถูก
ห้องนอนแห่งนี้ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเพราะถึงแม้ลันตาจะไม่อยู่คุณหญิงศรัญญาก็ให้คนขึ้นมาปัดกวาดเช็ดถูสม่ำเสมอ ร่างบางอรชรทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างก่อนจะดีดดิ้นไปมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี
"เฮ้อ ในที่สุดฉันก็เรียนจบสักที"ชีวิตนักศึกษาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอ บอกตามตรงการที่เธอไปเรียนอยู่ที่โน่นก็เพราะอยากมีชีวิตอิสระไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลย หญิงสาวรู้สึกว่าการที่อยู่ใกล้ครอบครัวมันทำให้เธอไม่รู้จักตัวเองเหมือนไม่โตยังไงก็ไม่รู้ เพราะที่บ้านของเธอประคองเธอทุกอย่าง ถึงแม้จะไม่ค่อยห้ามในสิ่งที่เธอทำแต่บางเรื่องก็มักจะบอกให้เธอทำอย่างนั้นอย่างนี้ เธอเข้าใจว่าสิ่งที่พ่อแม่บอกเพราะความหวังดี แต่นี่มันชีวิตของเธอ เธอก็อยากตัดสินใจเองบ้าง
ในตอนแรกที่ขอไปเรียนต่อต่างประเทศพ่อของเธอไม่ยอมท่าเดียวลันตาต้องชักแม่น้ำทั้งห้าพูดจนชายชรายอมให้เธอไป พอเธอได้ไปก็แทบไม่กลับมาที่ประเทศไทย เธอรู้สึกมีความสุขที่ใช้ชีวิตอยู่ที่โน่นแต่ก็ใช่ว่าไม่อยากกลับมา อารมณ์แบบว่าตลอดเวลาที่เรียนอยู่ก็อยากจะใช้ชีวิตให้เต็มที่ เรียนจบยังไงเธอก็โดนตามตัวกลับมาอยู่แล้ว
เธอเป็นคนหัวดื้อพอสมควรก็ตามแบบลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงตามใจนั้นแหละ ข้อนี้เธอไม่เถียง แต่เธอก็ไม่ได้เอาแต่ใจขนาดนั้นขอแค่เรื่องนั้นเป็นเรื่องของเธอ เธอก็จะคิดเองทำเองไม่อยากให้ใครมาบังคับ พอเธอไม่ยอมก็เหมือนคนหัวรั้นประมาณนั้น
เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้นทำให้ลันตาที่นอนเล่นอยู่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันทีว่าใครโทร.มา พอเห็นว่าเป็นเพื่อนเก่าที่สนิทอย่างงามตาคนตัวเล็กก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที
"ว่าไงคะคุณงามตาเพื่อนรัก พอรู้ว่าฉันถึงประเทศไทยแล้วก็โทรมาอย่างไวเชียวนะ"เพื่อนของเธอก็คงเห็นเธอเช็คอินในไอจีแน่ๆ ถึงได้รับติดต่อมาขนาดนี้
"(ก็ใช่น่ะสิ ฉันคิดถึงเธอใจจะขาดแล้วเพื่อนรัก ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่เรียนจบสักที)"
"แกก็เหมือนกัน ดีใจด้วยนะแล้วนี่อยู่ไหนอยากเจอจัง?"
"(ออกไหมวันนี้ คิดถึงอยากเม้าท์มอยมากๆ เจอกันร้านเหล้าที่พี่เราทำงานไหม?)"
"จัดไป ส่งโลเคชั่นมาละกันตอนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อน"
"(โอเค แล้วเจอกันนะลัน)"พองามตาวางสายไป ลันตาก็พ่นลมหายใจออกมา เธอเหนื่อยจนรู้สึกง่วงจริงๆ ก่อนจะไปดื่มกับเพื่อนก็ขอนอนสักงีบเถอะ
ณ ผับแห่งหนึ่ง
ร่างเพรียวสวยเดินเข้ามาในสถานที่บันเทิงตามที่เพื่อนสนิทบอก เธอรู้สึกชอบพอสถานที่แห่งนี้อยู่มาก ไม่คิดว่าผับที่นี่จะดีไซน์สวยน่าเที่ยวขนาดนี้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงกุลสตรีอะไรมากเรื่องเที่ยวกลางคืนสำหรับเธอก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
"อยู่โต๊ะไหนนะ?"คนตัวเล็กพึมพำออกมาพร้อมหยิบโทรศัพท์แชทถามเพื่อนสนิท ตลอดการที่หญิงสาวเดินเข้ามานั้นเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆ คนทันที ด้วยใบหน้าสวยสง่าผิวพรรณผุดผ่องไหนจะทรวดทรงที่ดูเว้าโค้งตามชุดเดรสสีแดงที่ใส่มันก็ยิ่งทำให้หญิงสาวมีเสน่ห์ชวนมองมากขึ้น
"โอ๊ยยยย!"ในขณะที่หญิงสาวมัวแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่นั้นทำให้เธอเดินชนเข้ากับอะไรบางอย่างจังๆ จนใบหน้าสวยเผยสีหน้าเหยเกออกมา เธอรู้สึกเจ็บหน้าผากจนต้องเงยหน้าขึ้นมามองทันที
เธอสาบานได้เลยว่าตั้งแต่เหยียบบนแผ่นดินไทยไม่เคยรู้สึกเย็นวาบถึงเนื้อในแบบนี้มาก่อน สายตาเย็นชาของชายตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้น ยิ่งท่าทางนิ่งขรึมนั้นของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เธอหาเสียงของตัวเองไม่เจอทันที
"เอ่อ ขะ ขอโทษค่ะ"
"ไม่มีตารึไง!"น้ำเสียงห้วนเอ่ยขึ้นเชิงหงุดหงิดก่อนจะเดินผ่านหน้าของลันตาไปทันที ไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรออกมาอีกครั้งเลยด้วยซ้ำ เธอขอโทษไปแล้วแท้ๆ ก็ยังทำหน้ายักษ์ใส่อีก
"ลันทางนี้!"เสียงของงามตาทำให้หญิงสาวละสายตามองคนตัวสูงก่อนจะสลัดความคิดไม่สนใจอีกฝ่ายอีก
"คิดถึงที่สุดเลย สบายดีนะตา"
"สบายดีคิดถึงแกเหมือนกัน ไปที่โต๊ะกันเถอะฉันมีเรื่องจะเม้าท์เยอะมากจ๊ะ"