บทที่ 1 สิบแปดปีบริบูรณ์/1
“สุขสันต์วันเกิดนะหนูเปียลูกพ่อ ขอให้วันเกิดปีนี้นำสิ่งดีๆมาสู่ชีวิตหนู...สอบเข้ามหาวิทยาลัยคณะที่ใฝ่ฝันได้นะ”
เปียโนเด็กสาววัยสิบแปดปีหมาดๆกราบแทบเท้าตักบิดาเลี้ยง...ทันทีที่ได้รับพรพร้อมกล่องของขวัญกล่องใหญ่
บรรยากาศในบ้านหลังโอ่อ่าที่จัดงานขึ้นแบบเล็กๆอบอุ่น ทำให้เธอกับแม่รู้สึกโชคดีที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่นี้
“ส่วนนี่ของขวัญจากย่า สร้อยเพชร...จี้เล็กสมวัย เป็นของสะสมที่ย่ารักมาก ย่ามอบให้หนูนะ”
แววตากลมโตเป็นประกายวับเมื่อเห็นความเมตตาจากผู้เป็นใหญ่ในบ้าน ที่ไม่เคยรังเกียจเธอกับแม่...แถมยังให้ความรักราวกับว่าเธอเป็นหลานแท้ๆ
“ยิ่งโตมาหน้าก็ยิ่งละม้ายแม่เข้าไปทุกวัน...ถ้าอวบกว่านี้สักหน่อย กลัวว่าพ่อเขาจะหวงลูกสาวแทบจะไม่ทัน”
ขณะสวมสร้อยเพชรบรรจงลงไปบนลำคอระหงของเด็กสาวที่ยังไม่โตเต็มที่นั้น...ก็เอ่ยชมไม่ขาดปาก เปียโนสวยเหมือนแม่...เส้นผมดำขลับรับกับแววตากลมโตเป็นประกาย ความปากนิดจมูกหน่อยพร้อมผิวขาวอมชมพู ทำให้เธอเหมือนหลุดมาชั้นวางตุ๊กตาบลายธ์
“ส่วนนี่...ของปู่นะ ปู่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ อยากได้อะไรก็ซื้อตามสบายนะลูก” คุณปู่ผู้แสนอบอุ่นเอ่ยอย่างเรียบๆด้วยรอยยิ้ม
เปียโนยื่นมือไปหยิบเช็คเงินสด 5 หลักที่ติดโบว์เล็กๆพร้อมก้มลงกราบแทบเท้าท่าน
“ส่วนนี่..ของแม่จ้ะ” โปรดปรานผู้ยินดีกับความรักใคร่ของครอบครัวสามีที่มีต่อบุตรของตน ก็แทบจะน้ำตาไหลด้วยความเป็นปลื้ม
การแต่งงานครั้งที่สองนี้...แทบจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดเลยสักนิด
“ขอบคุณค่ะแม่” สาวน้อยโอบกอดมารดาพร้อมน้ำตาปริ่ม ของขวัญชิ้นเล็กจากมารดา...
เป็นเพียงเสื้อกันหนาวไหมพรมที่แม่ถักเองกับมือ แต่เธอก็ปลื้มใจเป็นพิเศษ
“ขอบคุณทุกคนนะคะที่ให้ความสำคัญกับงานวันเกิดของเปีย...นี่ก็ปีที่สามแล้วที่เปียมาอยู่ที่นี่
เปียชอบงานวันเกิดทุกๆปีของเปียเลยนะคะ” เด็กน้อยผู้น่ารักเรียบร้อย เต็มไปด้วยแววตาซนเล็กน้อย...แถมยังคุยเก่งเป็นบางเวลา
สร้างสีสันให้ตระกูล ‘เหมปรมินทร์’ เป็นอย่างมาก...
เพราะเตโชติบุตรชายคนโตเป็นหมันและเมื่อมาแต่งงานกับสาวลูกติดอย่างโปรดปราน
ก็ไม่สามารถมีลูกได้ เตชินท์บุตรชายคนเล็ก...ก็ลอยไปลอยมาอยู่ต่างประเทศ ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันพอที่จะสร้างครอบครัว
ส่วนเตชัสบุตรชายคนกลางก็ดันไม่จริงจังกับใครนอกจากทำงานและทำงาน และความลับเรื่องเด็กที่เขาเลี้ยงไว้แบบไม่ผูกมัดนั่น...
ทำให้ความหวังที่จะมีหลานไว้ให้เชยชื่นของวงศ์ตระกูล แทบจะริบหรี่
เค้กวันเกิดก้อนโตถูกปักด้วยเทียน 18 เล่มตามจำนวนอายุของ ผู้เกิด...งานฉลองเล็กๆที่อบอุ่น นำความสุขมาสู่ใจของเด็กสาวที่สวยราวกับตุ๊กตา
หากแต่...กล่องของขวัญชิ้นที่เธอปรารถนาที่สุดเจ้าของมันยังเดินทางเข้ามายังไม่ถึงบ้าน
แววตากลมโตแอบมองไปทางหน้าบ้านเป็นระยะ...จนบางทีก็แอบได้ยินเสียงรถสปอร์ตวิ่งเข้ามาจอดรอบแล้วรอบเล่า
“ป่านนี้ตาเตยังไม่กลับมาอีก...ไปไหนของเขานะ วันนี้วันเกิดหลานแท้ๆ” ผู้เป็นแม่บ่นอุบให้บุตรชายพลางชะเง้อมองไปที่ประตู
ส่วนคนที่คิดตรงกันกับคุณย่า...ตักเค้กใส่ปากแบบเงียบๆ ปกปิดความรู้สึกนั้นให้รู้สึกเพียงลำพัง
“ลูกคงจะติดงานมั้งคุณ ช่วงนี้สาขาที่ตาเตดูอยู่...กำลังวุ่นน่าดู”
“ได้ข่าวว่ามีลูกค้ารายใหญ่...จะเซ็นต์สัญญากับทางเรา ก็เลยต้องการข้อมูลเยอะหน่อย...น้องชายผมก็เลยต้องเลิกงานดึกทุกวันเลยครับแม่”
ถึงเหตุผลจะเพียงพอเพียงใดแต่ผู้เป็นแม่ผู้แสนขี้งอน
ก็ส่ายหน้าให้อย่างไม่เห็นตาม และแล้วเสียงรถที่มีใครบางคนที่กำลังถูกพูดถึง ก็แล่นเข้ามาจอดยังบริเวณบ้านทันที...
หัวใจสาวน้อยผู้พยายามเก็บอาการระส่ำขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ มือถือช้อนชาขึ้นจนต้องรีบวาง...
มันเป็นแบบนี้มาเสมอระหว่างเธอกับเขา อย่าว่าแต่ได้อยู่ตรงหน้า...
แค่ระยะรัศมีที่มีเขาร่วมด้วย เธอไม่อาจทำตัวเองให้ปกติได้เลยสักครั้ง
ร่างเต็มความสูงสง่า...เดินมั่นคงเข้ามาในตัวบ้านด้วยท่าทางอ่อนล้า หากแต่ใบหน้าคมที่มีจมูกโด่งเป็นสันก็ยังโดดเด่นมาแต่ไกล
เส้นผมที่ถูกจัดทรงเป็นระเบียบสีดำเข้มสะท้อนแสงไฟจนดำขลับ...แววตาคมเรียบเฉย ไม่เอื้อนเอ่ยความรู้สึกใด...
ริมฝีปากหยักได้รูปถูกไล้ด้วยเรียวลิ้นเล็กน้อย ก่อนเชยตามองมายังการรวมตัวของผู้คนในบ้าน
สูทตัวโตถูกพาดอยู่บนลำแขนแกร่ง...การเคลื่อนไหวในจังหวะพอดีของเขาตกอยู่ในหางตาของเด็กสาวผู้มือสั่นเทาเล็กน้อย
หัวใจเธอแทบจะกระดอนออกจากอกเพียงเพราะเขาเดินมาใกล้