8 น้าชายสุดหล่อ
วาสนาและญารินดามาอยู่ที่บ้านของเพียงพรได้ 2 อาทิตย์แล้ว การใช้ชีวิตเริ่มลงตัว ทุกเช้าวาสนาจะตื่นมาทำอาหารเช้าให้กับเพียงพร และภีมภพที่มาทานด้วยเกือบทุกวัน ส่วนเธอกับลูกสาวก็ทานกันในครัว 2 คน แม้เพียงพรจะชวนให้นั่งทานด้วยกันแต่วาสนาไม่อยากทำตัวเสมอเจ้านาย
จากนั้นช่วงสายก็เข้าไปที่ร้านแล้วออกไปซื้อของสดมาทำเป็นมื้อกลางวันให้กับคนงาน ทุกคนต่างพูดกันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้าวาสนาทำกับข้าวอร่อย
ส่วนเรื่องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุก็ได้เงินมาก้อนหนึ่ง เธอชั่งใจอยู่นานว่าจะนำเงินไปปรับปรุงร้านหรือเก็บเป็นเงินก้อนไว้ให้กับญารินดาเรียน เมื่อปรึกษากับเพียงพรเลยได้ข้อตกลงว่า วาสนาจะยังทำงานที่นี่ต่อ รอจนลูกสาวเรียนจบ จากนั้นจะออกไปเปิดร้านอย่างเดิมก็ได้ วาสนาและลูกสาวก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของเพียงพร
“แม่คะ หนูจะขอแม่ไปดูหอพักกับเพื่อนได้ไหมคะ”
“หนูไปกันสองคนได้เหรอลูก”
“ได้ค่ะ มีรถตู้วิ่งจากสุพรรณไปกรุงเทพทุกวัน หนูไปเช้าเย็นก็กลับ ไปกัน 4 คนค่ะ มีหนู กัญ ต้นหลิวแล้วก็ทีเจค่ะ” ทั้ง 4 คนวาสนาเคยเจอมาบ้างแล้วจึงวางใจ
“แม่อยากไปด้วย แต่ติดที่ต้องทำงาน อีกอย่างก็ไม่อยากเกะกะ”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูว่าจะถ่ายรูปมาให้แม่ช่วยเลือกก่อน”
“ได้สิ กอหญ้าไปบอกน้าพรด้วยนะลูก”
“ค่ะ เย็นนี้หนูจะบอกหลังจากทานข้าว”
ทุกเย็นเพียงพรจะกลับมาทานอาหารเย็นที่บ้าน ส่วนภีมภพนั้นมาบ้างมาไม่มาบ้างแล้วแต่อารมณ์ของเขา แต่พักหลังมาบ่อยขึ้นเพราะเพียงพรเริ่มบ่นที่เขาเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำอาหารให้อาหารที่วาสนาทำเผื่อนั้นต้องเททิ้ง
“น้าวาสครับเย็นนี้มีอะไรกินบ้างครับ” เสียงภีมภพตะโกนมาก่อนตัว
“ทำไมต้องตะโกนด้วยอยู่กันแค่นี้ เดินไปอีกนิดก็ถึงแล้ว” เพียงพรเอ็ดน้องชายที่อายุ 28 ปีแล้วแต่ยังทำอะไรเป็นเด็กเวลาอยู่บ้าน ผิดกับตอนอยู่ต่อหน้าลูกน้องที่ทำเป็นมาดเข้มเสียงแข็งตลอดเวลา
“วันนี้มีผัดฉ่าปลาดุก น้ำพริกกับผักต้ม แล้วก็ต้มยำไก่บ้านค่ะ อ้อมีกล้วยบวชชีอีกอย่าง”
“น่ากินทั้งนั้นเลยนะคะ พรน้ำหนักขึ้นเป็นกิโลแล้วตั้งแต่น้าวาสมาอยู่กับเรา”
“คุณพรไม่อ้วนหรอกนะนะ ทานได้อีกเยอะเลย”
“น้าวาสไม่มาทานด้วยกันเหรอคะ แล้วนี่กอหญ้าไปไหน”
“คุยกับเพื่อนอยู่ค่ะ คงนัดแนะกันเรื่องเวลาเดินทาง”
“กอหญ้าจะไปไหนเหรอครับ” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เขาไม่เห็นเธอออกไหนโดยที่เขาไม่ไปด้วยเลยสักครั้ง
“น้าได้ยินว่าจะไปดูหอพักกัน”
“ภพ พรุ่งนี้ที่ร้านงานไม่ยุ่งมาก พี่ว่าเราไปกับน้องดีไหม ไปช่วยดูแทนน้าวาส”
“อย่าเลยค่ะน้าเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ น้าพรไปด้วยกันไหมจะได้ช่วยตัดสินใจ”
“ถ้าคุณภพจะช่วยดูให้น้าก็วางใจ รบกวนด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมพอมีคนรู้จักอยู่เดี๋ยวจะช่วยหาที่ปลอดภัยให้ น้าวาสจะได้สบายใจด้วย ดีไหม สุพรรณกรุงเทพขับรถแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว”
“น้าไม่รู้จะขอบคุณทั้งสองคนยังไงดี”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ช่วย ๆ กันไป ผมสิครับต้องขอบคุณเพราะน้าวาสทำของอร่อยให้กินทุกวัน ขอบคุณนะครับน้าวาส” ภีมภพรู้สึกรักและเคารพวาสนาเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง การช่วยเธอดูแลกอหญ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ซึ่งเขาเต็มใจทำ
“น้าภพว่างจริง ๆ ไหมคะ” แม้ตอนนี้จะขึ้นมานั่งคู่กับเขาบนรถแต่ก็ยังถามไม่เลิก
“กอหญ้าถามรอบที่เท่าไหร่แล้ว ถ้าน้าไม่ว่างจะมาด้วยทำไม แล้วนี่นัดเพื่อนไว้ที่ไหน” ภีมภพนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ SUV ขนาด 7 ที่นั่งสีขาวยกสูงกว่าปกติเล็กน้อย
“นั้นไงคะ ตรงนั้น” ญารินดาชี้ไปยังเด็กวัยรุ่น 3 คนที่ยืนอยู่ริมทางเท้าหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
“กอหญ้า” หนึ่งในนั้นโบกมือทักทาย
“ทุกคนนี่น้าภพ”
“สวัสดีค่ะน้าภพ”
“น้าภพคะนี่เพื่อนกอหญ้าค่ะ มีกัญ ต้นหลิว แล้วก็ทีเจค่ะ” ญารินดาแนะนำก่อนทั้งหมดจะพากันขึ้นรถ
“กอหญ้า มีน้าชายหล่ออย่างนี้ทำไม่ไม่ยอมบอกกันบ้าง” ทีเจสาวสวยเพศชายรีบเข้ามากระซิบ
“แก อย่ามาทำหื่นกับน้าภพของฉันนะ”
“อะไรนะ เขาเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ยังไม่เป็นแต่ฉันจองไว้ก่อน”
“หูย มีหวง แล้วน้าภพของแกรู้ไหม”
“ไม่รู้ ฉันบอกแกคนเดียว” เพราะสนิทกับทีเจมากที่สุดเธอเลยบอกความในใจออกไป
“สองคนนั้นจะไปไหม ถ้าจะไปก็คาดเข็มขัดด้วย น้าจะได้ออกรถ” เสียงภีมภพเรียกสติของสองเพื่อนซี้ที่เอาแต่กระซิบกระซาบกันอยู่เป็นนาน