4 สมาชิกใหม่
เพียงพรและน้องชายทานข้าวได้มากกว่าทุกวันเพราะรสชาติอาหารนั้นอร่อยกว่าฝีมือของป้าสายใจอยู่มาก
“น้าวาสครับ สนใจจะมาเป็นแม่ครัวที่นี่ไหมครับ” ภีมภพเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดอ้อมค้อม ในเมื่อฝีมือเธอดีขนาดนี้เขาก็อยากจะจ้างให้มาทำงานด้วยกันเพราะเบื่อฝีมือป้าสายใจแล้ว
“อย่าเลยค่ะคุณ”
“ทำไมล่ะคะน้าวาส มาอยู่ด้วยกันที่นี่เลยก็ได้ เรื่องร้านคงอีกหลายเดือนกว่าจะเรียบร้อย ระหว่างนี้น้ากับกอหญ้าจะไปอยู่ที่ไหน” เพียงพรรีบถามเพราะตัวเองก็เห็นด้วยกับน้องชาย
“น้ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย”
“ที่น้าพรปฏิเสธเพราะไม่อยากแย่งงานคนอื่นใช่ไหมครับ”
“ค่ะ น้าไม่อยากทำให้คนอื่นลำบาก”
“น้าวาสคิดมากไปแล้ว ลำบากที่ไหนกัน ลูกน้องของพรต่างหากล่ะ ที่ทำให้น้ากับลูกลำบาก”
“ผมว่าให้น้าพรไปทำงานที่ร้านก็ได้นะครับพี่พร ที่นั่นยังขาดแม่บ้าน”
“ใช้สิ พี่ลืมสนิทเลย”
“งานไม่หนักมากหรอกครับ น้าพรก็แค่ปัดกวาดแล้วก็ทำอาหารกลางวันให้พวกคนงานเพราะตอนนี้พวกเราผลัดกันทำอาหารบางวันก็กินได้บางวันก็ต้องทนกินให้ได้” ภีมภพเคยคิดจะจ้างคนมาทำอาหารแต่ก็ยังไม่ได้ทำเป็นเรื่องเป็นราวสักที
“หนูช่วยด้วยได้ไหมคะ”
“แล้วไม่เรียนหนังสือเหรอ” ชายหนุ่มหันมาถาม
“ยังไม่เรียนตอนนี้ค่ะ ช่วยแม่หาเงินก่อน”
“กอหญ้า แม่ว่าหนูเรียนก่อนดีไหม ถ้ากังวลเรื่องเงิน แม่จะรับงานของคุณพรกับคุณภพก็ได้ หนูจะได้ไม่ต้องมาลำบาก เรื่องร้านก็ค่อยว่ากันทีหลัง”
“แต่หนูไม่อยากให้แม่ต้องลำบากอยู่คนเดียว”
“ลำบากคนเดียวที่ไหน น้าพรกับน้าภพไม่ได้ใจร้ายให้แม่หนูทำงานหนักหรอกนะคะ”
“แต่หนูเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจเลย เพราะใครกันล่ะที่ทำให้หนูกับแม่ต้องลำบาก เรื่องเรียนน้าจะส่งเราเรียนเอง”
“แล้วเลือกเรียนอะไรเหรอเราน่ะ” ภีมภพหันมาถามคนข้างตัว
“หนูเรียนบัญชีค่ะ”
“ดีเลย จบมาก็มาทำงานด้วยกันที่นี่”
“พี่เห็นด้วยกับภพนะ ระหว่างนี้กอหญ้าไปช่วยงานบัญชีที่ร้านก่อนไหม หาประสบการณ์”
“ได้เหรอคะ”
“ได้สิ น้าจะจ่ายค่าจ้างให้ด้วย ดีไหม”
“ดีค่ะ” พอพูดถึงเงินหญิงสาวก็ตาโตเพราะมันเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เธอได้มีอนาคตที่สดใส
“เรื่องรายละเอียดเอาไว้คุยกันต่อพรุ่งนี้ละกัน เดี๋ยวน้าพาแม่กับหนูกอหญ้าไปดูห้องนอนก่อนดีไหม”
“แม่ไปดูกับน้าพรนะคะเดี๋ยวกอหญ้าเก็บจานล้างก่อน”
“ไปดูด้วยกันนั่นแหละ จะได้เลือกว่าจะนอนห้องไหน ส่วนเรื่องจานเดี๋ยวค่อยมาเก็บก็ได้”
บ้านทรงทันสมัยหลังนี้ มีห้องนอนอยู่ทั้งหมด 6 ห้องด้วยกัน ห้องของเพียงพรกับภีมภพเป็นห้องขนาดใหญ่ ที่ยกสูงขั้นจากห้องรับแขกและห้องครัวเพียงเล็กน้อย เพราะบิดากับมารดาของเธอมีปัญหาเรื่องข้อเข่าเลยเลือกสร้างบ้านชั้นเดียวแต่ต่างระดับเพื่อความสะดวกในการเดินขึ้นลง แต่ท่านทั้งสองก็จากไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน สองพี่น้องจึงอาศัยอยู่กันแค่สองคน
เพียงพรเคยที่ทำงานในบริษัทใหญ่ในกรุงเทพ แต่พอทำได้สักพักก็เริ่มอิ่มตัวจึงลาออก และกลับมาช่วยงานที่บ้าน หลังบิดามารดาเสียชีวิตเธอเลยต้องดูแลกิจการของครอบครัวทั้งหมด ซึ่งเปิดเป็นร้านขายวัสดุและอุปกรณ์การเกษตร มีทั้งเมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ จอบ เสียม พลั่ว เครื่องตัดหญ้า เครื่องพ่นยาและภีมภพก็เสริมพวกรถไถนา รถเกี่ยวข้าว ที่มีทั้งขายและให้เช่า รวมไปถึงรับจ้างไถ รับจ้างเก็บเกี่ยว เพียงพรยังเปิดให้ชาวบ้านที่มีปัญหาด้านการเงินมาเอาสินค้าไปก่อนแล้วค่อยมาจ่ายหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกด้วย
“น้าพรคะ แล้วห้องของป้าสายใจอยู่ไหนคะ”
“ถามทำไมเหรอหนูกอหญ้า”
“คือหนูกับแม่มาเป็นลูกจ้างเหมือนกันก็เลยอยากจะไปอยู่กับป้าสายใจค่ะ”
“ป้าสายใจแกมีบ้านอยู่ถัดไปไม่กี่หลังนี่เอง แกเลยมาเช้าเย็นกลับ”
“อ๋อ แล้วคนงานอื่นล่ะคะ”
“ส่วนใหญ่ก็คนแถวนี้ทั้งนั้นเลยไม่ได้พักที่นี่ นอกจากผู้ชาย ที่จะพักกันตรงห้องพักหลังโกดังเก็บของเพราะต้องมีคนคอยเฝ้าโกดังด้วย” แม้จะจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยแต่ภีมภพกับคนงานก็มักจะผลัดเวรยามกันเดินตรวจโกดังอยู่ทุกคืน ชายหนุ่มเลยไปปลูกบ้านหลังเล็กอีกหลังเพื่อให้สะดวกมากขึ้น
“หนูกับแม่อยู่ที่นี่ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ถือว่าเราเป็นญาติกันดีไหม”
“น้าขอบคุณคุณพรกับคุณภพมาก ที่ช่วยเหลือเราสองแม่ลูก” วาสนาไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอุบัติเหตุหรือเปล่าที่ทำให้เพียงพรทำดีกับเธอสองแม่ลูก แต่เธอเองก็ไม่มีทางเลือก เลยคิดว่าจะอยู่ที่นี่สักพัก ถ้าอยู่แล้วลำบากใจก็ค่อยว่ากันอีกที
“เกรงใจอีกแล้ว สองคนแม่ลูกนี่ถอดแบบกันมาเลย แล้วเรื่องห้องก็ไม่ต้องบอกนะคะว่าจะนอนห้องเดียวกับเพราะ หนูกอหญ้าต้องอ่านหนังสือดึก ส่วนน้าวาสก็ต้องตื่นเช้าไปตลาด ถ้าอยู่ด้วยกันมีหวังได้เหนื่อยไปตามๆ กันแน่” เพียงพรพูดถูกทุกอย่าง สองคนแม่ลูกเลยได้แต่ยอมรับน้ำใจ