ตอนที่ 1 ลูกแมวที่หนีมา
TIME 23.45
กลางดึกในฤดูร้อนช่วงต้นเดือนมีนาคม
ราปิโด สนามแข่งรถชื่อดังอันดับหนึ่งของภาคกลาง ที่รองรับทั้งการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบและฟอมูล่าวัน อีกทั้งมีโรงแรมหรูและสนามกีฬาสำหรับนักท่องเที่ยวสายกิจกรรมกลางแจ้ง
พื้นที่กว้างใหญ่นี้ รายล้อมด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นอย่างแข็งแรงและสูงมากพอที่จะช่วยเป็นแนวกั้นเสียงไม่ให้รบกวนชุมชนแม้จะอยู่ห่างจากเขตเมืองมาหลายกิโลเมตรแล้ว และยังมีแนวต้นไม้ที่ปลูกเรียงสวยงามอีกชั้นหนึ่งเพื่อเป็นอีกแรงที่ช่วยซับเสียงไว้ และทำให้สบายตาน่ามอง
ประตูทิศตะวันตก ยามนี้ไร้สิ่งป้องกันทั้งจากคนและระบบรักษาความปลอดภัย
รถเทรลเลอร์ 18 ล้อคันใหญ่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สกรีนข้อความทั่วไปที่พบเห็นได้ตามคลังสินค้าทั่วประเทศนี้กำลังถูกไล่ปิดประตูและลงล็อกแต่ละช่วงเพื่อความปลอดภัยยามขนส่ง
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เงาตะคุ่มของสิ่งมีชีวิตที่กำลังดิ้นรนหาทางรอด ตัดสินใจด้วยใช้อารมณ์อยากหนีออกจากบ้าน เมื่อเห็นโอกาสมาถึง สภาพจิตใจที่ไม่ต้องการคิดอะไรแล้ว พาขาก้าวพุ่ง มุดหนีเข้ามาซ่อนตัวอย่างยากลำบากในตู้คอนเทนเนอร์หลังรถบรรทุกคันใหญ่นี้
คนแอบซ่อนตัวรีบใช้มือถือส่องดู เพราะภายในตู้เหล็กมืดมิดทันทีเมื่อทุกประตูปิดลง
แสงไฟสีขาวจากมือถือส่องสว่างพอที่จะทำให้เห็นว่าของที่อยู่ในนี้คืออะไร
“บ้าชะมัด เขาขโมยรถเจ้าของสนามแข่งหรือเปล่าวะ” เธอเอ่ยขึ้น
ฟ้าริน หรือ ฟ้า หญิงสาววัย 23 ปี ใช้ชีวิตกับครอบครัวที่มีแม่และพ่อเลี้ยง กับร้านขายของชำเล็ก ๆ ที่ตั้งในทำเลดี ใกล้สนามแข่งรถ
เธอเป็นคนรูปร่างดี มีทรวดทรงองค์เอวแบบที่หลายคนอิจฉา แต่กลับดูเป็นสิ่งน่ากลุ้มใจเมื่อมันอาจทำให้เธอถูกคุกคามจากพวกหื่นกาม นอกจากหุ่นล่อตาล่อใจ พระเจ้ายังทรงสร้างให้เธอมี ปากนิดจมูกหน่อย ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ ดูจิ้มลิ้มน่าเอ็นดูสำหรับคนทั่วไปที่พบเจอ แต่กับอีกหลายคนกลับเห็นแล้วรู้สึกอยากกลั่นแกล้ง อยากทำร้าย หรืออาจจะอยากครอบครอง ฟ้ารินรู้เสมอว่า ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายมารดาราวกับพิมพ์เดียวกันนี้ดึงดูดสารพัดเรื่องเข้ามาหาตั้งแต่ยังเด็ก ถึงจะไม่สามารถแก้ไขได้ทุกอย่าง แต่เธอก็สู้ในแบบของตัวเองมาตลอด
และในยามนี้ วิถีการต่อสู้ในแบบของคนสวยนำมาซึ่งความเหน็ดเหนื่อย จนเริ่มอยากจะร้องไห้ด้วยไม่สามารถมุดเข้าไปอยู่ตรงจุดที่เธอเห็นว่าน่าจะพอนั่งได้ แม้จะคลานเข่าเข้าไปยังซอกที่เหลือน้อย
“ฮึบ!!!”
ไม่ผอมจริง ไปไม่ได้แน่ ๆ อยากชมตัวเองเหมือนกันที่ยั้งปากไม่กินไว้ได้ในหลายครั้ง แต่สงสัยจะไม่พอกับช่วงเวลานี้
โอ๊ย! แม่ ติดนม!!!!
“ฮึบ!!!”
ทั้งแขม่ว ทั้งเก็บทรง
ฟุบ!
“อ๊า~”
“อุ๊บ!”
เธอรีบปิดปากตัวเองที่เผลอส่งเสียงดัง หญิงสาวพยายามเบียดตัวเพื่อมุดเข้าไปด้านในที่คิดว่าใครก็คงมองไม่เห็น กว่าจะไปถึงจุดนั้น ยอดอกก็ปาดเข้ากับข้างรถไฮเปอร์คาร์จนเสียวไปหมด
ร่างบางหามุมนั่ง เมื่อเห็นว่ารถบรรทุกเคลื่อนที่แล้ว ความเบาใจก็พานอยากนอนพัก
และความเหนื่อยล้า ทำเธอหลับใหลท่ามกลางยานพาหนะใหญ่ที่โคลงเคลงไปตามหลุมบ่อบนถนนหลวง
.
.
.
ตีสาม...อาการปวดห้องน้ำ เริ่มออกฤทธิ์ คนอดทนพยายามอั้นจึงนั่งยืดขาบ้าง ชันเข่าบ้าง เปลี่ยนท่านั่งไปเรื่อย ๆ แต่มือต้องคอยกุมหน้าท้องไว้ตลอด เพราะไม่อยากให้แรงกระแทกทำเธอฉี่แตกตรงนี้
เหมือนสวรรค์เมตตา เมื่อรถจอดเข้าที่ไหนสักแห่ง
“B10 ครับ” เสียงพูด ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าคือที่ไหน และคนขับรถยังทำสิ่งที่ประหลาด เขาเดินมาปลดล็อกประตูตู้คอนเทนเนอร์บานหนึ่ง แล้วเปิดออกกว้าง จนฟ้ารินแอบมองเห็นด้านนอก ข้ามฝั่งออกไปมันคือถนนและป่า โชคดีที่เขาไม่ได้เปิดล็อกฝั่งที่เป็นตู้สำหรับเติมน้ำมัน และทันทีที่แสงส่องถึงภายในคอนเทนเนอร์ ประกายวิบวับของรถหรูราคาแพงก็กระแทกดวงตาสวย
โอ้...สีรถสวยมาก
โอ๊ย! ไม่ใช่เวลามาชื่นชม
ในขณะที่คนขับยกกระเป๋าและกล่องต่าง ๆ ย้ายจากด้านหน้ารถมาไว้ที่ในตู้ จังหวะเดินไปมานั้น ช่างเป็นบุญเหลือเกิน ฟ้ารินมุดออกจากรถ หย่อนขาลง...
และรถสูงมาก เธอต้อง…
“ช่วยอุ้มมั้ย”
เสียงเข้ม หนักแน่น และชัดเจนว่าคุยกับใคร
หญิงสาวสะดุ้ง ตัวแข็ง ค้างอยู่ในท่าเหยียดขาลงจากรถ
“พี่!”
หัวใจแทบทะลุออกมา พอ ๆ กับดวงตากลมโตที่เบิกกว้างกว่าปกติ ทำแพขนตาเด้งกระพือพึ่บพับ ริมฝีปากเล็กเส้นบางอ้าค้าง
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำฟ้ารินถึงกับชะงักซ้ำสอง
เพื่อนพี่ณคุณนี่นา…เฮ้ย! ไม่ใช่…ถึงน้ำเสียงจะคล้ายกัน แต่ก็แตกต่างอยู่บ้าง และแม้เธอจะไม่เคยใกล้ชิดหรือพิศวาสจนอยากรู้จัก แต่ก็จำหน้าได้
ร่างสูงใหญ่ของคนที่เดินเข้ามาหา ยิ่งใกล้ ยิ่งทำเธอตัวสั่นแข่งกับหัวใจที่แพ้คนหน้าตาดี
กล้ามอกใหญ่โต หัวไหล่หนา ช่วงบ่ากว้าง และสีหน้าราบเรียบส่อแววแปลกใจเมื่อถูกเรียกว่า พี่
ชายหนุ่มสอยสองมือเข้าที่ใต้รักแร้ อุ้มคนที่ตอนแรกกำลังตะเกียกตะกายจะลงจากคอนเทนเนอร์ แต่เพราะเห็นเขา เธอถึงกับตัวแข็ง ไปต่อไม่ถูก
เพียงปลายเท้าสองข้างแตะพื้น ร่างบางบิดตัว ขาไขว้จนแทบจะเป็นรูปกากบาทที่สวยงาม พวงแก้มแดงเรื่อ แม้สีเครื่องสำอางที่แต่งแต้มมานั้นจะละลายหายไปเพราะกิจกรรมระทึกของการแอบหนี แถมต้องนั่งรถระยะไกลหลายร้อยกิโลเมตร
เขินเหรอ ชายคนนั้นคิด
หากเธอไม่ร้องซี้ดออกมาเสียก่อน
“เดี๋ยวค่อยคุยนะ ไปฉี่ก่อน ห้องน้ำ ๆ”
ไม่รู้ว่าถามหรือเปล่า แต่ชายหนุ่มชี้นิ้วบอกทางให้
คนโตมุมปากขยับนิดหน่อยคล้ายเผลอยิ้มออกมา
หญิงสาวในชุดที่ดูอย่างไรก็คือชาวบ้านหนึ่งที่อาจจะมีหุ่นดี หน้าตาน่ารัก แต่คือปุถุชนเดินดินธรรมดาแน่นอน เธอกำลังวิ่งหน้าเริ่ดผ่านหัวรถพ่วง
“เฮ้ย! น้อง ดูรถด้วย” เขาตะโกนตามหลัง เพราะเกรงว่าการวิ่งจากมุมอับสายตาแบบนี้ อาจโดนรถชนได้
โชคดีของยามตี 3 เธอจึงยังแคล้วคลาดปลอดภัย เพราะไม่มีรถคันอื่นวิ่งมาเสยคร่าชีวิตเธอไปก่อน
คนขับรถชะโงกหน้าเข้ามาดูภายในตู้คอนเทนเนอร์ แสงไฟเม็ดเล็กสีแดงของกล้องวงจรปิดยังกะพริบและทำงานได้ดี เดี๋ยวถ้าเอารถไปคืนอู่ จะบอกช่างให้รู้ว่า แม้ในตู้จะมืดมิดแค่ไหน กล้องก็ยังสามารถจับภาพเห็นแม้ในที่แสงน้อย สงสัยต้องสั่งซื้อมาติดตั้งให้ครบทุกจุดที่จำเป็น
เขายกยิ้มเมื่อเห็นกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กวางทิ้งไว้ใกล้ประตูตู้ที่เปิดอยู่ รถไฮเปอร์คาร์ยังอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงรอดตัวไป ชายหนุ่มเดาว่าผู้หญิงคนนั้นคงไม่รู้ว่า เจ้าชิรอน ซูเปอร์สปอร์ตสีฟ้าคันนี้ มันราคาเหยียบ 120 ล้านบาทแล้ว
คนตัวเล็กโผล่หัวออกมาจากห้องน้ำหญิงที่ในปั๊มน้ำมัน และดูอย่างไร ก็ไม่ใช่ปั๊มแบบที่เธอเคยเข้าใช้บริการ มองไปตรงไหนก็เห็นแต่รถใหญ่เต็มไปหมด
คนขับรถยืนสูบบุหรี่พ่นควันอยู่แถวหน้าปั๊มที่มีคนขายของปิ้งอะไรบางอย่าง แต่สายตาสาดมองมาทางฟุตบาทหน้าห้องน้ำคล้ายจับตาดูใครบางคน
ฟ้ารินมองซ้าย มองขวา เห็นจังหวะดี รีบสาวเท้ากลับมาที่รถคันเดิมอย่างไม่ต้องคิดมาก ต้องหนี!!!!
ประตูช่องที่เธอลงมาปิดล็อกลงกลอนเสียแล้ว และกระเป๋าสะพายใบเล็กที่ใส่ของมีค่า ถูกวางลืมไว้ในนั้น
ฟ้ารินมองกลับไปยังคนตัวใหญ่
ซวยฉิบเป๋ง นี่เขาคงตั้งใจยึดของเธอไว้สินะ
ฟ้ารินพิจารณาหน้าตาและท่าทางของชายคนขับ พอเห็นไกล ๆ ก็รู้สึกเธอจะเข้าใจผิดไปหรือเปล่า ตกลงมันคือ คนเดียวกัน หรือคนละคน หรือคนหน้าเหมือน หรือเพราะภาพไอ้คุณคนนั้นฝังใจ ติดตา เลยเห็นภาพซ้อนกัน
ขณะที่ความคิดวุ่นวายที่กำลังชั่งน้ำหนักเพื่อตัดสินว่าคนขับรถคือใคร
ทุกอย่างก็คอนเฟิร์ม เพราะเขากำลังกลับมา และความไวในการเคลื่อนที่นั้น เพียงครู่เดียวก็มายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง พร้อมถุงพลาสติกหูหิ้วที่ใส่ถุงกระดาษด้านในอีกที
ฟิ้ว!
อ้าว!
ชายหนุ่มเดินผ่านเธอไป ราวกับมองไม่เห็น เขาเปิดประตูรถ เอื้อมมือกดสวิตช์ให้หัวรถขยับเข้าที่เดิม หยิบข้าวของอะไรนิดหน่อย แล้วเดินไปหาเด็กปั๊ม
แบงก์พันหลายใบที่ยื่นให้ พร้อมบทสนทนาที่ฟ้ารินไม่ได้ยิน แต่เพียงไม่นาน ชายสามสี่คนมาพร้อมทางลาดเคลื่อนที่ สไลด์เหล็กนี้ถูกยกมาต่อท้ายรถเทรลเลอร์ และเขาเปิดประตูด้านหลังออก
ร่างสูงใหญ่เจิดจรัสภายใต้แสงไฟขาวจ้าของปั๊มน้ำมัน กำหูหิ้วของถุงพลาสติกไว้ แล้วเดินขึ้นทางลาดยาวประมาณเกือบ 3 เมตรนี้ เข้าไปในตู้ ฟ้ารินรีบวิ่งตามมาดู เพราะข้าวของเธออยู่ในนั้น
คนตัวเล็กชะเง้อจากด้านล่าง เห็นแต่ว่าผู้ชายที่นุ่งกางเกงยีนขาขาด ๆ กับเสื้อยืดลายทหาร กระโดดเข้าไปในรถสปอร์ต หญิงสาวถึงกับปิดปาก…เพราะเกรงตัวเองจะเผลอกรี๊ดในความเท่ของเขา
ฟรึ่ม ฟรึ่ม
เสียงเครื่องยนต์ครางต่ำกับจังหวะเบิ้ลเครื่อง ไม่กี่วินาที ไฟท้ายข้างละ 4 ดวงค่อย ๆ ส่องประกายให้รู้ว่าเขาจะทำอะไร
“ถอยเลยครับ ถอย ถอย” คนงานที่เปิดประตูโบกมือให้สัญญาณ ฟ้ารินรีบหลบทันที แล้วรถคันนั้นก็ค่อย ๆ ไหลลงมาช้า ๆ
เข้าใจแล้วว่าทำไมทางลาดของสไลด์ถึงยาวพอตัว เพราะช่วงล่างของรถหรูลอยสูงจากพื้นนิดเดียว ขณะถอยรถลง หลังคาที่เปิดประทุนนั้นก็ค่อย ๆ ยกขึ้นปิดจนมิดชิด
เด็กปั๊มฮือฮา เพราะไม่เคยเห็นรถแบบนี้มาก่อน
ชายหนุ่มที่อยู่หลังพวงมาลัยรถหรู ลดกระจกลงมาคุยกับคนงาน และด้วยท่าทียำเกรงคนขับมาก จนฟ้ารินติดใจสถานะของเขา หรือเป็นพวกหัวหน้าแก๊งโจร…
โอ๊ย! โจรหล่อขนาดนี้เลยเหรอ
มิน่าเขาถึงว่า ผู้หญิงอย่างเราชอบหลงผู้ชายทรง Bad
“จัดการที่เหลือตามแผนได้เลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ดุ ไม่พูดอย่างคนเหนือกว่า แต่น้ำเสียงหนักแน่น ชัดเจนจนรู้สึกอยากยืดอก ยืนตรงขณะตอบรับคำสั่ง
ล้อรถเคลื่อนช้า ๆ ไปทางออก พร้อมกับที่คนงานปิดประตูเหล็กของตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนจะปีนขึ้นไปขับรถเทรลเลอร์คันนั้นแทน
ขณะที่ทุกคนดูมีงานยุ่งวุ่นวาย ฟ้ารินเหมือนเด็กหลงทางและไม่รู้ว่าควรไปทางไหนต่อ เพราะโดนยึดทรัพย์ไปแล้ว
คนขับรถสปอร์ตมีเมตตา เปิดกระจกรถฝั่งขวาถามหญิงสาว
“ไปไหม หรือนี่คือปลายทาง”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่ฟ้ารินคิดว่านี่คือน้ำจิตน้ำใจที่แตกต่างจากผู้ชายที่เธอเคยรู้จัก เขาสองคนแค่หน้าเหมือนกัน แต่เป็นคนละคนแน่นอน
“หนูไปได้ใช่มั้ย” เธอเอ่ยถาม
“ใช่” เขาตอบ
“คือ...ในรถ เอ่อ ในนี้อะค่ะ มีกระเป๋าหนู” เธอชี้กล่องเหล็กขนาดยักษ์ ที่เธอแอบซ่อนแอบสิงมา ของมีค่าน้อยนิด แต่คือทุกสิ่งที่มี ตอนนี้ยังอยู่ในนั้น และดูเหมือนมันก็กำลังจะออกเดินทางไปเหมือนกัน
“อยู่นี่แล้ว ขึ้นมาเลย” เขาพูด แววตานั่น…ไม่ใช่แววตาคนใจร้าย เธอรู้สึกคุ้นเคยและไว้วางใจอย่างแปลกประหลาด แต่หากพูดตามจริง…อาจจะเพราะหลงรูปลักษณ์ภายนอกของเขาก็เป็นไปได้
หญิงสาวยกยิ้มด้วยความดีใจ รีบวิ่งอ้อม...จากหลังรถ ทำคนขับงงว่าจะไปให้ไกลทำไม
ด้วยความตื่นเต้นระคนยินดี ทำคนสวยโชว์เปิ่น เธอวิ่งอ้อมรถหรูคันนี้ เพื่อกลับมายืนจุดเดิม และเปิดประตูรถเข้ามา
“แหะ ๆ ไม่เคยเจอรถพวงมาลัยซ้ายมาก่อน” เธอบอกเขา พร้อมส่งยิ้มแห้ง ๆ พอ ๆ กับคอที่เหนียวหนืดไปหมด เพราะไม่ได้ดื่มน้ำมานาน เธอปิดประตูรถแล้วหันมาหาคนขับ ด้วยท่าทีเหนื่อย ๆ กับแววตาตื่นเต้น แต่ไม่มีความกลัวอะไร
“ขอบคุณนะคะ พี่จะขับไปไหนเหรอ”
“บอกไม่ได้ เธอล่ะจะไปไหน” เขาถาม
“ไปไหนก็ได้ ที่ไกลจากกรุงเทพฯ”
“อืม ไกลแหละ” พูดเพียงสั้น ๆ แล้วยื่นถุงลูกชิ้นปิ้งให้ พร้อมขวดน้ำ
“ถ้าหิว กินได้” เขาพูด
“อ่าค่ะ ไม่หิวค่ะ พี่กินเถอะ”
“กินเถอะ ฉันไม่ชอบให้กลิ่นอาหารติดรถ”
“แล้วซื้อมาทำไมคะ” เธอถามกลับ
ชายหนุ่มค่อย ๆ หันหน้ามาหา และแววตาที่ตอนแรกไปเห็นว่าใจดีนั้น เพิ่งค้นพบความจริง เบ้าหน้าฟ้าประทาน แต่แววตาไร้อารมณ์ กำลังสังหารเธอโดยไม่ใช้คำพูด
มือเล็กสั่นเทา หยิบไม้แหลมด้ามเกลี้ยงเกลาที่มีลูกชิ้นเรียงเต็ม 5 ลูกมากินอย่างรีบ ๆ ไม่กล้าหันไปมองอีกฝ่าย
รถจอดนิ่งในปั๊ม ยังไม่ไปไหน ไม่ว่าจะรถเทรลเลอร์คันนั้น หรือไฮเปอร์คาร์คันนี้
คนงานเดินมาขนาบข้าง คล้ายรอรับคำสั่งที่นอกรถ
“กินช้า ๆ” เขาพูดกับฟ้าริน
“อึก!” เสียงกลืนที่ขัดแย้งกับคำสั่ง หญิงสาวเอามือทาบอก พยายามกลืนและป้องกันความรู้สึกที่จะสำลักหรือไอออกมา
แกร็ก
ฝาบิดออกจากขวด น้ำดื่มสะอาดถูกยื่นส่งมาให้คนตัวเล็ก ความลังเลกับการรับของอันตรายนี้ทำฟ้ารินคิดอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนจะตายเพราะยาพิษหรือยานอนหลับ เธออาจตายเพราะลูกชิ้นติดคอ
อึก อึก อึก!
คนตัวเล็กเลือกดื่มน้ำเพื่อให้รอดจากการขาดอากาศเพราะอาหารติดคอ
“โอเคแล้วมั้ย” เขาถาม
“ค่ะ ๆ”
กระจกรถถูกลดลง ถุงลูกชิ้นถูกจับส่งให้คนที่ยืนรออยู่
“Thank You” เขาพูด ระหว่างปิดกระจก
สำเนียงอลังการเวอร์ ฟ้ารินแอบคิด แต่แล้วเสียงเครื่องยนต์ด้านนอกที่ดังไล่ ๆ กับจังหวะปิดหน้าต่าง ทำหัวใจเธอเต้นแรงไปด้วย รถมันเท่มากนะเนี่ย หญิงสาวมองช่วงต้นขาชายหนุ่มที่กำลังขยับนิดหน่อยเพราะเหยียบคันเร่งวอร์มอยู่
“คาดเข็มขัดด้วย” เขาพูดโดยไม่มองเธอ
“อ่อ ค่ะ ๆ”
รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากปั๊มน้ำมัน ถนนเส้นตรงของทางเลี่ยงเมืองมีแต่ป่าหญ้า คันเร่งถูกเหยียบลง และคนขับจ้องมองฝ่าความมืด
ฟิ้วววววว!!!!!
“แม๊!!!!”