5
5
เด็กชายรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อเอ่ยขออนุญาต เขื่อนชะโงกหน้ามาดูเห็นว่ามีผู้ใหญ่ไปด้วยก็เลยกล่าวอนุญาต
“รินจะมานอนบ้านเรา” มายาพูดขึ้น
“มานอนบ้านเราดีกว่า บ้านเรามีของเล่นเยอะแยะ มากกว่าบ้านหยาอีก” เขตต์อวดอ้าง
“ไม่ให้ไป รินต้องมานอนบ้านเรา” มาหยาเท้าสะเอวแยกเขี้ยวใส่ ก่อนดึงตัวดารินมาไว้ทางด้านหลังอย่างหวงๆ
“ไม่เอาค่ะคุณหนูอย่าทะเลาะกันนะคะ ดูรถด้วยค่ะ” แจ่มรีบห้ามทัพ แม้จะเคยชินที่เขตต์กับมาหยาชอบทะเลาะกันแต่ก็กลัวรถในหมู่บ้านที่วิ่งผ่านไปผ่านมาจะชนเข้าให้
“เดินดีๆ นะคะ ชิดทางเท้าเอาไว้” แจ่มจับมือเด็กๆ ต้อนให้เดินฝั่งด้านใน ไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงบ้านของดาริน
“อ้าวคุณริน กลับมาแล้วเหรอคะ” แววรรณเอ่ยถาม เธอเป็นพี่เลี้ยงและสาวใช้บ้านดาริน แจ่มมองแวววรรณแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเพราะว่าแวววรรณแต่งเนื้อแต่งตัวยังกับเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ใช่สาวใช้หรือพี่เลี้ยงอย่างที่ควรจะเป็น เสื้อผ้า หน้าผม เครื่องประดับดูเป๊ะๆ ไปเสียทุกอย่าง
“นี่พี่แจ่มคะพี่แวว จะมาช่วยรินเก็บของ รินจะไปนอนค้างที่บ้านของหยาค่ะ” ดารินบอกแวววรรณ
“แล้วคุณรินโทร. ไปแจ้งคุณภพแล้วเหรอคะ” แวววรรณเอ่ยถาม ในตาสั่นระริกอย่างดีใจที่ไม่ต้องดูแลดาริน
“โทร. ไปหาคุณพ่อแล้วค่ะ งั้นรินขอขึ้นไปเก็บของก่อนนะคะ” ดารินรีบเอ่ยบอก ดีใจที่จะได้ไปนอนคุยเล่นกับมาหยาที่บ้านของอีกฝ่าย เธออยู่ที่นี่ก็เบื่อเพราะว่าแวววรรณมักพาผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาที่บ้านบ่อยๆ
“พี่เลี้ยงของคุณรินแต่งตัวดี๊ดีนะคะ” แจ่มเอ่ยถามเด็กน้อยขณะช่วยจัดของใส่กระเป๋าใบเล็กๆ
“ค่ะพี่แจ่ม พี่แววบอกว่าคุณพ่อชอบให้แต่งตัวสวยๆ”
“อ้อ... เหรอคะ” แจ่มรับคำ คิดไปว่าประภพคงอยากให้พี่เลี้ยงแต่งตัวสวยๆ สะอาดสะอ้านเพราะดูแลลูกสาวตัวเอง จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็น
พอเก็บของเสร็จ แจ่มก็ต้อนเด็กๆ เดินลงมาชั้นล่าง แวววรรณซึ่งรออยู่แล้ว รีบดึงมือของดารินมาหาทันที ก่อนจะพูดเสียงเรียบๆ กับมาหยาและแจ่ม
“แววขอคุยกับคุณรินสักครู่นะคะ” แวววรรณพูดเช่นนั้นมาหยากับแจ่มจึงไปรออยู่หน้าบ้าน
“พี่แววมีอะไรเหรอคะ” ดารินเอ่ยถามพี่เลี้ยงสาว
“คุณพ่อฝากเงินเอาไว้ให้คุณรินก่อนไปต่างจังหวัดค่ะ” แวววรรณนำเงินออกมาให้แค่บางส่วนเท่านั้น อีกส่วนเธอเก็บเอาไว้
“ขอบคุณค่ะพี่แวว” เด็กน้อยรับเงินไปถือเอาไว้ก่อนจะกล่าวขอบคุณ
“ถ้าคุณพ่อบอกว่าพี่แววให้เงินหรือยังก็บอกว่าให้แล้วนะคะ เหมือนทุกครั้ง”
“ค่ะพี่แวว”
“ไม่ต้องบอกนะคะว่าพี่แววให้เท่าไหร่ ฮือๆๆ แม่พี่ล้มป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วค่ะ พี่ต้องเอาเงินไปรักษาแม่ นี่ค่ะคุณริน” แวววรรณหยิบโทรศัพท์มือถือที่มีรูปหญิงชรานอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลส่งให้ดารินดูแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น
“น่าสงสารจังเลยค่ะ จริงๆ พี่แววน่าจะบอกคุณพ่อนะคะ เผื่อคุณพ่อจะช่วยพี่แววได้บ้าง” ดารินแสดงความคิดเห็นตามประสาเด็ก เธอรู้ดีว่าบิดามีเงินเยอะ เจ็บป่วยแบบนี้บิดาคงมีเงินให้แวววรรณนำไปรักษามารดาที่ป่วย
“พี่เกรงใจน่ะค่ะ นี่ก็เกรงใจคุณรินเหลือเกินแล้ว แต่ปกติคุณรินก็ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเยอะแยะ แถมยังมีเงินเหลือหยอดกระปุกอีก พี่แววเลยจะขอยืมก่อนนะคะ พี่ไม่เอาเงินคุณรินหรอกค่ะ แค่ขอยืมเอง แล้วพี่แววจะคืนให้คุณรินนะคะ”
“ไม่ต้องคืนหรอกค่ะ พี่แววต้องเอาเงินไปรักษาแม่” เด็กน้อยพูดไปตามประสา นึกสงสารแวววรรณจับใจ เห็นพ่อแม่ของแวววรรณป่วยพิกลพิการก็รู้สึกหดหู่ใจตามไปด้วย
“ไม่ได้หรอกค่ะ เงินยืมก็คือเงินยืม พี่แววจะเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์มาคืนคุณรินนะคะ เก็บเอาไว้เป็นเงินออมให้คุณริน พี่แววสัญญาค่ะ”
“ค่ะพี่แวว เก็บไว้ที่พี่แววก็ดีเหมือนกัน ได้เงินก้อนใหญ่ๆ รินจะได้มีเงินเยอะๆ เอาไว้ช่วยคนอื่น” ดารินอ้าแขนออกขณะพูดว่าตัวเองมีเงินเยอะๆ
“ขอบคุณคุณรินมากนะคะพี่เข้าใจพี่”
“งั้นรินไปก่อนนะคะ”
“ค่ะ” แวววรรณเดินมาส่งดารินที่หน้าบ้าน พูดจาฝากฝังกับแจ่มเสียดิบดี แจ่มรับคำก่อนจะพาเด็กทั้งสามเดินกลับบ้าน แจ่มพาเด็กๆ ไปนั่งเล่นกันอีกมุมหนึ่ง ก่อนจะมาสนทนากับรติรส
“เป็นอย่างที่คุณรสคิดเอาไว้จริงๆ ด้วยค่ะ แม่แวววรรณอะไรนั่นเรียกคุณรินไปคุยกันสองคน แล้วแจ่มก็อัดคลิปเอาไว้ทุกอย่างเลยค่ะ” แจ่มส่งโทรศัพท์มือถือให้เจ้านายดู
“แย่จริงๆ เลยหลอกเอาเงินเด็ก”
“แต่คุณรสรู้ได้ยังไงคะ ถึงให้แจ่มทำแบบนี้”
“หนูรินน่ะสิเล่าให้มาหยาของเราฟัง แบบเด็กๆ คุยกันน่ะ อยากมีเงินเยอะๆ ไปช่วยพ่อแม่พี่แวว ฉันก็เลยสงสัย คุณภพน่ะใครๆ ในละแวกนี้ก็รู้ว่าเจ้าชู้พี่เลี้ยงกี่คนต่อกี่คน คนใช้กี่คนต่อกี่คนก็ฟาดเรียบ”
“แล้วคุณรสจะทำยังไงต่อไปเหรอคะ”
“ใม่ยากจ้ะ แค่ส่งคลิปนี้ไปให้คุณภพก็จบ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำยังไง” รติรสมีเบอร์โทรศัพท์มือถือของประภพ แต่เธอไม่ได้ส่งคลิปกับโทรศัพท์ตัวเองแต่ใช้โทรศัพท์ของแจ่มส่งไปแทน
ทางด้านแวววรรณ พอดารินออกจากบ้านไปแล้วหล่อนก็เหยียดยิ้ม หัวเราะสะใจที่หลอกเด็กได้ ก่อนจะรีบกดโทรศัพท์ออกไปหาหนุ่มที่แอบคบกันอยู่
“ทางสะดวกแล้ว วินมาหาแววได้เลยจ้ะ” แวววรรณโทร. หามาวิน ไม่นานชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่บ้าน
“รีบเข้ามาก่อน เดี๋ยวมีคนเห็น” แวววรรณรีบเปิดและปิดประตูก่อนจะพาชู้รักเข้ามาในบ้าน
“ว้าว... บ้านหลังใหญ่มาก สบายสุดๆ ไปเลย ให้มานั่งกินนอนกินทั้งปีทั้งชาติยังได้เลย” มาวินกระโดดขึ้นไปนั่งนอนบนโซฟาตัวยาวเนื้อนุ่ม ทั้งสองนั่งกินนอนกินกันอย่างมีความสุขด้วยเงินที่หลอกมาจากดารินได้ แถมยังทิ้งข้าวของเพ่นพ่านระเกะระกะไปหมดเพราะคิดว่ายังไงเจ้าของบ้านก็ไม่กลับมาตอนนี้แน่นอน ส่วนดารินนั้น หากไปนอนค้างกับมาหยาก็จะติดลมบนไม่กลับมาที่บ้านแน่นอนเพราะที่โน่นมีของกินอร่อยๆ และมีคนดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
“คุณภพไปทำธุระต่างจังหวัดหลายวันกว่าจะกลับ ไปบ้าผู้หญิงน่ะ ส่วนคุณรินไปนอนบ้านเพื่อนที่เรียนอนุบาลด้วยกัน เราอยู่กันสบายเลยไม่ต้องกังวล” ทั้งสองใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแบบที่ไม่คาดคิดว่าเจ้าของบ้านจะกลับมาเร็วกว่ากำหนด
“คะ... คุณภพ” แวววรรณสะกิดคนที่นอนอยู่ข้างๆ ใบหน้าเลิ่กลั่ก
“อะไร จะนอน” มาวินปัดมือออก
“ถ้าแกยังไม่อยากตายก็ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” แวววรรณตวาด มาวินรีบลืมตาตื่นก่อนจะลนลานลงจากที่นอน
“ใคร เจ้าของบ้านเหรอแวว”
“ใช่”
“ไสหัวออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะเอาตำรวจมาลากคอเธอสองคน” ประภพตวาดไล่ เขาหงุดหงิดไม่น้อยที่ผู้หญิงที่เขาพามาดูแลบ้าน ดูแลลูกสาว คบชู้สู่ชาย แวววรรณกับมาวินเผ่นออกจากบ้านแทบไม่ทัน ประภพลูบหน้าตัวเองแรงๆ เขาไม่ได้รักใคร่อะไรแวววรรณหรอก แต่ที่หงุดหงิดเพราะว่าบ้านช่องรกไปหมด ต้องไปจ้างคนมาทำความสะอาดบ้านอีก
“ขอบคุณคุณรสมากนะครับ” ประภพกล่าวขอบคุณรติรส ถอนใจเฮือกใหญ่ที่เกิดเรื่องน่าอายแบบนี้ขึ้น รติรสหันไปมองสบตากับสามีเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูรินก็เป็นเพื่อนรักกับมาหยาลูกสาวของรส แกยังเด็กมากน่ะค่ะ ยังไม่รู้เท่าทันผู้ใหญ่หรอกค่ะ”
“ยังไงผมก็ขอฝากฝังรินด้วยนะครับ งานผมยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลา”
“ค่ะ” รติรสคันปากยิบๆ อยากจะบอกว่าไม่มีเวลาให้ลูกแต่มีเวลาให้ผู้หญิบคนอื่นแบบนั้นเหรอ ใครๆ ก็รู้ว่าประภพเจ้าชู้ แต่ก็ไม่กล้าพูดอยู่ดี ได้แต่หันไปมองเด็กน้อยทั้งสองนั่งเล่นกันอย่างไร้เดียงสา เด็กไม่ควรจะมารับรู้อะไรแบบนี้
“ทั้งสองคนเลยนะจ๊ะ ฟังแม่ให้ดีเลยนะลูก ถ้ามีใครมาพูดอะไรมาเล่าอะไรที่น่าสงสารให้ฟัง หนูสองคนต้องมาเล่าให้แม่ฟังนะคะ ยิ่งถ้ามาขอเงินยิ่งต้องเล่า”
“ทำไมเหรอคะคุณแม่” มาหยาเอ่ยถาม
“ถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือจริงๆ พ่อกับแม่อาจจะช่วยเขาได้ยังไงล่ะจ๊ะ”
“ค่ะคุณแม่” เด็กน้อยทั้งสองรับคำอย่างพร้อมเพรียงกัน รติรสไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะมีลูกสาวที่น่ารักและน่าสงสารเพิ่มขึ้นมาอีกคน แต่ทั้งเธอและสามีก็รู้สึกถูกชะตากับดารินเป็นอันมาก ถ้าได้มาเป็นลูกจริงๆ ก็จะดูแลให้ดีเหมือนมาหยา
“นอนได้แล้วจ้ะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอีก” รติรสก้มลงจุมพิตหน้าผากของเด็กน้อยทั้งสอง