18 อย่าคิดแทนใคร
ไทธัชยกของขึ้นหลังรถกระบะเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอรถออกไปพ้นรั้วบ้านเขาก็ปิดประตูแล้วกลับเข้ามานอนต่อ เมื่อคืนกว่าจะลงสีรูปปกนิยายของคุณธีรธรเสร็จก็ถึงเวลาที่มารดาและยายตื่นมาทำกับข้าวพอดี
เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงรถของมารดาแล่นเข้ามาจอดในเวลาเกือบสิบโมง เขารีบล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะออกไปช่วยมารดาและยายยกของลงจากรถ
“ผมช่วยครับแม่” ไทธัชรีบเข้ามารับหม้อใส่กับข้าวจากมารดาก่อนจะนำไปเก็บในห้องครัวเพื่อเตรียมล้าง
“เมื่อคืนนอนดึกเหรอ ดูหน้าไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ”
“ครับแม่ เมื่อคืนลงสีรูปเพลินไปหน่อย”
“ใกล้จะเสร็จหรือยัง นี่ก็จะเปิดเทอมแล้วนะ จะได้เอาเวลาไปอ่านหนังสือ”
“เสร็จแล้วครับแม่ เดี๋ยวก็ว่าจะให้พี่ซันช่วยดูอีกทีก่อนจะส่งให้คนจ้างครับ”
“ถ้าเขาให้เงินมาก็รับไว้ เพราะอย่างน้อยไทก็ทำงานให้เขาอย่างเต็มที่ แล้วก็เอาเงินไปทำบุญให้เพื่อนด้วย เข้าใจไหม”
“ครับแม่”
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็ไปนอนต่อได้นะ แม่กับยายจะเก็บล้างเอง แล้วนี่พี่ฝ้ายไปไหน”
“ผมยังไม่เห็นเลยครับ สงสัยจะยังไม่ตื่น”
มัทนาส่ายหัว ตั้งแต่หลานสาวมาอยู่ด้วยเธอไม่เคยเห็นมนัสสรช่วยหยิบจับอะไรในบ้านเลยสักนิด คนเป็นน้าไม่ได้หวังให้หลานสาวมาช่วยงาน แต่ก็อยากจะเห็นน้ำใจของคนที่อยู่ชายคาเดียวกันบ้าง แต่มนัสสรไม่มีสิ่งที่ว่านั้นเลย แม้กระทั่งเก็บจานชามไปล้างหลังจากทานข้าวเสร็จเธอก็ไม่เคยทำ
“ยายครับ ถืออะไรมาท่าทางหนักน่าดูเลยเดี๋ยวผมช่วย ยายเอาวางไว้ตรงนั้นก่อน”
เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปหายายมาลัยที่เดินเข้ามาในบริเวณบ้านพร้อมถุงหิวใบใหญ่
“ป้านวลเขาให้เผือกหอมมายายเลยว่าจะทำบัวลอยเผือกสักหน่อย”
“มันเยอะไหมครับยาย”
“ทำทั้งทีก็ทำเยอะ ๆ จะได้แบ่งคนอื่นกินบ้าง ทำเสร็จก็เอาไปให้บ้านป้านวลและลุงสว่างด้วยนะ” ยายมาลัยหมายถึงเพื่อนบ้านที่มักมีของกินติดไม้ติดมือมาฝากกันเสมอ
“ได้ครับยาย”
“ว่าจะให้หมอซันด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะกินได้ไหม”
“ไม่รู้เหมือนกันครับ ทำเสร็จแล้วผมจะลองโทรไปถามให้นะครับ”
“แล้ววันนี้ไม่ไปส่งพี่ฝ้ายสมัครงานเหรอ”
“พี่ฝ้ายยังไม่ออกมาเลย” ไทธัชทำหน้าเซ็งเพราะญาติของเขาดูเหมือนจะเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง จะออกมาก็เฉพาะตอนทานข้าวเท่านั้น
“เดี๋ยวยายไปตามเอง จะได้กินข้าวพร้อมกัน”
“ผมตั้งโต๊ะรอเลยนะครับยาย”
พออาหารทุกอย่างจัดเรียบร้อยมนัสสรก็เดินตามหลังยายมาลัยออกจากห้องมาพอดี
“ฝ้าย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วช่วยยายปั้นบัวลอยด้วยนะลูก”
“ได้ค่ะ แต่ฝ้ายทำไม่ค่อยเป็นนะคะ จะทำให้ยายเสียเวลาหรือเปล่า”
“ไม่เป็นก็หัดไว้ เราเป็นผู้หญิงเรื่องการบ้านการเรือนก็ควรฝึกไว้บ้าง ช่วยกันปั้นหลาย ๆ คนจะได้เสร็จเร็ว ๆ ไทจะได้รีบเอาไปให้หมอซันเขาด้วย”
พอได้ยินชื่อคุณหมอหนุ่มมนัสสรก็ตาเป็นประกาย หญิงสาวอยากเป็นคนเอาไปให้เขาด้วยตัวเอง แต่มันติดตรงที่เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและไม่มีแม้กระทั่งเบอร์โทร
“ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ พี่ก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย ถ้าไทจะออกไปพี่ขอติดไปด้วยได้ไหม จะได้ฝึกนั่งรถเมล์อีกหน่อยจะไปไหนมาไหนคนเดียวได้” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าสงสาร
“ถ้าพี่ฝ้ายอยากนั่งรถเมล์ให้คล่อง ผมจะพาไปวันหลังนะครับ”
“ทำไมล่ะ ไหน ๆ ไทก็ต้องออกไปแล้วพี่คิดว่าไปพร้อมกันเลยจะได้ไม่เสียเวลา” เธอพยายามหาเหตุผลมาอ้าง
มัทนาที่นั่งฟังอยู่เห็นว่าลูกชายมีท่าทางอึดอัดก็รู้สึกเห็นใจ
“เอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวไทโทรถามหมอซันก่อนว่าจะให้เอาบัวลอยไปให้ที่ไหน แล้วก็ถามพี่เขาด้วยว่าให้ฝ้ายตามไปด้วยได้หรือเปล่า เท่าที่แม่รู้คอนโดของหมอซันเขาไม่ค่อยให้คนนอกเข้า”
“ไทลองโทรถามเลยสิ พี่จะได้เตรียมตัว”
“ไม่ต้องรีบหรอกลูก บัวลอยยังไม่ได้เริ่มทำเลย”ยายมาลัยเห็นท่าทางหลานสาวแล้วก็เริ่มหนักใจ
มนัสสรเป็นหลานสาวที่ยายมาลัยไม่ค่อยสนิทด้วยเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กเหมือนอย่างไทธัช แต่ที่ยอมให้มาอยู่ด้วยก็เพราะเห็นว่ายังไงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข แต่ถ้าจะมาอยู่นาน ๆ ก็คงต้องคุยกับพ่อของมนัสสรอีกที เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านของมัทนา ไม่ใช้บ้านของคนเป็นยายอย่างที่สองพ่อลูกเข้าใจ
ไทธัชเดินกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่หายออกไปโทรศัพท์อยู่เป็นนาน
“ไม่ต้องเอาไปให้พี่ซันแล้วนะครับยาย พี่เขามีผ่าตัด น่าจะเสร็จดึก ๆ นู่นเลยครับ”
มนัสสรมีสีหน้าดูผิดหวังอย่างมาก ที่ไม่ได้ไปหาอคิราห์อย่างที่ตั้งใจ
“งั้นทำบัวลอยเสร็จแล้วพี่ฝ้ายอยากไปไหน ผมจะออกไปเป็นเพื่อนนะครับ”
“พี่ว่าเอาไว้วันหลังดีกว่า” หญิงสาวพูดจบก็เดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่คิดจะช่วยปั้นบัวลอยอย่างที่ยายมาลัยบอก
เช้าวันเสาร์
วันนี้ไทธัชมีเรียน Illustrator เวลาบ่ายสองโมง แต่เขาก็รีบออกจากบ้านก่อนที่มนัสสรจะตื่น เพราะกลัวเธอจะตามออกมาด้วย เขาไม่ได้รังเกียจญาติผู้พี่คนนี้ แต่รู้สึกรำคาญที่เธอเอาแต่ถามถึงอคิราห์และเซ้าซี้จะขอเบอร์โทรศัพท์อีกฝ่ายให้ได้ ไทธัชยังไม่กล้าให้เบอร์ของคุณหมอหนุ่มกับเธอแต่คงเลี่ยงได้ไม่ทุกครั้ง ดังนั้นวันนี้เด็กหนุ่มจึงตั้งใจว่าจะขออนุญาตเขาก่อนที่จะให้เบอร์โทรกับมนัสสรไป
ไทธัชมาถึงคอนโดของอคิราห์ในเวลาเก้าโมงนิด ๆ เขาไม่ได้เคาะประตูเพราะเมื่อคืนได้บอกกับเจ้าของห้องแล้วว่าจะเข้ามาเวลานี้และอคิราห์ก็เป็นคนบอกเองว่าให้เข้ามาได้เลยเพราะตัวเองอาจจะยังไม่ตื่นนอน
พอเข้ามาแล้วก็ได้ยินเสียงคนอาบน้ำออกมาจากห้องนอนใหญ่ เด็กหนุ่มจึงรับเทกับข้าวที่เตรียมมาจากบ้านใส่จานชามอย่างเรียบร้อยรอแค่อคิราห์อาบน้ำเสร็จก็จะได้ทานพร้อมกัน
“สวัสดีครับพี่ซัน หิวไหมผมเอากับข้าวมาด้วย”
“หิวสิเมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะ ตอนนี้หิวจนตาลายเลย”
คำพูดที่ฟังดูกำกวมของเขาทำให้ไทธัชอดจะถามออกมาไม่ได้
“ทำอะไรมาครับ ผ่าตัดหรือไปเที่ยว”
“ก็ผ่าตัดถึงห้าทุ่ม ยื่นจนขาสั่นไปหมด นายคิดว่าพี่ไปทำอะไรกับใคร”
“เปล่า” เขาส่ายหัวจนผมกระจาย
“หน้านายมันฟ้อง คิดลามกอยู่หรือเปล่า”
“ใครคิดลามกกัน รีบกินเถอะเดี๋ยวจะเป็นลมไปก่อน” เด็กหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อถูกจับได้ว่าตัวเองคิดไปไกลกับคำพูดของคุณหมอหนุ่ม
อคิราห์แอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางอาย ๆ ของคนน้อง ไม่รู้ว่าจะทนกับความน่ารักของอีกคนได้นานแค่ไหน ไทธัชไม่ใช่แค่เด็กหนุ่มหน้าตาดี แต่เขายังเป็นคนที่มีเสน่ห์และช่างเอาใจสารพัด นั้นยิ่งทำให้คนที่ไม่เคยคิดจะคบกับใครอย่างจริงจังอย่างอคิราห์ ยอมหยุดความสัมพันธ์ทางกายกับคู่ขา เพียงเพื่อรอเวลาที่จะมีความสุขกับคนตรงหน้าอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะอดทนได้นานขนาดนี้มาก่อน
ตั้งแต่เจอไทธัชเขาก็ไม่เคยนอนกับใครอีกเลย แม้อยากจะปลดปล่อยพลังทางเพศมากแค่ไหนสุดท้ายก็ทำได้เพียงการช่วยตัวเองพร้อมกับจินตนาการถึงใบหน้าหล่อ ๆ ของไทธัช นั้นก็ทำให้เขามีความสุขมากพอแล้ว
“พี่ซัน พี่ฝ้ายอยากขอเบอร์โทรศัพท์พี่”
“ญาติของไทน่ะเหรอ เธอจะเอาไปทำอะไร”
“เธออยากคุยกับพี่ เห็นว่าจะถามเรื่องงาน”
“ถ้ามีงานที่เหมาะกับเธอพี่จะติดต่อนายไปเอง”
“แต่...”
“มีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า” เมื่อเห็นสีหน้าของไทธัชแล้วก็คิดว่ามันต้องไม่ใช่แค่นั้นแน่ ๆ
“เธอขอเบอร์พี่ทุกครั้งที่เจอหน้าเลยนะครับ บอกตรง ๆ นะผมอึดอัด ถ้าพี่สองคนจะจีบกันก็ไม่ต้องเอาผมมาเป็นคนกลาง”
อคิราห์วางช้อนในมือลง แล้วมองหน้าคนพูดที่ดูเหมือนไม่พอใจ
“ใครจะจีบใคร”
“ก็พี่ฝ้ายไง ผมดูออกว่าเขาชอบพี่ แล้วพี่ละชอบเขาหรือเปล่า ผมว่าเขาก็สวยดี”
“พี่เคยบอกนายเหรอว่าชอบคนสวย”
“ไม่เคย แค่ผมรู้หรอกน่าว่าผู้ชายก็ต้องชอบผู้หญิงสวย ๆด้วยกันทั้งนั้น”
“ไท อย่าคิดแทนใคร คนเราชอบอะไรไม่เหมือนกันแล้วพี่ก็ไม่ได้ชอบญาติของนาย ไม่ชอบเลยสักนิด ส่วนเรื่องเบอร์โทร พี่ว่าจะซื้อซิมใหม่ ให้เธอโทรมาเจอพี่สักครั้ง แล้วก็ถอดซิมออก”
“เจ้าเล่ห์จังนะครับ”
“พี่ทำเพื่อนายเลยนะ ยังจะมาว่าอีก กินข้าวเสร็จแล้วลงไปซื้อซิมเลย แล้วก็ซื้อของกินมาด้วยเดี๋ยวโอนเงินให้”
“ไม่ต้องหรอกครับ”
“ไท ผู้ใหญ่ให้ของเราก็ต้องรับไว้”
“แต่พี่ให้ผมมาเยอะแล้ว”
“พี่มีความสุขที่จะให้ นายแค่มีหน้าที่รับถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาพูดกัน”
“เผด็จการชัด ๆ ” ไทธัชบ่นก่อนจะทานข้าวต่อด้วยสีหน้าบูดบึ้งเพราะโดนบังคับ
ส่วนอีกคนทานไปด้วยยิ้มไปด้วย อย่างอารมณ์ดี การได้แกล้งไทธัชก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งของอคิราห์