15 ขอบใจนะ
“ไทวาดเป็นเหรอ” อคิราห์หันมาถามอย่างแปลกใจเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นไทธัชวาดรูปมาก่อนเลยสักครั้ง
“ก็พอได้ครับ แต่ก่อนก็เคยรับงานวาดอยู่ แต่มันต้องใช้เวลาเยอะมาก ผมก็เลยไม่ได้รับมานานแล้ว”
“พี่ขอดูผลงานของน้องหน่อยได้ไหม” ธีรธรตื่นเต้น เขาเริ่มมีความหวัง เพราะคิดว่าถ้าผลงานของเด็กคนนี้คล้ายกับอคินทร์ก็คงจะพูดกันไม่ยากเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนเด็กคนนี้จะสนิทกับลูกชายอีกคนของคุณอรณี
ไทธัชส่งโทรศัพท์ให้กับนักเขียน ในนั้นมีภาพที่เขาวาดเก็บไว้รวมถึงภาพที่เคยทำให้กับนักเขียนคนอื่นอยู่หลายภาพ
แล้วคนที่นั่งหน้าเครียดก็ยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นลายเส้นของไทธัช
“ใช้ได้เลย ลายเส้นคล้ายกันมาก”
“เคยเห็นผลงานคิวมาก่อนไหม” เขาถามเพราะดูผลงานแล้วเหมือนกับทั้งสองคนมีอาจารย์คนเดียวกัน
“ครับ ผมเคยปรึกษาคิวอยู่หลายครั้ง เราปรึกษาอาจารย์คนเดียวกัน”
“หนูรู้จักกันด้วยเหรอลูก” คุณอรณีซึ่งตอนแรกดูเหมือนไม่พอใจที่ไทธัชนั่งอยู่ในห้องด้วยก็ตาลุกวาวเมื่อได้ยินว่าเด็กหนุ่มที่ลูกชายคนโตพามาด้วยนั้นรู้จักกับลูกชายคนเล็ก
“ครับ เราเรียนห้องเดียวกัน”
“ถ้าพี่จะให้น้องวาดต่อ แต่ขอเครดิตให้คิว น้องจะโอเคไหม” ธีรธรถามออกไปแล้วก็รอคอยคำตอบอย่างมีความหวังเพราะเขาเจอหลายคนแล้วที่ปฏิเสธ
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
“ไท คิดดี ๆ นะ ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องทำ พี่เข้าใจว่าผลงานของใครก็ต้องอยากใส่ชื่อของตัวเองทั้งนั้น”
“ไม่เป็นไรครับพี่ซัน ผมยังมีโอกาสใส่ชื่อในผลงานอื่นอีกมาก แต่นี่มันงานสุดท้ายของคิวนะครับ”
“ขอบใจมาก แม่ขอบใจมากจริง ๆ” คุณอรณีน้ำตารื้น ไม่คิดเลยว่าจะมีคนทำงานต่อจากลูกชายและยอมให้ใช้ชื่อของลูกชายในผลงาน
แม้จะเป็นเพียงแค่หน้าปกนิยาย แต่เธอก็อยากเห็นชื่อของลูกชายบนปกหนังสืออีกสักครั้ง
พอตกลงกันได้แล้วไทธัชก็ขอให้นักเขียนส่งไฟล์ผลงานครั้งล่าสุดที่เขาได้รับจากอคินทร์ให้ทางเมล์ เพื่อที่เขาจะได้กลับไปทำต่อ
พอนักเขียนกลับไปแล้วอคิราห์ก็ขอตัวกลับ เขาไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้นาน ๆ เพราะไม่อยากเจอพ่อเลี้ยงให้ต้องหงุดหงิด
“ไท เรื่องวาดรูปลองคิดอีกทีนะ ตอนนี้ก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว พี่กลัวเราไม่มีเวลา”
“ไม่เป็นไรครับ คิวเริ่มงานมาเกินครึ่งแล้วผมคิดว่าคงไม่เสียเวลาเท่าไหร่”
“ไหวแน่นะ”
“แน่ครับ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก”
“เรื่องค่าจ้างเดี๋ยวพี่จ่ายเพิ่มให้นะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมรับจากพี่มามากแล้ว”
“ที่ทำเพราะอยากตอบแทนพี่เหรอ”
“มันตอบแทนกับสิ่งที่พี่ทำให้ผมไม่ได้หรอกนะครับ แต่ที่ผมทำเพราะเข้าใจดีว่าคิวก็คงอยากให้งานของตัวเองสำเร็จ เขามีส่วนให้พี่เจอผม เพราะฉะนั้นผมก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง”
“ขอบใจนะไท”
อคิราห์รู้สึกดีกับสิ่งที่ไทธัชทำให้กับน้องชายของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าอคินทร์จะรับรู้หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ดีใจแทนน้องชาย ที่ไทธัชยอมทำงานต่อโดยยังคงให้เครดิตกับอคินทร์เหมือนเดิม
หลังจากคุยธุระเสร็จแล้วอคิราห์ก็พาเด็กหนุ่มกลับคอนโด “พี่ซัน”
“อือ ว่าไง ง่วงเหรอเดี๋ยวรีบเหยียบเลย”
“ไม่ได้ง่วง แต่คิดว่าผมหิว”
“หิวก็หิวสิ ทำไมต้องคิด”
“ก็ตอนนี้มันยังไม่แน่ใจไงว่าหิวหรือเปล่า แต่คิดว่าอีกสักพักคงหิวแน่เลย พี่หิวไหม”
“เมื่อกี้ไม่หิว แต่พอนายพูดก็หิวแล้ว”
“กินก๋วยเตี๋ยวไหม เดี๋ยวผมเลี้ยง”
“อือ เอาสิ ร้านหน้าคอนโดนะ อยากกินเกี๊ยวอยู่พอดีเลย”
“งั้นพี่จอดส่งผมที่หน้าคอนโดเดี๋ยวผมเดินตามเข้าไป”
“กินที่ร้านเลยจะได้ไม่ต้องล้างให้เหนื่อย ไปถึงก็จะได้รีบนอนเลยพรุ่งนี้นายต้องวาดรูปอีก”
บ่ายวันอาทิตย์
“พี่ไปส่งนะ” อคิราห์คว้ากุญแจรถเตรียมจะออกประตู
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้ พี่พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ก็ต้องรีบทำงานแต่เช้า”
“พรุ่งนี้จะเข้ามาตอนไหน มีเรียนอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีเรียน ครับผมคงจะคงมาบ่าย ๆ พี่จะเอาอะไรไหมผมจะแวะซื้อมาให้”
“ไม่มีนะ ถ้านึกออกจะไลน์ไปบอก อ้อ กลับดี ๆ ล่ะ ฝากบอกแม่กับยายด้วยว่าวันพุธจะเข้าไปทานข้าวเย็นด้วย”
“พี่จะกินอะไรบ้างจะได้บอกแม่กับยายถูก”
“อะไรก็ได้ กินได้หมดแหละ บ้านนายทำอะไรก็อร่อย”
“ครับ ผมไปก่อนนะ”
“ไท”
“ครับ”
“ขอบใจอีกครั้งนะเรื่องวาดรูป”
“ถ้าพี่พูดว่าขอบใจอีกครั้งผมจะไม่วาดแล้วนะครับ”
“โอเค ๆ ไม่พูดแล้ว
บ้านหลังเล็กของไทธัช
ไทธัชกลับมาถึงบ้านก็ดูประหลาดใจเพราะนอกจากมารดาและยายแล้วตอนนี้ในบ้านยังมีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ด้วย
“แม่ครับ ยายครับผมกลับมาแล้ว” ไทธัชยกมือไหว้ก่อนจะเดินไปกอดยายมาลัยอย่างประจบ
“คิดถึงยายจัง ไปตั้งหลายวัน ยายคิดถึงผมไหม”
“ไม่คิดถึงจะรีบกลับมาหาเหรอ แล้วเป็นยังไงบ้างกวนพี่เขาหรือเปล่า”
“ไม่กวนครับ ผมเป็นเด็กดียายก็รู้” เขาตอบแล้วก็ต้องหลบตา เพราะมันมากกว่าคำว่ากวนเสียอีก
“ไท มารู้จักกับพี่ฝ้ายก่อนสิลูก พี่เขาเป็นลูกสาวของลุงไม้ ช่วงนี้พี่เขามาหางานที่กรุงเทพก็เลยมาขออยู่บ้านเราสักพัก”
“สวัสดีครับพี่ฝ้าย” ไทธัชจำไม่ได้ว่าตัวเองรู้จักกับพี่ฝ้ายคนนี้มาก่อนหรือเปล่า เพราะทุกครั้งที่มารดาและยายกลับบ้านที่นครสวรรค์เขาก็ไม่ได้ไปด้วย
“สวัสดีจ้ะ ไม่คิดเลยว่าจะมีน้องชายโตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้ว”
“เป็นหนุ่มที่ไหนล่ะ ยายว่าดูยังไงก็ยังเป็นเด็กชายตัวน้อยของยายอยู่ดี”
“ยายครับผมสูง 170 แล้วนะครับ”
“ยายก็ยังเห็นว่าเป็นเด็กอยู่ดีนั่นแหละ”
“แม่กับยายจะเริ่มขายกับข้าววันไหนครับ”
“คงวันมะรืนจะ แม่อยากพักต่ออีกหน่อย แล้วก็จะจัดห้องใหม่ด้วย”
“ให้พี่ฝ้ายนอนห้องผมก็ได้ครับเดี๋ยวผมไปนอนกับยายเอง”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่นอนตรงไหนก็ได้ นอนห้องรับแขกยังได้เลย”
“ได้ยังไงล่ะ เราน่ะ เป็นสาวเป็นนางจะมานอนกลางบ้านแบบนี้ได้ยังไง ขืนพ่อเรารู้เข้าน้าได้โดนบ่นหูชาแน่ ๆ เลยว่าดูแลลูกสาวเขาไม่ดี”
“นั่นสิ เดี๋ยวยายไปนอนกับแม่เจ้าไทดีกว่า เพราะยังไงก็ต้องตื่นมาทำกับข้าวพร้อมกัน”
“ยายไม่นอนกับผมเหรอครับ”
“ไม่ดีกว่า ยายไม่อยากกวนเวลาเราอ่านหนังสือ”
“แต่ถ้าจะเปลี่ยนใจก็ได้นะครับยาย เดี๋ยวผมเตรียมไว้เผื่อยายอยากมานอนด้วย”
“เตรียมให้สาว ๆ เถอะ”
“ผมมีสาวที่ไหนล่ะครับยาย”
“ยายก็พูดเผื่อไว้ อีกหน่อยไทก็เข้ามหาลัยแล้วยายว่าหน้าตาหล่อ ๆ อย่างไทคงหาแฟนได้ไม่ยาก”
“ผมไม่อยากมีแฟนครับ อยู่กับแม่กับยายดีกว่า”
“ให้มันจริงเถอะ แม่กลัวว่าอีกหน่อยจะมีแฟนแล้วลืมแม่”
“ใครจะลืมแม่กับยายได้ล่ะครับ” ไทธัชกอดประจบอีกครั้งก่อนจะขอตัวเอาของไปเก็บ แล้วออกทานอาหารเย็นกันอย่างพร้อมหน้า
“กับข้าวฝีมือยายกับน้ามัทอร่อยมากเลยนะคะ” มนัสสรเอ่ยชม
“อร่อยก็ต้องกินเยอะ ๆ เรานะตัวเล็กนิดเดียวเอง”
“ยายค่ะ อย่างฝ้ายนี่ไม่เล็กนะคะ เพื่อนของฝ้ายบางคนตัวผอมกว่าฝ้ายอีกค่ะ”
“น้าไม่เข้าใจวัยรุ่นเลยจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะรักษาหุ่นไปทำไม”
“ฝ้ายเป็นผู้หญิงนี่คะ ถ้าอ้วนขึ้นมาก็กลัวจะหาแฟนไม่ได้ อีกอย่างงานที่ฝ้ายสมัครไว้ก็เป็นงานประชาสัมพันธ์ขืนปล่อยให้อ้วนฝ้ายคงไม่ได้งานกันพอดี”
“สมัครไว้หลายที่ไหมล่ะลูก” ยายมาลัยถาม
“ก็หลายที่อยู่ค่ะยาย ระหว่างนี้ก็รอเรียกสัมภาษณ์ค่ะ”
“หลานสาวของยายทั้งสวย ทั้งกิริยามารยาทงาม ยายว่ายังไงก็ต้องได้งานเร็ว ๆ นี้แน่”
“ฝ้ายก็หวังอย่างนั้นค่ะ ไม่อยากมารบกวนน้ามัทนาน ๆ”
“ไม่รบกวนเลย เราก็คนกันเองทั้งนั้น”
“ฝ้ายขอบคุณนะคะที่ให้มาอยู่ด้วย”
“จะขอบคงขอบคุณอะไรกันล่ะ ยายว่าเรากินข้าวกันต่อเถอะ เดี๋ยวไทจะได้ท่องหนังสือต่อ” ยายมาลัยหันมายิ้มให้กับหลานชายที่เอาแต่นั่งเงียบฟังผู้หญิงทั้งสามคนคุยกันโดยไม่ได้พูดอะไรเลย
การมีคนอื่นมาอยู่ร่วมบ้านด้วยทำให้ไทธัชรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขากับพี่ฝ้ายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่รู้ว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่