ตอนที่ : 04 ผู้ชายน่ากลัว
วันต่อมา
ฉันตื่นตามเวลาช่วยแม่บ้านหยิบจับทำงานต่างๆ จนกระทั่งได้เวลาที่ตัวเองจะต้องออกไปเรียน เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางเนื่องจากฉันไม่มีรถ เลยต้องออกไปเช้าหน่อย ส่วนเขาฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจะออกไปทำงานตอนไหน แต่เราไม่เจอกันบ่อยๆ จะดีกว่า ฉันไม่กล้าสู้หน้าเขา ก็เล่นทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ขนาดนั้นใครมันจะกล้ามองหน้าเขาล่ะ
ปี๊บๆ !!
“หือ..??” ฉันหันกลับไปมองด้านหลังขณะที่กำลังเดิน ก่อนที่รถเก๋งคันหรูจะจอดเทียบฟุตบาทและคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับจะลองกระจกลงมา
“ขึ้นรถมาสิครับ”
“เอ่อ...มะ ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันเดินสะดวกกว่าเผื่อเวลามาแล้ว ไปถึงก็ได้เข้าเรียนพอดี ถ้าไปถึงเร็วก็ไม่รู้จะทำอะไร” ฉันตอบ ที่บอกมันก็ส่วนนึงแหละ แต่จริงๆ ฉันก็ไม่อยากอยู่ใกล้กับเขาด้วยแหละ คนอะไรแค่ทำหน้านิ่งๆ ก็ดูน่ากลัวแล้ว
“ขึ้นมาเถอะครับ ถนนเส้นนี้มันเปลี่ยว”
“เอ่อ...จริงๆ มันก็ไม่น่ากลัวหรอกค่ะ”
“แถวนี้ไม่ใช่บ้านคุณนะครับ คุณจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่เกิดอะไรขึ้น”
“…..” จะว่าไปมันก็ดูน่ากลัวจริงๆ แหละ แต่เดินไปอีกหน่อยก็จะเจอกับหน้าซอยแล้ว ถึงเวลานั้นก็คงจะมีรถวิ่งผ่านไปมาเยอะพอสมควร มันก็คงจะไม่เปลี่ยวแล้วล่ะ
“ขึ้นรถมา!” กระจกทางด้านหลังเปิดออกพร้อมกับเสียงอันทรงพลังที่น่ากลัวออกตามมาด้วย ทำเอาฉันสะดุ้งไม่เป็นท่าเลย
“….."
“จะขึ้นดีๆ หรือจะให้พวกวัยรุ่นมันมาฉุดไปข่มขืน แถวนี้มันเถื่อนนะ ถ้าไม่อยากตายแบบอนาถก็ขึ้นรถมา"
“ค่ะ ก็ได้ค่ะ”
ฉันเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถ เสียงเขาน่ากลัวขนาดนี้ถ้าฉันขัดขืนมีหวังเจอเขาจับหักคอแน่ๆ ล่ะ คนอะไรดุจริงๆ กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน
ฉันนั่งเงียบๆ จนกระทั่งรถแล่นมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย ฉันชะโงกหน้าไปขอบคุณพี่ที่ขับรถแล้วไม่ลืมที่จะขอบคุณเขา จากนั้นก็รีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในมหาลัย เพราะฉันมาเช้าเลยต้องหาที่นั่งรอ ฉันเผื่อเวลามาเยอะเพราะคิดว่าตัวเองจะได้เดินมาจนถึงมหาวิทยาลัย
ที่มหาวิทยาลัยฉันไม่ได้มีปัญหากับใครหรอกนะ เพราะฉันไม่ได้ทำตัวเป็นจุดเด่นและก็ไม่ได้มีใครมาตามจีบฉัน และฉันก็ไม่ได้อ่อนแอให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ มันเลยไม่เป็นจุดที่ใครจะเข้ามารังแกได้
“อีญ่า! ทำไมวันนี้มาเช้านักวะ?” อีจ๋าถาม อีนี่มันเป็นคนชอบเสียงดัง นี่ถ้าแข่งกับลำโพงวัดคือชนะเลิศเลยนะ คนห่าอะไรเสียงแหลมอย่างกะนกหวีด
“มีคนมาส่งน่ะ” ฉันตอบกลับเสียงหน่ายๆ เพราะเหนื่อยกับหลายเรื่อง เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะกลัวว่ามันจะมีเรื่องวุ่นวายตามมา ที่ฉันหายออกไปจากบ้านแบบนี้ และฉันก็ยังเรียนอยู่ที่เดิมแม่มาตามหาได้ง่ายเลยล่ะ
“คนที่มึงบอกว่าต้องไปทำงานกับเขาเหรอ?” อีมีนถาม
“อืม ที่เล่าให้ฟังแหละ”
“เขาดีไหมวะ?” อีจ๋าถาม ก่อนที่พวกมันสองคนจะนั่งพร้อมกันและจ้องหน้าฉันรอคำตอบ
“ก็ดี แต่กูว่าต้องหางานพาร์ทไทม์ตอนกลางคืนทำ เอาเงินตรงนี้ไปจ่ายหนี้นอกระบบที่แม่กูเอาชื่อกูไปกู้ยืมไว้"
“แม่มึงก็นี่นะ เอาชื่อลูกไปกู้เงินคิดอะไรอยู่วะ” อีจ๋ามันบ่น ฉันไม่ได้โกรธหรอกเพราะเข้าใจมัน เพราะก่อนหน้านั้นที่ฉันหาเงินไม่ทันก็ต้องยืมเงินพวกมันมาใช้หนี้ก่อน ไม่งั้นก็โดนขู่ฆ่า
“กูไม่รู้จะทำยังไงเลยว่ะอีจ๋า อีมีน เหนื่อยฉิบหาย มีแต่เรื่องไม่หยุดไม่หย่อน พอกูไม่ยอมจ่ายหนี้ให้ก็ทวงค่าน้ำนมบ้าบออะไรนั่น”
“กอดๆ นะอีญ่า มึงทำดีที่สุดแล้ว ถ้ามึงจะหนีไปอยู่ที่อื่นมึงก็ไม่ผิดเลย พวกเขาไม่ได้มองว่ามึงเป็นคนในครอบครัวเลยนะ"
“อืม...กูก็อยากจะทำแบบนั้นนะ แต่กูก็หนีไม่พ้นสักที มึงก็รู้ว่าแม่กูเป็นแบบไหน”
“ถ้ามึงจะทำงาน กูก็จะทำเป็นเพื่อนเอง” อีมีนพูด
“เออดิ กูทำด้วย” อีจ๋าพูดอีกคน
“ขอบใจพวกมึงมากนะ แต่พวกมึงก็ไม่ได้เดือดร้อนนี่ จะไปทำงานทำไมกูทำคนเดียวก็ได้หรอก” บ้านพวกมันก็ไม่ถึงกับรวยหรอก แต่พ่อแม่ของพวกมันไม่ได้เป็นเหมือนพ่อแม่ของฉัน พวกมันเลยไม่ต้องทำงานพาร์ทไทม์หรือพยายามหาเงินงกๆ เหมือนกับฉันตอนนี้
“ไม่ได้หรอก งานกลางคืนมันอันตรายนะอีญ่า มึงตัวคนเดียวจะไปทำงานแบบนั้นตามลำพังได้ยังไง เดี๋ยวพวกกูไปทำเป็นเพื่อนเอง ถ้ามีเรื่องเดี๋ยวพวกกูช่วย” อีจ๋ามันตบไหล่ของฉันหนักๆ ตามประสาเพื่อนสนิท นี่ถ้าฉันไม่มีเพื่อนป่านนี้ฉันจะโดดเดี่ยวขนาดไหนกันนะ
ตกบ่าย...
ฉันนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับไปที่บ้านของผู้ชายคนนั้น จนป่านนี้แล้วฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาชื่ออะไร รู้จักแต่ชื่อลูกน้องของเขาเท่านั้นแหละ
พอกลับมาถึงฉันก็ช่วยแม่บ้านทำงานนั่นนี่นิดหน่อยและกลับไปทำงานของตัวเองต่อ เพราะมีรายงานของมหาวิทยาลัยที่อาจรย์สั่งมาอีกเยอะที่ต้องทำ
พอได้ยินเสียงรถดังเข้ามาฉันก็รีบวางปากกาลงและเดินออกไปเพราะฉันจะต้องคุยกับคนที่ชื่อโรวันเรื่องค่าแรง ฉันไม่ได้ทำงานเต็มที่เต็มวันเหมือนกับคนอื่นๆ จะให้ฉันรับเงินเต็มวันก็คงไม่ได้ แบบนั้นฉันโดนแม่บ้านคนอื่นๆ เขม่นใส่แน่
“พี่คะ ฉันขอคุยด้วยหน่อยค่ะ”
“ครับ”
ฉันเดินออกไปคุยกับพี่คนที่ชื่อโรวันข้างนอก มันก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรหรอก แต่เจ้านายของเขามองอยู่ฉันเลยรู้สึกประหม่าไม่น้อยเลย
“มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?"
“เรื่องค่าแรงของฉันน่ะค่ะ แม่บ้านคนนั้นให้ฉันมาคุยกับพี่”
“อ๋อ มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันให้พี่คิดตามความเหมาะสมเลยค่ะ แต่ฉันอยากจะขอพี่ฉันต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ช่วงตอนกลางคืน"
“งานพาร์ทไทม์"
“ค่ะ ฉันต้องหาเงินใช้หนี้ของตัวเอง ฉันก็ต้องบอกตามตรงว่าเงินที่ได้รับมันไม่พอ ค่าเทอมฉันก็ต้องจ่ายเอง แต่ฉันสัญญานะคะฉันจะไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อนเลย” จะบอกว่าไม่ใช่หนี้ของตัวเองมันก็ได้ เพราะฉันไม่ได้เป็นคนกู้มาและฉันก็ไม่ได้ใช้เงินตรงนี้เลย แต่มันก็เป็นชื่อของฉันนี่นาสุดท้ายฉันก็ต้องตามชดใช้ เพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง
“ทำงานตอนกลางคืน แล้วเราจะเดินทางไปยังไงล่ะ ดึกๆ มันเปลี่ยวจะตายนะ"
“ฉันไม่มีทางเลือกค่ะ ทำหรือไม่ทำมันก็มีค่าเท่ากัน ถ้าฉันไม่ทำงานก็ไม่มีเงินจ่ายหนี้ แล้วถ้าไม่มีจ่ายมันก็อันตรายไม่ต่างกัน ฉันเลยต้องทำเพื่อรักษาชีวิตตัวเองน่ะค่ะ”
“งั้นก็ตามใจครับ อะนี่กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ เอาไปไว้ขับไปเรียนแล้วก็ทำงาน"
“ขะ ขอบคุณมากๆ นะพี่ ฉันจะดูแลรักษาเท่าชีวิตเลย ขอบคุณจริงๆ”