2.
บรรยากาศยามค่ำคืนที่มืดมิดและเงียบสงบ แต่คงไม่ใช่สำหรับใจกลางเมืองหลวง เพราะยิ่งมืดก็ยิ่งสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ของร้านรวงร้านค้าที่เปิดแข่งกันในยามค่ำคืน เพื่อต้อนรับเหล่าบรรดาผีเสื้อราตรี ที่โบยบินออกมาหาความสุข เพื่อผ่อนคลายความเครียด จากการทำงาตลอดทั้งวัน
เฉกเช่นกับผู้คนที่อยู่ในร้านแห่งนี้ ชายหญิงมากหน้าหลายตาพากันส่ายสะโพกโยกย้าย ไปตามเสียงดนตรีในจังหวะเร้าใจ อย่างสนุกสนาน
ต่างจากชั้นบนของร้าน ภายในห้องทำงาน โซฟาหนังตัวใหญ่ที่ใช้รับแขกที่มาเยี่ยมเยียน ตอนนี้ถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นสนามรัก ของชายหญิงคู่หนึ่งไปเสียแล้ว
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ กำลังโยกย้ายสะโพกอย่างพลิ้วไหว อยู่บนเรือนร่างของชายหนุ่มรูปหล่อ ร่างกายกำยำอุดมไปด้วยมัดกล้าม ทรวงอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลง ตามจังหวะท่วงท่าทำนองรักที่เร่าร้อน แขนเรียวโอบลำคอแกร่งไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว เสียงครวญครางดังขึ้นด้วยความสุขสมดังขึ้นไปทั่วห้อง
“อื้อ พีขา” กัดริมฝีปากร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านรัญจวนใจ ในขณะที่สะโพกยังคงส่ายร่อนสู่กับแก่นกายใหญ่ไม่ยอมหยุด
“”อืมม” ชายหนุ่มใต้ร่าง ครางต่ำในลำคอออกมาด้วยความเสียวไม่ต่างกัน
มือหนาฟ้อนเฟ้นอกอวบ ที่เด้งขึ้นลงตรงหน้าอย่างเมามัน ก่อนจะส่งริมฝีปากร้อนเข้าไปครอบครองดูดดื่ม อย่างหิวกระหาย ราวกับเด็กทารกหิวกระหายน้ำนมจากอกแม่
หญิงสาวแอ่นอกเข้าหาริมฝีปากหนาอย่างลืมตัว ลิ้นร้ายละเลงใส่ยอดอกรัวๆ ส่วนอีกข้างก็ถูกมือหนาบีบเคล้นบี้ยอดอกที่แข็งเป็นไต ยิ่งทำให้ร่างบางเสียวสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย เปล่งเสียงครางออกมาอย่างไม่ขาดสาย เห็นสวรรค์รออยู่ข้างหน้าอีกไม่ไกล
“พี พีขา จะ จะเสร็จแล้วค่ะ” ไม่มีคำพูดใด เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูปนั้น
แต่ชายหนุ่มกลับเป็นฝ่ายขึ้นมาคุมเกมรักในช่วงสุดท้าย ขาเรียวถูกยกแยกออกกว้าง เพื่อรองรับแก่นกายที่สอดประสานเข้าไปลึกสุดทาง
เอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าออกด้วยความเร็วแรงดั่งพายุร้าย ที่พัดเข้าฝั่งอย่างบ้าคลั่ง เร่งความเร็วกระแทกใส่ไม่หยุดยั้ง
อกอวบกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะกระแทก ร่างบางบิดกายเร่าๆ ร้องคราง ด้วยความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มมอบให้ มันมากมายเสียจนเธอทนต่อไปอีกไม่ไหว
“อ้ะ อา” กรีดร้องออกมาอย่างสุขสม เกร็งกระตุกถี่ๆปล่อยสายน้ำในตัว ไหลทะลักออกมาอย่างสุดกลั้นได้อีกต่อไป เมื่อชายหนุ่มพาเธอไปถึงสวรรค์ได้สำเร็จ
รับรู้ถึงแรงตอดรัดถี่กระชั้นจากภายใน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาได้พาหญิงสาวไปถึงสรรค์ แก่นกายใหญ่โถมเข้าใส่อยางไม่หยุดยั้ง ยิ่งถูกตอดรัดยิ่งฮึกเหิมโหมแรงที่มีทั้งหมดเข้าใส่สุดกำลัง เพื่อพาตัวเองไปถึงสวรรค์ที่มารออยู่ข้างหน้า อัดแทกเข้าใส่หนักๆเน้นๆ สองสามครั้ง
ทำเอาคนที่เพิ่งเสร็จสมไปได้ไม่นาน ต้องร้องครางขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแรงกระแทกที่เข้ามาลึกสุดทางนั้น มันสร้างความเสียวรัญจวนให้เธอ จนเกือบจะเสร็จไปอีกครั้ง ยิ่งเห็นคนใต้ร่างร้องครางยิ่งได้ใจอัดกระแทกเข้าใส่ทั้งรัวและแรง
“อะๆ พี พีจะเสร็จอีกแล้ว อ้า” ในที่สุดร่างบางก็เสร็จสมไปติดๆเป็นรอบที่สอง ภายในเวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ
ภายในก็ยิ่งตอดรัดแน่นขึ้น จนชายหนุ่มทนต่อความเสียวที่จู่มโจมเข้าใส่ไม่ไหวอีกต่อไปกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าใส่หนักๆสองสามครั้ง
“อ้า ซี้ด” เงยหน้าสูดปากครางออกเมื่อความเสียวถูกปลดปล่อย ลมหายใจหอบกระเส่าก่อนจะทิ้งตัวลงนอนทาบทับร่างบางไว้ ด้วยความเหนื่อยล้า มือบางยกขึ้นมาโอบกอดชายหนุ่มพร้อมกับกระซิบข้างหู
“พีเก่งที่สุดเลยค่ะ” เมื่อพูดจบก็ได้หอมฟอดใหญ่จากชายหนุ่มเป็นของรางวัล
“คุณก็เก่ง แต่อย่าเรียกชื่อผมอีก หลังจากเสร็จเรื่องบนเตียง” พูดจบก็ยันตัวลุกขึ้นนั่ง ถอดอุปกรณ์ป้องกันทิ้งลงในถังขยะ ควานหาเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งกระจายอยู่ตามพื้นขึ้นมาสวมใส่ ทำเอาหญิงสาวถึงกับหน้าเสีย รีบลุกขึ้นจัดแต่งเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง
“ริต้า ขอโทษค่ะ” พูดเสียงเศร้าสำนึกผิด รู้ดีว่าตัวเองทำผิด ที่เผลอเรียกชื่อชายหนุ่มหลังจากที่เสร็จเรื่องบนเตรียง
เพราะพีรพัฒน์มีข้อห้ามอย่างชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ว่าห้ามเรียกชื่อเล่นของชายหนุ่ม จะเรียกได้ก็ต่อเมื่อเวลามีอะไรกันเท่านั้น
“อะ เห็นบ่นว่าอยากได้กระเป๋าใบใหม่” หญิงสาวมองจำนวนตัวเลขที่อยู่บนเช็ค ที่ยื่นมาตรงหน้าตาลุกวาว ก่อนจะโผลเข้ากอดและหอมแก้มสากเป็นการขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะ น่ารักที่สุดเลย”
“ก็คุณทำตัวน่ารักเป็นเด็กดีไม่ดื้อกับผม” พีรพัฒน์พูดยิ้มๆ
ในบรรดาผู้หญิงที่ชายหนุ่มควง และพาขึ้นเตียง ริต้าคือผู้หญิงที่พูดง่าย ไม่งี่เง้า มาเอาแต่ใจ และเข้าใจเขามากที่สุด
ไม่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของออกนอกหน้า เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ มันก็ไม่แปลกที่ริต้าจะได้ค่าตอบแทน ที่ทำตัวน่ารักและเป็นคนเดียวที่พีรพัฒน์ควงนานที่สุด
แต่สำหรับริต้า เธอไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่คู่นอน คู่ควง เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านมาของพีรพัฒน์ สิ่งที่เธอต้องการคือตัวและหัวใจของพีรพัฒน์ต่างหาก แม้เธอจะรู้ดีว่าความหวังของเธอนั้นคือศูนย์ก็ตาม
“ไปส่งริต้าข้างล่างหน่อยสิคะ นะคะน๊า” พูดเสียงอ้อนซบหน้าลงกับอกกว้าง พีรพัฒน์ได้แต่ยิ้มน้อยๆ กับความน่ารักขี้อ้อนของคนในอ้อมกอด
“ได้สิครับ ป่ะ” ว่าแล้วทั้งคู่ก็เดินเคียงคู่กันลงมาด้านล่างของร้าน
วงแขนแกร่วโอบเอวคอดไว้ตลอดทางที่เดินมา จนสาวๆที่อยู่ในร้านต่างพากันอิจฉาริต้าที่ได้เป็นคู่ควงข้างกายของพีรพัฒน์หนุ่มคาสโนว่ารูปหล่อ ฐานะร่ำรวยเป็นที่หมายปองของสาวๆ
“ดูสิคะ สาวๆมองตามคุณตาหวานเยิ้มเชียวค่ะ แต่มองริต้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ นี่ถ้าริต้าถูกดัก ตบคุณต้องช่วยริต้านะคะ” ริต้าพูดออกมายิ้มๆ
“ไม่มีใครกล้าทำอะไรคุณหรอกน่า...ผมส่งคุณแค่นี้นะ เอารถมาใช่ไหม”
“ค่ะ ริต้าไปนะคะ บายค่ะ” โบกมือลาก่อนจะเดินออกจากร้านไป พีรพัฒน์ก็ยืนดูจนริต้าขึ้นรถและขับออกไปจากร้าน ชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้ามาในร้าน
“รับเครื่องดื่มชูกำลังแก้เหนื่อยมั้ยครับคุณพี เอ๋! หรือว่าไม่ต้องดีเพราะหน้าตาสดชื่นมาเชียว” นั่งลงที่เก้าอี้หน้าเคาเตอร์บาร์ปุ๊บ ก็ถูกลูกน้องตัวดีพูดแซวขึ้นมาปั๊บ
“ปากดีนะแกเนี่ย...ขอแก้กระหายสักแก้วดิ”
“จัดไปครับ” พลบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อประจำร้านขานรับ ด้วยรอยยิ้มละลายใจสาวๆ
“วันนี้คนเยอะเหมือนกันนี่ ขนาดยังไม่ดึกนะเนี่ย” พูดพร้อมกับกวาดสายตาสำรวจรอบๆร้านที่เริ่มมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันแน่นขนัดทั้งๆที่เพิ่งจะหัวค่ำ
“ศุกร์สิ้นเดือนก็เป็นแบบนี้ล่ะครับคุณพี ลูกค้าเยอะแถมสาวๆนะเพียบมีแต่แจ๋มๆทั้งนั้นเลย...นู่นครับพูดถึงก็มาพอดี” พลพูดพร้อมกับพยักเพยิดให้เจ้านายหนุ่มดู ผู้หญิงที่มาในชุดเปรี้ยวเข็ดฟัน ที่กำลังเดินเข้ามาหาเจ้านาย พีรพัฒน์ก็ไม่ได้พูดอะไรยกเหล้าที่อยู่ตรงหน้าขึ้นดื่ม
“ตรงนี้มีคนนั่งมั้ยคะ...ถ้าไม่มีขอนั่งด้วยคนได้มั้ย” เอ่ยถามกระซิบชิดใบหู เบียดอกอวบที่โผล่พ้นเสื้อเกาะอกขึ้นมาเข้าหาชายหนุ่มอย่างยั่วยวน
พีรพัฒน์ยิ้มกริ่ม มองหญิงสาวตรงหน้านัยน์ตาพราวระยิบ มันคือสัญชาติญาณของเสือเมื่อเจอเหยื่ออันโอชะ
“เชิญครับ” พูดพร้อมกับวาดวงแขนแกร่งโอบเอวคอด เป็นสัญญาณว่าเสือพร้อมออกล่าเยื่ออันโอชะแล้วนั่นเอง
ส่วนอีกมุมหนึ่งภายในร้าน กลุ่มคนทั้งชายและหญิงกำลังนั่งดื่มสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเนื่องจากวันนี้เจ้าของร้านสาวสวยใจดี พามาเลี้ยงหลักจากที่ทำงานหนักกันมาตลอดทั้งเดือน
“เต็มที่เลยนะทุกคนไม่ต้องเกรงใจ” ภัสสรเอ่ยบอกลูกน้อง ที่กำลังนั่งดื่มกันอย่างสนุกสนาน
“ครับ/ค่ะ” ประสานเสียงขานรับออกมาพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“มาพี่ลูกชน” เต้พูดพร้อมกับยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้า
ภัสสรก็ไม่รอช้า หยิบแก้วของตัวเองขึ้นชนทันที และตามมาด้วยลูกน้องที่มาร่วมวงชนด้วย เป็นการเริ่มเปิดงานสังสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ
แก้วน้ำสีสวยที่มีฤทธิ์เดชของแอลกอฮอลล์อยู่ในนั้น ถูกยกเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่า ทำให้สติสัมปชัญญะที่มีเต็มร้อย ก็เริ่มถดถอยเลือนหายลงไปทีละนิดๆ
“เฮ้ยๆ พี่ๆ พอแล้ว นี่เหล้านะไม่ใช่น้ำเปล่า กินขนาดนี้เดี๋ยวก็เมาหัวทิ่มกันพอดี” เต้รีบพูดห้ามปราม พร้อมกับแย่งแก้วเหล้าในมือภัสสรออกห่าง
เพราะดูจากท่าทางแล้ว เจ้านายสาวของเขาเริ่มจะมึนเมา จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เดิมเข้าไปเนื่องจากใบหน้าของหญิงสาวนั้น เริ่มแดงไปจนถึงลำคอ
“ไอ้เต้เอามา ฉันจะกิน” พูดเสียงห้วนเมื่อถูกขัดใจ มองลูกน้องที่พ่วงตำแหน่งน้องชายตัวดีตาขวาง ยื้อแย่งแก้วเหล้าที่อยู่ในมือนั้นคืนมา แต่ยิ่งพยายามยื้อแย่งคืนเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกอีกคนยกหนีสูงขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ลูกอย่าดื้อดิ พี่กินเยอะแล้วเดี๋ยวก้เมากันพอดี ผมขี้เกียจแบกพี่กลับคอนโด...ไม่รู้ล่ะถ้าพี่ไม่ยอมหยุด ผมจะโทรไปบอกพี่นูว่าพี่กินเหล้าเมาปลิ้นไม่เป็นท่า จนกลับคอนโดเองไม่ได้” ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่ยอมฟัง ขอร้องกันดีๆไม่ยอมเชื่อ ทางเดียวที่จะสามารถปราบพยศ และความดื้อรั้นของเจ้านายสาวได้ คืออ้างชื่อพี่ชายนั่นก็คือพี่ธนู
ได้ยินชื่อพี่ชายที่ขึ้นชื่อว่าโหด ดุ ห่วงและขี้หวง ภัสสรถึงกับหยุดชะงักลงทันที และแน่นอนถ้าธนูรู้ว่าเธอดื่มจนเมากลับห้องไม่ได้อย่างที่เต้บอก เช้ามาเธอคงได้เห็นธนูมายืนตีหน้ายักษ์ รออยู่ที่หน้าห้องเป็นแน่
“ไอ้เต้! ไอ้น้องทรยศ แกมันก็เก่งแต่เอาพี่นูมาอ้าง ฮึ่ย! ไม่กินแล้วก็ได้” สะบัดหน้าหนีเมินมองไปทางอื่นอย่างอารมณ์เสีย คนกำลังได้ที่ดันมีมารมาขัดขวางความสุขซะนี่
“โอ๋ๆๆ อย่างอนดิ ก็ถ้าผมไม่เอาพี่นูมาอ้างพี่ลูกก็ไม่ยอมหยุดอะดิ”
“ลูกศรโว้ย เรียกให้ครบด้วยไอ้นี่ ฉันไม่อยากคุยกับแกแล้วไปเข้าห้องน้ำดีกว่า”
“ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ยพี่วันนี้คนเยอะ” เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านที่ตอนนี้คนเริ่มจะเยอะกว่าตอนแรกที่เข้ามา
“ไม่เป็นไรแกอยู่ดื่มกับพวกน้องๆเหอะ แค่นี้เองสบายมาก” เต้พยักหน้ารับด้วยความจำใจ มองตามหลังภัสสรที่เดินฝ่าฝูงชนไปด้วยความเป็นห่วงจนลับสายตา
เมื่อจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ภัสสรก็เดินจะกลับไปที่โต๊ะ แต่จังหวะนั้นเองก็มีขี้เมาที่ไหนก็ไม่รู้ เดินมาชนจนหญิงสาวเซถลาหน้าเกือบคะมำ ถ้าไม่ติดว่ามีวงแขนแกร่งมาโอบรัดดึงตัวเธอไว้
ภัสสรผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ไม่ต้องล้มจ้ำเบ้าก้นกระแทกพื้น หมุนตัวมาหมายจะขอบคุณคนใจดีที่ช่วยเธอไว้
“เห้ย/เห้ย!!” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย ต่างคนก็ต่างดีดตัวออกจากกันทันทีอย่างอัตโนมัติ