บทที่ 4 นมไม่ใช่ซาลาเปา
บทที่ 4 นมไม่ใช่ซาลาเปา
ดวงตาคมที่แสนเย็นชา จ้องมองดวงตาคู่สวยที่สุกสกาวเป็นประกายของมู่หลันฮวาอย่างไม่ลดละ
ยิ่งมองจิตใจของเขาก็เริ่มปั่นป่วน
มู่หลันฮวาที่ได้สติคืนกลับมา นางเองจึงขยับถอยห่างออกจากเขา ในสมองพลันครุ่นคิดขึ้นมาได้ว่าเขาเป็นผู้ใดกัน จึงมาเดินอยู่ในป่ายามดึกเช่นนี้
ดูจากการแต่งกายแล้ว ก็ดูดีมีชาติตระกูล น่าจะมาจากตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวง ที่มาเที่ยวหาความสำราญในป่า
ในป่าทึบเนี่ยนะ?
"ท่านเป็นผู้ใดกันเจ้าคะ หรือว่ามาเที่ยวหาความสำราญในป่าใหญ่แห่งนี้"
มู่หลันฮวาเอ่ยถามเขาด้วยท่าทีเขินอาย เขาช่างรูปงามเสียจริง กิริยาท่าทางก็ดูสูงส่งยิ่งนัก เป็นบุรุษในฝันที่นางเคยใฝ่หาเลย
ร่างกายก็ล่ำสันชวนซบ เหมือนกับพระเอกในหนังติดเรตที่นางชอบดูเมื่อก่อนเลย
หลี่เย่ขมวดคิ้วมุ่น เขาจ้องมองนางด้วยท่าทีสงสัย สตรีประหลาดนางนี้ เหตุใดจึงบิดกายจนแขนขาผิดรูปเช่นนั้นเล่า?
หรือว่านางเขินอายเขา?
เอ๋? ผ่านมาตั้งพันกว่าปีแล้ว เขาเองก็จำไม่ได้ว่ายามที่สตรีเขินอายเป็นเช่นไร เขาจำได้เพียงว่า ยามที่มู่เหลียนฮวาเขินอาย ใบหน้างามของนางจะแดงระเรื่อ นางก้มหน้าลงเล็กน้อย มิกล้าสบตาเขา
แต่สตรีตรงหน้ากลับจ้องเขาตาไม่กะพริบ!!!
เขาเองก็ไม่ได้มีอคติใดใดกับมนุษย์ แต่สตรีน้อยนางนี้ไม่เหมือนกัน นางดูกร้านโลกจนน่าหวาดกลัว
จับกินซะดีไหม!!!
"ท่านบุรุษรูปงาม ท่านยังไม่ตอบคำถามข้าเลย"
"ข้าไม่จำเป็นต้องตอบเจ้า ว่าแต่เจ้าเถิด เหตุใดจึงไม่กลับหมู่บ้าน มานอนทำสิ่งใดตรงนี้?"
"ข้าหลงป่าน่ะเจ้าค่ะ เริ่มหิวอีกแล้ว แต่ถ้ามีท่านอยู่ด้วย ข้าก็สบายใจยิ่งแล้วและอิ่มใจแล้วเจ้าค่ะ"
มู่หลันฮวายิ่งเอ่ยวาจาก็ยิ่งรู้สึกเขินอายไม่หยุด จะดูน่าอายเกินไปหรือไม่ถ้าหากนางจะบอกว่า นางชอบบุรุษที่เพิ่งพบกันตรงหน้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น นิสัยของนางก็เป็นเช่นนี้ หากชอบนางก็จะเปิดเผยไปเลย นางไม่ชอบรอเวลา
หลี่เย่เริ่มรำคาญนางเต็มทนแล้ว ไม่คาดคิดมาก่อนเลย ว่าคืนที่เขาได้กลายร่างเป็นคน เขาจะต้องมาเจอกับสตรีที่ยั่วยวนให้หงุดหงิดเช่นนี้
จะกลายร่างเป็นงูให้นางกลัวก็ไม่ได้ด้วย เขายังไม่มีพลังมากพอขนาดนั้น คงต้องรอให้พ้นคืนนี้ไปเสียก่อน
มู่หลันฮวายกแขนขึ้นมากอดตนเองเอาไว้ ยิ่งดึกอากาศในป่าก็ยิ่งหนาว นางสวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ ไม่กี่ชั้นเพียงเท่านั้น
หลี่เย่ที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามนางขึ้นมา
"เจ้าหนาวหรือ?"
"เจ้าค่ะ เอ่อ ท่านช่วยถอดเสื้อตัวนอกมาให้ข้าห่มได้หรือไม่เจ้าคะ"
หลี่เย่หรี่ตาลง พลางจ้องมองนางด้วยแววตาที่ครุ่นคิด แต่เมื่อเขาเห็นว่านางคงจะหนาวจริง ๆ เขาจึงยอมถอดมันส่งไปให้นาง เขาเคยเห็นตอนมู่เหลียนฮวาหนาว นางก็เป็นเช่นนี้
มู่หลันฮวารับเสื้อตัวนั้นจากเขามาห่มกายเอาไว้ นางย่นจมูกนิดหน่อย เพราะได้กลิ่นคล้ายกับกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ
หลี่เย่ยกยิ้มมุมปาก เมื่อครู่เขาเพิ่งฆ่ากระต่ายป่ามากินสด ๆ ไปสองตัว กลิ่นเลือดย่อมต้องมีติดตัวเขาอยู่บ้าง สตรีนางนี้ช่างสงสัยยิ่งนัก
"พอรุ่งเช้า เจ้าก็เดินตามทางนั้นไป เดินตรงไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเลี้ยวไปทางไหนอีก ไม่นานนักก็จะถึงหมู่บ้านของเจ้า"
"ท่านไม่กลับไปพร้อมกับข้าหรือเจ้าคะ?"
"ไม่ละ ข้าชอบที่นี่"
"ท่าน"
"โอ๊ะ!!!"
หลี่เย่เตรียมหันหลังเดินจากไป แต่มู่หลันฮวากลับยื่นมือไปจับแขนของเขาเอาไว้ ทำให้หลี่เย่เสียการทรงตัว เขาหันกลับมาหานาง ก่อนจะล้มลงไปนอนบนพื้น โดยที่ร่างของนางนอนทับอยู่บนร่างของเขา
หลี่เย่จ้องมู่หลันฮวาเขม็ง สตรีต่ำช้าผู้นี้คิดล่วงเกินเขาใช่หรือไม่?
เขายังบริสุทธิ์และถือพรหมจรรย์ แม้จะมีมู่เหลียนฮวาเป็นคนรัก แต่เขาก็ไม่เคยแตะต้องนางเลยแม้แต่ปลายเล็บ
"ออกไป!!!"
"ข้าลุกไม่ไหวเจ้าค่ะ อุ๊ย!!! เสื้อข้าหลุด!!!"
"นี่เจ้า!!! นั่นอะไรน่ะ?"
มู่หลันฮวาไม่ระวังจึงทำให้เสื้อผ้าของนางหลุดลุ่ย อกเต้าอวบโตโผล่ออกมาสู่สายตาของหลี่เย่ เขาจ้องมองไปที่เนินอกอวบสวยขนาดใหญ่ที่ล้นทะลักออกมาของนางด้วยสายตาไม่กะพริบ เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย มันคือสิ่งใดกัน?
มันกลม ๆ ขาว ๆ มีเม็ดสีชมพูตรงกลาง เหมือนซาลาเปาที่เจ้างูเด็กนั่นชอบกิน?
กินได้หรือ?
มู่หลันฮวารีบลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าใหม่ให้เรียบร้อยทันที ใบหน้างามแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย หลี่เย่ขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามนางขึ้นมา
"เมื่อครู่ข้าได้ยินเจ้าบอกว่าเจ้าหิว แต่เจ้าก็มีซาลาเปาติดมาด้วย เหตุใดเจ้าจึงไม่กินมันเล่า?"
มู่หลันฮวาหันไปมองเขาด้วยท่าทีสงสัย
"ไหนเจ้าคะซาลาเปา?"
"ก็ตรงนี้อย่างไรเล่า"
หลี่เย่ยื่นมือมาจิ้มที่หน้าอกของนางด้วยแววตาที่ไร้เดียงสา มู่หลันฮวารู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
บัดซบ!!! เขาเป็นคนป่าหรืออย่างไรกันถึงไม่รู้ว่านี่เป็นหน้าอกของสตรี!!!
"เอ่อ...นี่มันกินไม่ได้เจ้าค่ะ"
"เพราะเหตุใดเล่า?"
"นี่คือ เอ่อ...หน้าอกของสตรี เป็นของสงวนของสตรี"
โว้ยยยย!!! ทำไมชีวิตต้องมาอธิบายเรื่องนมของตนเองให้คนที่ชอบฟังด้วยวะเนี่ย!!!
หลี่เย่พยายามครุ่นคิด ไม่นานนักเขาก็เบิกตากว้างใบหน้าแดงซ่านด้วยความหงุดหงิดใจ
เขาเคยเห็นมู่เหลียนฮวาลงไปแช่ในสระน้ำ แล้วนางก็มีซาลาเปาเหมือนกับสตรีนางนี้
บัดซบ!!! เขาเข้าใจแล้ว
"เอ่อ ข้าไปละ"
"ท่านอยู่เป็นเพื่อนข้าก่อนสิเจ้าคะ"
"ไม่"
อยู่ไม่ได้แล้วข้ารู้สึกว่าตบะเริ่มไม่ปกติ!!!
"ท่าน!!!"
"ข้าอยู่แถว ๆ นี้ละ หากเจ้ามีอันใดก็ตะโกนออกมาดัง ๆ ข้าไม่ชอบอยู่ใกล้เจ้า!!!"
มู่หลันฮวายกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของเขาที่หายลับไปในความมืด นางกระชับเสื้อที่เขามอบให้คลุมกายอย่างมิดชิดก่อนจะผล็อยหลับไป
รุ่งเช้าอากาศสดใสไม่น้อย เสียงนกร้องดังระงมไปทั่วป่าใหญ่ มู่หลันฮวายกมือขึ้นขยี้ตาตนเองก่อนจะมองไปโดยรอบ
ฟ่อฟ่อ
"เจ้างูขาวน้อย"
มู่หลันฮวาหันไปพบกับงูขาวตัวน้อยที่เลื้อยอยู่ตรงหน้านาง มันผงกหัวเล็กน้อย ก่อนจะเลื้อยไปข้างหน้า
"เจ้าจะพาข้าออกจากป่าหรือ?"
งูขาวน้อยซึ่งก็คือหลี่เย่ไม่หันมามองนางอีก เขาเลื้อยนำหน้านางไปอย่างช้า ๆ มู่หลันฮวาเองก็เดินตามเขามาจนถึงปากทางออกจากป่า
"ขอบใจเจ้ามากนะงูน้อย ไว้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่"
มู่หลันฮวาส่งยิ้มตาหยีให้แก่เขา ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หลี่เย่รู้สึกว่ารอยยิ้มของนางราวกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า ช่างจับใจเขายิ่งนัก
มู่หลันฮวากลับมาถึงหมู่บ้าน นางก็รับรู้ได้ถึงสายตาของคนในหมู่บ้านที่มองนางแปลก ๆ แต่นางไม่อยากใส่ใจ จึงรีบเดินกลับจวนทันที
เมื่อไปถึงจวน นางก็พบกับเถ้าแก่และผู้ดูแลหมู่บ้านที่นั่งเจรจาพูดคุยอยู่กับเหยาเว่ยและบิดาของนาง เหยาเว่ยมีใบหน้ายิ้มแย้ม แต่บิดาของนางกลับมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก
ยังไม่ทันที่มู่หลันฮวาจะได้เอ่ยสิ่งใด ผู้ดูแลหมู่บ้านก็สั่งให้คนเข้ามาจับตัวนางเอาไว้
"จะทำอะไรข้า!!!"
"พานางไปจัดการอาบน้ำแต่งตัว แล้วส่งนางขึ้นไปบนเขา เป็นเครื่องสังเวยให้เทพเจ้าปีศาจงู"