บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ท่านรองแม่ทัพกระบี่ยาว

บทที่ 3 ท่านรองแม่ทัพกระบี่ยาว

รถม้าเคลื่อนตัวมาจอดที่ตลาดอย่างรวดเร็ว หลี่ซูฮวาและเหมยเหยาก้าวลงมาจากรถม้า ก่อนจะมองไปโดยรอบ เมื่อได้ยินว่านางจะออกมาตลาด แม่นมจางจึงนำเงินให้นางติดตัวมาด้วยสองตำลึง เป็นเงินที่นางแอบเก็บเอาไว้ และเป็นรายได้จากการนำงานเย็บปักไปขายให้เถ้าแก่ที่ตลาด

หลี่ซูฮวาเดินชมบรรยากาศไปโดยรอบ เดิมทีนางเองก็มิได้ตั้งใจมาจับจ่ายหรือซื้อสิ่งใดอยู่แล้ว

ตลาดที่นี่ค่อนข้างกว้างใหญ่ นางเดินมาครึ่งค่อนวันจนรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมา จึงแวะดื่มน้ำชาที่ร้านน้ำชาริมทางร้านหนึ่ง เป็นร้านรวงขนาดเล็ก แต่บรรยากาศในร้านค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี

นางกวาดสายตามองไปที่ฝั่งตรงข้าม ก็พบกับโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ ที่มีผู้คนเดินเข้าออกกันหนาตา

"เหมยเหยา"

"เจ้าคะคุณหนู?"

"นั่นโรงเตี๊ยมหรือ?"

"เจ้าค่ะ เอ่อ เดิมทีเป็นสินเดิมของนายหญิง ท่านแม่ของคุณหนู พอนายหญิงสิ้นไป ฮูหยินใหญ่ก็เข้ามาดูแลกิจการต่อเจ้าค่ะ"

หลี่ซูฮวาพยักหน้าเล็กน้อย โอ้วว!!! ฮูหยินใหญ่นี่ร้ายกาจไม่เบาทีเดียว ถึงขนาดฉกฉวยโอกาสเอาสินเดิมของท่านแม่ไปได้มากมายถึงเพียงนี้ นางจะประมาทมิได้เสียแล้ว

นั่งรออีกครู่หนึ่ง น้ำชาก็ถูกนำมาส่งให้ที่โต๊ะของนาง หลี่ซูฮวายกขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ นางรู้สึกชุ่มคอเป็นอย่างยิ่ง ในใจก็นึกครุ่นคิดว่านางจะทำเช่นไรดี ถึงจะหาตั๋วเงินได้เยอะ ๆ ขืนชักช้ามัวแต่คิดแย่งสินเดิมนางกลัวจะมิทันการ

คนเราหากมีทรัพย์ย่อมบันดาลได้ทุกอย่าง!

"แม่นาง ชาถ้วยนี้ให้ข้าจ่ายให้เจ้าได้หรือไม่?"

เสียงนุ่มทุ้มแต่ทรงอำนาจของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมา ทำให้หลี่ซูฮวาต้องเงยหน้าไปมอง นางจึงได้พบกับบุรุษรูปงาม ร่างกายกำยำ ดวงตาเย็นชาและใบหน้าเรียบเฉยของเขา ช่างดูไม่น่าสนทนาด้วยเสียเลย

จ้าวเฉินอวี้กำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยในเมืองหลวง เขาเป็นบุตรชายคนโตของท่านแม่ทัพจ้าว มีน้องชายร่วมมารดาเดียวกันอีกหนึ่งคน นามว่า จ้าวเฉียนเว่ย

เมื่อเดินตรวจตราไปโดยรอบเขากลับได้พบนาง นางผู้นั้นที่เขาเห็นเมื่อคืน

นางที่สังหารคนได้อย่างเลือดเย็น! แต่ช่างเถิด!!! ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าพวกชั่วสองคนนั้นคิดทำร้ายนางก่อน

หลี่ซูฮวาวางถ้วยชาลง ในใจนึกหงุดหงิดเสียจริง นางมาหาลู่ทางทำกินแท้ ๆ แต่กลับพบเจอพวกหื่นกามเช่นนี้ เสียอารมณ์จริงเชียว!!!

"ไม่รบกวนท่านเจ้าค่ะ ข้าจ่ายเองได้"

"ไม่รบกวนหรอก ข้ายินดีจ่ายให้เจ้า"

"ข้าบอกว่าไม่เป็นไรอย่างไรเล่าเจ้าคะ ท่านหูหนวกหรือ?"

หลี่ซูฮวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ใบหน้าสวยงอง้ำอย่างเห็นได้ชัด แต่นางจะแสดงออกเกินไปไม่ได้ นางเป็นคุณหนูผู้อ่อนแอในสายตาคนอื่น ๆ

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงนั่งลงอีกครา แสร้งทำเป็นมือไม้สั่น ยามที่ยกถ้วยชาขึ้นดื่มก็แทบจะไร้เรี่ยวแรง

เอาเถิด!!! ถ้าเขาเห็นว่านางอ่อนแอถึงเพียงนี้คงจะหลีกหนีไปเอง บุรุษมิชมชอบสตรีอ่อนแอมิใช่หรือ

"คุณชายผู้สูงศักดิ์ ข้าเจ็บป่วยมาหลายปีแล้วเจ้าค่ะ ท่านได้โปรดละเว้นข้าด้วยเถิด ข้ามิคู่ควรให้ท่านมาจ่ายค่าน้ำชาให้หรอกเจ้าค่ะ"

จ้าวเฉินอวี้ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก หึ!!! เขาแค่จะเลี้ยงน้ำชานาง แต่นางกลับต้องเสแสร้งถึงเพียงนี้เชียวหรือ

น่าสนใจ! น่าสนใจทั้งตัว!!!

"แค่ก แค่ก ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"

หลี่ซูฮวาไม่รอช้า นางรีบเดินออกมาจากร้านน้ำชาทันที คิดในใจว่าอย่าให้ได้เจอบุรุษเช่นนี้อีกเลย!!! นางยังไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับบุรุษใดทั้งนั้นในยามนี้

เมื่อเห็นว่านางกำลังจะหนีเขา จ้าวเฉินอวี้เองก็ไม่รอช้า รีบเดินไปขวางทางนางเอาไว้ทันที

"แม่นาง"

"คุณชาย"

"ข้าชื่อจ้าวเฉินอวี้ เรียกข้าว่าพี่เฉินอวี้ก็ได้ เจ้าชื่ออะไร?"

จ้าวเฉินอวี้จ้องมองนางอย่างต้องการคำตอบ เขาเป็นบุรุษชาติทหาร คิดสิ่งใดย่อมเอ่ยออกมาเช่นนั้น เขาชื่นชอบนางย่อมต้องแสดงออกอย่างมิปิดบัง

หลี่ซูฮวารู้สึกไม่ชอบหน้าจ้าวเฉินอวี้ขึ้นมาเสียแล้ว นี่เขาจะล่วงล้ำพื้นที่ของนางเกินไปแล้ว

"คุณชายท่านนี้ ชายหญิงมิควรชิดใกล้ ข้าขออภัยด้วยเจ้าค่ะที่มิสามารถบอกชื่อแก่ท่านได้"

"แม่นาง อย่าใจร้ายนักเลย ข้าเป็นรองแม่ทัพ เป็นองครักษ์ของฝ่าบาท ข้ามิใช่คนชั่วช้าที่ใด แม่นางโปรดวางใจ"

หลี่ซูฮวาเม้มริมฝีปากแน่น นางมิยอมบอกเขาเสียหรอก!!!

"โอ๊ะ นั่นใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่รึไม่ นี่นางออกมานอกจวนได้แล้วหรือ?"

"คนโง่งมเช่นนางรู้จักออกมาเดินตลาดกับเขาด้วยหรือ"

"มิใช่ว่านางป่วยหนักใกล้ตายหรอกหรือ?"

หลี่ซูฮวากัดฟันกรอด ชาวบ้านปากมากพวกนี้!!! มันน่านัก!!!

จ้าวเฉินอวี้ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ภายใต้ใบหน้าเฉยชาของเขามีความพอใจซ่อนอยู่

"ที่แท้ก็เป็นถึงคุณหนูใหญ่จวนตระกูลหลี่"

"ข้าขอตัวนะเจ้าคะ แค่ก แค่ก"

หลี่ซูฮวาเสแสร้งทำเป็นไอจนหน้าดำหน้าแดง จ้าวเฉินอวี้เองก็คร้านที่จะแกล้งนางแล้วเช่นกันเขาจึงปล่อยนางไปแต่โดยดี แต่ยังคงหันกลับไปมองนางอีกคราอย่างอาลัยอาวรณ์ ใบหน้างามระเรื่อ ผิวขาวราวหยกชั้นดี นวลเนียนราวหิมะ บั้นท้ายของนางก็น่าตียิ่งนัก อีกทั้งหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินสตรีใดนั่นอีก

เขาชอบนางเหลือเกิน สตรีเช่นนี้แหละเหมาะที่จะมาเป็นภรรยาของเขา

ยิ่งคิดท่อนเอ็นในร่มผ้าของเขาก็ยิ่งแข็งชูชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

ใจเย็นเฉินอวี้น้อย!!! อย่าเพิ่งแข็งตัวตอนนี้

บัดซบ!!! ไม่ยอมอ่อน เห็นทีคงต้องรีบกลับจวนอย่างเร่งด่วนเสียแล้ว

หลี่ซูฮวาเดินออกมาอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางนางแวะซื้อเกาลัดมาหนึ่งห่อ พ่อค้าร้านเกาลัดจ้องมองนางด้วยแววตาที่สงสัยใคร่รู้ จนหลี่ซูฮวาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะรับห่อเกาลัดมาถือไว้และเอ่ยถามพ่อค้าคนนั้น

"ท่านลุง มีสิ่งใดหรือเจ้าคะ มาจ้องหน้าข้าทำไมกัน?"

"แม่นาง อย่าหาว่าข้าสอดรู้เลยนะ เจ้ารู้จักกับท่านรองแม่ทัพฉายากระบี่ยาวสะท้านภพด้วยหรือ?"

"ใครกันเจ้าคะ?"

"ก็ท่านรองแม่ทัพจ้าวที่เจ้าสนทนากับเขาเมื่อครู่อย่างไรเล่า"

หลี่ซูฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ร้องอ้อในใจ

"ท่านลุงรู้จักเขาหรือเจ้าคะ แล้วเหตุใดเขาจึงได้ฉายาว่ากระบี่ยาวสะท้านภพด้วยเล่าเจ้าคะ"

พ่อค้าที่ขายเกาลัดได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะกระซิบกระซาบกับนางด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น

"ก็ของลับของเขาน่ะสิ มีเสียงเล่าลือกล่าวอ้างว่ามันทั้งยาวทั้งใหญ่เหมือนกระบี่ ยาวเสียจนต้องม้วนเก็บหลายตลบ โอ๊ะ!!! แม่นางเจ้าถุยเกาลัดใส่หน้าข้าทำไมกัน!!!"

หลี่ซูฮวากำลังเคี้ยวเกาลัดเข้าปาก เมื่อได้ยินพ่อค้าเอ่ยเช่นนั้น นางจึงพ่นเกาลัดในปากออกมาทันที

บ้าที่สุด!!! นี่พ่อค้าผู้นี้มาเล่าเรื่องบ้าอะไรให้ข้าฟังกัน!!!

แต่เมื่อครู่ข้าก็ลืมสังเกตที่เป้าของเขา?

โอ๊ย!!! หยุดเดี๋ยวนี้นะซูฮวา!!! ได้ยินคำว่าใหญ่ยาวไม่ได้เลย!!!

หลี่ซูฮวาคร้านจะฟังเรื่องบัดซบนี้แล้ว นางจึงเดินออกมาเสีย ระหว่างทาง นางได้ผ่านร้านร้านหนึ่ง มีผู้คนมุงดูกันอย่างหนาตา

"เหมยเหยา นั่นร้านใดกัน?"

"คุณหนู อย่าไปยุ่งเลยเจ้าค่ะ!!! รีบกลับจวนเถิดเจ้าค่ะ"

"ทำไมเล่า?"

"เป็นร้าน เอ่อ ร้านขายภาพอย่างว่าน่ะเจ้าค่ะ!!!"

หลี่ซูฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดวงตาทอประกายแวววาวทันที

"ไปซื้อมาให้ข้าเล่มหนึ่ง"

"คุณหนู!!!"

"ไปซื้อมาเร็ว ๆ"

เหมยเหยาไม่รู้จะทำเช่นไรแล้ว นางจำต้องไปซื้อมาให้หลี่ซูฮวาตามที่นางสั่ง

เมื่อกลับขึ้นมานั่งบนรถม้า หลี่ซูฮวาก็เปิดภาพเหล่านั้นออกมาดู ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์

ข้าหาทางทำมาหากินได้แล้ว!!!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเร่งกลับจวน ก่อนจะถึงจวนนางยังสั่งให้เหมยเหยาไปซื้อกระดาษและพู่กันมาให้นางด้วย

ทันทีที่กลับถึงจวนตระกูลหลี่ หลี่ซูฮวาก็เห็นพ่อบ้านตู้วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหานางทันที

"คุณหนูใหญ่ขอรับ!!!"

"มีสิ่งใดหรือ?"

"รีบไปที่เรือนใหญ่เถิดขอรับ!"

ตาขวาของหลี่ซูฮวากระตุกถี่ ๆ ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ แต่นางเองก็ไม่ใส่ใจ รีบเดินตรงไปที่เรือนใหญ่ทันที

เมื่อมาถึงนางก็พบกับชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ฮูหยินใหญ่ ความทรงจำบอกนางว่าชายผู้นี้คือบิดาของนาง เขามีนามว่า หลี่เหวย

หลี่เหวยจ้องมองหลี่ซูฮวาด้วยสายตาที่เย็นชา เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความผูกพันใดใดกับบุตรสาวคนนี้อยู่แล้ว ยิ่งได้ยินเฟิ่งหรวนมาแจ้งว่าเมื่อเช้านางทุบตีคนเฝ้ารถม้า เขาก็ยิ่งไม่พอใจนางมากขึ้นไปอีก

"คารวะท่านพ่อ"

"ซูฮวา!!! ข้าได้ยินว่าเจ้าทำร้ายคนเฝ้ารถม้า!!!"

หลี่ซูฮวาพยักหน้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน ใบหน้าสวยยังคงยิ้มแย้มราวกับไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย

"เจ้าค่ะ ลูกถีบมันเอง ก็มันใช้งานไม่ได้เรื่องนี่เจ้าคะ"

"ซูฮวาเจ้ากล้า..."

"กล้าเจ้าค่ะ!!! ก็บ่าวรับใช้ผู้นี้บอกกับลูกเองว่า ท่านแม่สั่งเอาไว้ ถ้าหากลูกจะไปที่ใดห้ามใช้รถม้า ให้เดินไปเองเจ้าค่ะ"

หลี่เหวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับไปมองเฟิ่งหรวนทันที นางมีสีหน้าตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง

แม้นางจะมิใช่บุตรที่เขารักใคร่ แต่อย่างไรเสียนางก็เป็นบุตร จะให้นางเที่ยวเดินไปนั่นมานี่อย่างไร้เกียรติเช่นนี้ หากท่านพ่อทราบเรื่องเข้า หัวเขาไม่แตกหรอกหรือ!!!

"ท่านพี่ ข้าไม่รู้เรื่องนะเจ้าคะ บ่าวชั่วนี่มันกล่าวหาข้า"

หลี่เหวยรักใคร่เฟิ่งหรวนเป็นอย่างมาก ย่อมจะต้องเชื่อคำพูดของนางเป็นที่สุด เขาหันไปมองหลี่ซูฮวาอีกคราอย่างคาดโทษ

"เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล"

"เฮ้อ! เพียงแค่ท่านแม่บีบน้ำตาท่านพ่อก็เชื่อแล้วหรือเจ้าคะ โธ่ ๆๆๆ ลูกเพิ่งจะรู้วันนี้เองว่าท่านพ่อหูเบาถึงเพียงนี้ หยุดกินหญ้าบ้างเถิดนะเจ้าคะ หันมากินปลาสักนิด จะได้ใช้สมองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้"

หลี่เหวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที นี่นาง!!! นางลูกชั่วมันด่าว่าเขาเป็นวัวเป็นควายเชียวหรือ!!! ใครสั่งสอนให้นางใจกล้าเทียมฟ้าถึงเพียงนี้กันนะ

"ซูฮวา มันจะมากเกินไปแล้ว!!! เจ้าทำร้ายบ่าว วันนี้ข้าจะลงโทษเจ้า!!!"

"หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้ลูกชั่ว!!!"

"ท่านพ่อ!!!"

เสียงชราที่น่าเกรงขามดังก้องไปทั้งเรือนใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยไม้เท้าที่ลอยละลิ่วมากลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าไปฟาดกลางศีรษะของหลี่เหวยอย่างเต็มแรง

หลี่ซูฮวาหันไปมอง ก่อนจะพบกับชายชราผู้หนึ่ง แม้ใบหน้าจะดูเหี่ยวย่นตามอายุขัย แต่ยังคงความสง่างามและน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง

ท่านปู่ของนาง!!! ท่านปู่ หลี่กวงเว่ย

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ไม่มีท่านปู่อยู่เลย เพราะนางมิกล้าไปขอความช่วยเหลือจากท่านปู่ เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่ซูฮวาจึงวิ่งเข้าไปกอดขาท่านปู่ทันที พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา

"ฮือออ ท่านปู่ ท่านพ่อท่านแม่จะตีหลานเจ้าค่ะ!!!"

หลี่กวงเว่ยก้มลงไปมองหลี่ซูฮวาคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

พ่อบ้านตู้บอกว่านางถีบคนใช้ในจวนที่รังแกนาง แล้วเหตุใดนางจึงร้องไห้เช่นนี้เล่า!

นางเสแสร้งหรือ?

โอ้ววว เจ้าเล่ห์ยิ่งนักหลานปู่!!!

"ท่านพ่อ!!!"

หลี่เหวยยกมือขึ้นกุมศีรษะที่มีเลือดไหลออกมาอย่างน่าเวทนา หลี่กวงเว่ยจ้องมองบุตรชายด้วยสายตาเย็นชา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เอาไหน ติดสุราและเชื่อภรรยาจนหูเบา มันช่างน่าทุบตีให้ตายยิ่งนัก

"ได้ยินว่าพวกเจ้าสองคนคิดจะตีหลานข้าหรือ?"

ฮูหยินใหญ่มีท่าทีลนลานขึ้นมาทันที ใคร ๆ ก็รู้ว่าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นี้มีนิสัยลำเอียงมากเพียงใด

"ท่านพ่อ ซูฮวาทุบตีบ่าวไพร่นะขอรับ!!!"

"ช่างหัวมันสิ!!! แค่บ่าวรับใช้ไม่เจียมตนผู้หนึ่ง นี่เจ้าเข้าข้างพวกมันมากกว่าบุตรสาวของตนหรือ!!! บัดซบ!!! ฟาดให้หัวแตกอีกคราดีหรือไม่!!!"

"ท่านพ่อลูกกลัวแล้ว!!!"

"ไสหัวออกไปให้หมด!!!"

หลี่เหวยรีบวิ่งออกไปทันที ฮูหยินใหญ่ที่เห็นเช่นนั้นก็ลอบสบถด่าทอหลี่ซูฮวาในใจ ก่อนจะรีบตามสามีของตนกลับไปที่เรือนนอนอย่างไม่รอช้า

หลี่กวงเว่ยจ้องมองหลี่ซูฮวาที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเวทนา เดิมทีเขาเองก็ผิดคำสัญญากับเพื่อนรัก มิอาจดูแลบุตรสาวพวกเขาให้ดี ทำให้นางตกตายไป ยามนี้เหลือหลี่ซูฮวาหลานรัก เขาย่อมต้องปกป้องนางอย่างสุดชีวิต

"ซูฮวา"

"ฮือออ ท่านปู่!!!"

"ซูฮวา"

"ฮือออ"

"หยุดบีบน้ำตาเถิด ท่านพ่อเจ้ากับนังจิ้งจอกนั่นออกไปแล้ว"

หลี่ซูฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าไปมองท่านปู่ของตน

โอ๊ะ!!! มิเสียแรงที่เป็นถึงท่านราชครู รู้เสียด้วยว่าข้าเสแสร้งแกล้งทำ!!!

เมื่อรู้ว่าถูกจับได้แล้ว หลี่ซูฮวาจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะเช็ดน้ำตาออกจนหมด

"ได้ยินว่าเจ้าถีบบ่าวในจวนหรือ?"

"เจ้าค่ะ ก็พวกมันกล้ามาเถียงข้าก่อนนี่เจ้าคะ"

หลี่กวงเว่ยจ้องมองหลี่ซูฮวาด้วยแววตาที่ล้ำลึก คล้ายกับว่าหลานสาวผู้นี้มีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป

แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีเขาย่อมต้องดีใจ แต่ไหนแต่ไรมา หลี่ซูฮวาเชื่อฟังนังจิ้งจอกเฟิ่งหรวนไปเสียทุกอย่าง สินเดิมก็ให้นังผู้หญิงต่ำทรามผู้นั้นจัดการเก็บเอาไว้จนหมด อีกทั้งยังไม่ยอมเข้ามาหาเขาเลย เขาจึงหาทางช่วยนางในหลาย ๆ เรื่องไม่ได้

"เมื่อใดกันที่เจ้าหยุดเชื่อฟังแม่เลี้ยงของเจ้า"

"ท่านปู่ ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะว่านางอำมหิตเพียงใด ต่อไปนี้ข้าจะเชื่อฟังท่านปู่ทุกอย่างเลยเจ้าค่ะ"

หลี่ซูฮวายิ้มตาหยี เอาเถิด นางต้องหาที่พึ่ง และท่านปู่ผู้นี้ก็คือที่พึ่งชั้นดีของนาง

เมื่อสนทนากันพอหอมปากหอมคอแล้ว หลี่ซูฮวาจึงขอตัวแยกกลับไปที่เรือนปีกซ้าย เมื่อไปถึงนางก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วมุ่น

น้ำข้าวกับผัดผักกาดอีกแล้ว!!!

หลี่ซูฮวารีบก้าวเดินไปทางโรงครัวทันที ก่อนจะพบกับแม่ครัววัยกลางคนนางหนึ่ง ที่กำลังเตรียมเก็บสำรับอาหารเข้าที่ นางหันมาปรายตามองหลี่ซูฮวาอย่างดูแคลนคราหนึ่ง

แม้แต่แม่ครัวยังไม่เคารพเจ้าเลยหลี่ซูฮวา!!!

"ข้าอยากกินน้ำแกงเนื้อ ทำมาให้ข้าถ้วยหนึ่ง"

แม่ครัวทำเป็นไม่สนใจนาง ราวกับว่าไม่เห็นนางอยู่ในสายตา

"นี่เจ้าได้ยินหรือไม่!!!"

"ได้ยินเจ้าค่ะ แต่ยามนี้โรงครัวปิดแล้ว นี่เป็นเวลาพักของบ่าวเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้นหรือ ข้าเป็นนายเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ยอมทำให้ข้า หมายความว่าเช่นไร?"

"ฮูหยินใหญ่สั่งเอาไว้เจ้าค่ะ หากท่านไม่พอใจก็ อ๊าส์!!!"

"ก็ถีบเจ้าอย่างไรเล่า!!!"

พลั่ก!!!

หลี่ซูฮวายกเท้าขึ้นถีบแม่ครัวนางนั้นจนนางกระเด็นลอยไปติดเสาไม้และกระอักเลือดออกมาคำโต ก่อนจะเดินเข้าไปดูสำรับเหล่านั้นในครัว นางส่งเสียงเฮอะในลำคอ นี่น่ะหรือหมดแล้ว ทั้งเนื้อ ทั้งผักสด มากมายเต็มไปหมด แต่กลับไม่ยอมทำให้นางกิน

"บ่าวจะไปฟ้องฮูหยินใหญ่!!!"

"เจ้ากล้าหรือ?"

"อ๊าส์!!!"

หลี่ซูฮวาหยิบหม้อใบใหญ่ฟาดไปที่กลางศีรษะของแม่ครัวจนนางมึนงง ก่อนจะนำสำรับอาหารเหล่านั้นโยนทิ้งไปที่พื้นจนหมด

หึ!!! นางไม่ได้กินดี ใครก็อย่าหวังจะได้กินเช่นกัน!?

พ่อบ้านตู้ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งไปหาหลี่กวงเว่ยทันที

"ท่านราชครูขอรับแย่แล้วขอรับ!!!"

"มีสิ่งใดอีกหรือ?"

"คุณหนูใหญ่พังโรงครัวขอรับ เพราะแม่ครัวไม่ยอมทำอาหารให้ขอรับ"

หลี่กวงเว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

"อ้อ ช่างเถิดไม่ต้องไปใส่ใจ ให้นางพังไปเถิด ข้าร่ำรวยล้นฟ้า ค่อยซ่อมแซมโรงครัวใหม่ก็ยังไม่สาย"

พ่อบ้านตู้ "..."

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel