บทที่ 2 กระชากมาดึงกลับ
บทที่ 2 กระชากมาดึงกลับ
สามวันต่อมา
เมื่อตามหาสวีหลานฮวาไม่พบ ท่านแม่ทัพสวีจึงจำต้องส่งสวีเหลียนฮวาเข้าพิธีอภิเษกในครั้งนี้ไปก่อน เพื่อแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไป หากหาตัวสวีหลานฮวาเจอเมื่อใด ค่อยหาทางสลับตัวกับสวีเหลียนฮวาอีกคราก็ยังไม่สาย
สวีเหลียนฮวารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก มือของนางสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียวจนผู้เป็นบิดาถึงกับกังวลใจ
"สวีเหลียนฮวา เจ้าอดทนหน่อยเถิด พ่อจะตามหาสวีหลานฮวาให้พบโดยเร็ว"
"ท่านพ่อ ลูกกลัวเจ้าค่ะ!"
"โง่นัก!!! อย่าทำให้ฝ่าบาททรงจับได้เล่า!!!"
"เจ้าค่ะ"
สวีเหลียนฮวาเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ นางหันไปมองสวีฮูหยินผู้เป็นมารดาอีกคราด้วยแววตาที่หวาดหวั่น ก่อนจะหันหลังกลับมา มุ่งหน้าเดินตรงไปที่หน้าประตูจวน ซึ่งมีเกี้ยวจากวังหลวงมารอรับอยู่ก่อนแล้ว
ตลอดการเดินทางเข้าสู่วังหลวง จิตใจของสวีเหลียนฮวารู้สึกหนักอึ้งราวกับมีหินมากมายมาทับตรงหน้าอก นางหวาดกลัว กลัวว่าเขาจะจับได้ กลัวภัยอันตรายที่จะตามมา และเป็นห่วงสวีหลานฮวา มิรู้เลยว่านางจะเป็นเช่นไรในยามนี้!!!
นางเรียนรู้ข้อปฏิบัติและธรรมเนียมต่าง ๆ ในวังหลวงอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้จะจำได้ไม่หมดแต่นางก็ตั้งใจเรียนรู้เป็นอย่างมาก
อวิ๋นซีเฉินแม้จะอยากอภิเษกนางให้เร็วที่สุด แต่เขาก็ต้องยอมทำตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาช้านานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลายวันต่อมาพิธีอภิเษกสมรสก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ อวิ๋นซีเฉินรอคอยการมาถึงของฮองเฮายอดรักอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเขาได้พบกับนางก็ยื่นมือหนาใหญ่ไปกอบกุมมือเรียวยาวของนางเอาไว้ ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นไปด้วยดี จนกระทั่งถึงเวลาส่งตัวเข้าห้องหอ
ตำหนักเฟิ่งหวง ถูกตั้งอยู่เบื้องหลังของตำหนักมังกรสวรรค์ มิห่างกันเท่าใดนัก ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทรงรักใคร่ฮองเฮาเป็นอย่างมาก จึงสั่งให้คนสร้างตำหนักเฟิ่งหวงให้อยู่ใกล้ ๆ กับตำหนักมังกรสวรรค์
สวีเหลียนฮวาจ้องมองไปโดยรอบด้วยท่าทีที่หวาดหวั่น ยามนี้นางกำลังนั่งอยู่บนเตียง สองมือเรียวสวยจับกันเอาไว้แน่น นางกลัวเหลือเกิน!!!
"ฝ่าบาทเสด็จ!!!"
เสียงของขันทีที่ด้านนอกทำให้สวีเหลียนฮวาสะดุ้งจนตัวโยน นางรีบยืนขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าอวิ๋นซีเฉินเดินเข้ามา
"หลานฮวา เจ้าชอบตำหนักนี้หรือไม่?"
"เอ่อ ชอบ...เพคะ"
สวีเหลียนฮวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก อวิ๋นซีเฉินเองมิได้สนใจอันใดมากนัก เขาหันไปพยักหน้าให้ราชเลขาคราหนึ่ง ไม่นานนักราชเลขาก็นำพิณ หมากรุก เข้ามาในตำหนักเฟิ่งหวงทันที สวีเหลียนฮวาที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
นางเล่นพิณไม่เป็น หมากรุกนางก็ไม่รู้เรื่อง จะทำเช่นไรดีเล่า!!!
"ฮองเฮาที่รัก ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเชี่ยวชาญทั้งการดีดพิณและเล่นหมากรุก ค่ำคืนนี้ช่างยาวนานยิ่งนัก เจ้าช่วยบรรเลงพิณให้ข้าฟังสักเพลงดีหรือไม่?"
สวีเหลียนฮวาใจเต้นโครมคราม มือไม้สั่นจนทำสิ่งใดไม่ถูก แต่นางก็ยังคงฝืนใจเดินไปที่หน้าพิณตัวนั้น ก่อนจะบรรเลงเพลงไปอย่างไร้ท่วงทำนอง เสียงพิณที่สวีเหลียนฮวาดีดนั้นฟังดูแล้วเหมือนมิใช่ทำนองเพลงเลยเสียด้วยซ้ำ
อวิ๋นซีเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น เขาจำได้ว่าเทศกาลซีซีคืนนั้นนางบรรเลงเพลงดอกเหมยบานได้อย่างไพเราะ แต่เหตุใดคืนนี้จึงเป็นเช่นนี้เล่า!
"พอเถิด เรามาเดินหมากรุกกันดีหรือไม่? เจ้าอาจจะตื่นเต้นไปบ้าง"
"เพคะ"
สวีเหลียนฮวาพยักหน้าโดยไม่สบตากับเขาเลยแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเขาก่อนจะเริ่มเดินหมากรุกไปทีละตัวทีละตัว
อวิ๋นซีเฉินจ้องมองมือเรียวสวยของนางด้วยแววตาเย็นเยียบ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ!!!
"หลานฮวา"
ไม่มีเสียงตอบรับจากฮองเฮายอดรัก มีเพียงความเหม่อลอยจากสตรีตรงหน้า!!!
"เหลียนฮวา!!!"
"เพคะ!!!"
สวีเหลียนฮวาที่สะดุ้งตกใจเพราะถูกเขาตะคอก จึงทำให้นางลืมตัวเผลอตอบรับเสียงเรียกของเขาทันที!!!
"หลานฮวาอยู่ไหน?"
"ฝะ ฝ่าบาท!!! ตรัสสิ่งใดเพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจ!!!"
"หลานฮวาอยู่ไหน!!!"
โครม!!!
อวิ๋นซีเฉินยกโต๊ะเดินหมากรุกโยนทุ่มลงไปที่พื้นทันที สวีเหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนตัวสั่น ทำสิ่งใดมิถูก!!!
อวิ๋นซีเฉินจ้องมองใบหน้าซีดเซียวของสวีเหลียนฮวาด้วยความเกลียดชัง เขาเดินเข้าไปใกล้นาง ก่อนจะยื่นมือเข้าไปบีบคางของนางอย่างแรง จนคนตัวเล็กตรงหน้าใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
"เจ้าไม่ใช่หลานฮวา! แล้วเจ้ามาแต่งงานแทนนางทำไมกัน!!! นางอยู่ไหน!!!"
"หม่อมฉันไม่รู้เพคะ!!! ฮือออ น้องสาวของหม่อมฉันหนีไป ฮืออ!!!"
เมื่อรู้ว่าคงไม่สามารถปิดบังเขาได้แล้ว นางจึงจำต้องยอมสารภาพความจริงแก่เขา เผื่อว่าเขาจะเมตตานางบ้าง
"เจ้าก็เลยแต่งกับข้าแทนนาง ต่ำช้า!!! เจ้าคิดแย่งสามีน้องสาว!!! เจ้ากล้าหลอกลวงข้าหรือ!!!"
"ฮือออ ฝ่าบาท หม่อมฉันกลัวแล้วเพคะ!!!"
อวิ๋นซีเฉินรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ตระกูลสวีกล้าทำกับเขาถึงเพียงนี้เชียวหรือ!!! สวีหลานฮวา เจ้ากล้าทำกับข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ!!!
ยิ่งได้มองสตรีตรงหน้าที่มีใบหน้าเหมือนกับสวีหลานฮวาที่เขาหลงรัก ความโกรธก็ยิ่งปะทุขึ้นมาในใจ อวิ๋นซีเฉินกระชากร่างของสวีเหลียนฮวาขึ้นมา ก่อนจะกดศีรษะของนางลงไปในอ่างน้ำอย่างอำมหิต สวีเหลียนฮวาพยายามต่อสู้ดิ้นรนตะเกียกตะกายแต่ก็ไร้ผล
"ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ!!! เจ้าจะต้องชดใช้แทนน้องสาวของเจ้า ตระกูลสวีจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเจ้า!!!"
"อื้ออ อั๊ก!!!"
เขามิเคยเจ็บแค้นใจเท่าวันนี้มาก่อนเลย เขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับถูกสตรีที่เขาชื่นชอบมาเหยียบย่ำจิตใจของเขาถึงเพียงนี้
สวีเหลียนฮวาพยายามตะเกียกตะกายขัดขืนเพื่อเอาตัวรอด แต่แรงของนางมีเพียงน้อยนิด เมื่อหมดหนทางต่อสู้ นางจึงยอมพ่ายแพ้แต่โดยดี ไหน ๆ เขาก็คิดจะฆ่านางให้ตายคามืออยู่แล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นสวีเหลียนฮวาจึงตัดสินใจกลั้นใจตายทั้งที่ศีรษะยังจมอยู่ในอ่างน้ำนั้นอย่างไร้ซึ่งความหวัง
"อาเฉิน!!! หยุดเดี๋ยวนี้!!!"
"เสด็จพ่อ!!! ตระกูลสวีบังอาจนัก พวกมันกล้าสลับตัวเจ้าสาวของลูก!!!"
อวิ๋นหลัวขมวดคิ้วมุ่น เขาเพิ่งทราบเรื่องจากท่านแม่ทัพสวีเมื่อครู่นี้ แม่ทัพสวีรู้สึกผิดจึงมาสารภาพความผิดกับเขาด้วยตนเอง เขาเองรู้นิสัยของอวิ๋นซีเฉินเป็นอย่างดี จึงคิดจะมาห้ามปราม แต่ทว่า...
"อาเฉิน!!! สวีเหลียนฮวานาง!!!"
ร่างของสวีเหลียนฮวาค่อย ๆ ร่วงหล่นลงไปนอนกองอยู่บนพื้น ใบหน้าของนางซีดเผือดจนน่าหวาดกลัว
"ดูท่าคงจะตายแล้ว ตาย ๆ ไปเสียก็ดี!!!"
"แค่ก ๆ โอ๊ย!!! อะไรเนี่ย!!!"
แต่ทว่ายังไม่ทันที่อวิ๋นซีเฉินจะสั่งให้คนมาลากศพนางไปทิ้ง สวีเหลียนฮวาที่นอนอยู่บนพื้นก็ลืมตาขึ้นมาเสียก่อน
ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปโดยรอบด้วยความมึนงง พลางไอค่อกแค่กออกมาเสียงดัง
เรากำลังเดินกลับบ้านอยู่เลย!!! ทำไมตอนนี้มาโผล่อยู่ตรงนี้ได้ล่ะเนี่ย!!!
หญิงสาวจ้องมองไปโดยรอบก่อนจะหันไปสบสายตากับอวิ๋นซีเฉินที่จ้องมองมาด้วยสายตาอำมหิต
ใครอีกล่ะเนี่ย? หาความหล่อไม่มีเลย!!!
แท้จริงแล้วนางคือสวีเหยาหญิงสาวจากชาติภพปัจจุบัน ผู้ที่มีความสามารถเป็นเลิศ นางมีอายุยี่สิบปี เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่ง สวีเหยาเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย นางเล่นกีฬาได้แทบจะทุกชนิด พ่อของนางเป็นถึงนายตำรวจฝีมือดี นางอาศัยอยู่กับพ่อเพียงแค่สองคนเพราะแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่นางอายุสิบขวบ นางจึงซึมซับและเรียนรู้การป้องกันตัวและทักษะความว่องไวจากผู้เป็นพ่อมาได้แทบจะทุกอย่าง
สวีเหยาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา นางจำได้ว่าถูกรถชนจนร่างกระเด็นลอยร่วงตกแม่น้ำ จากนั้นก็มาโผล่ที่นี่
นางก้มมองดูตนเองที่ยามนี้สวมเสื้อผ้าสวยงามราวกับสตรีโบราณในอดีต เมื่อหันกลับไปมองที่กระจกซึ่งวางอยู่ข้างเตียงนอน นางก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง
นี่ฉันอยู่ที่ไหน?
นี่ฉันตายแล้วเหรอ?
สวีเหยาครุ่นคิดไปมาเสียจนปวดหัวมึนงงไปหมด นางตายแล้วจริง ๆ!!! ดูสิ!!! สิ่งต่าง ๆ รอบตัวนางมันไม่เหมือนกับตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่
อนาคตกำลังจะไปได้ดี นางกำลังจะสอบเป็นตำรวจหญิงตามรอยของพ่อ แต่ทว่าเหตุใดจึงต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ด้วยเล่า!!!
ความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมถาโถมเข้ามาเสียจนนางรู้สึกปวดหัวไปหมด ทุกภาพความทรงจำปรากฏขึ้นเป็นฉาก ๆ ราวกับภาพวาด
ที่แท้ร่างนี้ก็สลับตัวกับน้องสาวมาแต่งงาน จนมาเจอกับฮ่องเต้ป่าเถื่อนนี่!!! เอาเถิด! ในเมื่อมาอยู่ในร่างของสาวน้อยนางนี้แล้ว คงต้องหาทางปรับตัวให้ได้เสียก่อน!!! ดีกว่าตายแล้วไม่ได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตเช่นนี้อีก!!!
"ยังไม่ตายอีกหรือ!!! ตายยากตายเย็นเสียจริง!!!"
น้ำเสียงเย็นเยียบของอวิ๋นซีเฉินเอ่ยถามนางอย่างดูแคลน สวีเหลียนฮวาลอบเบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อนโดยที่ไม่มองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย
"ตายแล้วจะมายืนอยู่ตรงนี้หรือเพคะ ถามโง่ ๆ!!!"
"เหลียนฮวา!!! สตรีบัดซบ!!! เจ้ากล้าต่อว่าข้าหรือ!!! จับนางไปขังที่ตำหนักเย็นเสีย อย่าให้เห็นเดือนเห็นตะวัน!!!"
สวีเหลียนฮวาถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย เพิ่งมีโอกาสได้รอดชีวิต ก็มาเจอคนประเภทนี้เสียแล้ว!!!
"อาเฉิน!!! หยุดนะ!!! เจ้าห้ามขังนางเป็นอันขาด!!!"
"เสด็จพ่อ!!!"
"นางเป็นฮองเฮา เป็นลูกสะใภ้ของข้า!!! หากเจ้ากล้าทำนางอีก ก็อย่ามาเรียกข้าว่าพ่อ!!!"
"เสด็จพ่อ!!!"
อวิ๋นหลัวอดีตฮ่องเต้เอ่ยต่อว่าผู้เป็นพระโอรสก่อนจะเสด็จกลับตำหนักไป อวิ๋นซีเฉินหันไปมองสวีเหลียนฮวาตาขวาง นางเองก็ไม่ใส่ใจเขาแม้แต่น้อย ยามนี้นางรู้สึกหนาวขึ้นมาเสียแล้ว เส้นผมของนางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจนมันไหลราดรดเสื้อผ้าของนางจนเปียกโชกไปหมด
"อย่าคิดว่าเสด็จพ่อให้ท้ายเจ้าแล้วข้าจะทำอันใดเจ้าไม่ได้!!!"
สวีเหลียนฮวาทำราวกับอวิ๋นซีเฉินไม่มีตัวตน นางไม่ได้ใส่ใจเขาเลยแม้แต่น้อย
"เหลียนฮวา!!!"
เงียบยังคงไร้เสียงตอบรับ!!!
"เหลียนฮวา!!!"
"โอ๊ย!!! กระชากแขนหม่อมฉันทำไมเพคะ!!!"
"หันมา!!!"
อวิ๋นซีเฉินยื่นมือไปกระชากแขนทั้งสองของนางและออกแรงบีบมันอย่างแรงจนสวีเหลียนฮวาเซถลาเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด นางรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว จึงจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะยื่นมือเรียวสวยล้วงเข้าไปในอาภรณ์ช่วงล่างของเขาทันที แล้วจับแท่งเอ็นร้อนที่ยังไม่แข็งดีของเขาเอาไว้ แล้วออกแรงดึงมันอย่างแรง!!!
"โอ๊ะ!!! เหลียนฮวา!!!"
"หึ!!! พระองค์ทรงไม่ปล่อยแขนหม่อมฉัน หม่อมฉันจะดึงให้ท่อนเอ็นหลุดคามือเลยเพคะ!!!"
"โอ๊ย!!! ซี้ดดดด!!!"
สวีเหลียนฮวาจับท่อนเอ็นร้อนของอวิ๋นซีเฉินดึงและหมุนบิดไปมาอย่างสาแก่ใจ รู้สึกเหมือนแท่งแก่นกายในมือของนางขยายใหญ่คับพองมากยิ่งขึ้น จนนางตื่นตระหนก เคยเห็นแต่ในหนังติดเรต นางไม่เคยจับจริง ๆ เลยสักครั้ง!!! นี่เป็นครั้งแรก!!! คุณพ่อเคยสอนว่าจุดอ่อนของบุรุษอยู่ที่หว่างขา นางเข้าใจถูกใช่หรือไม่?
โอ๊ะ!!! มันขยายใหญ่ขึ้นมาอีกแล้ว!!!
"ซี้ดดด!!! ปล่อยข้า!!!"
"ปล่อยแขนหม่อมฉันก่อนสิเพคะ!!!"
"ไม่!!!"
"ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันก็จะดึงอยู่เช่นนี้ละเพคะ!!!"
มารดามันเถอะ!!! สตรีต่ำช้า!!! โอ๊ย!!! เหตุใดจึงเสียวเช่นนี้เล่า!!!
อวิ๋นซีเฉินทนมิไหวเสียแล้ว เขาจึงยอมปล่อยมือออกจากแขนของนางก่อน สวีเหลียนฮวาเองก็รีบชักมือกลับ ก่อนจะวิ่งตรงไปที่อ่างล้างหน้าและรีบล้างมือทันที
น่ารังเกียจที่สุด!!!
"อย่าคิดว่าได้จับของข้าแล้วข้าจะให้อภัยเจ้า!!! ไม่มีวัน"
"แล้วแต่เลยเพคะ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ก็เสด็จกลับไปเถอะเพคะ!!! อี๋!!!"
ยิ่งได้เห็นท่าทีรังเกียจของนางที่มีต่อเขา อวิ๋นซีเฉินก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขายกเท้าขึ้นถีบโต๊ะจนล้มก่อนจะเดินออกไปทันทีโดยไม่หันกลับมามองนางอีก