บทที่ 1 ฝาแฝดสกุลสวี
บทที่ 1 ฝาแฝดสกุลสวี
เมืองหลวงต้าเทียน
รัชศกซีเฉินปีที่5
ฮ่องเต้นามว่า อวิ๋นซีเฉิน
เมืองหลวงต้าเทียนแห่งนี้ คือเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแคว้นทั้งสี่ ประกอบไปด้วยแคว้นฉินตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แคว้นหาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ แคว้นเยี่ยนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และแคว้นเย่ว์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เมืองต้าเทียนโอบล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้มากมาย ให้ความเย็นสบายตลอดทั้งปี อีกทั้งยังโอบล้อมด้วยแม่น้ำฉางเจียง ซึ่งให้ความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เมืองต้าเทียนจึงอุดมไปด้วยเสบียงอาหารที่พร้อมสรรพ และนับเป็นเมืองมหาอำนาจที่สุดในสี่แคว้น
หยาดน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นสาย สลับกับสายลมที่พัดมาเป็นครั้งคราว ทำให้ต้นไม้ดอกไม้น้อยใหญ่ต่างเปียกชุ่มฉ่ำและเขียวขจีชวนมอง ราวกับหยาดน้ำทิพย์จากแดนสวรรค์ที่ส่งมาปลอบประโลมดินแดนมนุษย์
สตรีนางหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังสระน้ำที่ยามนี้ดอกเหลียนฮวาหลากสี (ดอกบัว) กำลังเบ่งบานรับหยาดฝนอย่างงดงาม มือเรียวสวยยื่นออกไปรองรับหยาดฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เศร้าหมอง
หลายวันก่อน
"พี่เหลียนฮวา ข้ายังมิอยากอภิเษกสมรสกับฝ่าบาทเลยเจ้าค่ะ"
สวีเหลียนฮวาหันไปมองสาวน้อยที่ทำน้ำเสียงออดอ้อนนางพร้อมกับซบใบหน้าลงมาที่หัวไหล่ของนางราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอขนมกินไม่มีผิด
"หลานฮวา พี่ดีใจกับเจ้าด้วย สตรีทั่วทั้งเมืองหลวงต่างอิจฉาเจ้า ฝ่าบาทเองก็ทรงชื่นชอบเจ้าเป็นอย่างมาก เทศกาลซีซีปีที่ผ่านมา เจ้าเข้าร่วมแข่งขันศิลปะหลายแขนง จนสามารถเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งต้าเทียนได้ ฝ่าบาทจึงทรงอยากรับเจ้าเข้าไปเป็นฮองเฮาในวังหลวง"
สวีหลานฮวาเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย นางเองยังมิอยากแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ยามนี้นางเพิ่งจะอายุครบสิบเจ็ดปีเต็ม นางยังอยากท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง ยังคงอยากจะใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีมากกว่าการถูกกักขังอยู่ในวังหลวงแห่งนั้น
จวนตระกูลสวีเป็นจวนที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองต้าเทียน สวีเจียงเสวี่ย ผู้เป็นบิดาของสวีเหลียนฮวาและสวีหลานฮวานั้น ดำรงตำแหน่งเป็นท่านแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเทียน ตระกูลสวีสืบทอดอำนาจทางการทหารมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังเป็นสหายรักกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนอีกด้วย
สวีเหลียนฮวาเป็นพี่สาวฝาแฝดของสวีหลานฮวา แม้จะมีใบหน้างดงามเหมือนกัน แต่ทว่านิสัยกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สวีเหลียนฮวา เป็นสตรีที่เรียบร้อย และขี้กลัว นางเองมิมีความสามารถใดใดเลย อีกทั้งยังมิเป็นที่ชื่นชอบของบิดาอีกด้วย เพราะนางอ่อนแอมิสมกับเป็นบุตรีของเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าสวีหลานฮวากลับเป็นสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง นางเก่งทั้งดีดพิณ คัดอักษร หมากรุก และร่ายรำ เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น สวีเหลียนฮวาก็ไม่เคยอิจฉาริษยาสวีหลานฮวาเลยแม้แต่น้อย นางมิคิดต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานใดใดจากใครเลยด้วยซ้ำ
สวีเหลียนฮวายื่นมือสวยไปลูบเส้นผมดำสลวยของสวีหลานฮวาด้วยแววตารักใคร่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนน่าฟัง
"หลานฮวา เจ้าน่ะโชคดีมากนะรู้หรือไม่?"
"โชคดีอย่างไรกัน ข้าน่ะยังมิเคยเห็นพระพักตร์ฝ่าบาทเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งข้ายังเคยได้ยินผู้คนเขาเล่าลือกันว่า ฮ่องเต้พระองค์นี้ทรงจิตใจอำมหิตที่สุด แค่คิดข้าก็รับไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!!!"
สวีหลานฮวาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย หลังจากจบเทศกาลซีซีเมื่อปีที่แล้ว นางก็ได้รับราชโองการจากวังหลวง ว่าฮ่องเต้จะทรงรับนางเข้าวังหลวงไปเป็นฮองเฮา แม้ว่าเขาจะดูรูปงามราวเทพสวรรค์แต่ชื่อเสียงของเขานั้นน่าหวาดกลัวเสียจนใจสั่น จะให้นางแต่งได้อย่างไรเล่า!!!
"หลานฮวา เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลย ฝ่าบาทน่ะ ทรงมีเมตตาเป็นอย่างมากนะ"
"พอเถิด!!! พี่เหลียนฮวา ข้ามีเรื่องอยากขอให้ท่านพี่ช่วยเจ้าค่ะ"
"เรื่องใดหรือ?"
"พี่เหลียนฮวา ช่วยอภิเษกกับฝ่าบาทแทนข้าได้หรือไม่เจ้าคะ!!!"
เพล้ง!!!
ถ้วยชาในมือของสวีเหลียนฮวาร่วงตกลงพื้นด้วยความตกใจ สวีหลานฮวาที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบถลึงตามองแฝดผู้พี่ทันที
"เบา ๆ สิเจ้าคะ เดี๋ยวท่านแม่ก็มาได้ยินเราสองคนพูดคุยกันจนได้!!!"
"หลานฮวา พี่..."
"ท่านพี่ เพียงแค่สลับตัวกันเท่านั้น เราสองคนเหมือนกันจนแยกไม่ออกขนาดนี้ ฝ่าบาทมิอาจจับได้หรอกเจ้าค่ะ ท่านพี่เชื่อข้าเถอะ!!!"
"หลานฮวา หากฝ่าบาททรงรู้เข้า ตระกูลสวีเรา..."
"ไม่มีทาง!!! เชื่อข้า!!!"
"เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้!!!
"ท่านพี่!!! ข้ายังมิอยากแต่งงาน นะเจ้าคะ!!! ท่านพี่ช่วยข้าด้วยนะเจ้าคะ!!!"
สวีหลานฮวาโผเข้าไปกอดสวีเหลียนฮวาผู้เป็นพี่สาวด้วยความหวาดกลัว นางมิอยากทนรองรับอารมณ์ของฮ่องเต้อำมหิตผู้นั้น นางมิอยากแต่งงานและต้องทนอยู่กับสามีเช่นนี้ไปชั่วชีวิต
สวีเหลียนฮวารู้สึกสงสารน้องสาวฝาแฝดของตนเองอย่างสุดหัวใจ รู้อยู่เต็มอกว่าหากเกิดถูกจับได้ขึ้นมา ชะตาชีวิตของนางคงไม่รอดเงื้อมมือของฮ่องเต้เป็นแน่ ไหนจะท่านพ่อกับท่านแม่อีกเล่า!!!
ตำหนักมังกรสวรรค์
อวิ๋นซีเฉินกำลังนั่งเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่มีความสุข แววตาคมดุจเหยี่ยว คิ้วโก่งได้รูปของเขาบางคราดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาชวนให้เหล่าสตรีทั้งเมืองหลวงต่างอยากถวายตัวและใจให้แก่เขา
อวิ๋นซีเฉินในวัยยี่สิบห้าปี เขาขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยี่สิบปี ตอนที่ยังเป็นองค์รัชทายาท ในตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น แต่กลับต่อสู้กับเหล่ากบฏต่างแคว้นจนได้รับชัยชนะ เขานำหัวพวกมันกลับมาถวายให้แก่เสด็จพ่อ เขาถือเป็นฮ่องเต้หนุ่มที่เก่งกาจและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
ในวังหลังของเขามีสนมนางในหลายสิบคน ประกอบไปด้วยเฟยทั้งสี่ สนมขั้นผิน สนมกุ้ยเหริน แต่จนแล้วจนรอดเขาเองก็ไม่เคยเปิดป้ายเรียกพวกนางให้มาปรนนิบัติเลยสักครา และยังไม่คิดแต่งตั้งฮองเฮาเลยสักครั้ง กระทั่งเขาได้พบกับนางในคืนนั้น
เขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน สวมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อเข้าไปเที่ยวเล่นในเทศกาลซีซี และได้เห็นสวีหลานฮวาที่มีความสามารถเก่งกล้าหาสตรีใดเทียม ใบหน้าของนางงดงามล่มเมือง หวานล้ำราวหยาดน้ำผึ้ง อีกทั้งยังได้ตำแหน่งสตรีงามแห่งต้าเทียนในครั้งนั้นอีกด้วย
นี่แหละ!!! ฮองเฮาที่เขาตามหา!
เขาตามสืบจนรู้ว่าที่แท้นางคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพตระกูลสวี ซึ่งเป็นสตรีที่เสด็จพ่อทรงหมายมั่นให้อภิเษกกับเขา เสด็จพ่อกับท่านแม่ทัพสวียังเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำสัญญาหมั้นหมายระหว่างเขากับบุตรสาวตระกูลสวีเอาไว้
และเขายังได้รู้อีกว่านางมีฝาแฝดนามว่าสวีเหลียนฮวา!
แต่สตรีนางนั้นเขารู้สึกมิถูกตาต้องใจนางเอาเสียเลย แม้ใบหน้าของนางจะเหมือนกับสวีหลานฮวา แต่นางดูอ่อนแอ อีกทั้งยังมิเชี่ยวชาญเรื่องใดใดเลยแม้แต่น้อย ดู ๆ ไปแล้วเหมือนกับสตรีโง่งมและอ่อนแออย่างไรอย่างนั้น!!!
เขาไม่มีวันรับสตรีไร้ความสง่างามเช่นนั้นเข้ามาในวังเป็นอันขาด!!!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเขียนราชโองการอภิเษกสมรสกับสวีหลานฮวาทันทีอย่างไม่รั้งรอ จะรอช้าไปทำไมเล่า!!! เขาชื่นชอบนางยิ่งนัก!!!
"ฝ่าบาท"
อวิ๋นซีเฉินหันไปมองราชเลขาคนสนิทที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีนอบน้อม
"มีสิ่งใด?"
"การจะแต่งตั้งฮองเฮาต้องทรงปฏิบัติตามประเพณี เราจะต้อง..."
"หุบปาก!!! ข้าจะแต่งนางเข้ามาเช่นไรก็เรื่องของข้า ต้องให้พวกเจ้ามาสั่งสอนด้วยหรือ!!!"
"หามิได้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!!!"
"ไสหัวไป!!! ส่งคนไปจัดเตรียมชุดให้นางที่ตระกูลสวี!!! ข้าจะแต่งกับนางในอีกสามวันข้างหน้า!!!"
"พ่ะย่ะค่ะ!!!"
ราชเลขาพยักหน้ารับก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันที
อวิ๋นหลัว อดีตฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้แต่มองบุตรชายของตนด้วยแววตาเอือมระอา อวิ๋นซีเฉินเป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวของเขา เขามีฮองเฮาเป็นภรรยาเพียงผู้เดียวและไม่รับนางสนมใดอีก เมื่อนางตายจากไปเขาจึงสละราชบัลลังก์และให้พระโอรสองค์นี้ขึ้นครองราชย์แทน ส่วนเขาก็ใช้ชีวิตปลูกผักทำสวนอยู่ที่ตำหนักท้ายวังอย่างมีความสุข
แต่จนแล้วจนรอดอวิ๋นซีเฉินก็ยังเอาแต่ใจตนเองไม่เปลี่ยน!!! เขาพยายามหาสตรีมาให้มากมายหวังจะดัดนิสัยพระโอรสจอมโอหังแต่กลับไร้ผล
ทว่าไม่นานมานี้อวิ๋นซีเฉินกลับมาบอกเขาว่าชื่นชอบสตรีนางหนึ่ง โชคดียิ่งนักที่เป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพสวี เขาจึงเห็นดีเห็นงามด้วย
"อาเฉิน"
"เสด็จพ่อ"
"เจ้าอย่าดุด่าเหล่าบ่าวรับใช้นักเลย"
"หากจะมาเพื่อต่อว่าข้า ก็ทรงกลับไปเถิด!'
บัดซบ!!! ลูกเวรนี่กล้าไล่ข้ารึ!!!
"ข้าเบื่อจะพูดกับเจ้าแล้ว!!!"
"ลูกก็เบื่อเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกจะรับนางเข้าวังมาเป็นฮองเฮาในอีกสามวันข้างหน้า"
"มิเร็วไปหรือ?"
"ไม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกต้องการนาง สวีหลานฮวา ช่างงดงามเพียบพร้อมยิ่งนัก ในใต้หล้านี้ไม่มีสตรีใดเทียบนางได้อีกแล้ว"
"แต่สวีเหลียนฮวาก็ใช้ได้นะ"
"หึ!!! โง่งมเช่นนั้น ลูกมิต้องการพ่ะย่ะค่ะ!!!"
"เอาเถิด แต่ใครเข้ามาก็เหมาะสมทั้งนั้น อย่างไรเสียตระกูลสวีก็มีอำนาจเหมาะสมคู่ควรกับราชวงศ์ของเรา"
"พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ"
อวิ๋นซีเฉินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาจะได้แต่งงานกับนางแล้ว เขามิเคยชื่นชอบสตรีใดเท่านางมาก่อนเลย
ด้านสวีเหลียนฮวากำลังนั่งครุ่นคิดอย่างหนัก นางมิยอมตกปากรับคำขอของสวีหลานฮวา จนน้องสาวเสียใจและหนีกลับเรือนไป
หลังจากนั้นตระกูลสวีก็เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมา เมื่อสวีหลานฮวาเกิดหายตัวไปจากจวน สวีเจียงเสวี่ยสั่งคนให้ออกตามหาบุตรสาวไปทั่วทั้งจวนแต่ก็ไม่พบ
งานแต่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อีกสามวันสวีหลานฮวาจะต้องเข้าวังหลวงแล้ว จะทำเช่นไรดีเล่า!!!