บทที่ 6 พี่จ่ายเอง
จากนั้นสองวันเจียงเป่าก็หายป่วยกลับมาวิ่งเล่นได้ตามปกติได้ เจียงจวินจึงเบาใจลง สองวันมานี้เธอแทบไม่ได้นอนเต็มตื่นเท่าใดนัก เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยรวมถึงอาหารเช้าของเจียงเป่าเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินมาทีห้องครัวอีกรอบ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงป้าเซียวบ่นขึ้นมา
“กลับบ้านอีกแล้ว ยังเอาเงินเดือนของเซียวตั๋วไปจนหมด ฉันเป็นแม่แท้ๆ กลับไม่ได้ใช้เงินเดือนลูกชายเลยสักหยวน ช่างน่าโมโหนัก”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเจียงจวินก็รู้ได้ในทันทีว่าเย่ซวงคงกลับบ้านเดิมของเธออีกแล้ว เจียงจวินไม่อยากใส่ใจเพราะไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอรีบทำอาหารเช้าให้เสร็จ ก่อนจะยกอาหารไปวางบนโต๊ะ และแบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้กินเองด้วย
เมื่อกลับเข้ามาในห้องก็พบว่าเจียงเป่าหลับไปอีกรอบหนึ่ง คงเพราะเพิ่งหายไข้จึงง่วงนอนกว่าปกติ เธอทิ้งกายนั่งลงที่หน้าประตูห้อง และมองดูน้องสาวตนด้วยความเอ็นดู
“เจียงเป่าดีขึ้นหรือยัง”
เจียงจวินเงยหน้าไปมองก่อนจะพบกับเซียวซาที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ เจียงจวินย่นจมูกเล็กน้อย กลิ่นสุราจากตัวของเขามันทำให้เธอรู้สึกมึนหัวขึ้นมาเสียดื้อๆ เธอจึงเอ่ยกับเขา
“ถอยออกไปไกลๆ หน่อย เหม็นกลิ่นเหล้ามากเลย นี่คุณอาบน้ำด้วยเหล้ามาเหรอ”
เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูด
“พี่ดูไม่หล่อเลยหรือ เพื่อนในร้านสุราบอกว่า ผู้ชายตอนเมาจะหล่อมาก”
เจียงจวินเบ้ปากอย่างเหลืออด ก่อนจะพูด
“ไปเอาความคิดประหลาดแบบนี้มาจากที่ไหนกัน เหลวไหลสิ้นดี เห้อ ฉันจะไปดูหม้อไก่ตุ๋นในครัวเสียหน่อย”
เจียงจวินทำท่าจะลุกขึ้นแต่ทว่าเซียวซากลับลุกขึ้นพร้อมกับเธอ คนทั้งสองไม่ทันระวังทำให้เจียงจวินล้มลงไปนอนหงายบนพื้น ส่วนเซียวซาก็นอนทับลงไปบนตัวของเธอพร้อมกับใช้มือประคองศีรษะของหญิงสาวเอาไว้ เจียงจวินตัวแข็งทื่อ ในขณะที่เซียวซากลับจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน
เขาไม่รอให้เธอขยับหนี กลับโน้มใบหน้าเข้าจูบเธออย่างดูดดื่ม เจียงจวินมึนงงไปหมดรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเบลอไปหมดเสียแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงของเจียงเป่า
“พี่ชายกัดปากพี่สาวทำไมคะ”
เจียงจวินรีบผลักเซียวซาออกทันที ใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ก่อนจะลนลานรีบตอบเจียงเป่า
“ไม่ใช่นะจ๊ะเป่าเปา ไม่ใช่”
“แต่หนูเห็นนี่ค่ะ พี่ชายกัดปากพี่สาว พี่ชายใจร้ายจัง ปากพี่สาวแดงหมดแล้ว”
เจียงจวินหมดคำจะกล่าว เธอถลึงตาใส่เซียวซาทันที ในขณะที่เขากลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตนเล็กน้อย
หวานจริงๆ!!!
นับแต่วันนั้นความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่มีก็เพิ่มมากขึ้น เจียงจวินไม่กล้ามองหน้าเซียวซาแบบตรงๆ อีกต่อไป เธอรู้สึกว่าใจของตัวเองเหมือนมีความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่อาจคาดเดาได้กำลังเกิดขึ้นมา
วันนี้บ้านเซียวค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย เพราะต้องเตรียมส่งสินค้าไปในเมืองเพิ่ม อีกทั้งยังมีคนงานป่วยไข้ไปอีกหลายคน การส่งของไม่อาจล่าช้าได้ เพราะดอกไม้อาจจะเหี่ยวและผักอาจจะไม่สดทำให้ราคาตกลงมาได้ ครั้งนี้ลุงป้าบ้านเซียวจึงให้เซียวซาและเจียงจวินเป็นคนนำสินค้าไปส่งในเมือง ส่วนเจียงเป่าป้าเซียวจะดูแลให้เอง
เจียงจวินพยักหน้าก่อนจะรีบไปเตรียมตัว ก่อนไปยังย้ำเจียงเป่าว่าจะต้องเป็นเด็กดีและห้ามงอแงเป็นอันขาด
ตอนนี้เจียงจวินกำลังนั่งข้างเซียวซา พลางมองดูเขาขับรถด้วยความสนใจ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะขับรถเป็นด้วย คิดว่าจะดื่มแต่เหล้าเป็นอย่างเดียวเสียอีก
เซียวซาคล้ายรับู้ได้ถึงสายตาที่มองมา จึงหันมาเอ่ยกับเจียงจวินทันที
“ทำไมมองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ”
เจียงจวินรีบหลบสายตาเขาทันที ก่อนจะพูดขึ้นมาโดยที่ไม่มองหน้าเขา
“ไม่คิดวาคุณจะขับรถเป็นด้วย”
“อ้อ ช่วงก่อนขับรถไปตีคนนอกหมู่บ้านบ่อยๆ น่ะเลยขับเป็น”
เจียงจวิน “......”
เหลือเกินจริงๆ!!!
เวลาล่วงเลยมาจนถึงยามสาย ก็มาถึงร้านที่ต้องนำของมาส่ง เมื่อส่งของและรับเงินมาเรียบร้อยแล้ว เซียวซาก็หันมามองเจียงจวินทันที
“ไหนๆ วันนี้ก็เข้าเมืองมาแล้ว พี่จะพาเธอไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า ที่นั่นของขายเยอะมากเลยนะ เธออยากได้อะไรเธอหยิบได้เลย เดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
“ไม่ล่ะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว อีกทั้งเงินพวกนั้นก็ได้มาอย่างลำบาก คุณใช้ให้ประหยัดหน่อยเถิด”
เซียวซายิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้ามาประชิดตัวเจียงจวิน หญิงสาวขยับหนีจนร่างกายชนติดกับกำแพง ก่อนจะหันมามองเซียวซาที่กำลังใช้มือข้างหนึ่งเท้ากำแพงและจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ
“มะ.. มองฉันทำไม”
“ก็เธอสวย พี่เลยมอง”
เจียงจวินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเบือนหน้าหนี
ให้ตายเถอะ เธอเขินเขาอย่างนั้นหรือ
“เซียวซา ถอยออกไป นี่มันอยู่ในที่ชุมชน คุณไม่อายหรือ”
“ไม่อาย สมัยนี้คนเริ่มพลอดรักกันแบบโจ่งแจ้งแล้ว”
“ใครพลอดรักกับคุณกัน”
“น้องเจียงจวิน หากวันนี้ยอมตามใจพี่ พี่ลดหนี้ให้หนึ่งพันหยวนเลยอ่ะ”
เจียงจวินได้ยินแบบนั้นดวงตาก็เป็นประกาย ก่อนจะมองเซียวซาอย่างหวาดระแวง
“ตามใจเรื่องอะไร เป็นเรื่องแปลกๆ ฉันไม่เอาด้วยนะ”
“เดี๋ยวก็รู็ ตามมาเถอะ หากชักช้าคิดดอกเบี้ยเพิ่มนะ”
“นิสัยไม่ดี!!!”
แม้ปากจะก่นด่าเซียวซาแต่ก็ยอมเดินตามเขาไปแต่โดยดี เซียวซายื่นมือของตัวเองเข้ามาจับมือของเจียงจวินเอาไว้ เธออยากจะดึงมือเขาออกแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาจะลดหนี้ให้เธอก็พยายามข่มใจเอาไว้ พลางจ้องมองมือของเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว
เซียวซาพาเธอมาเลือกซื้อทั้งเสื้อผ้าและของใช้ เธอไม่ซื้อเขาก็อ้างว่าจะคิดหนี้เพิ่ม เจียงจวินหมดคำจะพูดจึงยอมตามใจเขาหนึ่งวัน
เมื่อกลับมาที่รถก็พบว่าข้าวของเต็มรถไปหมด เธอจึงพูดกับเซียวซาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“ป้าเซียวได้ด่าคุณกับฉันแน่ เงินขายของวันนี้ทั้งนั้น”
“ด่าก็ช่างสิ เธอก็ฟังทะลุหูไป ฉันชินเสียแล้ว ต่อไปนี้เธออยากได้อะไรเธอต้องบอกพี่นะ”
“เซียวซา ฉันไม่เคยคิดอยากได้อะไรจากคุณเลยนะ”
“ก็เริ่มคิดได้แล้ว”
“เซียวซา!!! ฉันได้เป็นคนรักของคุณเลยนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะให้ฉันมาใช้เงินของคุณแบบนี้มันไม่ดีเลย”
“อะไรนะ หูไม่ดี อ้อ รักพี่มากเหรอ เธอไม่ต้องรีบบอกก็ได้ พี่รอฟังเธอทั้งชีวิต เธออยากซื้ออะไรอีกไหมพี่จะซื้อมห้เธอเอง”
เจียงจวินโมโหแล้ว เธอชกกำปั้นเข้าไปที่ไหล่ของเขาอย่างเต็มแรง เซียวซาร้องโอยก่อนจะยกมือขึ้นกุมหน้าอกฝั่งซ้ายของตนเอง เจียงจวินที่เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วและรีบถามเขา
“ทำไมเจ็บตรงนั้นล่ะ ชั้นแค่ชกแขนนี่”
“เจ็บสิ เธอไม่รับรักพี่ พี่เลยเจ็บตรงนี้อย่างไรเล่า”
เจียงจวินกลอกตาไปมา ก่อนจะเอ่ย
“หากเลิกไปร้านเหล้าได้ฉันจะพิจารณาก็แล้วกัน”
กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ก็สายไปเสียแล้ว เจียงจวินยกมือขึ้นปิดปากตน ในขณะที่เซียวซาตาลุกวาว รีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอทันที
“พูดจริงหรือ”
เจียงจวินเบือนหน้าหนีไม่ตอบ เซียวซาจึงถามย้ำ
“จริงหรือเปล่า”
เจียงจวินทนการรบเร้าไม่ไหวจึงหันมามองเขา แต่ทว่าเธอกลับหันมาจูบเขาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบผละออกด้วยความเขินอาย
ให้ตายเถิด!! เธอชอบผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้เข้าแล้วจริงๆ
“น้องสาว พี่รับรองว่าพี่จะไม่ไปร้านสุราอีก หากทำได้ เธอต้องแต่งงานพี่นะ”
“น้อยๆ หน่อย ยังไม่ได้บอกว่าจะแต่งเสียหน่อย”
“ก็ได้ๆ พี่จะทำให้เธอเห็นให้ได้”
เจียงจวินยิ้มออกมาเล็กน้อย ชีวิตเธอตอนนี้ก็มีแค่เจียงเป่า ซ้ำร้ายในยุคสมัยเช่นนี้การมีที่พึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี
หากต้องลงเอยกับเซียวซาจริงๆ แบบนั้นเธอก็คงจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนเขาให้เป็นคนดีกว่าเดิมได้