ตอนที่ 5
คนทาบทามสีหน้าครุ่นคิดไม่กล้ามากพอที่จะรับงานพิเศษนี้ กฤตพนธ์วิ่งทั่วมหาวิทยาลัยจนพบเพื่อนนั่งคุยกับและสาวน้อยหน้าหวาน สบโอกาศจึงรีบวิ่งมากอดคอเพื่อนไว้ โบกมือทักทายยิ้มให้เธอ โมยาวียิ้มรับเล็กน้อยแล้วสนใจครูสอนพิเศษต่อ
“น้องโมแน่ใจแล้วเหรอครับ?”เขาถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“อะไรไอ้ธา น้องโมให้แกทำอะไรให้เหรอ?”กฤตพนธ์ถามด้วยความอยากรู้
“น้องโมอยากให้ฉันสอนพิเศษให้”พสุธาหันมาตอบเพื่อน
“แกก็สอนไปดิ ทำไมไม่สอนน้องเค้าล่ะไอ้ธา!”
“แต่ว่า...”ใจอยากปฏิเสธเพราะไม่อยากใกล้ กลัวหัวใจตนเอง
“เชื่อข้าดิสอนไปเลย เอ็งเก่งอยู่แล้วนี่”กฤตพนธ์หันไปทางหญิงสาว “น้องโมเพื่อนพี่มันเรียนเก่งมากรับรองว่าไอ้นี่มันสอนน้องได้แน่นอน”
“ก็ได้ครับน้องโม พี่ตกลง”เขาจำต้องรับคำเพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจ
ห้าโมงเย็นโมยาวีมาตามนัดที่ครูสอนพิเศษบอก เมื่อวานเขาขอเปลี่ยนที่สอนเพราะซุ้มคณะใกล้ทางออกไม่ต้องเดินไกลมาก มาถึงเห็นเขารออยู่ในซุ้มคณะก่อนแล้ว หญิงสาวก้าวยาวถึงโต๊ะวางกระเป๋าสะพายกับหนังสือแล้วนั่งลงตรงข้าม พสุธายิ้มบางๆ ให้แล้วเริ่มทำหน้าที่ตนเองทันที
“ตอนนี้น้องโมคิดว่าวิชาไหนที่ยากครับ”ชายหนุ่มถาม
“อืม... วิชาการตลาดค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่จะสอนคราวๆ ก่อนนะครับ แล้วพรุ่งนี้พี่จะทำโน้ตย่อมาให้ดีไหม”
“ค่ะ”
ระหว่างชั่วโมงการสอนเธอนั่งฟังคำอธิบายอย่างใจจดใจจ่อ ริมฝีปากยามขยับพูดมันน่ามอง น้ำเสียงน่าฟัง ท่าทางสุภาพ เพียงเท่านี้หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด รู้สึกดีเหลือเกินทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร แต่กับพี่ธามันเอ่อล้นจนไม่อยากเก็บเอาไว้
พสุธาชำเลืองมองเห็นลูกศิษย์นั่งยิ้ม ดวงตาลอยๆ เลยแปลกใจเธอได้ฟังที่เขาสอนบ้างหรือเปล่า หรือมัวคิดอะไรอยู่กันแน่
“น้องโม เข้าใจที่พี่อธิบายหรือเปล่าครับ”พสุธาเอ่ยถาม
“เข้าใจค่ะ”โมยาวีรีบตอบเมื่อได้สติ
“ถ้าอย่างนั้นพี่สอนต่อนะครับ”
ลูกศิษย์พยักหน้าช้าๆ รับคำ แล้วให้ความสนใจกับเนื้อหามากขึ้น พสุธายกท่อนแขนดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลาสี่โมงครึ่งเขารวบหนังสือไว้ด้วยกัน โมยาวีมองด้วยความแปลกใจ
“น้องโมพี่ต้องไปทำงานแล้วครับ พี่ขอตัวก่อนนะ”ร่างสูงลุกยืนเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋า
“จะไปแล้วเหรอคะ”เธอรู้สึกเสียดายช่วงเวลา
“ครับ”
ชายหนุ่มจ้ำก้าวออกจากบริเวณซุ้มของคณะอย่างรวดเร็ว โมยาวีได้แต่มองตาม จังหวะนั้นกฤตพนธ์เดินเข้ามาในซุ้มคณะเห็นสาวที่ตนหมายปองอยู่คนเดียวเลยแวะเข้ามาหา
“น้องโม! น้องโมครับ!”กฤตพนธ์พยายามเรียกหญิงสาว “น้องโมครับ!”กฤตพนธ์ร้องเรียก
“ค่ะ”หันหน้ามาตอบรับ ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากพสุธา
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เปล่าค่ะ โมขอตัวก่อนนะคะ”มือรวบหนังสือ หยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย
โมยาวีเร่งฝีเท้าเดินลับหายปล่อยให้อีกคนยืนนิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง กฤตพนธ์ครุ่นคิดเมื่อเห็นท่าทางน้องโมที่มีต่อเพื่อนสนิท มันมากเกินกว่าความสัมพันธ์แบบพี่กับน้อง หรือครูสอนพิเศษกับลูกศิษย์ สายตายามเธอมองเพื่อนมันแฝงด้วยความรู้สึก ชายหนุ่มยืนเศร้าใจดวงนี้คงได้แต่ภาวนาขออย่าให้สิ่งที่คิดเป็นจริงเลย