ตอนที่ 1
ร่างเพรียวระหงส์ในชุดนักศึกษากำลังสาวเท้าอย่างเร่งรีบเพื่อเขาชั้นเรียน เธอเป็นนักศึกษาเฟรชชี่น้องใหม่ถูกโหวตให้เป็นดาวคณะในชั้นปีหนึ่ง ด้วยใบหน้ารูปไข่ ดวงตาเรียว ริมฝีปากบางรูปกระจับ ผมดำขลับยาวสยายลงมาเคลียแผ่นหลัง ส่งผลให้เจ้าของใบหน้างดงามกลายเป็นที่จับตามองของบรรดาหนุ่มนักศึกษาหนุ่มชั้นปีอื่น เพียงไม่นานชื่อโมยาวีก็เป็นที่พูดถึงจนติดปากในมหาวิทยาลัย
“เฮ้ย! ถ่ายรูปน้องโมมาอีกแล้วเหรอ ขอดูหน่อยสิ”กฤตพนธ์ถามเพื่อนพลางชะเง้อมองรูปถ่ายในมือถือ
พสุธาเงี่ยหูฟังเรื่องในวงสนทนา คิ้วขมวดหากันลุกยืนมองดูภาพนั้นด้วยความไม่พอใจเท่าใดนัก
“พวกแกทำไมไปแอบถ่ายรูปน้องเขาแบบนี้ ไม่เคารพความเป็นส่วนตัวเขาเลย!”พสุธาปรามเพื่อนทันที
“ไม่ต้องมาพูดมากเลยไอ้ธา ฉันเห็นแกจ้องน้องโมตาเป็นมันเลยเวลาแกเห็นน้องเขาน่ะ!”กฤตพนธ์รีบดักคอ
พสุธาใช้ความเงียบสยบทุกอย่าง เขานั่งลงตามเดิมคิดถึงใบหน้าของน้องโมที่เพื่อนเรียกกัน ใช่... อาจพูดได้เต็มปากว่าชอบโมยาวีไม่น้อยเลย แต่รู้สถานะตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์ เธอเป็นถึงบุตรสาวรัฐมนตรีซึ่งตนเองไม่มีอะไรเทียบได้เลย คงทำได้แค่เพียงแอบปลื้มเท่านั้นทางที่ดีควรตัดใจเสียดีกว่า
“เฮ้ยธา! แกจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าพวกข้าจะไปเที่ยวผับคืนนี้ไปไหม”เพื่อนในกลุ่มเอ่ยชวน
“ไม่ล่ะต้องไปทำงาน”ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ
“งั้นก็ไม่เป็นไร”
พสุธาเดินทางมาถึงร้านสะดวกซื้อชื่อดังตั้งในเขตชุมชน มาถึงชายหนุ่มรีบเดินเข้าด้านหลังร้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนออกมาจัดการวางสินค้าที่พร่องไปกว่าครึ่งให้เต็มเพื่อรอรับลูกค้าที่จะเข้ามาจับจ่ายในช่วงหัวค่ำ เหตุที่ต้องมาทำงานเพราะมารดาของเขาเป็นเพียงแม่บ้านให้กับบริษัทเล็กๆ ได้เงินเดือนมาจุนเจือครอบครัวเล็กน้อย ตนเองต้องการเรียนให้สูง ไม่อยากให้แม่ต้องลำบาก แค่อดทนมาถึงปีสุดท้ายก็ถือว่าหนักหนาสำหรับแม่แล้ว พนักงานหนุ่มจัดของเสร็จได้ยินเสียงฝนเทลงมาจากนอกร้าน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยามใดฝนตกหนักหน้าร้านมักจะเลอะเทอะเป็นประจำ เขาเลยต้องทำหน้าที่ทำความสะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าลื่น
โมยาวีวิ่งมาหยุดยืนหน้าร้าน พสุธาชะงักเล็กน้อยจ้องมองเธอหัวใจเต้นรัวไม่หยุด ความรู้สึกมันอัดแน่นในอก บังเอิญสายตาสบกันเข้าพอดีริมฝีปากบางรูปกระจับของสาวน้อยวัยแรกรุ่นเผยอแย้มให้ รีบหันกลับมาเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าแอบมอง ระหว่างนั้นเธอใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำบริเวณใบหน้าและลำตัว ตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้ามาในร้านเพื่อเลือกซื้อฆ่าเวลาให้ฝนซาลง
พสุธาลุกยืนจากชั้นวาง ก้มศีรษะทักทายลูกค้าตามธรรมเนียม
“สวัสดีครับ เชิญครับ”เขาพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น
โมยาวีอมยิ้มเล็กน้อยแล้วตีหน้าเรียบนิ่งเดินผ่านเขาไป เลือกสินค้าแล้ววางลงบนเคาท์เตอร์ พสุธาทำหน้าที่แคชเชียร์ เมื่อเสร็จเจ้าของใบหน้าแสนสวยเดินออกหยุดยืนนอกร้านเช่นเดิม ฝนพร่ำบวกกับลมกำลังพัดมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้กายเธอสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บท่อนแขนสองข้างถูกยกขึ้นกอดไว้เพื่อบรรเทาอาการสั่น ชายหนุ่มยืนชั่งใจพักใหญ่ตัดสินใจคว้าร่มเดินออกไปนอกร้านแล้วหยุดยืนข้างๆ
“ขอโทษนะครับ เอ่อ...”ชายหนุ่มอ้ำอึงไม่กล้าพูดออกมา
เธอหันมามองแล้วยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังสั่นเทา
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“คือ... พี่”เขาเผลอแทนตัวเอง “ขอโทษนะครับ!”รีบบอกเมื่อได้สติ
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่พี่ธามีอะไรหรือเปล่าคะ”หญิงสาวระบายยิ้มให้
“เอ่อ... พี่เอาร่มมาให้ น้องโมจะกลับบ้านหรือเปล่าครับยืมร่มพี่ไปก่อนก็ได้”เขาพยายามหลบเลี่ยงสายตา
“โมจะกลับบ้านค่ะ แต่ว่าคนขับรถที่บ้านยังไม่มารับเลย ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า โมขออนุญาตยืนรอตรงหน้าร้านก่อนนะคะ พี่คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไร”พสุธาตอบกลับทันที ใช่ว่าจะหวงหน้าร้านทุกคนมีสิทธิ์ยืน เพียงแค่เป็นห่วงฝนตกแบบนี้เกรงเธอจะไม่สบายเอาเสียก่อน
ชายหนุ่มหันหลังหมายจะเดินกลับเข้าด้านในร้านแต่ทว่ากลับงุนงงเมื่อเธอเอ่ยชื่อเขาออกมา ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แนะนำตนเองเลยด้วยซ้ำ
“สงสัยอะไรหรือเปล่าคะ?”โมยาวีหันมาถามเมื่อเห็นปากเขาขยับเหมือนมีบางอย่างจะพูด แต่กลับยืนเก้ๆ กังๆ รีรออะไรบางอย่าง
“คือ... น้องโมรู้จักชื่อพี่ได้ยังไงครับ?”
คนถูกถามอึกอักเมื่อเจอคำถาม ลืมไปสนิทว่าไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว “อ๋อ! พอดีว่าเพื่อนโมชอบพี่ค่ะ พอเห็นพี่ทีไรก็จะชี้ให้ดูประจำ โมก็เลยจำพี่ได้ค่ะ”หญิงสาวแก้ตัวเสียงสั่น
พสุธาตาโต เพื่อนโมยาวีชอบเขาอย่างนั้นเหรอ ใบหน้าเริ่มแดงขึ้นมา คนตัวเล็กเลยเผลอแอบมองแก้มของเขานึกสนุกที่พูดแบบนั้นออกไป
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวทำงานก่อนนะครับ!”ร่างสูงหันหลังก้าวยาวเข้าร้านอย่างรวดเร็ว