บทที่ 4 (2)
ผู้พันจาฮัสด์จับยึดเอวเล็กไว้ทั้งสองข้าง ช่วยส่งแรงโจนจ้วงให้หนักหน่วงดุดันมากกว่าเดิม รสรักที่ไหลกำซ่านทั่วแก่นกายแข็งขึงส่งผลให้เขาคำรามลั่น รสรักอันหอมหวาน กลิ่นกายหวานละมุนของหญิงสาว ทำเอาเขาแทบสำลักในรสรักที่กำลังโลดแล่นอย่างเร่าร้อนเป็นที่สุด ทุกครั้งที่หญิงสาวลดกายโรมรัน โยกคลึงตามคำกระซิบสั่ง สามารถสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเขาได้ในทุกครา
จิลลาดาหวีดเสียงครางแหบแห้ง หัวใจเต้นรัวเร็ว ตัวเกร็ง ในทุกครั้งที่ถอนกายออกห่างจนเกือบสุดความใหญ่โตของกายแข็งขึง จากนั้นก็กดกระแทกให้ความเร่าร้อนของผู้พันสัมผัสกับศูนย์รวมความหรรษาภายในเรือนกายของเธอ หญิงสาวกระตุกยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ ขณะได้ยินเสียงครางกระเส่า กระซิบชมเธอจากริมฝีปากร้อนผะผ่าว
“แพรทำถูกไหมคะผู้พัน”
“โอ้...ถูกต้องที่สุดทูนหัว เราชอบที่สุด”
ผู้พันจาฮัสด์ครางตอบเสียงสั่นพร่า เขากำลังสำลักความสุขที่จิลลาดาเป็นผู้มอบให้ หญิงสาวเป็นนักเรียนหัวดี เขากระซิบสั่งแค่ไม่กี่ครั้ง หญิงสาวก็ทำตามได้ทุกอย่าง นอกจากนั้นยังรู้ด้วยว่าเขาชื่นชอบท่วงทำนองรักในจังหวะใดมากเป็นพิเศษ และหญิงสาวก็ไม่ลังเลมอบจังหวะรักในท่องทำนองนั้นให้กับเขา ทำเอาเขาถึงกับสำลักความสุขที่กำลังได้รับ
เมื่อเกลียวคลื่นความสุขรัดแน่นรอบกายรอการปลดปล่อย ผู้พันจาฮัสด์ก็พลิกร่างบางระหงให้นอนอยู่เบื้องล่างแทน แล้วโหมกายกดกระแทกโรมรันสอดลึกหนักหน่วงดุดันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งส่งให้ตนเองและหญิงสาวโผบินไปสัมผัสกับโลกใบใหม่อันเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านๆ ดวง ที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวพวกเขา
ผู้พันจาฮัสด์ออกมาโทรศัพท์โทรหาเชษฐาที่ด้านนอกระเบียงของห้องพัก ขณะรอเชษฐารับโทรศัพท์ ดวงตาสี
นิลคมกริบก็ทอดมองไปยังร่างบางระหง ซึ่งยังคงนอนหลับอยู่กลางเตียงใหญ่ด้วยความอ่อนล้าจากการโรมรันรักกับเขาสองครั้งสองคราด้วยกัน และเมื่อเชษฐากดรับโทรศัพท์แล้ว ก็ทักทายอย่างรวดเร็ว
“สายันต์สวัสดิ์ท่านพี่”
ด้วยมั่นใจว่าเวลาท้องถิ่นในรัฐคาไลยจวนจะพลบค่ำแล้ว ผู้พันจาฮัสด์จึงกล่าวทักทายเชษฐาเช่นนั้น และก็ได้รับการทักทายกลับจากเชษฐาเช่นเดียวกัน
“สายันต์สวัสดิ์ผู้พัน น้องตามหานังงูพิษเจอหรือยัง
ชีคฮาซันตรัสถามอย่างพระทัยร้อน โดยไม่รู้เลยว่าคำถามของพระองค์กำลังทำให้ผู้เป็นอนุชาเกิดอาการลังเลไม่กล้าตอบคำถามของเชษฐาในทุกๆ คำตอบ
“พบแล้วพ่ะย่ะค่ะท่านพี่”
ผู้พันจาฮัสด์จำต้องเอ่ยตอบออกมาในที่สุด และคำถามในประโยคถัดมาของเชษฐาทำเอาเขาต้องลอบถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจ
“นังงูพิษมันสารภาพหรือยังว่าเอาชุดไพลินล้อมเพชรไปขายให้กับใคร”
“ยังพ่ะย่ะค่ะ นังงู...เอ่อ...” ผู้พันหนุ่มชะงักคำพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “เธอยังไม่คายความลับออกมาพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำไม น้องไม่ได้ทรมานมันให้คายความลับออกมาหรือยังไง พี่ต้องการเครื่องประดับของท่านแม่กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด”
สุรเสียงที่ตรัสถามอย่างกริ้วโกรธ ทำเอาผู้พันจาฮัสด์ต้องตีสีหน้าลำบากใจ เขาทอดสายตาจ้องมองเขม็งไปยังคนที่นอนหลับ ซึ่งกำลังพลิกกายไปมาจนผ้าห่มหลุดลุ่ย เผยให้เห็นปทุมกลมกลึงงดงาม ทำเอากายเขาตื่นตัวตอบสนองภาพที่เห็นในทันที
ผู้พันจาฮัสด์กัดฟันแน่นระงับความต้องการของตนเองไว้สุดกำลัง ก่อนจะเอ่ยตอบเชษฐา “น้อง...กำลังเค้นเอาคำตอบจากเธออยู่พ่ะย่ะค่ะ”
“เธอยังไม่คายความลับอีกหรือผู้พัน”
“ยังพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำไมช้านักผู้พัน ปกติผู้พันทำงานไม่เกิน 24 ชั่วโมงไม่ใช่หรือ” ชีคฮาซันตรัสถามสุรเสียงเข้ม เริ่มไม่พอพระทัยที่อนุชาทำงานเชื่องช้าไม่เป็นไปตามที่ทรงต้องการ
และผู้เป็นอนุชาก็รับรู้ได้ถึงอาการโกรธกริ้วของเชษฐา “น้องกำลังพยายามเค้นเอาคำตอบอยู่พ่ะย่ะค่ะ คาดว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้ เราก็จะได้เบาะแสเกี่ยวกับเครื่องประดับของท่านแม่”
“ทำอย่างไรก็ได้ให้นังงูพิษคายความลับเรื่องเครื่องประดับออกมาให้ได้เร็วที่สุด พี่คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าผู้พันควรทรมานมันด้วยวิธีใดบ้าง”
“ไม่ต้องพ่ะย่ะค่ะ น้องทราบดีว่าควรทำอย่างไร”
ใช่! เขารู้ดีว่าควรทรมานจิลลาดาด้วยวิธีใด ซึ่งเป็นการทรมานแสนหวานระคนเร่าร้อน ซึ่งเขาชื่นชอบมากเป็นที่สุด และเชื่อว่าหญิงสาวก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน
“ท่านพี่ น้องขอถามอะไรหน่อยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ”
“ว่ามาสิผู้พัน น้องอยากถามพี่เกี่ยวกับเรื่องอะไร”
“ภาพถ่ายระหว่างท่านพี่กับผู้หญิงที่ชื่อจิลลาภา เป็นภาพที่ถ่ายตอนท่านพี่นอนกับเธอจริงๆ ใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงสิผู้พัน พี่บอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่านังงูพิษมันเร่าร้อนเป็นเหมือนนางแมวป่าเวลาอยู่บนเตียงกับพี่ และเธอก็เป็นคนขอให้พี่ถ่ายรูปพวกนั้นเก็บไว้เอง ว่าแต่น้องถามพี่ทำไม หรือว่าน้องได้ลิ้มลองรสชาติของนังงูพิษคนนี้แล้ว”
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ น้องไม่ได้นอนกับจิลลาภา”
ผู้พันจาฮัสด์ถือว่าตนเองไม่ได้โกหกเชษฐา เพราะเขาไม่ได้นอนกับผู้หญิงที่ชื่อจิลลาภา แต่เขาได้ร่วมรักกับผู้หญิงที่ชื่อจิลลาดา ซึ่งบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ต่างจากดอกไม้แรกแย้ม และตอนนี้เขาก็มั่นใจแล้วว่าเขากำลังจับคนร้ายผิดคน หญิงสาวที่น่ารักหอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัว ที่เขาประคองกอดทั้งคืนไม่ใช่นังงูพิษที่ขโมยเครื่องเพชรของเชษฐาเขาไป
“ผู้พัน หากจะเล่นสนุกกับนังงูพิษสักรอบสองรอบระหว่างเค้นเอาคำตอบจากมัน พี่ก็ไม่โกรธผู้พันหรอก เพราะนังผู้หญิงคนนี้หมดค่าสำหรับพี่แล้ว”
ชีคฮาซันตรัสตอบสุรเสียงเย็นยะเยือก เมื่อผู้หญิงแพศยาไม่มอบความรักความภักดีให้กับพระองค์ พระองค์ก็ไม่จำเป็นต้องมอบสิ่งนั้นให้กับเธอเช่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไรท่านพี่ น้องไม่ต้องการผู้หญิงคนนั้น”
‘เพราะตอนนี้น้องมีผู้หญิงที่น่ารักนอนอยู่บนเตียงของน้องแล้ว’
ผู้พันจาฮัสด์ตอบประโยคที่เหลืออยู่ในใจ ในเวลานี้เขาไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เพราะเขามีผู้หญิงแสนหวาน น่ากลืนกินไปทั้งคนอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องควานหาผู้หญิงคนไหนอีก
“ท่านพี่ น้องขอเวลาสักหนึ่งอาทิตย์ในการตามหาเครื่องประดับของท่านแม่ รวมทั้งผู้หญิงชั่วที่ทำให้ท่านพี่ต้องเจ็บพระทัย”
“ได้ผู้พัน พี่ให้เวลาผู้พันหนึ่งอาทิตย์ หากช้ากว่านี้ หรือหากผู้พันทำงานไม่สำเร็จสักที พี่จะส่งคนของพี่ลงไปจัดการเอง”
“ไม่ต้องหรอกพ่ะย่ะค่ะ น้องจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ภายในเวลาที่น้องกำหนดไว้พ่ะย่ะค่ะ”
ผู้เป็นอนุชารีบปฏิเสธ พร้อมกับให้ความมั่นใจกับเชษฐาในเวลาเดียวกัน เขาไม่ต้องการให้คนของเชษฐาลงมาจัดการเรื่องนี้เอง เพราะหากคนของเชษฐาลงมือทำงานนี้ ก็ย่อมรู้ได้ทันทีว่าจิลลาดาเป็นคนละคนกันกับนังงูพิษที่เชษฐากำลังพูดถึง
“ดีผู้พัน จัดการให้เรียบร้อย ได้เครื่องเพชรของท่านแม่กลับคืนมาแล้วก็ฆ่านังงูพิษทิ้งซะ”
“น้องทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะท่านพี่”
ผู้พันจาฮัสด์รับคำไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะกดตัดสายการสนทนา เขายกมือลูบใบหน้าตัวเองพร้อมกับถอนหายใจยาว กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จิลลาภาหวังไปขุดทองในรัฐคาไลย นอกจากนั้นยังเป็นคู่นอนกับเชษฐาของเขา แต่ผู้หญิงคนที่นอนอยู่บนเตียงของเขาในขณะนี้ ไม่ใช่คนที่เชษฐากำลังต้องการให้ฆ่าทิ้ง ซึ่งเขายังมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อจิลลาภา ซึ่งเป็นคนร้ายตัวจริงหนีไปกบดานอยู่ที่ไหน และยังมึนงงไม่หายว่าทำไมผู้หญิงสองคนนี้ถึงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน