บทที่ 3 (2)
จิลลาดาปฏิเสธเสียงแข็ง ทว่ากลับบดเบียดปทุมถันเข้าหาแผงอกกว้างโดยไม่รู้ มือเล็กทั้งสองสอดเข้าไปในเส้นผมนุ่มของอีกฝ่าย และแทนที่จะผลักไสให้ผู้พันหนุ่มถอยห่าง หญิงสาวกลับนวดคลึงทั่วศีรษะของอีกฝ่าย จนได้ยินเสียงครางด้วยหรรษาหลุดออกมาจากริมฝีปากร้อนผะผ่าว
ผู้มากด้วยประสบการณ์รักอย่างผู้พันจาฮัสด์ครางเสียงลึก พร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ อยู่ในลำคอกับคำปฏิเสธของหญิงสาว
“เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ต้องการให้เราจูบหน้าอกของเจ้า”
“ไม่!...แพร...ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”
หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่น ไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงยอมพ่ายแพ้ให้กับชายผู้นี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองไม่ต่อต้านไม่ผลักไสให้เรือนกายล่ำสันถอยห่างไปจากกายของเธอ
“แต่เราต้องการจูบหน้าอกของเจ้าที่สุด”
ผู้พันจาฮัสด์กระซิบชิดปทุมถันงามสล้าง กดจูบหนักหน่วงทั่วเนินเนื้อขาวผ่องกลมกลึงนุ่มเนียน มือใหญ่ข้างหนึ่งเลื่อนไปฟอนเฟ้นปทุมงาม ส่วนอีกข้างหนึ่งเลื่อนมาลูบไล้ทั่วหน้าท้องแบนราบ แล้วเลื่อนไปนวดคลึงทั่วแผ่นหลังเนียน จากนั้นก็เลื่อนริมฝีปากร้อนผะผ่าวเข้าครอบครองยอดถันสีชมพูหวาน ที่เต้นระริกเริงระบำตามจังหวะการหอบหายใจของผู้เป็นเจ้าของ
“โอ้...แพรไหม...”
ผู้พันหนุ่มครางลึกด้วยความสุขสม รับรู้ได้ถึงยอดถันที่แข็งเป็นไตอยู่ในริมฝีปากของเขา เขาตวัดปลายลิ้นวนรอบยอดถันก่อนจะดูดเม้มหนักหน่วงสลับกับการตวัดปลายลิ้นรัวเร็วสร้างความหฤหรรษ์ให้กับหญิงสาว จนต้องแอ่นกายเข้าหาริมฝีปากของเขาอย่างเต็มที่
“เจ้าต้องการให้เราจูบหน้าอกอีกข้างของเจ้าไหมแพรไหม”
“ไม่!”
จิลลาดาครางปฏิเสธเช่นเคย ทว่ามือเล็กกลับกระชากศีรษะผู้พันหนุ่มให้ก้มลงมาครอบครองปทุมถันอีกข้างของเธอ ที่กำลังสั่นระริกด้วยความปรารถนา อยากให้ริมฝีปากร้อนผะผ่าวเข้าครอบครองในทุกวินาที คลื่นความสุขร้อนซ่าแล่นพล่านจากปทุมถันทั้งสองขมวดรวมกันเป็นเกลียวแน่นอยู่ตรงดินแดนของความหรรษาที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยลาวารัก พอยอดถันสีหวานอีกข้างถูกครอบครองด้วยริมฝีปากเปียกชื้น ก็หลุดเสียงครางเบียดกายเข้าหาร่างกำยำด้วยความเสน่หา อยากเป็นส่วนหนึ่งของเรือนกายนี้ ซึ่งการกระทำของเธอเรียกเสียงคำรามลั่นด้วยความถูกใจจากผู้พันหนุ่ม
“แพรไหม เราอยากเข้าไปอยู่ในตัวเจ้าเดี๋ยวนี้”
ผู้พันจาฮัสด์กดจูบฟอนเฟ้นทั่วปทุมถันทั้งสองด้วยเพลิงพิศวาสร้อนรุ่ม เลื่อนริมฝากลงต่ำมาตามหน้าท้องแบนราบ พรมจุมพิตดูดดื่ม สอดปลายลิ้นเลียวนทั่วแอ่งสะดือกระทั่งหญิงสาวร้องครางระงมไม่ได้หยุด จากนั้นก็ปลดกางชั้นในผ้าลูกไม้ออกจากสะโพกผายมน เผยให้เห็นความงดงามของดินแดนแห่งรัก ที่ทำให้เขาหายใจติดขัดครางเสียงต่ำลึกด้วยความหิวกระหายอยากพรมจุมพิตไปยังกลีบดอกไม้แสนสวย
ผู้พันหนุ่มผุดกายลงขึ้นนั่งสะบัดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมกริบทั้งสองทอดมองไปยังเรือนร่างอรชรงามสล้าง ที่นอนตัวอ่อนระทวยด้วยพิษเสน่หาอยู่กลางเตียงใหญ่ หญิงสาวงดงามไปทั้งตัว ผิวพรรณยองใยชวนพิศ ชวนให้พรมจุมพิตไปทั่วทั้งเรือนร่าง ซึ่งเขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเชษฐาฮาซันถึงได้หลงรักหญิงสาวนัก และตอนนี้ก็คงมีอาการไม่ต่างจากเชษฐาที่อยากจุมพิต อย่างด่ำดิ่งเข้าไปในความชุ่มฉ่ำที่ไหวระริกอยู่ตรงหน้า
“แพรไหม เราต้องการเจ้า”
ผู้พันจาฮัสด์คำรามเสียงทุ้มลึก อยากพรมจุมพิตลงไปบนดินแดนแห่งรักอันสวยงาม ทว่าความต้องการที่อัดแน่นรวมกันอยู่ทั่วแก่นกายแข็งขึง ทำให้เขาไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป เขาลดกายลงต่ำให้หยอกเอินกับกลีบดอกไม้หวาน พร้อมกันนั้นก็สอดมือทั้งสองเข้าไปใต้สะโพกผายมน แล้วยกขึ้นเล็กน้อยให้พร้อมสำหรับการถาโถมกายเข้าไปข้างในความชุ่มฉ่ำเปียกชื้น
“ได้โปรด...”
จิลลาดาบิดกายด้วยความเสียวซ่าน เพราะไร้ซึ่งประสบการณ์รัก จึงไม่รู้ว่าตนเองกำลังต้องการสิ่งใด ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ความทรมานระคนหรรษาได้เดินทางถึงที่สุด หญิงสาวครวญครางร้องขอ เอื้อมมือไปจับต้นแขนแข็งแกร่งทั้งสองไว้ และพอถูกผู้พันหนุ่มกระซิบสั่งก็รีบทำตามในทันที
“กอดเราไว้สิ แพรไหม กอดเรา...”
ผู้พันจาฮัสด์ถอนหายใจลึกด้วยความพึงพอใน ตอนมือเล็กทั้งสองยกขึ้นมาโอบกอดไปรอบแผ่นหลังของเขา
เมื่อคลื่นความต้องการโหมกระหน่ำจ่ออยู่ตรงแก่นกายร้อนผ่าวจนไม่อาจทนได้แม้นาทีเดียว เขาจึงกดกายเข้าไปในดินแดนแห่งความหรรษาของหญิงสาวเต็มพละ
กำลัง และด้วยคิดว่าหญิงสาวมีประสบการณ์รักจากเชษฐามาแล้ว จึงไม่ได้ระมัดระวัง ไม่มีความอ่อนนุ่มขณะโจนจ้วงลงไป แต่เมื่อพบกับเยื่อบางๆ ที่ไม่เคยคิดว่าหญิงสาวใต้อ้อมแขนของตนเองยังคงมีหลงเหลืออยู่ ก็ถึงกับชะงักกึก สบถออกมาเบาๆ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองเพิ่งพานพบมาหยกๆ
“โอ้...ไม่...แพรไหม เจ้ายังบริสุทธิ์อยู่ยังงั้นหรือ”
“ก็ใช่นะสิ ถอยไป ฉันเจ็บนะได้ยินไหม”
จิลลาดาตอบเสียงแข็ง การหยุดชะงักไปชั่วครู่ของผู้พันหนุ่ม ช่วยเรียกสติของเธอที่ลอยเคว้งคว้างให้กลับมาที่เดิม หญิงสาวบิดกายพยายามผลักไสให้เรือนกายล่ำสันก้าวลงจากตัวเธอ ความคับแน่น ความใหญ่โตของกายแข็งขึง ซึ่งยังคงด่ำดิ่งอยู่ในเรือนร่าง ทำเอาเธอเจ็บแปลบน้ำตาเอ่อคลอเบ้า
“เราไม่รู้ว่าเจ้ายังบริสุทธิ์อยู่ ก็เจ้า...”
“ตอนนี้รู้แล้ว ก็ลงไปจากตัวฉันสักทีสิ”
หญิงสาวสวนกลับผงกกายขึ้น พยายามผลักร่างกำยำให้ถอยออกห่าง แต่พอมือเล็กวางไปโดนแผงอกกว้างทั้งสองข้าง แถมยอดอกสีเข้มยังเกิดปฏิกิริยากับมือเล็กแข็งเป็นไตสู้มือในทันที ก็ถึงกับเบิกตากว้างครางออกมาเบาๆ ด้วยความแปลกใจ
“ลองสัมผัสตัวเราสิแพรไหม ลูบไล้ตัวเราเหมือนที่เรากำลังทำกับเจ้าในขณะนี้”
ผู้พันจาฮัสด์เอื้อมมือทั้งสองไปเคล้นคลึงทั่วปทุมถันนุ่มเนียนมือ สาธิตให้หญิงสาวเห็นว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เขาสะกิดนิ้วหยอกเอินเบาๆ ไปบนยอดปทุมสีหวานที่ชูชันเต้นระริกสู้มือของเขาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ กดกายแข็งขึงให้จมดิ่งเข้าไปจนสุดความใหญ่โต โดยระมัดระวังไม่ให้ความเจ็บปวดได้เข้าไปเล่นงานหญิงสาวอีกครั้ง
จิลลาดาเพลินกับการลูบไล้แผงอกกว้างกำยำ จนไม่รู้ว่าผู้พันหนุ่มมอบกายแข็งขึงให้ด่ำลึกเข้าไปในกายของเธอจนหมดสิ้น หญิงสาวขย้ำลงไปบนยอดถันสีเข้ม เมื่อคลื่นความสุขอันเกิดจากการถูกฟอนเฟ้นเคล้นคลึงทั่วปทุมถันได้โหมกระหน่ำถาโถมเข้าใส่ ก็ส่งเสียงครางด้วยเสียวซ่าน หลุดลอดออกมาในทุกนาที
ผู้พันจาฮัสด์รู้ว่าความเจ็บปวดเริ่มคลายไปจากตัวหญิงสาวบ้างแล้ว จึงลองขยับกายช้าๆ เพื่อเป็นการหยั่งเชิงว่าหญิงสาวจะขยับหนีเขาอีกหรือเปล่า เมื่อจิลลาดาไม่ผลักไส แถมยังเบียดกาย กระดกสะโพกตอบรับตามธรรมชาติพร่ำสอน ก็ถึงกับครางลึกด้วยความถูกใจ พร้อมกับเพิ่มน้ำหนักในการโจนจ้วงให้หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ตามเพลิงพิศวาสเร่าร้อนที่เริ่มระอุอยู่ทั่วเรือนกาย
จิลลาดารู้สึกถึงความเสียวซ่านเร่าร้อนระคนหฤหรรษ์ ซึ่งเข้ามาแทนที่ความเจ็บแปลบในก่อนหน้านี้ หญิงสาวเลื่อนมือเล็กทั้งสองลูบไล้สะเปะสะปะทั่วแผงอกกำยำ ก่อนจะเลื่อนไปโอบกอดรอบเอวหนา ขยับสะโพกตอบรับการโรมรันที่เริ่มหนักหน่วงดุดันเต็มพละกำลังของอีกฝ่าย
“ผู้พัน...”
“เรารู้แพรไหม เรารู้ว่าเจ้าต้องการอะไร”
ผู้พันจาฮัสด์กระซิบตอบเสียงครวญครางของหญิงสาว สะโพกผายมนที่ส่ายรัวเร็ว เสียงครางระงมดังก้อง มือเล็กที่ขย้ำตรงเอวเขาแน่น ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวใกล้ถึงฟากฝั่งของความหฤหรรษ์แล้ว เขาพรมจุมพิตไปทั่วเรียวปากอิ่มที่รีบเผยอปากรอรับลิ้นนุ่มในทันที พร้อมกันนั้นก็ยกสะโพกกลมกลึงให้สูงเด่นรับจังหวะการโรมรันหนักหน่วงดุดันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกเสียงครางระงมทั้งจากตัวเขาและหญิงสาวดังลั่นไปห้อง คลื่นความสุขที่มาพร้อมกับการกดกระหน่ำกายแข็งขึงใหญ่โต ทำให้ดวงดาวสุกสกาวนับล้านๆ ดวงรายล้อมอยู่รอบๆ ตัวเขาและหญิงสาว ความหฤหรรษ์หรรษารัญจวนใจถาโถมเข้าใส่ไม่ต่างจากสายน้ำไหลเชี่ยวกราก เขาโถมกายมอบความแข็งแกร่งให้หญิงสาวอย่างดุดันด้วยพลังที่มีทั้งหมด จวบจนกระทั่งจุดสุดยอดของพลังแห่งรักระเบิดแตกซ่านทั่วทั้งกายที่กระตุกเกร็งไปพร้อมๆ กัน