บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 (2)

ปืนออกมาสักคน อย่าว่าแต่หยิบปืนเลย แม้แต่จะขยับตัวก็ยังไม่กล้าขยับ...

กัปตันบารอนเหยียดยิ้มตรงมุมปากกับพวกนักเลงกระจอกหน้าตัวเมียกล้าทำเฉพาะกับคนที่ไม่มีทางต่อสู้ ด้วยความรำคาญที่จะต่อกรกับพวกหมาขี้เรื้อน เขาจึงหันไปส่งซิกให้ลูกเรือแล้วแกล้งขึ้นไกปืนพร้อมๆ กัน

คลิ๊ก!...

คราวนี้ทั้งเสี่ยพารุณทั้งลูกกระจ๊อกเบิกตากว้างตาเหลือกค้างเมื่อได้ยินเสียงขึ้นไกปืน ร่างอวบอูมพยายามกระเสือกกระสนพยุงตัวขึ้น พอหันไปมองด้านหลังก็เห็นลูกน้องบางคนพากันวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต

“รอกูด้วย พากูกลับไปด้วย”

เสี่ยพารุณละล่ำละลักตะโกนเรียกลูกน้องให้มาช่วยพยุงตนเอง พอมาเจอคนจริงแบบนี้ก็ทำให้เสี่ยพารุณกลัวตายจนแทบฉี่ราดก็ว่าได้

กัปตันบารอนเห็นแล้วก็นึกสมเพชเขาแกล้งยิงปืนออกไปอีกนัดเอาให้เฉียดๆ ใบหูที่เห็นอยู่รำไร ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ต่างก็พากันหัวเราะขบขำด้วยความสนุกตอนที่เห็นเสี่ยร่างอ้วนกระโดดเป็นเจ้าเข้าเพื่อหลบลูกกระสุนที่ถูกยิงแบบเฉียดๆ ไปหลายนัด

หญิงสาวที่เปียกซกสั่นไปทั้งตัวยกมือปิดปากกลั้นหัวเราะ เธอสะใจที่สุดตอนที่เห็นเสี่ยพารุณกลัวจนหน้าซีดกระโดดหลบลูกกระสุนเป็นว่าเล่น จากช่องแคบๆ ระหว่างลังสัมภาระทำให้เธอมองเห็นคนที่ยิงเสี่ยพารุณได้ไม่ชัดนัก จะเห็นก็แค่ด้านหลังที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงไม่สะทกสะท้านกับภัยที่รออยู่เบื้องล่าง เสียงที่เอ่ยสั่งทุ้มลึกทรงอำนาจในบางครั้งก็ฟังดูเยือกเย็นไร้ความรู้สึกจนเธอนึกกลัวแทนเสี่ยพารุณ เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนหยักศกนิดๆ ที่เปียกชื้นน้ำฝนแบนติดไปกับศีรษะ เสื้อเชิ้ตสีตุ่นเปียกละอองฝนแนบติดกับเรือนกายทำให้เห็นแผ่นหลังกว้างแข็งแกร่งได้อย่างชัดเจน ส่วนชายวัยค่อนคนที่ยืนอยู่ติดๆ กันเธอสามารถมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจน ท่าทางเขาจะเป็นคนใจดี เพราะเธอเห็นมีรอยยิ้มประดับทั่วใบหน้าตลอดเวลา

สายฝนที่ตกหนักมาตลอดทั้งคืนเริ่มซาลงแล้ว ร่างบางระหงที่ตากน้ำฝนมาเกือบทั้งคืนเริ่มหนาวสั่น ริมฝีปากอวบอิ่มซีดเผือดสั่นระริกจนเจ้าตัวต้องกัดเม้มไว้ มือบางยกขึ้นกอดอกไว้แน่นเพื่อบรรเทาอาการหนาวเหน็บ เธอแอบมองลอดช่องว่างอีกครั้ง เสี่ยพารุณกับลูกน้องวิ่งหนีไปไกลแล้ว แต่บุรุษหนุ่มทรงอำนาจซึ่งเดาได้ว่าคงจะเป็นกัปตันเรือ และลูกเรือบางส่วนไม่ยอมลงไปจากดาดฟ้าสักที ตอนนี้เธอกำลังรอเวลา รอว่าเมื่อไหร่คนเหล่านี้จะขยับตัวไปจากดาดฟ้า จากนั้นเธอจะได้หลบลงจากเรือลำนี้บ้าง แต่ไม่กี่นาทีต่อมาหญิงสาวก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับคำสั่งทรงอำนาจที่ตะโกนสั่งแข่งกับเสียงสายฝนเย็นฉ่ำ

“เอาสัมภาระลงไปเก็บใต้ท้องเรือ”

หญิงสาวไม่มีเวลาคิดใคร่ครวญแล้ว เมื่อสิ้นสุดเสียงคำสั่งเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เริ่มเดินขวักไขว่เข้ามาใกล้ อาศัยว่าตรงตำแหน่งที่เธอซ่อนตัวอยู่ค่อนข้างมืดไร้แสงนำทาง เธอจึงผลุบออกจากช่องสัมภาระแล้วรีบวิ่งลงไปยังด้านล่างของลำเรือทันที ร่างบางเปียกซกสั่นเทากลัวจะถูกจับได้แล้วส่งต่อให้เสี่ยพารุณ เมื่อวิ่งลงบันไดมาจนสุดทางเดิน เธอก็ผลักประตูไม้โอ๊กหนาใหญ่ออกกว้างจากนั้นก็ผลุบกายเข้าไปนั่งซ่อนตัวอยู่ตรงมุมมืดของห้อง เธอนึกดีใจที่เจ้าของห้องไม่ได้เปิดไฟทิ้งไว้จะมีก็แค่แสงสว่างจากดวงไฟบนดาดฟ้าที่ส่องเข้ามาเล็กน้อยทำให้การซ่อนตัวของเธอเป็นไปได้ง่ายขึ้น

กัปตันบารอนยืนกอดอกมองดูลูกเรือช่วยกันขนสัมภาระลงไปใต้ท้องเรือท่ามกลางสายฝนที่ยังเทลงมาปรอยๆ ไม่ขาดสาย เขาละสายตาหันกลับไปมองต้นหนที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาบนสะพานเรือ

“กัปตันครับ ไต้ก๋งเรือหาปลาเกือบสิบคนถูกไอ้พวกหน้าตัวเมียเล่นงานยับเลยครับ”

ลุกซ์รายงานกัปตันด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด เขาเชื่อได้ว่าถ้ากัปตันเห็นสภาพไต้ก๋งแต่ละคนก่อนที่ไอ้พวกหน้าตัวเมียมาขอค้นเรือ พวกมันคงไม่ได้วิ่งออกไปสบายๆ แบบนี้แน่ บางคนนอกจากจะถูกทำร้ายแล้วยังถูกปล้นเงินทองของมีค่าไปด้วย

“ส่งคนไปสักสิบคน ดูว่าช่วยเหลืออะไรได้บ้าง อ้อ...ลุกซ์ นายส่งคนไปสืบหน่อยว่าไอ้พวกที่มาหาเรื่องเมื่อสักครู่เป็นใคร”

กัปตันบารอนกอดอกนิ่งเอ่ยสั่งเสียงราบเรียบ รอให้ต้นหนไปสั่งงานลูกเรือต่อ เมื่อต้นหนเดินกลับมาหาอีกครั้งเขาก็เอ่ยเสียงเย็น

“ลูกเรือมาครบแล้วให้ออกเดินเรือได้เลย”

“กัปตันจะออกเดินเรือเดี๋ยวนื้หรือครับ”

ลุกซ์เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ ก้มลงมองนาฬิกาเห็นเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ปกติแล้วเรือสำราญกึ่งขนส่งสินค้า เดอะรอยัล อาดามัส จะออกจากท่าน้ำ

ก็เฉพาะตอนเช้ามืดเท่านั้น

“ใช่ เราจะออกเดินทางคืนนี้ นายไปสั่งลูกเรือให้เตรียมพร้อมด้วย”

กัปตันบารอนสั่งย้ำหนักแน่น เขาสังหรณ์ใจว่าการเดินเรือไปลองไอแลนด์คราวนี้คงจะไม่ราบรื่นเท่าใดนัก

30 นาทีผ่านไป ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัสก็กลับมาพร้อมเพรียงกัน มาร์คซึ่งถูกส่งให้ไปสืบประวัติของพวกเศษสวะกลับมาพร้อมกับรายละเอียดที่ทำให้กัปตันหนุ่มพึงพอใจกับผลงานที่มอบหมายให้ไปทำ

“มันชื่อพารุณครับกัปตัน ทำตัวเป็นเจ้าพ่อคุมทั่วทั้งท่าเรือ มันทำธุรกิจไนต์คลับบังหน้า แต่จริงๆ แล้วมันคอยหาผู้หญิงส่งให้เสี่ยตามซ่องที่มันแอบเปิดลับๆ นอกจากค้ามษุนย์แล้วมันยังค้าอาวุธเถื่อนด้วยครับ”

มาร์ครายงานแบบละเอียดยิบตามข้อมูลที่ไปเสาะแสวงหา จากการรับฟังจากปากชาวบ้านในบริเวณท่าเรือที่เดือดร้อนกับการกระทำที่ป่าเถื่อนของเสี่ยพารุณทำให้เขารู้สึกเห็นใจพวกชาวบ้านอยู่ไม่น้อย แต่เขาและลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ไม่ใช่ศาล...เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำได้ก็คือการรับฟังและนำมารายงานให้ศาลเตี้ยอย่างกัปตันบารอน ดี ทีสต์ เป็นผู้ตัดสิน

“ที่มันมาตามหาผู้หญิงเมื่อสักครู่ คงไม่พ้นพวกเด็กสาวๆ ที่มันหลอกมาขาย”

กัปตันบารอนเอ่ยวิเคราะห์กับลูกเรือและต้นหน เขาไม่เห็นด้วยกับการค้าของเถื่อนและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการค้ามนุษย์ด้วยกันเอง ถ้าหากมีเวลามากกว่านี้เขาคงได้อยู่จัดการกับสวะสังคมอย่างเสี่ยพารุณ แต่ตอนนี้เขามีสินค้ามูลค่าหลายสิบล้านที่จำเป็นต้องนำไปส่งให้กับ เรนย์ เจรามี่ เพื่อนรัก ไม่เช่นนั้นแล้วคนอย่างเสี่ยพารุณที่บังอาจมาลูบคมกัปตันเรือเดอะรอยัล อาดามัส ถึงที่ คงไม่ได้ลอยนวลไปง่ายๆ แน่

“กัปตันจะทำยังไงครับ ลงไปจัดการกับมันดีไหมครับ”

ลุกซ์เอ่ยถามเมื่อเห็นกัปตันเงียบไป ตอนนี้เขากับลูกเรือทั้งยี่สิบคน กำลังคันไม้คันมืออยากจะไปเล่นงานเศษสวะอย่างเสี่ยพารุณอีกสักตั้ง

“ปล่อยมันไปก่อน เรามีงานด่วนต้องส่งสินค้าให้เรนย์ ถ้ากลับมาแล้วมันยังซ่าเหมือนเดิมค่อยจัดการอีกครั้ง”

กัปตันเอ่ยบอกอย่างใจเย็น เขาเงยหน้ามองสายฝนที่ซาลงไปบ้างแล้ว คลื่นลมทะเลเริ่มสงบนิ่งไม่พิโรธโกรธาเหมือนก่อนหน้านี้ จวนจะตีหนึ่งแล้วพวกเขาสมควรจะออกเดินเรือสักที

“ถอดสมอเรือ เตรียมออกเรือภายในสิบนาที”

กัปตันบารอนสั่งเสียงดังจากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องบังคับเรือ ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ต่างก็ร้องเฮด้วยความดีใจที่จะได้ออกเดินเรือเร็วกว่ากำหนด พวกเขาต้องนั่งจับเจ่าตบยุงเล่นอยู่บนเรือที่ท่าเรือนานหลายวันแล้ว เมื่อได้ยินคำสั่งให้ออกเดินเรือ ทุกคนต่างก็คึกคักทำหน้าที่ของตนเองอย่างเข้มแข็ง เสียงพูดคุยหยอกล้อติดจะห่ามๆ สัปดนมีให้ได้ยินตลอดเวลา

เมื่อรู้สึกได้ว่าเรือเดอะรอยัล อาดามัส กำลังเคลื่อนตัวออกจากท่าน้ำอย่างช้าๆ สง่างาม ลูกเรือต่างก็กอดคอกันกลมร้องเฮด้วยความดีใจ เรือเคลื่อนตัวออกมาได้สักร้อยเมตร กัปตันบารอนก็ปล่อยให้ลุกซ์ต้นหนเรือเป็นผู้ทำหน้าที่บังคับเรือต่อ เขาก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นมาบนดาดฟ้าในมือมีกล้องส่องทางไกลแบบส่องตอนกลางคืนติดมาด้วย รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมกระตุกขึ้นตรงมุมปาก นัยน์ตาสีทองเปล่งประกายวาวลุกโชนเป็นไฟ

ลูกกระจ๊อกของเสี่ยพารุณนับรวมๆ กันสักยี่สิบคนเห็นจะได้กำลังหัวเสียเมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าเรือเดอะรอยัล อาดามัสแล่นออกจากท่าน้ำแล้ว มือหนาสีแทนลดกล้องส่องทางไกลลงพร้อมกับเสียงหัวเราะฮึๆ ในลำคอ พวกหมาหมู่กัดไม่เลิกจริงๆ เสี่ยพารุณคงยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินเข้าหาความตาย มันคิดผิดที่คิดจะมาต่อกรกับกัปตันบารอน เพราะถ้าหากไม่เก่งจริง เขาไม่มีทางขยายอำนาจธุรกิจเดินเรือได้ทั่วโลกดังทุกวันนี้ ขอเวลาสักสองสามเดือนเถอะ ถ้ากลับมาแล้วเสี่ยพารุณยังไม่ล้มเลิกความคิดเดิม คราวนี้เขาจะตามไปเหยียบยอดอกถึงถิ่นของมัน

“พวกมึงว่าไงน่ะ”

เสี่ยพารุณตะโกนถามเสียงดัง ในมือมีแก้วบรั่นดีที่สาดลงคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดที่หัวแม่เท้า

“เอ่อ...เรือสำราญสีขาวมันออกเดินเรือไปแล้วครับ”

ลูกกระจ๊อกของเสี่ยพารุณเอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัวอารมณ์ของเจ้านาย

“แล้วพวกมึงตามไปจัดการไอ้กัปตันคนนั้นไม่ทันหรือไง”

เสี่ยพารุณตะโกนถามด้วยความโมโห ใบหน้าอวบอูมแดงก่ำ แผลที่หัวแม่เท้าไม่เจ็บเท่าแผลในใจที่ถูกกลั่นแกล้งให้กระโดดหลบลูกกระสุนราวกับเป็นตัวตลก

“จะเอาไงต่อดีครับเสี่ย”

“มึงรู้ไหมว่าไอ้กัปตันเรือมันเป็นใคร” เสี่ยพารุณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแห่งความเคียดแค้น

“มันชื่อบารอน ดี ทีสต์ ครับ เป็นกัปตันเรือและเป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือเดอะรอยัล อาดามัส กรุ๊ป ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ถ้าไปถามพวกไต้ก๋งต่างก็รู้จักมันดีครับ เพราะนอกจากจะเก่งแล้วมันไม่เคยกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ขนาดโจรสลัดโซมาเลียที่ว่าเก่งนักเก่งหนายังยึดเรือมันไม่ได้เลยครับ นอกจากเรือมันจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยแล้ว ลูกเรือของมันต่างก็เป็นอดีตทหารรับจ้างกันทั้งนั้น”

ลูกกระจ๊อกเอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น เคยแต่ไปรังแกชาวบ้าน ชาวเรือที่ไม่มีทางสู้ เมื่อมาเจอคนจริงอย่างกัปตันเรือเดอะรอยัล อาดามัส ก็ทำให้พวกพ้องของเขาหวาดหวั่นกลัวจะโดนแก้แค้นคืนเช่นเดียวกัน

“กูไม่กลัว ต่อให้มันเป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือใหญ่โตแค่ไหนกูก็ไม่กลัว พรุ่งนี้มึงตามไปก่อกวนที่บริษัทเดินเรือของมัน เอาให้คนที่อยู่ในบริษัทหวาดกลัวจนไม่กล้ามาทำงานอีก”

ปากบอกว่าไม่กลัว แต่เสี่ยพารุณลืมนึกไปว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาตนเองต้องวิ่งหนีลูกกระสุนไม่ต่างจากสุนัขที่วิ่งหนีจนหางจุกตูด

“จะดีหรือครับเสี่ย ผมว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้กัปตันคนนี้เลยครับ”

ลูกน้องของเสี่ยพารุณต่างก็มองหน้ากันแล้วแบ่งรับแบ่งสู้ เห็นอยู่แล้วว่าเจ้านายของตนเองกับกัปตันชื่อก้องมันกระดูกคนละเบอร์กัน

“ดีสิว่ะ นอกจากไอ้กัปตันบารอนแล้ว ยังมีนังอีตัวที่หนีไปอีกคนที่กูจะต้องเอามันมาสังเวยความแค้นให้ได้ เจอตัวเมื่อไหร่กูจะสั่งสอนให้มันหลาบจำว่าไม่ควรลองดีกับคนอย่างกู”

ลูกกระจ๊อกของเสี่ยพารุณต่างก็มองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น การที่จะเข้าไปต่อกรกับกัปตันบารอน ดี ทีสต์ ผู้เลื่องชื่อในท้องทะเลสีคราม ก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel