บทที่ 2 ให้รางวัล
กลางดึกขณะแพรวากำลังเพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับการนอนแช่น้ำในอ่าง เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
ครืด ครืด ครืด
ร่างเล็กระบายลมหายใจพรืดใหญ่ เมื่อถูกขัดจังหวะ มองรายชื่อที่ปรากฏก็ต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจรับสายในที่สุด
"สวัสดีค่ะพี่เปรม"
(โอ้ รอดตายไปทีที่น้องวายังไม่นอน ขอโทษนะที่พี่ต้องรบกวนกลางดึกแบบนี้ แต่ทางท่าที่เวียดนามเพิ่งแจ้งเข้ามา ว่ามีสินค้าภายในตู้ของลูกค้าได้รับความเสียหาย)
"ช่วยอธิบายให้ละเอียดหน่อยค่ะ"
ใบหน้าสวยเริ่มเคร่งเครียด เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบกายและเดินออกไปนั่งคุยยังห้องนั่งเล่นแทน พลางล้วงสมุดบันทึกในกระเป๋ามาจดรายละเอียดไปด้วย
(ผลไม้ของแบรนด์ Fruity Thailand กล่องบรรจุลูกค้าแตก ทำให้พอเปิดตู้มาพวกผลไม้ที่อยู่ด้านล่างถูกทับจนช้ำหมดเลย ส่วนกล่องด้านบนยังปกติดีค่ะ) เปรมธิดาหัวหน้าฝ่าย AE รีบอธิบาย
"เป็นตู้เดียวเหรอคะ"
(เป็นเหมือนกันหมดทั้ง 3 ตู้เลยค่ะ คาดว่าจะเสียหายประมาณ 1 ใน 3 เลย พี่เครียดมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้)
"ให้ทางเวียดนามถ่ายรูปความเสียหายมาหน่อยค่ะ ขอละเอียดถ่ายทุกมุม ส่วนสินค้าที่ไม่เสียหายให้รถรับไปก่อน พรุ่งนี้เช้าแจ้งลูกค้าด้วยนะคะ แล้วให้ทีมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าประชุมตอน 8 โมงค่ะ"
(โอเคได้ค่ะ)
"วาฝากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดด้วยนะคะ"
(ได้ค่ะๆ ขอบคุณน้องวามากๆเลยนะ)
เปรมธิดาพอจะหายใจได้โล่งขึ้นบ้าง หากไม่มีคนกลางเช่นแพรวามาช่วยสอบสวน เธอก็จะเป็นฝ่ายโดนลูกค้าตำหนิ และอาจต้องรับผิดชอบแทนหากเธอหาสาเหตุไม่เจอ
"ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้"
พอมีปัญหาเข้ามาแบบนี้ หญิงสาวก็หมดอารมณ์จะไปนอนแช่น้ำร้อนต่อแล้ว เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะลุกไปแต่งตัว ต่อสายหาหัวหน้าฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อรวบรวมข้อมูลอีกแรง กว่าที่ร่างเล็กจะได้ล้มตัวนอนก็เกือบตี 1 เข้าไปแล้ว
บริษัท JRV LOGISTICS
พนักงานหลายร้อยคนทยอยเดินเข้าตึกสำนักงานสูงใจกลางกรุง พูดคุยหยอกล้อสนุกสนาน แตกต่างจากบุคคลภายในห้องประชุมที่ต้องมาบริษัทก่อนเวลาเกือบชั่วโมง หัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อถูกลูกค้าโวยวายเรียกร้องให้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดทันทีที่ทราบเรื่อง
"บริษัท Fruity Thailand เป็นลูกค้าเรามา 6 ปี แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหากล่องลังแตกมาก่อนเลย แต่รอบนี้เป็นพร้อมกันหมดผมว่าน่าจะเกิดปัญหาจากความแข็งแรงของกล่องบรรจุภัณฑ์ลูกค้านะครับ"
"ถ้าแบบนั้นลูกค้าก็เป็นคนผิดสิ จะมาเรียกร้องให้เรารับผิดชอบได้ยังไง"
"พนักงานที่ท่ารถวางของลูกค้าไม่ดีหรือเปล่า"
"อย่ามาโยนความผิดให้ฝ่ายผม ลูกค้าเหมาตู้ ลูกน้องผมมีหน้าที่แค่ขับรถไปที่ล้ง ส่วนการนำขึ้นทางนั้นเป็นคนจัดการเอง"
และตามมาด้วยข้อถกเถียงอีกหลายอย่าง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครอยากเป็นผู้รับผิดชอบ
แพรวาเลขาสาวในชุดเสื้อแขนยาวตัวโคร่งและกระโปรงยาวลายประหลาดไม่ต่างจากทุกวัน นั่งนวดขมับตัวเองด้วยความวิงเวียน วิกผมหยิกฟูและแว่นหนาเตอะช่วยซ่อนสีหน้าหงุดหงิดไว้ได้อย่างดี
เมื่อเสียงโต้เถียงดังราวกับไม่มีวันจบสิ้น ร่างเล็กเริ่มทนไม่ไหวพยายามยกมือขึ้นเพื่อขอจังหวะพูด แต่หญิงสาวแสนจืดชืดกลับไม่เป็นที่สนใจ จนเธออยากจะตบโต๊ะเสียงดัง แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้และแสร้งปัดแก้วน้ำบนโต๊ะแทน
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกหยุดการโต้เถียงและเรียกความสนใจของทุกคนได้ทันที เธอแสร้งส่งยิ้มเก้อเขินก่อนจะลุกขึ้นสรุปการประชุม
"เอาล่ะค่ะ คุยกันแบบนี้คงหาข้อสรุปไม่ได้ ทางทีมที่ท่าเรือช่วยหาหลักฐานดูทีค่ะ ว่าลูกค้ามีการเปลี่ยนกล่องบรรจุภัณฑ์จริงหรือเปล่า เพราะจากภาพมันก็ดูต่างจากเดิมจริงๆ หลังจากได้ข้อมูลแล้วส่งให้ทีมวิศวะคำนวณดูว่าถ้ากล่องบางลงจะมีโอกาสเกิดปัญหาลังแตกแค่ไหน ทาง AE ช่วยประสานงานและสรุปยอดค่าเสียหายทั้งหมดด้วย อีก 2 ชั่วโมงเราค่อยมาคุยกันอีกที ตอนนั้นน่าจะได้ข้อมูลมากพอแล้ว"
ทุกคนพยักหน้างึดๆ เห็นด้วยกับวิธีของเลขาสาว จนไม่มีใครโต้แย้งอะไรออกมาอีก และรีบไปจัดการหน้าที่ในส่วนของตนเอง
ยังไม่ทันจะเริ่มงาน แพรวาก็รู้สึกเหมือนพลังงานในร่างกายถูกสูบออกไปจนหมด เธอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ร่างเล็กขึ้นลิฟต์มายังชั้นบนสุดและจัดเตรียมเอกสารสำหรับเจ้านายหนุ่มเช่นปกติ เธอเหลือบมองนาฬิกาบนโต๊ะก็รู้สึกแปลกใจที่ยังไม่เห็นประธานหนุ่มเหมือนทุกวัน
แอ๊ดดด~
เสียงเปิดประตูห้องทำงานทำให้หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อหันกลับไปก็พบใบหน้าเฉยชาของบุคคลที่เธอกำลังคิดอยู่เปิดประตูออกมา
แพรวารีบลุกขึ้นโค้งทำความเคารพ โอนิกซ์ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาคมของเขากลับฉายแววหงุดหงิดไม่พอใจจนเธอรู้สึกได้
"เอ่อคือ..."
"ขอกาแฟ"
อีกฝ่ายแทรกขึ้นมาก่อนและหมุนตัวกลับเข้าห้องทันที ปล่อยให้เลขาสาวมึนงงกับทีท่าของเขา
แพรวาสะบัดหัวเรียกสติ การประชุมเมื่อครู่ทำสมองเธอทำงานอย่างหนัก และยังต้องขบคิดถึงวิธีการรับมือในขั้นต่อไปอีก ก่อนที่หญิงสาวลุกไปชงกาแฟร้อนตามที่ประธานหนุ่มต้องการ
ไม่ใช่ว่าโอนิกซ์ขี้เกียจหรือไม่สนใจบริษัท แต่ประธานหนุ่มไม่ชอบคนโง่ไร้สมอง เขาชอบคนมีความคิด รู้จักรับมือและแก้ไขสถานการณ์ได้ ดังนั้นเมื่อเจอปัญหาแต่ละครั้ง จะต้องมีแนวทางแก้ไขมาเสนอพร้อมกัน และประธานหนุ่มจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะแก้ไขอย่างไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตค่ะ"
"เชิญ"
เมื่อได้ยินเสียงภายในตอบรับแพรวาก็ก้มหน้าเดินตัวลีบเข้ามายังห้องทำงานกว้าง แม้จะไม่ได้มองเขา แต่สายตาเย็นเฉียบของประธานที่มองมาก็ทำให้เธอขนลุกวาบ ราวกับเธอไปทำเรื่องอะไรให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจ
"กาแฟค่ะ" แพรวาค่อยๆ วางแก้วกาแฟหอมกรุ่นบนโต๊ะทำงานช้าๆ แต่วันนี้โอนิกซ์กลับพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เธอจะแจ้งรายงานประจำวัน
"เธอตั้งใจใช่ไหม"
"คะ?"
ร่างเล็กในชุดเสื้อผ้าหลวมโครกเงยหน้าขึ้น มองกลับด้วยความมึนงง
"นัดกินข้าวเมื่อวาน เธอรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าคุณไพศาลพยายามจะจับคู่ฉันกับลูกสาวเขา"
"เอ่อคือ..."
"ตอบ!"
น้ำเสียงเข้มดุดันบวกกับสายตาภายใต้กรอบแว่นจ้องมาอย่างคาดคั้น ทำให้แพรวาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับไปตรงๆ
"ค่ะ คุณไพศาลขอมาค่ะ ว่าไม่ต้องให้วาเดินทางไปด้วย" ร่างเล็กก้มหน้างุด ตอบเสียงอ่อย
"ใครเป็นเจ้านายเธอกันแน่"
"ขอโทษค่ะ"
"อย่าให้มีครั้งหน้าอีก เธอไม่ได้มีหน้าที่จับคู่ฉันให้ใคร"
"ทราบแล้วค่ะ"
ร่างสูงเงียบไป คว้าแก้วตรงหน้าขึ้นมาจิบ ปล่อยให้ความขมเข้มข้นของกาแฟค่อยๆ แทรกซึมผ่านลิ้นลงสู่ลำคอ
แพรวาลอบมองท่าทีของเจ้านายอีกครั้ง เมื่อเห็นเขาไม่ได้พูดอะไรต่อจึงเริ่มรายงานตารางงานให้ชายหนุ่มฟังตามปกติ และแจ้งเรื่องปัญหาสินค้าเสียหายต่อ
โอนิกซ์นั่งฟังเธอเงียบๆ โดยใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยตามเดิม ไม่แสดงท่าทีหงุดหงิดไม่พอใจแต่อย่างใด เหม่อมองไปทางอื่นราวกับตกอยู่ในห้วงความคิด จนกระทั่งเธออธิบายจบ เขาจึงวางแก้วในมือและหมุนเก้าอี้ทำงานมาทางเธอ เรียวขากำยำใต้กางเกงสแล็คถูกยกขึ้นไขว้ในท่าทีสบายๆ โอนิกซ์วางแขนข้างหนึ่งกับพนัก อีกข้างยกเท้าคาง
"คิดว่าจะจัดการปัญหานี้ยังไง" น้ำเสียงทุ้มราบเรียบไร้อารมณ์ถามขึ้น
"วาคิดว่าจะเสนอให้ช่วยลูกค้ารับผิดชอบค่าเสียหายประมาณ 30% ของทั้งหมดค่ะ"
แพรวาคาดไว้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มต้องถามความเห็น จึงเสนอสิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้ออกไป
"ไหนเธอบอกว่าปัญหาเกิดจากกล่องบรรจุลูกค้าไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องช่วยรับผิดชอบ เธอกำลังทำให้บริษัทเสียเปรียบรู้หรือเปล่า" คำพูดเชิงตำหนิและสายตาเย็นชาของเขา คงทำให้คนอื่นตัวสั่นหวาดกลัวจนต้องขอโทษที่พูดอะไรโง่ๆออกไป แต่ไม่ใช่กับแพรวา
"วาลองประเมินค่าเสียหายลูกค้าแล้วคร่าวๆ ประมาณ 3 แสนกว่าบาท ดังนั้นเราช่วยทางนั้นแค่ 9 หมื่นบาท เพื่อแสดงน้ำใจ ก่อนจะแจกแจงให้ลูกค้าฟังถึงปัญหาว่าทางบริษัทไม่ได้มีส่วนผิด และให้ทางบริษัท Fruity Thailand ไปจัดการแก้ไขปัญหาต่อเอง อีกทั้งอีก 4 เดือนจะมีการเซ็นสัญญาใหม่ ทางเรามีการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งในปีนี้ การแสดงความจริงใจเล็กน้อยน่าจะช่วยให้อีกฝ่ายตัดสินใจต่อสัญญากับเราได้ง่ายขึ้นค่ะ"
"..."
"..."
ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไปหลังจากที่แพรวาอธิบายความคิดเห็นของเธอจบ ร่างเล็กลอบกลืนน้ำลาย รู้ว่าท่าทางเมื่อครู่ของตนเองช่างขัดแย้งกับบุคลิกที่พยายามสร้างขึ้นมาแค่ไหน
ภายในห้องเงียบสนิทมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำเท่านั้น แต่สายตาประเมินอย่างโจ่งแจ้งของประธานหนุ่มที่จ้องเธอไม่วางตา ทำให้แพรวาเริ่มรู้สึกถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ซึมตามไรผม
"แล้วรายงานให้ฉันรู้ด้วยว่าลูกค้าว่าไง"
โอนิกซ์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ก่อนจะขยับเก้าอี้กลับไปทางโต๊ะตามเดิม และเริ่มลงมืออ่านเอกสารกองโต
ร่างเล็กยิ้มกว้าง เมื่อความเห็นของเธอได้รับการอนุมัติ รีบโค้งตัวและหมุนกายจากไปเพื่อไปจัดการปัญหาที่คั่งค้างต่อให้เสร็จ
เมื่อเข้าประชุมอีกครั้งทุกอย่างก็ราบรื่นผิดกับเมื่อเช้า และตามที่เธอคาด ลูกค้าได้มีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนการผลิตแต่กลับไม่ได้มาตรฐาน หลังจากเปรมส่งหลักฐานให้อีกฝ่ายดู ทางนั้นก็มีน้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด และยังขอบคุณที่ทางบริษัทจะช่วยเหลือค่าเสียหายทั้งที่ไม่มีความผิด แผนซื้อใจของแพรวาดูเหมือนจะได้ผลดีทีเดียว
หัวหน้าฝ่ายต่างๆ มีสีหน้าดีขึ้น นึกขอบคุณเลขาสาวที่สามารถจัดเตรียมวางแผนรับมือแก้ไขปัญหาได้ดีเช่นนี้ จนเป็นที่ยอมรับกันทั่ว
ช่วงบ่าย แพรวามีเข้าประชุมพร้อมโอนิกซ์อีกเกือบ 2 ชั่วโมง เขาพูดเพียงไม่กี่ประโยคแต่กลับสามารถทำให้เหล่าหัวหน้าอาวุโสของบริษัทหน้าถอดสี จนแพรวาเกือบจะโทรเรียกรถพยาบาลมาสแตนด์บายรอเสียแล้ว
หญิงสาวก้าวยาวๆ เพื่อเร่งเดินให้ทันประธานหนุ่มที่เดินกลับห้องทำงาน พลางหอบเอกสารกองโตแนบอกมาด้วย
ปึก!
แต่แล้วคนตรงหน้าจู่ๆ ก็หยุดกะทันหัน ทำให้เลขาสาวที่รีบเร่งเดินตามชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างเต็มแรง จนล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น แฟ้มเอกสารหล่นกระจาย
โอนิกซ์ถอนหายใจ ส่ายหน้าระอา เหลือบมองความซุ่มซ่ามของเธอด้วยแววตากึ่งสมเพชกึ่งสะใจ ก่อนจะแสดงความมีน้ำใจโดยการพูดว่า
"รีบลุกขึ้นมา แล้วตามฉันเข้ามาในห้อง"
ว่าจบประธานหนุ่มก็หมุนกายเดินจากไปทันที แพรวาได้แต่มองค้อน ก่นด่าความเย็นชาของเขาในใจตามหลังไป พลางก้มเก็บแฟ้มที่หล่นเกลื่อนเพื่อไปจัดวางที่โต๊ะทำงานของเธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา"
เธอถอนหายใจ พยายามตั้งสติเพื่อรับมือกับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง ก่อนจะผลักประตูเข้าไป
"ค่ะ เรียกวามีอะไรเหรอคะ"
"อะนี่"
แพรวามึนงง มองการ์ดสีดำเงาในมือของชายหนุ่มที่ยื่นมาให้อย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมเหรอคะ"
"ถือว่าเป็นโบนัสที่จัดการปัญหาได้ดี อยากได้อะไรก็เอาการ์ดนี่ไปรูดซะ ฉันให้หนึ่งอย่าง"
คำเฉลยของประธานหนุ่มทำดวงตากลมโตใต้แว่นหนาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจและตื้นตัน มือบางสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้นขณะยื่นไปรับบัตรเครดิตใบหรูของอีกฝ่าย
"อะ...อะไร...ก็ได้เหรอคะ" แพรวาย้ำถามอีกครั้งราวกับไม่เชื่อหู
"อืม อะไรก็ได้...เลือกดีๆ คงรู้ว่าฉันไม่ได้ใจดีบ่อยๆ"
"ขอบคุณค่ะ"
หญิงสาวยิ้มกว้างกุมบัตรเครดิตในมือแน่น หัวใจพองโตอย่างประหลาดเมื่อได้รับการยอมรับจากโอนิกซ์ ตลอดเวลาที่เธอทำงานกับเขา แทบไม่เคยได้รับคำชมใดๆ ทั้งที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างมาก แต่เขาก็ทำเพียงพยักหน้ารับ แต่หากทำอะไรผิดพลาด ชายหนุ่มมาดขรึมตรงหน้าก็พร้อมจะเชือดเฉือนด้วยคำพูดเจ็บแสบจนเธอแทบมุดแผ่นดินหนี
โอนิกซ์ชะงักค้างไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเลขาสาวชัดๆ อกซ้ายวูบโหวงแปลกๆ ตาเขาคงเบลอไปเสียแล้วถึงเห็นยัยเฉิ่มน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมาได้ ร่างสูงสะบัดมือเป็นสัญญาณไล่เธอออกไป
"ใช้เสร็จก็เอามาคืนซะ"
"ได้ค่ะ"
แพรวาแทบกระโดดตัวลอยออกจากห้อง ความหงุดหงิดเมื่อครู่ที่เขาเป็นต้นเหตุจนเธอล้มไปกองกับพื้นหายวับไปกับตา
โอนิกซ์ส่ายหัวกับท่าทางเด๋อด๋าของเลขาส่วนตัว ช่างดูไม่ต่างจากเด็กได้ของขวัญ สมองเฉียบคมคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าเธอจะซื้ออะไรหลังจากโดนเขาโขกสับใช้งานมาหลายปี หวังว่าเธอคงจะไม่ซื้อบ้าน งานนี้อาจมีหมดตัว
ประธานหนุ่มรับรู้มาเสมอถึงความทุ่มเทในงานของแพรวา และความสามารถของเธอก็เป็นที่พอใจเขามาก ไม่เช่นนั้นเงินเดือนของเลขาสาวคงไม่เหยียบ 6 หลักเช่นนี้
เขาเคี่ยวเข็ญกดดันเพื่อให้เธอพัฒนาฝีมือจนสามารถตอบสนองทุกความต้องการของเขาโดยไม่ต้องสั่งด้วยซ้ำ ครั้งนี้จึงมอบรางวัลการทำงานเป็นการตอบแทนเสียหน่อย
ติ้ง~
เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ดังขึ้น ประธานหนุ่มหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนที่ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาจะเผยรอยยิ้มที่นานๆ ครั้ง ถึงจะปรากฏ
'14:53 ยอดหักบัตรเครดิต 249.00'
เลขาของเขาช่างมีอะไรให้ประหลาดใจได้เสมอจริงๆ