บทที่ 6 เรือนกายที่งดงาม
บทที่ 6 เรือนกายที่งดงาม
หลัวม่อเยียนเดินทางกลับมาที่วังหลวงด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นและกังวลเป็นอย่างยิ่ง ทันทีที่ได้รับรู้ถึงวิธีการของนักพรตชราผู้นั้น เขาก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เขามิอาจปกครองไท่หยางได้อย่างสงบสุข เพราะเขามีดวงชะตาที่เหล่าเทพมิยอมรับ ต่อให้เขาจะกราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้องตามหลักสักกี่ครา ก็มิอาจลบล้างดวงชะตาบัดซบเช่นนี้ออกไปได้!!!
มีเพียงวิธีการเดียว นั่นก็คือ?
สังเวยคนเป็นบูชายัญปีศาจมังกรเพียงเท่านั้น!!!
พิธีการนี้ออกจะโหดเหี้ยมอำมหิตในความคิดของเขาเป็นอย่างมาก นักพรตบอกว่าดวงชะตาของเขาเปลี่ยนแปลงได้ยากยิ่ง แต่ก็มิใช่ว่าจะอับจนหนทางเสียทีเดียว
ฮ่องเต้เปรียบเสมือนมังกร มีทางเดียวที่จะช่วยให้เขาได้สมใจปรารถนา นั่นก็คือการบูชาปีศาจมังกร ใช้เลือดของสตรีเซ่นสังเวยปีศาจมังกรในคืนที่แสงจันทร์สว่างที่สุด เพื่อให้พลังของปีศาจมังกรช่วยหนุนนำดวงชะตาของเขาให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดทอนพลังของธิดาเทพและเหล่าเทพที่คุ้มครองไท่หยางให้อ่อนแรงลง ไม่ให้มีพลังอยู่เหนือดวงชะตาของเขาได้
นักพรตชราเรียกพิธีกรรมนี้ว่า พิธีโกงชะตาดวงเมือง!!!
พิธีนี้มิค่อยมีผู้ใดทำกันมากนัก เพราะมันเป็นการท้าทายอำนาจของเหล่าเทพ อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนดวงชะตาเมืองหลวงให้ผิดแปลกไปจากที่มันควรจะเป็น
ตามหลักแล้ว เทพจะคุ้มครองเมืองหลวงไท่หยางให้ปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายโดยส่งพลังผ่านทางเหล่าธิดาเทพ แต่สิ่งที่นักพรตชราแนะนำให้เขาทำ มันคือการทำสิ่งที่ตรงกันข้าม คือการบูชาปีศาจมังกรให้มาลดทอนพลังเทพให้อ่อนแอลง!!!
เขาเองยังมิได้ยอมรับพิธีกรรมนี้จากนักพรตชรา เพียงแค่รับฟังไว้เท่านั้น นักพรตชราเองก็มิได้เร่งรัดเขาเช่นกัน หลัวม่อเยียนยังคงเชื่อว่าเขาสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยตนเองอยู่
ด้านโจวอวี้หลันนั้น นางยังคงคอยตามติดชีวิตของหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงไม่ยอมลดละ แม้จะถูกเขาผลักไสอีกสักกี่ครา แต่ทว่านางก็ยังไม่ละความพยายามแม้แต่น้อย
โจวอวี้หลันมักจะชอบไปอยู่ในโรงครัวเพื่อช่วยป้าหลิวทำอาหารอยู่บ่อยครั้ง และนั่นทำให้นางได้พบกับแมวตัวอ้วนสีดำและสีขาวที่แสนน่ารัก มีคราหนึ่งที่พวกมันปีนขึ้นไปบนต้นไม้และลงมาไม่ได้ ส่งเสียงร้องลั่น ก็ได้นางที่ช่วยปีนไปอุ้มมันลงมาทั้งสองตัว นางน่ะชื่นชอบแมวเป็นที่สุด
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเจ้าแมวอ้วนสองตัวก็แวะเวียนมาเล่นกับนางอยู่บ่อยครั้ง นางเองก็มักจะทำปลาตากแห้งเอาไว้รอเจ้าแมวอ้วนสองตัวมากินอีกด้วย
ในคืนหนึ่ง โจวอวี้หลันกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง แต่ทว่านางกลับต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายขึ้นมาเต็มใบหน้าสวย โจวอวี้หลันรู้สึกว่านางหายใจไม่ทั่วท้อง ราวกับว่าในฝันนั้น นางกำลังวิ่งหนีบางสิ่งที่น่าหวาดกลัว คล้ายหนีใครบางคนที่กำลังบูชาบางสิ่งบางอย่างอยู่!!!
ฝันเช่นนั้นอีกแล้ว!!!
เหตุใดนางจึงฝันเห็นพิธีกรรมประหลาดเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันนะ!
โจวอวี้หลันพยายามครุ่นคิดเช่นไรก็คิดไม่ออก ยามนี้อากาศก็ช่างร้อนอบอ้าวไม่น้อย อีกทั้งนางยังเหนียวตัวยิ่งนัก จึงอยากจะไปล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อย
เมื่อคิดได้เช่นนั้น โจวอวี้หลันจึงเดินออกมาจากเรือนนอน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่อาบน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก ที่ตรงนั้นเป็นที่อาบน้ำสำหรับสาวใช้ในจวน แต่ทว่านางกลับเห็นบางสิ่งวิ่งผ่านหายไปในความมืด คล้ายกับมีสีดำสีขาวสลับกัน แต่ทว่าโจวอวี้หลันก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก นางใช้มือวักน้ำขึ้นมาชะล้างตามท่อนแขนสวยและตามเรือนกาย เมื่อรู้สึกว่าเริ่มสบายกายแล้ว นางจึงหันหลังเตรียมตัวกลับเรือนนอน แต่ทว่ากลับได้พบหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงเสียก่อน
หลัวเยี่ยนเจ๋อขมวดคิ้วมองนางอย่างไม่เป็นมิตร แตกต่างจากหลัวเทียนเฉิงที่อยากจะยื่นมือไปบีบขยำหน้าอกอวบใหญ่ของนางใจจะขาด
"คารวะท่านอ๋องทั้งสองเพคะ"
"เจ้าออกมาทำสิ่งใดยามดึกเช่นนี้?"
หลัวเยี่ยนเจ๋อเอ่ยถามโจวอวี้หลันด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"หม่อมฉันรู้สึกร้อนน่ะเพคะ จึงออกมาล้างตัวเสียหน่อย"
"ล้างตัวยามค่ำคืนเช่นนี้?"
"เพคะ"
"หึ!!! เจ้าคงคิดจะมายั่วยวนบ่าวไพร่ในเรือนข้าสินะ ไร้ยางอายสิ้นดี!!!"
โจวอวี้หลันกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เขาเจอหน้านางทีไรก็ต่อว่านางเช่นนี้ตลอด เขาจงเกลียดจงชังนางถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
"อาเยี่ยน อย่าเสียเวลากับนางเลย เราไปตามหาอาลู่อาชิงกันก่อนเถิด"
หลัวเทียนเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน แต่ทว่าสายตายังไม่ละไปจากหน้าอกสวยของนางเลยแม้แต่น้อย
โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้น ก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้
เอ๋? หรือว่าบางอย่างที่นางเห็นเมื่อครู่ คืออาลู่อาชิงที่หลัวเทียนเฉิงเอ่ยถึง
พวกเขามีบุตรแล้วหรือ?
เหตุใดเด็กน้อยจึงวิ่งเร็วยิ่งนักเล่า? เหมือนกับไม่ใช่คนเลย?
ช่างเถิด!!! ว่ากันว่าบุรุษที่มีบุตรแล้วประสบการณ์แน่นทุกคน!!!
"เอ่อ หม่อมฉันคล้ายเห็นอาลู่อาชิง วิ่งไปที่ท้ายสวนนั่นน่ะเพคะ"
หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบหันกลับมามองนางทันที
"เจ้าพูดจริงหรือ?"
หลัวเทียนเฉิงหันมาเอ่ยถามโจวอวี้หลันทันที เมื่อเห็นว่านางพยักหน้าเขาจึงส่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง
โจวอวี้หลันรู้สึกราวกับว่า เทพเซียนสวรรค์กำลังส่งยิ้มทักทายนาง ในใจก็พลันเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง
"ไสหัวไปช่วยข้าตามสิ!!! จะจ้องหน้ากันอีกนานไหม!!!"
หลัวเยี่ยนเจ๋อตะคอกโจวอวี้หลันและหลัวเทียนเฉิงเสียงดัง จนคนทั้งสองสะดุ้งโหยง ในใจของเขารู้สึกไม่พอใจที่เห็นหลัวเทียนเฉิงไปใกล้ชิดกับโจวอวี้หลันเช่นนั้น
แทนที่เขาจะได้มีส่วนร่วมด้วย!
ไม่สิ!!! นี่ข้าคิดสิ่งใดกัน!!!
หลัวเยี่ยนเจ๋อส่ายหน้าไปมา พยายามไล่ความคิดที่น่ารังเกียจนี้ออกไปจากความคิดของตนเสีย
โจวอวี้หลันไม่รอช้านางรีบเดินนำทางพวกเขาทั้งสองไปที่ท้ายจวนทันที มือสวยก็พยายามจับชุดที่สวมใส่เอาไว้แน่น เพราะชุดของนางบางเบา อีกทั้งยามนี้มันยังเปียกน้ำอีกด้วย จึงทำให้นางเดินเหินค่อนข้างลำบากไม่น้อย
เมี้ยว!
เสียงแมวส่งเสียงร้องอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น เหตุใดจึงมีเสียงแมวเล่า? แล้วไหนกันบุตรของพวกเขา?
"อาลู่ลูกรักของพ่อ!!!"
"อาชิงของพ่อ!!!"
โจวอวี้หลันจ้องมองแมวตัวอ้วนสีดำและสีขาวสองตัวที่อยู่ในอ้อมกอดของหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงด้วยแววตาที่สงสัย
อย่าบอกนะว่าอาลู่อาชิงที่พวกเขาตามหาคือเจ้าแมวอ้วนสองตัวนี้?
โอ้วว!!! นั่นมิใช่เจ้าแมวอ้วนสองตัวนั่นหรอกหรือ?
อาลู่แมวดำจ้องมองโจวอวี้หลันอย่างไม่ละสายตา อาชิงแมวอ้วนขาวก็เช่นกัน มันพยายามดิ้นให้หลุดจากการกอดของหลัวเทียนเฉิงก่อนจะกระโดดพุ่งตัวเข้าไปหาโจวอวี้หลันทันที
ด้านอาลู่เองก็ไม่ยอมเช่นกัน มันหันไปแยกเขี้ยวใส่หลัวเยี่ยนเจ๋อ ก่อนจะกระโดดออกจากการเกาะกุมของเขา หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปาก พลางครุ่นคิด
หึ!!! สงสัยอาลู่อยากจะกระโดดไปตะปบหน้านางสินะ!!!
ด้านหลัวเทียนเฉิงก็ตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นอาชิงวิ่งเข้าไปหาโจวอวี้หลันเช่นนั้น
"เจ้าแมวอ้วนนน!!!"
อาลู่กับอาชิงต่างวิ่งไปคลอเคลียนางราวกับรักใคร่นางมาเนิ่นนานอีกทั้งยังยอมให้นางอุ้มมันอีกด้วย หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่ทว่าหลัวเทียนเฉิงกลับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
ไม่ง่ายเลยที่อาชิงจะยอมเข้าใกล้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เขา แม้แต่ยามนี้มันก็ยังไม่ตบตีอาลู่อีกด้วย
หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหตุใดอาลู่ลูกรักของเขา จึงยอมให้นางอุ้มได้ง่ายดายเช่นนี้
"ปล่อยแมวข้าเดี๋ยวนี้!!!"
"เอ่อ... เจ้าดำอ้วนนี่น่ะหรือเพคะ"
"ลูกข้าชื่ออาลู่!!! โอ๊ะ!!! อาลู่เจ้าตะปบหน้าพ่อด้วยเหตุใดกัน!!!"
หลัวเยี่ยนเจ๋อถูกอาลู่ยื่นฝ่ามือมังคุดสะท้านภพตะปบเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง พร้อมกับแยกเขี้ยวใส่เขา ด้านอาชิงเองก็คลอเคลียซบใบหน้าลงไปบนไหล่ของโจวอวี้หลันอย่างออดอ้อน
"ดูแล้วอาชิงน่าจะชอบเจ้าไม่น้อย"
โจวอวี้หลันหันไปมองหลัวเทียนเฉิงคราหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา พลางยื่นอาชิงส่งคืนให้เขาด้วย ไม่รู้เพราะเหตุใดยามที่นางสบตากับเขา นางก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา หลัวเทียนเฉิงเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ด้านหลัวเยี่ยนเจ๋อที่ยื่นมือไปดึงอาลู่ออกมาจากโจวอวี้หลัน แต่อาลู่กลับดื้อดึงไม่เชื่อฟังเขา เขาจึงออกแรงดึงมากกว่าเดิม จนกระทั่ง...
"ว้าย!!!"
"โอ๊ะ!!!"
เสื้อผ้าของโจวอวี้หลันเองก็เปียกน้ำและบางเบาอยู่แล้ว เมื่อถูกเขาดึงทึ้งรุนแรงเช่นนี้ เสื้อผ้าอาภรณ์ของนางจึงหลุดร่วงลงไปกองกับพื้นทันที
โจวอวี้หลันตกใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก หลัวเยี่ยนเจ๋อเองก็ตกใจเช่นกัน แต่ทว่าเขากลับละสายตาจากหน้าอกอวบสวยของนางไม่ได้เลย
หลัวเทียนเฉิงเองก็ไม่ต่างกัน เขาจ้องมองเรือนร่างของนางอย่างไม่ลดละเช่นเดียวกับผู้เป็นแฝดพี่
โอ้วววว ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว นอกจากหน้าอกนางจะใหญ่โตเท่าภูเขาแล้ว สองกลีบล่างของนางยังหนาและอูมมากอีกด้วย!!!
โจวอวี้หลันรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งหนีหายกลับเรือนไปทันที ให้ตายเถอะ!!! นางไม่คิดว่าเขาจะกล้าดึงนางจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเช่นนี้
ด้านหลัวเทียนเฉิงนั้นก็รู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งลำแท่งแล้ว น่าเสียดายยิ่งนักที่หลัวเยี่ยนเจ๋อไม่ชอบนาง มิเช่นนั้น เขาคงได้กกกอดนางไปนานแล้ว
ด้านหลัวเยี่ยนเจ๋อนั้น เมื่อกลับมาที่ห้องนอนของตนเองแล้ว เขาก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกจนหมด และรูดชักลำแท่งเอ็นร้อนอีกครา
"ซี้ดดด ข้าเกลียดนาง โอ้วววว!!!"
เขาเร่งสาวชักลำแท่งแก่นกายให้เร็วแรงยิ่งกว่าเดิม พลางก่นด่าโจวอวี้หลันไปด้วย
"อื้อออ ซี้ดดดดด!!! สตรีต่ำช้า!!!"
"ท่านอ๋องงง โอ๊ะ!!!"
ปิ้ววว!!!
พ่อบ้านเฉียวกำลังยกสุราเข้ามาถวายให้หลัวเยี่ยนเจ๋อ แต่ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามา น้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งเข้ามาสาดใส่ใบหน้าชราของเขาอีกคราจนเปียกชุ่มไปหมด
"ท่านอ๋องงง!!! กระหม่อมเหนียวหน้าพ่ะย่ะค่ะ!!!"
"ไปล้างสิ!!! โง่เสียจริง!!!"
พ่อบ้านเฉียวนี่ก็อะไรนักหนา!!! มาไม่ดูเวล่ำเวลาเช่นนี้ สั่งโบยร้อยไม้สักทีดีหรือไม่!!!