เชลยรักดอกท้อ

89.0K · จบแล้ว
องค์หญิงโนเนม
41
บท
16.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาคือองค์ชาย ส่วนนางคือเชลย เดิมทีคิดว่าจะต้องได้รับความอัปยศเป็นแน่ แต่ผู้ใดจะรู้กันเล่าว่าดอกท้อดอกนี้จะไปทำให้จิตใจของเขาหวั่นไหวจนถอนตัวจากนางไม่ขึ้นได้ถึงเพียงนี้ แท้จริงแล้วผู้ใดคือเชลยกันแน่

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายย้อนยุคเกิดใหม่ในนิยาย

บทที่ 1 หญิงสาวผู้น่าสงสาร

บทที่ 1 หญิงสาวผู้น่าสงสาร

ชายแดนแคว้นหนานเหยา

"ย๊ะ!!!"

เสียงกีบเท้าม้ายามนี้ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งชายแดน สร้างความหวาดหวั่นระทึกให้แก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นไม่น้อย ยามนี้สงครามสี่แคว้นกำลังปะทุหนัก ทำให้ใต้หล้านองไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตและซากศพนับไม่ถ้วน

"หวานหว่าน เจ้ามัวแต่ดูอันใดอยู่ รีบมาซักผ้าให้ข้ากับพี่สะใภ้และพี่เขยของเจ้าเร็วเข้าสิ!!!"

เสียงเรียกของผู้เป็นพี่ชาย ทำให้ ซ่างกวนหว่านเย่ว์ ต้องละสายตาจากการมองดูเหล่าขบวนทหารที่ควบม้าผ่านไปในทันที หญิงสาวขานรับคำเพียงสั้นๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่ด้านหลังของจวน ก่อนจะลงมือซักผ้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน

นางมีนามว่าซ่างกวนหว่านเย่ว์ เป็นบุตรสาวคนเล็กของจวนตระกูลซ่างกวน ตระกูลของนางในอดีตเคยเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในเขตอำเภอซางตง อำเภอที่อยู่ติดกับแถบชายแดนแคว้นหนานเหยา ก่อนสงครามจะปะทุหนัก การค้าขายของตระกูลนางนับว่าดีไม่น้อย แต่เมื่อสงครามลุกลามบานปลายทำให้การค้าที่เคยทำเงินได้มาตลอดล้มเหลวไม่เป็นท่า กิจการจึงต้องปิดลง ท่านพ่อของนางจำต้องออกไปหาผักป่าเพื่อนำมาขาย แต่ทว่าท่านพ่อกลับเดินเข้าไปในป่าลึกติดชายแดนแคว้นฉีทำให้โชคร้ายถูกพวกทหารแคว้นฉีสังหารทิ้ง ทั้งสี่แคว้นต่างแย่งชิงดินแดนกันอย่างบ้าระห่ำไม่สนใจความเป็นตายของราษฎร ขอเพียงล่วงล้ำเข้าไปใกล้ย่อมสังหารทิ้งทั้งหมด เมื่อท่านพ่อตายจากไปไม่นาน ท่านแม่ของนางที่รู้ข่าวว่าสามีไม่อยู่แล้วก็ตรอมใจตายจากไปด้วย มารดาของนางเป็นอนุของท่านพ่อ ตอนที่ท่านแม่แต่งเข้าจวน ท่านพ่อก็มีภรรยาเอกอยู่ก่อนแล้ว และยังมีบุตรสาวและบุตรชายสองคนคือพี่ชายและพี่สาวของนาง สองพี่น้องคู่นั้นไม่ทำการทำงานใดทั้งสิ้น เอาแต่ผลาญสมบัติของท่านพ่อ และยังไม่ยอมแยกจวนออกไปทั้งที่แต่งงานแล้ว

เมื่อท่านพ่อท่านแม่ตายจาก นางจึงตกที่นั่งลำบาก แม่ใหญ่ที่เกลียดชังว่านางงดงามกว่าบุตรสาวของตนและเป็นบุตรของอนุที่มาแย่งความักของสามีตนไป ย่อมไม่ยอมให้นางใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นสงบสุข เมื่อเงินที่มีเริ่มหมด พวกเขาจึงขายสาวใช้ออกไปเพื่อนำเงินมาหมุนใช้จ่าย และใช้นางทำงานทุกอย่างในจวนแทนสาวใช้เหล่านั้น ซ่างกวนหว่านเย่ว์ไม่มีที่ให้ไปจึงจำต้องอดทน มีบางคราที่นางทนไม่ไหวเผลอมีปากเสียงกับพี่สวพี่ชายก็มักจะถูกแม่ใหญ่ลงโทษเสมอ

หญิงสาวมีอายุเพียงสิบเจ็ดปี ใบหน้างดงามหวานล้ำอ่อนหวาน ผิวขาวนวลเนียนราวกับผลท้อที่แทบจะคั้นน้ำออกมาได้ บุรุษใดที่ได้พบเห็นนางต่างชื่นชอบทั้งสิ้น แต่เพราะบิดารักนางมากจึงยังไม่ยอมให้นางแต่งออกไป

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ซักผ้าเสร็จก็นำผ้าไปตาก ในขณะที่กำลังจะล้างมือก็เห็นกู้ชง สามีของพี่สาวตนเองเดินเข้ามาหา เขามองนางด้วยสายตาที่แทะโลม ซ่างหวานหว่านเย่ว์รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เพราะไม่อยากมีปัญหาจึงคิดจะหลีกเลี่ยงเขาเสีย แต่กู้ชงมีหรือจะยอม เดิมทีเขาชอบน้องภรรยาผู้นี้ไม่น้อย หากได้นางมาเป็นอนุชีวิตนี้ของเขาคงเหมือนกับขึ้นสวรรค์แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้นกู้ชงจึงเดินเข้ามาขวางหน้าของซ่างกวนหว่านเย่ว์เอาไว้ ก่อนจะเอ่ย

"น้องหวานหว่าน จะรีบไปที่ใดเล่า เจ้าซักผ้าเสร็จแล้วก็ไม่มีอันใดทำไม่ใช่หรือ อยู่สนทนากับข้าก่อนสิ"

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ไม่เอ่ยสิ่งใด นางเดินเบี่ยงกายหนีชายบ้าตัณหาผู้นี้ไปในทันที แต่ทว่ากู้ชงกลับยื่นมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้ และสวมกอดนางอย่างถือวิสาสะ ซ่างกวนหว่านเย่ว์ตกใจไม่น้อย จึงรีบเอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

"ปล่อยข้านะ!!!"

"มาให้ข้าหอมสักทีเถอะ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นซ่างกวนหว่านเย่ว์ก็ตื่นตกใจมากว่าเดิม นางพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากกู้ชง ในขณะที่กำลังยื้อยุดกันไปมา ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของซ่างกวนชิงกรีดร้องขึ้นมาเสียก่อน

"นังน้องสารเลว นี่เจ้าถึงขนาดกล้ายั่วยวนสามีของข้าเลยหรือ!!!"

เมื่อเอ่ยจบก็ตรงเข้ามาตบตีซ่างกวนหว่านเย่ว์ นางเจ็บจนทนไม่ไหวจึงผลักซ่างกวนชิงจนล้มลงไปกับพื้น ซ่างกวนชิงที่ถูกผลักก็โมโหกรีดร้องออกมาสุดเสียง แม่ใหญ่ที่่ได้ยินก็รีบออกมาดู ก่อนจะด่าทอซ่างกวนหว่านเย่ว์โดยไม่เอ่ยถามต้นสายปลายเหตุ

"นังตัวดี เจ้ามาขออาศัยกินข้าวบ้านข้าแล้วยังทำร้ายลูกสาวของข้าอีกอย่างนั้นหรือ เอามันไปขายแลกเงินเดี๋ยวนี้!!! ได้ยินว่ายามนี้พ่อค้าคนกลางต้องการหาสตรีไปเป็นทาส ขายมันออกไปเดี๋ยวนี้!!! ข้าทนมันมานานแล้ว!!!"

ซ่างกวนห่านเย่ว์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที

"แม่ใหญ่ พี่ชิงชิงทุบตีข้าก่อน พี่เขยก็คิดจะลวนลามข้า ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะเจ้าคะ"

แม่ใหญ่ปรายตามองซ่างกวนเย่ว์คราหนึ่ง และไม่สนใจนางอีก สั่งให้คนลากนางไปขายให้พ่อค้าคนกลางในตลาดทันที กู้ชงมองตามด้วยสายตาที่เสียดาย ส่วนซ่างกวนชิงก็เบ้ปากด้วยความสะใจ นางไม่ชอบน้องสาวคนนี้มาแต่ไหนแต่ไร หน้าตาของน้องสาวตัวดีงดงามกว่านาง อีกทั้งยังมีแต่คนชมชอบทั้งที่เป็นเพียงบุตรสาวของอนุ นางเกลียดมัน ด้านซ่างกวนไฉพี่ชายคนโตก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงยกสุราขึ้นดื่มและไม่สนใจเรื่องใดอีก

ตลาดมืดแถบชายแดนแคว้นหนานเหยา

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ถูกขายในราคาสองร้อยตำลึง ยามนี้นางกำลังยืนอยู่ในตลาดมืดด้วยความสิ้นหวัง ดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำตาไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่า ชีวิตของนางมันช่างเลวร้ายเหลือเกิน ไร้บิดามารดาแล้วยังถูกพี่น้องรังแก ซ่างกวนหว่านเย่ว์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตนอย่างลวกๆนางก็เป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง บอบบางไม่อาจสู้รบปรบมือกับบุรุษได้ ถูกขายมาที่นี่ต่อไปไม่รู้ว่าชะตาชีวิตจะเป็นเช่นไรต่อไป

ที่นี่คือตลาดมืดที่อยู่ในแถบชายแดนหนานเหยา พวกพ่อค้าคนกลางฉวยโอกาศตอนสงครามประทุ ลอบค้าประเวณีสตรีในเมืองของตนเองส่งไปปรนนิบัติผู้สูงศักดิ์ทั้งในแคว้นและต่างแค้วน หากินบนความทุกข์ยากแสนระทมของผู้คน เสียงหญิงสาวร่ำไห้ดังไม่ขาดสาย เมื่อพ่อค้าคนกลางได้ยินเช่นนั้นก็ตวาดเสียงดังลั่นจนพวกนางไม่กล้ามีปากมีเสียงอีก

"อีกหนึ่งชั่วยามจะมีผู้สูงศักดิ์มาเลือกสตรีงดงามไปให้เจ้านายของตน พวกเจ้าทำตัวดีดี เช็ดนำ้ตาเสีย เผื่อผู้ใดโชคดีมีวาสนาย่อมสุขสบาย เห็นหรือไม่ ข้าน่ะมีบุญคุณกับพวกเจ้าแค่ไหน"

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง มีบุญคุณหรือ ช่างกล้าเอ่ยออกมาได้

สิ้นเสียงของพ่อค้าคนกลาง ก็มีเสียงของสตรีน้อยนางหนึ่ง เอ่ยขึ้นมา

"บุญคุณมารดาเจ้าสิ เจ้าเอาพวกข้ามาขายกินชัดๆ เจ้ามันคนชั่ว หากินบนความทุกข์ยากของผู้อื่น!!! อั๊ก!!!"

สตรีน้อยนางนั้นมีอายุราวสิบหกปี นางยังเอ่ยไม่ทันบก็ถูกพ่อค้าคนกลางสั่งให้คนของตนใช้ผ้ารัดคอของนางจนตาย ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจไม่น้อย จะโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไปแล้ว คนเหมือนกันเหตุใดจึงทำกันได้ถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมองเห็นสตรีเป็นเครื่องมือระบายโทสะเช่นนี้

พ่อค้าคนกลางจัดการให้คนนำศพของสตรีโชคร้ายนางนั้นไปทิ้งไกลๆ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับสตรีที่เหลืออยู่

"พวกเจ้าดูเอาไว้เป็นเยี่ยงอย่าง อย่าคิดลองดีกับข้า!!!"

สตรีที่ถูกจับมาต่างก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจาใด ไม่นานนักก็มีบุรุษวัยกลางคนเดินเข้ามา ก่อนจะเอ่ยถามพ่อค้าคนกลาง

"สินค้าที่มาใหม่อยู่ที่ใด"

พ่อค้าคนกลางที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยตอบ

"เรียนใต้เท้า สินค้าในครั้งนี้นับว่ายอดเยี่ยมเลยขอรับ อยู่ทางนี้เชิญท่านเลือกดูตามใจชอบเลยขอรับ"

"ดี"

พ่อค้าคนกลางผู้นั้นเอ่ยวาจาประจบประแจงได้อย่างลื่นไหล ก่อนจะส่งสายตาแกมบังคับให้เหล่าสตรีที่ถูกขายมาไปยืนเรียงกันเป็นแถวให้ใต้เท้าผู้นั้นเลือกดู ซ่างกวนหว่าเย่ว์คือหนึ่งในสตรีที่ถูกจับมายืนเลือกเป็นสินค้า บุรุษวัยกลางคนมองสตรีคนแล้วคนเล่าก็ยังรู้สึกไม่ถูกใจ จนกระทั่งสายตาของเขามาหยุดอยู่ที่ซ่างกวนหว่านเย่ว์ ก่อนที่ดวงตาจะเป็นประกายด้วยความพึงพอใจ เขามองนางขึ้นลงราวกับกำลังมองสินค้าชั้นเลิศ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับพ่อค้าคนกลาง

"ข้าเลือกนาง นางมีคุณสมบัติตรงตามที่เจ้านายของข้าต้องการ"

ซ่างกวนหว่านเย่ว์หน้าซีดเผือด นางยังไม่ทันเอ่ยของคำเมตตาก็ถูกจับตัวไปเสียแล้ว พวกเขาพานางไปที่ที่หนึ่ง ก่อนจะจัดการอาบน้ำและแต่งตัวให้นางอย่างงดงาม แล้วจึงพานางไปยังกระโจมหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขา ยามนี้นางถูกพาข้ามชายแดนมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคือชายแดนของแคว้นใด

"ลงมา อย่าทำเสียเรื่อง หากยังไม่อยากตาย!!!"

บุรุษวัยกลางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่เห็นว่าครั้งนี้คงหมดหนทางหลีกหนีแล้ว จึงก้มหน้าลงเพื่อยอมรับชะตากรรม

หากตายไปเช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้พบเจอกับท่านพ่อท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์

หญิงสาวเดินเข้าไปในกระโจม โดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้น รอบด้านมีเพียงเสียงเงียบ และกลิ่นยาที่คละคลุ้ง ซ่างกวนหว่านเย่ว์ขมวดคิ้วมุ่น กลิ่นยาภายในกระโจมมันทำให้นางรู้สึกปวดหัวไปหมด

"นี่น่ะหรือสตรีที่เจ้าหามาได้ตรงตามที่ข้าต้องการ"

"พ่ะย่ะค่ะฉีอ๋อง"

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่ได้ยินก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ฉีอ๋องอย่างนั้นหรือ ที่นี่คือแคว้นฉีใช่หรือไม่!!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็รู้สึกโกธรแค้นขึ้นมา คนแคว้นฉีสังหารบิดาของนาง ทำให้มารดาของนางตรอมใจตาย ยามนี้นางกลับมาเหยียบอยู่บนผืนแผ่นดินของศัตรู ยิ่งคิดยิ่งน่าแค้นใจเหลือเกิน!!

แต่แม้จะแค้นใจเพียงใดนางก็เป็นเพียงแค่สตรีบอบบางจะสู้อันใดได้ หากไม่เชื่อฟังไม่ตามน้ำย่อมไม่อาจรักษาชีวิตของนางได้ จำต้องกล้ำกลืนความอัปยศนี้ลงท้องไปเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ฉีอ๋องปรายตามองสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"เงยหน้าขึ้น"

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อนางมองไปเบื้องหน้าก็ถึงกับตกตะลึง

นั่นมัน!!

โลงศพ!!

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่เห็นเช่นนั้นก็ถอยหลังซวนเซไปหนึ่งก้าว พร้อมกับมองดูบุรุษวัยกลางคนที่มีตำแหน่งเป็นถึงฉีอ๋องด้วยแววตาที่หวาดหวั่น ฉีอ๋องยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ย

"งดงามยิ่งนัก บุตรชายข้าจะต้องชอบมากแน่ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก บุตรชายคนโตของข้ายังไม่ทันได้แต่งภรรยาก็ถูกมู่หรงจิ่งคนบัดซบสังหารเสียก่อน ลูกพ่อพ่อจะทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมาเอง ลากนางไปที่โลงศพของบุตรชายข้า ใช้เลือดของนางราดรดไปบนศพของบุตรชายข้า ทำพิธีตามที่ไต้ซือแนะนำ!!"

ซ่างกวนหว่านเย่ว์เริ่มหน้าซีดปากสั่น ต่อจากนั้นนางก็ได้ยินเสียงของชายคนที่ซื้อนางมาเอ่ยรับคำของฉีอ๋อง คำสนทนาของเขาที่นางได้ยินคือการหาหญิงสาวที่มีคุณสมบัติตามที่ไต้ซือตามหา เพื่อมาทำพิธีบูชายัญโดยการปาดคอและหลั่งเลือดของนางลงไปในโลงศพจนหมดตัว แล้วไต้ซือก็จะเริ่มทำพิธีปลุกคนตายให้สามารถฟื้นกลับคืนมาได้

นี่มันพิธีกรรมบ้าบออันใดกัน!!!

ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับเข่าอ่อน ให้ตายเถอะ สวรรค์!!! นี่พวกเขาเสียสติไปแล้วหรือ คนตายไปแล้วจะฟื้นขึ้นมาอีกได้เช่นไรกัน จะเหลวไหลกันไปใหญ่แล้ว ซ่างกวนหว่านเย่ว์คิดจะถอยหลังวิ่งหนี แต่กลับมีดาบยาวเล่มหนึ่งพาดลงมาบนลำคอของนาง

"อย่าคิดหนี!!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นใจของนางก็พลันกระตุกวาบ ยามนี้ไร้หานทางจริงแท้แน่แล้ว จะวิ่งก็ตาย หากไม่หนีก็ต้องตาย!!!

ในขณะที่สถาณการณ์กำลังย่ำแย่อยู่นั้น ก็มีทหารเข้ามารายงานด้วยความตื่นตระหนก

"ท่านอ๋อง แย่แล้วพ่ะย่ะคะ กองทัพของแคว้นซีหลงบุกโจมตีเข้าประตูเมืองชายแดนเข้ามาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!!!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉีอ๋องก็ลุกขึ้นยืนทันที เขาไม่ปรายตามองนางอีก รีบสั่งให้คนออกไปรับมือทันที ซ่างกวนหว่านเย่ว์ถูกขังเอาไว้กระโจมอยู่ร่วมกับศพของบุตรชายของฉีอ๋อง นางหวาดหวั่นไม่น้อย ดวงตาคู่สวยมองไปโดยรอบเพื่อหาทางหลบหนี แต่ยามนี้ด้านนอกคุมเข้มไม่อาจหลีกหนีออกไปได้

เสียงฆ่าฟันกันดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซ่างกวนหว่านเย่ว์รีบซุกตัวไปที่มุมด้านหนึ่งในกระโจม สวรรค์นางกลัวเหลือเกิน

ไม่นานเสียงของการฆ่าฟันก็จบลง ตามมาด้วยเสียงแหวกผ้าม่านกระโจมให้เปิดออก เมื่อนางหันไปมองก็พบกับบุรุษผู้หนึ่งที่สวมชุดเกราะทหาร ใบหน้าคมคายหล่อเหลาแต่ทว่าแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชา ผิวของเขาค่อนข้างเข้มเล็กน้อย แต่กลับดูโดดเด่นสูงส่งเหนือคนทั้งใต้หล้า เขาก้าวเดินเข้ามาก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน

"จะตายอยู่แล้วยังมีเวลามาอาลัยอาวรณ์บุตรชายที่ตายไปแล้วอีก หึ"

เขาเอ่ยจบก็โยนศีรษะของฉีอ๋องลงไปบนพื้นอย่างไม่สนใจ ศีรษะของฉีอ๋องกลิ้งมาตรงหน้าของซ่างกวนหว่านเย่ว์ ดวงตาของฉีอ๋องเบิกโพลงจ้องมองนางอย่างน่าหวาดกลัว ซ่างกวนหว่านเย่ว์ที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนกรีดร้องออดกมาสุดเสียง ทำให้มู่หรงจิ่งหันมามองด้วยสายตาที่เย็นเยียบ

ชั่วขณะนั้นสายตาของคนทั้งคู่สบประสานกัน เขามองนางขึ้นลงอย่างพิจารณนา สตรีตรงหน้าสวมชุดสีชมพูดูงดงามอ่อนหวาน กำลังนั่งตัวสั่นเทาอยู่อย่างน่าเวทนา

"องค์ชายสาม มิสู้สังหารนางดีหรือไม่ นางจะต้องเป็นสตรีคนสำคัญของฉีอ๋องเป็นแน่ บางคราอาจจะเป็นอนุ แต่จะว่าไปก็น่าเสียดายนะพ่ะย่ะค่ะ งดงามเพียงนี้"

มู่หรงจิ่งที่ได้ยินก็ปรายตามองทหารของตนคราหนึ่ง เหล่าทหารต่างก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจาใดอีก มู่หรงจิ่งจ้องมองซ่างกวนหว่านเย่ว์ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับทหารของตน

"จับตัวนางกลับไปที่ค่ายทหาร แล้วค่อยสืบสวน เผื่อว่านางจะรู้ว่าบุตรชายคนรองของฉีอ๋องหลบหนีไปที่ใด"

เหล่าทหารที่ได้ยินต่างรีบพยักหน้าทันที ซ่างกวนหว่านเย่ว์ยังไม่ทันได้พักก็ถูกคนลากออกไปอีกแล้ว ในหนึ่งวันนางถูกลากไปทางนั้นทีนท่างนี้ทีจนเวียนหัวไปหมดแล้ว!!!