บท
ตั้งค่า

เจ้าสาวไร้รัง-7 พายุอารมณ์ NC

"มึงกล้าตบหน้ากูเหรออีกาฝาก" ภูษิตเดินเข้าไปหานรีรัตน์ด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดขีด

"คุณภูมิหนูขอโทษค่ะ คุณภูมิ อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ"

ภูษิตเดินเข้ามาจับไหล่สองข้าง แล้วเหวี่ยงร่างของนรีรัตน์ลงกับพื้นกระเบื้องที่เย็นเฉียบอย่างแรง สายตาของเขานั้นเปรียญเสมือนเพลิงไฟที่พร้อมจะแผดเผาได้ทุกสิ่งที่ขว้างหน้า

"อย่างที่แม่กูบอก เป็นแค่การิอยากเป็นหงส์..แพศยาเลว!!.เลวมึงยังกล้าตบหน้ากูมึงต้องเจอแบบนี้!!!!" ภูษิตเอ่ยเสร็จก็กดร่างหญิงสาวให้จมกับพื้น แล้วถอดเข็มขัดราคาแพงของตนมามัดข้อมือของหญิงสาวไว้

"คุณภูมิ ฮึก.ฮึก.ฮื่อ อย่าทำอะไรหนูเลยหนูกลัวแล้ว หนูขอโทษ" หญิงสาวพยายามที่จะดิ้นหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่ก็เป็นไปได้ยากเพราะภูษิตนั้นได้ผูกข้อมือและได้ค่อมทับตัวเธออยู่ แววตาของเขาตอนนี้น่ากลัวมากด้วยอารมณ์โทสะ บวกกับที่ดื่มมาทำให้เขาโมโหมาก จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป

ภูษิตกระชากชุดนอนกระโปรงออกจากตัวนรีรัตน์จนขาดวิ่น เขาไม่สนใจเลยว่าหญิงสาวจะรู้สึกเจ็บหรือไม่ ตามด้วยบาร์เซีย และกระชากปราการด่านสุดท้ายออก ภูษิตใช้เข่าแยกขาของนรีรัตน์ออก จากนั้นก็รูดซิปถอดกางยีนราคาแพงลงมาแค่เข่า แล้วจับรูดท่อนเอ็นสองสามครั้งก่อนที่จะเสียบพรวดเข้าไปในร่างกายของหญิงสาวโดยไม่มีการเล้าโลมใดๆทั้งสิ้น

"อ๊ะ!!! กรี๊ดดดดดด!!!..ฮึก..ฮึก.ฮื่ออออ..เจ็บหนูเจ็บ..คุณภูมิหนูเจ็บอย่าทำได้ไหมคะ เอาออกไปได้ไหมหนูกลัวแล้ว" นรีรัตน์ร้องขอด้วยความเจ็บกลางใจสาวที่ถูกชายหนุ่มรุกล้ำ หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกายฉีกขาด เจ็บมันเจ็บเหลือเกินจนเธอแทบจะทนไม่ไหว

ชายหนุ่มได้แต่ขบกรามจนเป็นสันนูน เมื่อความคับแน่นของหญิงสาวรัดแก่นกายของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว ชายหนุ่มก็ไม่สนใจคำที่หญิงสาวขอ ภูษิตดันแก่นกายอีกครั้งจนสุด และนั้นเองเขาจึงได้รับรู้ว่าพรหมจรรย์ของนรีรัตน์นั้นถูกเขาทำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ

"อ๊ะ!!! ฮึก.ฮึก คุณภูมิ หนูเจ็บ" นรีรัตน์เอ่ยบอกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสะอื้น

"เจ็บ..ก็เรื่องของมึง อยากเป็นเมียกูนักก็ต้องทน คนร่านอย่างมึงเจอแบบนี้ยังน้อยไป"

เมื่อแก่นกายของชายหนุ่มดันเข้าจนสุดแล้วภูษิตเองก็ไม่รีรอ เพราะชายหนุ่มก็ทรมานต่อความคับแน่นของหญิงสาวไว้ไม่ไหวเช่นกัน จึงกดสะโพกของหญิงสาวเพื่อให้แก่นกายของเขาเข้าไปได้อย่างสะดวก ภูษิตอัดกระแทกแก่นกายเข้าไปไปอย่างหนักๆตามอารมณ์กรุ่นโกรธ และอารมณ์ความต้องการของตน

"ตั๊บบบ..ตั๊บบบ..ตั๊บบบ..อ่าาาาา..แน่นฉิบ"

"ซี้ดดดด โอ้ววว...แม่งดีว่ะ" ชายหนุ่มครางออกไป พร้อมกับรู้สึกดีที่ตนได้เป็นผู้ชายคนแรกของหญิงสาวใต้ร่างของตน

ตั๊บบบ..ตั๊บ..

ปึกกก..ปึก..ปึก..

ชายหนุ่มอัดกระแทกแก่นกายอย่างรุนแรงเข้าไปในกลางกายของหญิงสาว นรีรัตน์นั้นหัวสั่นหัวคลอนแผ่นหลังถูไถไปกับแผนกระเบื้อง จนเป็นรอยแดงและรอยถลอก ไม่ว่าจะเป็นปากและมือของภูษิตผ่านส่วนไหนของร่างกายหญิงเขาจะขบเม้ม กัด บีบเคล้น สร้างรอยบนร่างกายของหญิงสาวไปทุกส่วนที่ตัวชายหนุ่มได้สัมผัส

"ฮือๆๆ คุณภูมิหนูเจ็บ ฮือออ"

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง ภูษิตไม่สนใจคำขอร้องของหญิง เดินหน้าอัดกระแทกแก่นกายอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดชายหนุ่มก็กระตุกสองสามครั้ง พร้อมเปล่งเสียงคำรามออกมาน้ำสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหญิงสาวหมดทุกหยาดหยด

ป๊อก..เสียงถอดแก่นกายออกจากร่างกายหญิงสาว ชายหนุ่มลุกขึ้นใส่กางเกงและมองหญิงสาวด้วยสายตาสมเพช

"นี่คือบทลงโทษที่มึงกล้าเอามือสกปรกมาตบกู"

จากนั้นภูษิตก็เดินออกจากห้องโดยไม่สนใจนรีรัตน์ที่นอนเปลือยกายกับพื้นกระเบื้อง โดยข้อมือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยเข็มขัด เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร หมดแล้วสิ่งที่เธอหวงแหนมันไม่เหลืออะไรแล้ว

หญิงสาวได้แต่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น เพราะตัวเธอเองไม่มีแม้แต่แรงที่ขยับกายลุกขึ้น ชายหนุ่มรุนแรงกับเธอมากซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของนรีรัตน์ ต้นขาทั้งสองข้างของหญิงสาวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด นรีรัตน์ลุกขึ้นไม่ไหวนอนร้องไห้จนหลับไปในสภาพแบบนั้น

รุ่งเช้านมแช่มเห็นหญิงสาวตื่นช้าจึงไปเคาะประตูเรียก แต่กลับมีแต่ความเงียบ พอลองหมุนลูกบิดห้องกลับไม่ได้ล็อก นมแช่มจึงได้ถือวิสาสะบิดลูกเปิดประตูเปิดเข้าไป แล้วสิ่งที่เห็นทำให้นมแช่มถึงกลับตะลึง ภาพนรีรัตน์นอนอยู่ที่พื้นห้องใต้บันไดโดยที่สองมือมีเข็มขัดมัดไว้อยู่ ตามตัวของหญิงสาวมีแต่รอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆ รอยที่ถูกกัดแผ่นหลังมีรอยถลอกเป็นจุดๆ เกือบทั่วแผ่นหลัง

"ตายแล้ว!! หนูน้ำค้าง! ทำไมเป็นแบบนี้ลูก" หญิงชรารีบถลาเข้าไปแกะเข็มขัด และช้อนตัวหญิงสาวให้ขึ้นมานอนบนฟูกที่หญิงสาวใช้นอนในทุกวัน

"อุ้ย! ตัวร้อนจี๋เลยไม่ได้การล่ะ" นมแช่มรีบนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้หญิงสาวที่นอนซมจับไข้อย่างน่าสงสาร ในใจนึกตำหนิคนที่ทำให้นรีรัตน์ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมดูจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับนรีรัตน์ถึงทำให้มีสภาพเช่นนี้ได้ นมแช่มเช็ดตัวให้นรีรัตน์เสร็จก็หาเสื้อผ้ามาให้สวมใส่ ยิ่งเห็นร่องรอยตามเนื้อตัวของหญิงสาวที่ตนเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยก็ยิ่งทำให้ตนรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก ทำไมภูษิตเด็กชายที่ตนเลี้ยงมาเองกับมือตั้งแต่เด็กถึงได้ใจร้ายใจดำขนาดนี้ ถึงจะเกลียดในตัวหญิงสาวมากขนาดไหนเขาก็ไม่สมควรที่จะทำแบบนี้กับหญิงสาว ต่อให้แต่งการงานแล้วก็ตาม

"ฮือ.ฮือ.ฮือ.ฮึกๆ แม่จ๋าช่วยหนูด้วย หนูกลัว แม่พาหนูไปอยู่ด้วยได้ไหมคะ หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เขาใจร้ายกับหนูเหลือเกิน" นรีรัตน์ที่นอนไม่ได้สติเพ้อละเมอออกมาเพราะพิษไข้ ยิ่งทำให้นมแช่มนั้นยิ่งสงสารหญิงสาว ทำไมถึงอาภัพขนาดนี้และตนไม่คิดว่าภูษิตจะทำกับนรีรัตน์แบบนี้

"โถ่ ลูกนอนพักผ่อนเถอะนะ ไม่ต้องร้องนะ" นมแช่มโอบกอดลูบหัวลูบหลังพยายามปลอบให้หญิงสาวสงบลง จากนั้นตนลงมาจากห้องเพื่อเตรียมอาหารให้ภูษิตและคนป่วยที่นอนซมอยู่ภายในห้อง สักพักภูษิตก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่นั่งประจำ

"นมแช่มมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ" ภูษิตเอ่ยถามออกไปเพราะทนแรงกดดันจากสายตาที่นมแช่มมองเขาได้

"ทำไมคุณหนูต้องทำรุนแรงกับหนูน้ำค้างขนาดนั้น"

"ผมทำอะไรครับนม ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย" ชายหนุ่มตักข้าวต้มเข้าปากด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

"ยังจะปฏิเสธอีกเหรอคะคุณภูมิ เนื้อตัวหนูน้ำค้างมีแต่รอย แถมนอนจับไข้เพ้อขนาดนั้น แบบนี้ต้องให้นมบอกไหมคะว่าเกิดจากอะไร ทำไมสภาพหนูน้ำค้างถึงเป็นแบบนั้น" นมแช่มเอ่ยบอกชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงเจือปนความผิดหวัง

"ก็ยัยนั่นมันตบหน้าผมก่อนนี่ครับ ขนาดริสาหรือคุณแม่ แม้กระทั่งคุณพ่อและคุณย่ายังไม่เคยทำผมแบบนี้ และยัยมันแค่เด็กในบ้านที่คุณย่าอุปการะเลี้ยงดูกล้าดียังไงมาตบหน้าผม"

"แต่คุณหนูก็ไม่ควรไปทำกับหนูน้ำค้างแบบนั้น ถึงเกลียดจะโกรธเขายังไงเราก็ไม่ควรทำกับเขาแบบนี้ เขาเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเขาก็เป็นคนเหมือนกับเรานะคะ ถึงนมจะเลี้ยงคุณหนูมาแต่นมก็ไม่เข้าข้างคุณหนูหรอกนะคะ"

"ผมขอตัว" ภูษิตเอ่ยพูดแค่นั้น แล้วลุกเดินไปหยิบเสื้อสูทและคว้ากุญแจรถขับออกไปทำงานด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

นมแช่มถือชามข้าวต้ม พร้อมกับยาแก้อักเสบและยาลดไข้เข้ามาในห้องของหญิงสาว

"หนูน้ำค้าง ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนสิลูก"

"อื้อออ" หญิงสาวครางรับเบาๆ

"ลุกขึ้นมากินก่อนนะลูก มาเดี๋ยวนมป้อน"

"ขอบคุณมากนะคะนมแช่มที่ดูแลหนู" นรีรัตน์พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นมากินข้าวต้มและยา จากนั้นก็ลงนอนต่อเพราะไม่ไหวจริงๆ ไหนจะตากฝนในเย็นตอนไปตลาด และตกดึกยังถูกคนใจร้ายรังแกเธออีก

"นอนพักผ่อนเถอะลูก" หญิงชรามองใบหน้าของหญิงสาวที่ตอนนี้แววตาเศร้าอย่างสงสาร อีกนานไหมที่สาวน้อยตรงหน้านี้จะมีความสุขสักที ตนได้แต่คิดอยู่ในใจ

หนึ่งทุ่มรถสปอตคันหรูราคาแพงขับเข้ามาที่บ้าน นมแช่มได้แต่สงสัยว่าทำไมวันนี้ชายหนุ่มถึงกลับเข้ามาเร็วกว่าปกติ แถมวันนี้ไม่มีกลิ่นเหล้าเหมือนทุกวัน สร้างความสงสัยให้นมแช่มเป็นอย่างมาก แต่ตนก็ไม่ได้เอ่ยถามออกไปได้แต่เตรียมอาหารค่ำไว้ให้ แล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ครัวทำอะไรเรื่อยเปื่อย

ภูษิตเองเมื่อทานมื้อค่ำเสร็จก็กลับขึ้นห้องโดยได้ถามอะไรนมแช่ม ต่างคนต่างไม่ได้ถามหรือพูดคุยอะไรกันจนกระทั่งที่บ้านทั้งหลังปิดไฟหมด ภูษิตก็ได้แอบย่องลงมาอย่างเงียบๆ เดินมาหยุดที่หน้าห้องใต้บันไดและเปิดห้องเดินเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ภาพที่เขาเห็นคือนรีรัตน์นอนซมจมพิษไข้อยู่บนฟูกที่นอนบางๆ ภูษิตเอื้อมมือไปแตะหญิงสาว แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องชักมือกลับเพราะตัวหญิงสาวร้อนมาก

นรีรัตน์ที่ซมด้วยพิษไข้ไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครเข้ามาในห้องของตน

"แม่จ๋า แม่อยู่ไหน แม่มารับหนูไปอยู่ด้วยได้ไหมคะ ใจร้าย คุณเขาใจร้ายกับหนูเหลือเกิน หนูกลัว ฮืออออ..ฮืออออ" นรีรัตน์เพ้อออกมาพร้อมกอดชายหนุ่มแน่น ทำให้ชายหนุ่มตกใจทำอะไรไม่ถูกและกอดหญิงสาวเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel