5 ตอน เจ้าสำนักโคมเขียวกับแม่ทัพทวนยาว
“ท่านแม่ทัพกิม กรุณานั่งก่อน อย่าเพิ่งไป ดื่มสุราสักจอกเถิดท่าน”
แม่นางเจียวซือปราดเข้าไปจับแขนแม่ทัพกิมที่มาหาความสำราญที่สำนักโคมเขียวเหมยกุ้ย แต่หญิงคณิกาขาประจำกลับถูกบุรุษผู้หนึ่งพาขึ้นห้องไปแล้ว ทำให้เขาไม่พอใจ แสดงอาการโกรธแล้วทำท่าจะเดินออกไป
เมื่อแม่ทัพยอดบุรุษถูกจับแขนไว้เช่นนั้น เขาชะงักเท้าแล้วมองหน้าแม่นางเจียวซืออย่างไม่พอใจเท่าใดนัก
“เจ้าจักให้ข้าเกษมสำราญเช่นไร ในเมื่อแม่นางโบตั๋นถูกใครก็ไม่รู้พาขึ้นห้อง ทั้งที่วันนี้ข้าจะให้นางคอยปรนนิบัติ แล้วข้าก็เตรียมเงิน ทองและเครื่องประดับมาให้นางอย่างเต็มที่”
น้ำเสียงบุรุษชาตินักรบไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แม่นางเจียวซือจึงโอบร่างใหญ่ที่แกร่งด้วยกล้ามแน่น ๆ เอาไว้แนบแน่น
“นางคณิกาอื่น ๆ ที่โฉมงามก็มีหลากหลายคนที่จะช่วยให้ท่านแม่ทัพมีความสุข”
“ข้าไม่ต้องการ หากไม่ใช่แม่นางโบตั๋น ข้าจะไม่ปรารถนานางคณิกาผู้ใด หรือว่าเจ้าจักรับทำหน้าที่นี้แทนเล่า”
แม่นางเจียวซือได้ยินเช่นนั้นก็ส่งยิ้มหวานแล้วประคองร่างใหญ่ให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่ปูทับด้วยขนแกะอย่างดี
“หากว่าท่านไม่รังเกียจต่อความชราของข้า ย่อมได้ ข้ายินดี”
เจ้าสำนักโคมเขียวเหมยกุ้ยกล่าวอย่างอาย ๆ แม่ทัพกิมถึงหัวเราะเสียงดัง จนหญิงคณิกาและบุรุษนักเที่ยวต่างพากันมองมาเป็นจุดเดียวกัน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหรือชรา เขาเรียกว่าสาวใหญ่หากเปรียบประดุจดอกไม้ก็เหมือนดอกกุหลาบพันปีที่มีกลิ่นหอมนับร้อยลี้พันลี้เชียวล่ะ”
“โอ ท่านก็กล่าวเกินไป”
แม่นางเจียวซือทำท่าเอียงอาย ก่อนจะช้อนดวงตากลมมองเขาอย่างหยาดเยิ้ม ซึ่งเป็นมารยาหญิงที่บุรุษเห็นแล้วต่างลุ่มหลง
“ข้าไม่กล่าวเกินไป นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปกี่ปี แม่นางเจียวซือก็ยังงามไม่สร่าง เนื้อหนังเต่งตึง ข้าเห็นแล้วอยากที่จะจุมพิตให้ทั่วถ้วนกาย”
แม่ทัพกิมเลื่อนฝ่ามือใหญ่ที่อุ่นด้วยพลังแห่งไฟปรารถนาเข้าไปใต้ชุดคลุมผ้าแพรเนื้อดีที่ปักเป็นลายนกยูงกับดอกเหมย ปลายนิ้วนั้นเลื่อนลูบตรงถัน เขากุมเอาไว้ด้วยมือใหญ่ แล้วเคล้นเบา ๆ เจ้าสำนักโคมเขียวถึงกับเกร็งตัว
“อืม อา ท่านแม่ทัพ ข้าว่าถึงขนาดนี้แล้ว เข้าห้อง ไปหาความสำราญกันเถิด”
แม่นางเจียวซือกระซิบเบา ๆ แต่เสียงนั้นสั่นเสียจนแม่ทัพกิมใจเต้นแรง มองไปรอบ ๆ ห้องโถงที่เต็มไปด้วยบุรุษผู้ร่ำรวย กำลังเริงสำราญกับนางคณิกา
แม้ว่าเขาไม่ได้แม่นางโบตั๋น หญิงคณิกาขาประจำมาเป็นเป้าแทงทวน ครั้นได้สัมผัสแม่นางเจียวซือที่เรือนร่างอาบไปด้วยเสน่ห์ก็ทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“ได้สิ แต่ว่าข้าจะต้องจ่ายค่าตัวแม่นางสักเท่าใด”
“สำหรับข้า ไม่ขออะไรมาก แค่เพียงให้ท่านมีความสุขและมาหาความสำราญที่สำนักโคมเขียวของข้าบ่อย ๆ ก็พอ”
“โอ แม่นางเจียวซือ เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าไม่ใช่คนเห็นแก่ได้ เอาเปรียบสตรี ข้าจะให้เงิน สร้อยไข่มุกอย่างดี และปิ่นทองสลักลายเถาไม้แก่เจ้า”
แม่นางเจียวซือได้ยินค่าตัวของตนเช่นนั้นถึงกับอ้าปากค้าง เพราะมูลค่าสูงลิบลิ่ว แม่ทัพกิมถือโอกาสประทับริมฝีปากลงไปบนปากสีกลีบกุหลาบของนางแล้วบดขยี้อยู่อย่างนั้น เจ้าสำนักโคมเขียวถึงกับร้อนรุ่มและสะดุ้ง ใจเต้นระรัว แล้วกอดรัดร่างใหญ่เอาไว้จนแน่น
“ท่านแม่ทัพกิม ข้า ข้า มีความสุขเสียจริง”
“ไปเถิด ห้องเจ้าอยู่ที่ใด ข้าจักพาเจ้าไปสู่สรวงสวรรค์”
“ห้องข้าอยู่ข้างบนโน่น เชิญท่านแม่ทัพขึ้นบันไดทางด้านซ้ายแล้วจะขึ้นไปจนถึงเล่าเต๊ง แล้วเลี้ยวขวา ตามข้ามาเถิด”
แม่ทัพกิมลุกขึ้นพร้อมกับโอบร่างอรชรของเจ้าสำนักโคมเขียวเหมยกุ้ยขึ้นไปยังชั้นบน ตามคำเชื้อเชิญ
เมื่อทั้งสองเดินผ่านนางคณิกาและบุรุษนักเที่ยวที่ยังคงดื่มกิน และส่งเสียงร้องตามเพลงที่อี้จีบรรเลงพิณบนเวทีที่ยกพื้นสูง แล้วมีผ้าม่านสีแดงที่ทำจากผ้าแพรกั้นขึงไปเบื้องหลัง แม่ทัพกิมหันไปมองอี้จีด้วยความสนใจ
“แม่นางอี้จีโฉมงามเหลือเกิน เสียดายที่นางไม่ยอมใจอ่อนกับบุรุษใด”
“อี้จีส่วนใหญ่จะเลือกบุรุษด้วยความพึงพอใจ หรือบางคนไม่ยอมพลีกายให้บุรุษง่าย ๆ แม้ว่าเอาเงิน เอาทองมากองเท่าหัวก็ตาม”
แม่นางเจียวซือกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส แล้วกอดเอวแม่ทัพกิมพร้อมกับพาก้าวขึ้นไปบนบันได ท่านทัพยังคงสงสัยเกี่ยวกับอี้จีคนดังกล่าว
“รู้ว่าข้าจะมีสิทธิ์ที่จะให้นางมาดูแลหรือไม่”
“อันนี้ก็แล้วแต่ความใจถึงของท่าน และอี้จีจะใจอ่อนหรือไม่ ส่วนข้า ไม่มีสิทธิ์บังคับใคร อี้จีที่นี่หรือนางคณิกา ล้วนแต่สมัครใจที่จะพลีกายแก่บุรุษ”
“ข้าจะพยายาม แต่ค่ำคืนนี้ ข้าขอสำราญกับเจ้าของสำนักโคมเขียวก่อนก็แล้วกัน เมื่อเข้าห้อง ข้าจะมอบค่าตัวให้แก่เจ้า แม่นางเจียวซือ”
กล่าวจบแม่ทัพกิมตวัดร่างงามกลมกลึงขึ้นสู่อ้อมแขนแล้วพาเข้าห้องที่แม่นางเจียวซือบอกว่าเป็นห้องส่วนตัว ซึ่งนางร้องวี๊ดว้ายด้วยจริตและมารยาสตรี
“โอ ท่านแม่ทัพ ท่าน ท่านทำให้ข้าสั่นไปทั้งตัว ชิวหาท่านที่ตวัดเลียหัวนมข้าแล้วก็รอบ ๆ ถัน ทำให้ข้าสะท้านไปทั้งเรือนกาย อา ซี๊ด”
แม่นางเจียวซือร้องครางเบา ๆ ด้วยความเสียวซาบซ่าน เมื่อถูกเขาละเลงลิ้นลงไปที่ถันแล้วเลียรอบ ๆ หัวนม เจ้าของสำนักโคมเขียวถึงกับดิ้นพล่าน มือทั้งสองข้างจิกลงที่เส้นผมยาวของแม่ทัพกิม ขยำ ขยี้ รวมทั้งดึงแล้วทึ้งจนต้องห้าม
“อย่าดึงผมข้าแรง มันเจ็บ”
“เอ่อ ข้าขอโทษท่านแม่ทัพ ข้า ข้าลืมตัวไป”
“เจ้าเสียวเพียงนั้นเชียวหรือ เอาเป็นว่าข้าจะให้เจ้ากินทวนของข้า ตอนนี้มันพองตัวและแข็งมัน มันอยากให้เจ้าชิม”
แม่ทัพกิมเกร็งตัวแล้วกระเด้งส่วนล่างขึ้น บัดนี้เนื้อตัวเขาเปล่าเปลือย และพร้อมสำหรับบรรเลงเพลงโลกีย์กาม
ทวนของเขานั้นใหญ่และแกร่ง เขาจะจัดการมันเข้าไปในปากของแม่นางเจียวซือ ซึ่งเธอเลื่อนใบหน้าลงไปข้างล่างอย่างช้า ๆ