บทที่2.จบตอน
“พะ พี่รามคะ อุ๊ย..”
พรลดาตาโตสะดุดลมหายใจตัวเองเมื่อเรียวปากร้อนผ่าวกดลงมาบนกลีบปากของตน อย่างไม่เบาหนักแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บปวดแต่อย่างใด กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง กายสาวชาวาบก่อนจะร้อนรุ่มไปทั้งร่าง...
เหมือนแผ่นดินไหวโลกมันหมุนคว้างอย่างที่เธอไม่สามารถหาคำอธิบายได้ รับรู้เพียงความร้อนผ่าวที่เกิดจากเรียวปากและมือของเขาที่กำลังลูบไล้ไปทั้งกายอวบอิ่ม แม้จะตกใจกับจุมพิตที่จู่โจมมาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่สุดท้ายพรลดาก็พ่ายแพ้แก่ความช่ำชองของเขา ลิ้นเล็กตอบสนองเขาอย่างเงอะงะไม่ประสา แต่ทุกอย่างมันเป็นไปตามกลไกของร่างกายที่เธอก็ไม่อาจจะหักห้ามตนเองได้...
ราเมศครางในลำคอเบาๆ เมื่อได้รับการตอบสนองที่น่ารักจากเธอ และเมื่อเห็นว่าคนตัวอวบยอมจำนนต่อจุมพิตของตนราเมศก็ถือโอกาสนั้นปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างของเธออย่างเร็วไว ส่วนคนที่ยังมึนงงกับรสจุมพิตแสนหวานก็ไม่ทันตั้งตัวมารู้ตัวอีกทีเธอก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขา
“พะ พี่ราม.. อะ อาบน้ำ” เธอพยายามบอกให้เขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอมาอยู่บนเตียงแล้วนี่สิ
“เดี๋ยวค่อยอาบพร้อมกัน..” เสียงราเมศแหบพร่า และเขาก็ไม่รอให้เธอได้ตอบโต้อะไรอีกต่อไป
ราเมศมองร่างอวบอิ่มเปล่าเปลือยระทวยอยู่ตรงหน้าอย่างชื่นชมและหลงใหล พรลดาไม่ใช่หญิงสาวผอมแห้ง แต่เป็นคนอวบอิ่มมีเนื้อหนังเต็มตึง ผิวกายของเธอเนียนนุ่มและเขาก็ชอบมันที่สุด มือใหญ่ลูบไล้ฟอนเฟ้นไปทั้งร่างอวบที่ตนอยากครอบครองเป็นเจ้าของอย่างชื่นชอบหลงใหล พรลดาได้แต่ครางแผ่วๆ เมื่อความเสียวรัญจวนและความร้อนรุ่มโจมตีอย่างไม่ให้เธอทันตั้งตัวหรือเตรียมใจ...
“สวยเหลือเกินลดา..” ราเมศอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชื่นชม ดวงตาคมมองทรวงสาวอวบใหญ่ที่มียอดทรวงสีหวานไหวระริกราวเชิญชวน เขารู้สึกว่าลำคอของตนแห้งผากรู้สึกกระหายอย่างมากมายท่วมท้น
พรลดาปรือตามองเขาอย่างอ่อนเปลี้ย อยากจะยกมือขึ้นปิดทรวงสล้างของตนจากสายตาพราวระยับของเขาก็ทำไม่ได้เพราะรู้สึกอ่อนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ได้แต่หน้าแดงหลบตาเขาอย่างเอียงอาย
ราเมศมองใบหน้าแดงก่ำอย่างเอียงอายของพรลดาอย่างเอ็นดู แล้วก้มลงครอบครองยอดทรวงและจูบเม้มฟอนเฟ้นไปทั้งทรวงสาวอวบใหญ่ ทั้งปากและมือของเขาโจมตีทรวงสล้างแสนหวานอย่างเมามันหลงใหล พรลดาครางกระเส่าแอ่นกายเข้าหาปากและมือของเขาอย่างลืมตัวและเสียวกระสัน เพลิงปรารถนาลุกฮือโชติช่วงเกินกว่าจะต้านทาน...
“อา ลดาจ๋า หวานเหลือเกิน...”
ชายหนุ่มครางอย่างพอใจ แล้วเลื่อนริมฝีปากจากทรวงสาวมายังหน้าท้องเนียนนุ่มที่หดเกร็งด้วยความเสียวซ่านของเธอ
“อ๊ะ พี่รามขา...” พรลดาครางกระเส่าและตื่นตระหนกเมื่อเมื่อลิ้นร้ายไต่แต้มมายังกลีบกายสาวอ่อนไหวและไม่เคยต้องมือชายเธอทั้งรู้สึกกลัวหวั่นหวาดและอยากลิ้มลอง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความปรารถนาที่เร่าร้อน
แล้วอารมณ์สาวแตกกระเจิงเมื่อลิ้นร้อนผ่าวป่ายปัดหยอกเย้ากลีบกายสาวอย่างหยอกเย้าในคราแรกและทวีความร้อนแรงมากขึ้นจนเธอต้องหวีดร้องด้วยความซ่านกระสันเสียวเสียด ความร้อนระอุอัดแน่นแล่นพล่านไปทั้งกายสาวจนมันแตกซ่านราวโลกถล่ม ร่างอวบอิ่มหอบกระเส่าเมื่ออารมณ์สาวคุโชนอย่างที่สุด
ราเมศมองคนที่หอบกระเส่าดวงตาปรือปรอยเลื่อนลอยอยู่ในห้วงสวาทอย่างพอใจแล้วค่อยๆ แยกเรียวขาอวบออกช้าๆ แล้วมอบจุมพิตอ่อนหวานให้เธออีกครั้งก่อนจะค่อยๆ นำพาแก่นกายที่ระอุร้อนเข้าสู่หลืบเร้นกายสาวช้าๆ เป็นไปอย่างนุ่มนวลและระมัดระวังทั้งที่เขาแทบแตกระเบิดเพียงแค่เคลื่อนกายผ่านความคับแคบแสนอ่อนหวานของเธอ...
“อ๊ะ.. อื้อ..” พรลดาอุทานเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าแดงก่ำเหยเก ราเมศจึงก้มลงมอบจุมพิตแสนหวานแก่เธออีกครั้งเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้เธอ ไม่นานร่างอวบอิ่มที่เกร็งด้วยความเจ็บปวดก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงและเริ่มขยับช้าๆ ทำให้ราเมศพอใจและรู้ได้ว่าตอนนี้พรลดาเริ่มชินกับการที่มีเขาอยู่ในกายของเธอ ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับสะโพกช้าๆ แล้วค่อยๆ ขยับขับควบเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ที่ระอุร้อน
หนุ่มสาวสบตากันอย่างหลงใหลเมื่อต่างก็ตกอยู่ในห้วงสวาทอันแสนเร่าร้อน เพลิงเสน่หาลุกโชนห้อมล้อมพวกเขาไว้ ทุกสัมผัสที่แสดงออกต่อกันเต็มไปด้วยความรักหลงใหลจนยากจะหยุดท่องวิมานแสนหวานเพียงแค่ครั้งเดียว
ราเมศขยับกายเข้าหาร่างอวบอิ่มอย่างเร่าร้อน ในขณะที่พรลดาก็ตอบสนองเขาอย่างเต็มอกเต็มใจหลงเพริดไปในกระแสสวาทหวาม พรลดาตอบสนองสัมผัสอันร้อนแรงของเขาอย่างไม่อิดออด และบางครั้งก็เป็นฝ่ายที่เรียกร้องเอากับเขาเองอย่างไม่เหนียมอาย ซึ่งทำให้ราเมศพอใจมากและให้รางวัลเธอด้วยการพาเธอเยี่ยมชมวิมานสวาทครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างสุขสม
พรลดาตื่นแต่เช้าลงมาที่ห้องครัวเพื่อเสนอตัวช่วยแม่บ้านทำอาหารเช้า นั่นก็เพราะอยากหลบหน้าราเมศด้วย คุณราศีมองผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้ที่พูดคุยกับแม่ครัวและสาวใช้อย่างเป็นกันเองและหยิบจับอะไรก็ดูคล่องแคล่วกระชับกระเฉง พรลดาดูสดใสมีชีวิตชีวาเมื่อพูดคุยกับคนอื่นๆ น้ำเสียงหวานใสไพเราะกล่าวคำพูดเสนาะหูเจียมเนื้อเจียมตัว เธอมีรอยยิ้มในหน้าเสมอดูเป็นคนใจเย็นและมีความอดทน แบบนี้สินะลูกชายของตนถึงได้ยอมแต่งงานและจดทะเบียนด้วย หากจะแค่แต่งงานเพื่อรักษาหน้าพ่อแม่ของพิมพ์พลอยราเมศคงไม่ลงทุนจดทะเบียนกับหญิงสาวที่ดูแสนธรรมดาอย่างพรลดาแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงความเหมาะสมด้านฐานะหรือหน้าตาทางสังคมที่แทบจะอยู่กันคนละขั้ว แต่นางยอมรับการตัดสินใจของราเมศ และนึกชื่นชมชอบพอพรลดาอยู่ไม่น้อย
