8
‘เหมือนดาว’ คนนี้ดูแตกต่างจาก ‘คล้ายเดือน’ แฝดผู้พี่โดยสิ้นเชิง ยกเว้นเรื่องหน้าตาท่าทางและน้ำเสียงที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก
แต่ถ้าจะดูดีๆ ดูลึกๆ แล้วเขาก็จับความแตกต่างได้ไม่ยาก นั่นก็คือแฝดผู้พี่ที่จากไปนั้น จะรักสวยรักงาม ดูแลตัวเองให้ดูดีสมวัยสาวน้อยสิบเจ็ดอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคนน้องกลับไม่รู้จักแต่งหน้าทาปากเอาเสียเลย หากไม่มีความสวยความน่ารักตามวัยคอยช่วยแล้ว คงจะหาแฟนยากเป็นแน่ในความคิด แต่ดันแจ๊กพอตได้เป็น ‘นางเหมือนดาว ผลทับทอง’
ที่สาวๆ ทั้งเมืองรู้ต้องกรี๊ดเพราะความอิจฉาเจ้าหล่อนเป็นแน่ เขารู้ตัวเองดีว่า เป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ไปตามๆ กันนับตั้งแต่เลิกร้างจาก ‘เมียเด็ก’ เมื่อหกปีก่อนแล้ว ไม่อยากคิดว่าจะต้องกลับมามี ‘เมียเด็ก’ อีกรอบ แถมเป็นแบบจำต้องเต็มใจยอมรับด้วย มิหนำซ้ำยังไม่มีสิทธิ์มีเสียงหรือแตะเนื้อต้องตัว ‘เมียเด็ก’ อีกต่างหาก
‘คงจะแตะลงหรอก กะโปโลออกจะปานนั้น’ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มเยาะเย้ยระคนสมเพชทั้งตัวเองและ ‘เมียเด็ก’ อยู่คนเดียว ก่อนจะพาร่างสูงๆ กับผิวคล้ำเข้มตามประสาชาวไร่ชาวสวนเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างทันที
ทุกคนรอเขาอยู่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งทนายประจำบริษัท ผู้จะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางชี้แจงเรื่องสิทธิ์ประโยชน์ให้ได้รู้ร่วมกัน
“อะไรนะครับ! นี่คุณทนายจะบอกว่าที่ร้อยกว่าไร่ของพี่รงค์ เป็นของคุณตะวันอย่างนั้นเหรอครับ เป็นไปได้ยังไงทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะครับ!” คนที่ทำท่าสงสัยกว่าใครเพื่อนก็คือโสรัตน์ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่ดินของพี่แท้จริงแล้วกลับกลายเป็นของคนอื่น ห้าปีอยู่ช่วยงานพี่มานั้นเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
“คุณณรงค์ซื้อจากคุณแสงตะวันไปตอนแรกครับ แล้วเอามาจำนองไว้ทีหลังเพื่อเอาเงินไปหมุนในกิจการ แล้วไม่มีเงินมาไถ่ถอนคืนมาจะสองปีแล้วครับ คุณณรงค์เลยตัดสินใจโอนคืนให้คุณแสงตะวัน แล้วนอกจากคุณแสงตะวันจะกลับมาเป็นเจ้าของที่ดินแล้วก็ยังเข้ามาเป็นหุ้นส่วนใหญ่และเป็นแบบลับๆ ของคุณณรงค์ด้วยนะครับ เพราะการเงินฝืดเคืองเลยต้องมีแหล่งเงินทุนใหญ่เอาไว้ก่อน เอกสารที่ผมแจกให้ทุกคนมีครบแล้วดูได้เลยครับ”
สุทินผู้เป็นทนายละสายตาจากเอกสารมองคนถามอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นอีกฝ่ายก้มลงไปจ้องมองเอกสารในมือเขาเลยถือโอกาสอ่านข้อตกลงที่เจ้านายสั่งให้ทำต่อ
“ระหว่างที่คุณเหมือนดาวซึ่งถือว่าเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของคุณแสงตะวันยังเรียนหนังสืออยู่นั้น อำนาจการบริหารงานทั้งหมดจะตกเป็นหน้าที่ของผู้เป็นสามีต้องบริหารให้มีกำไรงอกเงยขึ้นมา แล้วแบ่งผลกำไรให้ตามส่วนตอนสิ้นปี ค่าใช้จ่ายใดๆ ของภรรยาที่จะมีขึ้นในภายภาคหน้าคุณแสงตะวันจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดนับตั้งแต่บัดนี้กระทั่งถึงเวลาหย่าขาดจากกันนั่นคือ ตอนที่คุณเหมือนดาวเรียนจบปริญญาตรีพร้อมด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งหรือสองเพียงเท่านั้น”
“แล้วถ้าไม่ได้ล่ะคะ หนูดาวจะทำยังไง” ดุจเดือนเข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายที่ทำกันไว้เพื่อไม่ให้ลูกตัวเองเกเรจนเรียนไม่จบหรือไม่ตั้งใจเรียน แต่ก็อดห่วงตามประสาแม่ไม่ได้ถ้าลูกทำไม่สำเร็จหรือเป็นไปตามเป้าที่อีกฝ่ายกำหนดไว้
“ก็จะไม่มีการหย่าเกิดขึ้น หรือถ้ามีคุณแสงตะวันจะเป็นคนกำหนดเวลาที่เหมาะสม ส่วนการบริหารไร่กับรีสอร์ตคุณแสงตะวันจะเป็นคนรับผิดชอบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าคุณเหมือนดาวอยู่ในภาวะที่จะทำเองได้เท่านั้นครับ” ทนายให้คำอธิบายอย่างใจเย็นอีกครั้ง
“ทำไมไม่ให้ญาติหรือไม่ก็แม่ไปบริหารต่อล่ะครับ” โสรัตน์สงสัยจนทนไม่ได้
“จะเอาไปทำเองก็ได้นะครับผมไม่ว่า ถ้าพวกคุณมีความสามารถจะรับผิดชอบหนี้สินหลายสิบล้านที่น้ารงค์ปกปิดเอาไว้ ผมไม่คิดค่าเช่าที่อีกสิบปีก็ได้ เพราะผมเองก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว” แสงตะวันไม่ใคร่จะชอบใจขึ้นมาตะหงิดๆ กับความคิดเล็กคิดน้อยของอีกฝ่ายจนทนไม่ได้เลยสวนกลับ ทำเอาทุกคนเงียบกริบไปตามๆ กัน
“เอกสารที่พวกคุณมีในมือเป็นหลักฐานสำคัญว่าคุณณรงค์มีหนี้นอกระบบอยู่หลายล้านครับ” “ผมไม่รู้มาก่อนว่าพี่รงค์ไปแอบเป็นหนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่” โสรัตน์พูดไปตาก็ก้มไปหาเอกสารตามคำบอกของทนายไป
“มีอีกหลายเรื่องที่แกยังไม่รู้นะรัตน์ ฉันว่าให้ทนายบอกข้อตกลงให้จบๆ ก่อนดีกว่ามั้ย แล้วค่อยมาคุยกันว่าพอใจหรือเปล่า” อาทิตย์นั่งนิ่งมานานเลยทักท้วงขึ้นมา ทำเอาทุกคนนิ่งเงียบแล้วตั้งใจฟังคำของทนายต่ออย่างเสียไม่ได้
“ครับคุณป๋า”
“เป็นไปได้ยังไงกัน! ที่พี่รงค์จะตายไปพร้อมหนี้ก้อนโตเอาไว้ให้น้องกับลูกต้องมามีภาระ มันต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ เลยล่ะเดือน”
โสรัตน์อดสงสัยไม่ได้เลยรีบเผยความในใจให้หลานสาวกับอดีตพี่สะใภ้ได้รับรู้ “รัตน์หมายความว่ายังไงเดือนไม่เข้าใจ” แต่ดุจเดือนเป็นคนมองโลกในแง่ดีและหัวอ่อนก็ไม่เข้าใจความหมาย
“นั่นสิคะอา หนูดาวก็ไม่เข้าใจค่ะ” นี่เป็นอีกเรื่องที่เหมือนดาวผู้ยังอ่อนต่อโลกไม่เคยล่วงรู้มาก่อน และไม่กล้าคิดไปในทางร้ายมาก่อน ทว่ามาถึงตอนนี้กลับต้องคิดแล้วเอาเรื่องที่ได้ยินมาจากเพื่อนพี่เกี่ยวเข้าด้วยกันได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
“อาก็ไม่แน่ใจหรอกนะหนูดาว แต่อะไรๆ มันเกิดขึ้นเร็วจนเราคาดไม่ถึง ทำให้อาอดคิดไม่ได้ว่าการจากไปของพี่รงค์กับหนูเดือนมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า”
“รัตน์กำลังจะบอกว่า คุณแสงตะวันมีส่วนรู้เห็นด้วยอย่างนั้นเหรอ” นพพรป้อนข้าวลูกไปด้วยฟังคนอื่นไปด้วยรีบเอ่ยเพราะสีหน้าและท่าทางของโสรัตน์ทำให้เขาเดาออกได้ไม่ยากนัก “ผมไม่แน่ใจหรอกครับ แค่คิดว่ามันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า”