บทที่35 ทะเลหวาน
"พี่ธาม ทะเลกับเรือพี่ชอบอะไรมากกว่ากัน" เสียงหวานแว่วที่ดังมาจากคนบนตักทำให้ธนกฤตต้องยิ้มออกมา
"ตอบไม่ได้ว่าเรือกับทะเลพี่รักอะไรมากกว่ากัน แต่ถ้าถามว่าพี่ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างทะเล เรือ กับหนูพี่ตอบได้เลยว่าชอบหนู" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะฉวยโอกาสหอมแก้มคนบนตักเสียฟอดใหญ่
"ชิ ฉวยโอกาสอ่ะ" พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างหมั่นไส้ปนเอียงอาย 'คนบ้า มาหยอดกันแบบนี้แล้วยังจะมาหอมเค๊าอีก'
"ก็ฉวยโอกาสแต่กับหนูหรอกน๊า ไม่เคยไปทำกับใครหรอก" ธนกฤตเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสมองก่อนที่จะยกมือขึ้นบีบจมูกอีกฝ่าย
"ไม่เคยไปทำกับใครก็อย่าคิดไปทำเชียวไม่งั้นหนูงอน" เด็กสาวเอ่ยบอกพร้อมทั้งบีบจมูกอีกฝ่ายไปมา
“จะไปไหนรอดล่ะหึ หนูน่ารักขนาดนี้น่ะ" คนถูกบีบจมูกเอ่ยบอก
"น่ารักก็ต้องรักมาก ๆ อย่าขัดใจหนู มีอะไรต้องบอกหนูก่อนตลอด เข้าใจมั้ย" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกเสียงเข้ม
"ครับผม รักมาก ๆอยู่แล้วไม่คิดจะขัดใจเมียสักนิด ก็ทั้งรักทั้งยอมให้ทุกอย่างแล้วนะหนูก็รักพี่มาก ๆอย่าทิ้งพี่นะครับ" คนถูกสั่งเอ่ยบอกก่อนที่จับมือที่บีบจมูกตนมากุมไว้ก่อนที่จะยื่นหน้าขึ้นจุมพิตที่ปลายจมูกคนตัวเล็ก
"ถ้าทำแบบเมื่อวานอีกจะทิ้งแน่ ถ้าทำตัวดี ๆน่ารักๆไม่ดื้อไม่ซน หนูก็ไม่ทิ้งแถมจะดูแลอย่างดีด้วย" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก
"ไม่ทำอีกแล้วครับหนู พี่เข็ดกับการต้องทนเห็นน้ำตาของหนูแล้ว หนูก็รู้ว่าพี่แพ้น้ำตาผู้หญิงโดยเฉพาะน้ำตาหนู ต่อไปอย่าร้องไห้นะครับ พี่สัญญาจะไม่ทำให้หนูต้องมีน้ำตาอีก" ธนกฤตเอ่ยบอก 'ต่อไปนี้เขาจะไม่ทำอะไรที่ทำให้เด็กสาวต้องร้องไห้อีก เขาสัญญา'
"น่ารักซะขนาดนี้ หนูก็ไปไหนไม่พ้นแล้ว หนูรักพี่ธามมาก มากเลยนะ เป็นรักแรกของหนูแล้วอย่านอกใจหนูนะ เป็นรักครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของหนูคนเดียวด้วย" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกพร้อมทั้งกอดชายหนุ่มไว้ 'เขาเกิดมาเพื่อเป็นรักแรกของเธอและจะเป็นรักครั้งเดียวและรักสุดท้ายด้วย'
"พี่ไม่นอกใจหนูหรอก หนูก็เป็นรักครั้งแรก ครั้งเดียวและจะเป็นรักครั้งสุดท้ายของพี่ รีบๆโตนะทูนหัว ครอบครัวของเราจะได้สมบูรณ์ซะที" ธนกฤตเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสทำหน้าสงสัยก่อนที่จะเอ่ยถาม
"ครอบครัวเราไม่สมบูรณ์ตรงไหน แล้วถ้าหนูโตมันจะสมบูรณ์ได้ไง" คนถามทำหน้าสงสัยนักจนคนถูกถามยิ้มขำ
"ก็ครอบครัว มันต้องมี พ่อ แม่ แล้วก็ลูกไง ตั้งรอหนูโตก่อนเราถึงจะมีลูกกันได้ ครอบครัวของเราถึงจะสมบูรณ์" ธนกฤตเอ่ยบอก "รีบๆโต รีบๆเรียนให้จบนะทูนหัว พี่อยากมีลูกเหมือนคนอื่นเขามั่ง"
"รอได้มั้ย อีกตั้งหลายปี" คำถามที่ไม่คิดจะถามมาก่อนหลุดออกจากปากอวบอิ่ม ขณะที่ใจสับสนกลัวเขาจะรอไม่ได้หนีไปมีลูกกันคนอื่นก่อน
"รอได้สิครับคนดี รอมาตั้ง17ปีแล้วนิ รออีกสักสี่ห้าปีจะเป็นไรไป" ธนกฤตเอ่ยบอก "พี่รอคนที่ใช่มาทั้งชีวิต รอคนที่ใช่ของพี่พร้อมก่อนจะเป็นไรไปครับ"
"คนที่ใช่?" พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างสงสัยพลางนึกถึงครั้งที่ถามเขาเรื่องคนที่ใช่ในคืนส่งท้ายปีเก่า
"ใช่ครับ หนูคือคนที่รัก และคนที่ใช่ของพี่" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนริมฝีปากเข้ามาจุมพิตเด็กสาวที่เป็นทั้งที่รักและคนที่ใช่สำหรับเขา
"ผู้การครับ จะไม่ออกไปตรวจตราเลยเหรอ ฉะ อุ้ย ขอประทานโทษอย่างสูงครับเฮีย" คมินทร์ทีเปิดประตูเข้ามาเรียกผู้การหนุ่มเอ่ยด้วยใบหน้าซีดเผือก 'ตายแน่ ๆไอ้เข้ม เฮียเอาตายแน่มาขัดเวลาเฮียจะจูบเมีย'
"เออ รู้แล้ว เดี๋ยวออกไป จริง ๆเลยไอ้พวกชอบขัด" ธนกฤตได้แต่เอ่ยอย่างโมโหนิดๆ ส่วนคนบนตักนั้นถึงกับอายม้วยจนต้องเอาหน้าซุกอกแกร่งไว้หนีอาย ' มันจะเข้ามาทำไมตอนนี้ว่ะ ไอ้พวกชอบขัด ไอ้มารขัดความสุขชาวบ้าน'
"พี่ออกไปตรวจเรือก่อนนะหนู อีกไม่ใกล้ไม่ไกลก็จะถึงที่หมายแล้ว" ผู้การเรือหนุ่มเอ่ยบอกคนนี้นั่งเขินอยู่บนตักก่อนที่เด็กสาวจะลุกออก
"ไปด้วยสิ หนูอยากดูเวลาพี่ทำงานอ่ะ" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกพร้อมทำหน้าออดอ้อน
"ขี้อ้อนขนาดนี้ ยอมสยบแทบเท้าเลยทูนหัว" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะจับมือทูนหัวของเขาออกไปจากห้องผู้บังคับการเรือ
ธนกฤตพาเด็กสาวเที่ยวชมเรือไปพร้อมกับการตรวจตราความเรียบร้อยก่อนที่จะหันไปมองเรือหลวงอีกสี่ลำที่ตามมาด้านหลัง เขาได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทำให้เรือหลวงลำนี้เดินนำหน้าอีกสี่ลำ
"ไหนเรืออาพีกับลุงเพลิงเหรอ" เด็กสาวเอ่ยถามเมื่อมองตามธนกฤตไปที่เรือหลวงทั้งสี่ลำ
"ลำทางขวาคือเรือของนายพี ตรงกลางของนายเพลิง เดี๋ยวถึงที่หมายเมื่อไหร่พี่จะไปเอาเรื่องนายเพลิงที่ไอ้เด็กผีพายมันมาแกล้งหนู" ธนกฤตเอ่ยบอก พร้อมนึกถึงไอ้เด็กกวนประสาทขี้แกล้ง 'แกล้งคนอื่นนักขอให้มันรักเมียหลงเมีย แต่เมียดื้อไม่ฟังมัน ให้มันกลัวเมียด้วย ให้พ่อตามันโหดๆหวงลูกสาวด้วย ฮึย กล้ามาแกล้งเมียเขา แต่เดี๋ยว ไปแช่งมันแบบนั้นถ้ามันเลิกกับเมีย ไอ้เพลิงจะไม่ยัดเยียดมาเป็นลูกเขยเขาเหรอ งั้ยเปลี่ยนดีกว่า ขอให้มันหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้น ดิ้นทุรนทุรายเวลาไม่ได้เจอหน้าเมีย แต่ห้ามมันเลิกกับเมียเดี๋ยวลูกเขาจะซวยต้องรับมันเป็นสามี'
"พี่มีกล้องมั้ย จะถ่ายรูป" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก ไม่รู้เลยว่าพี่ของเธอนั้นกำลังแช่งชักพายัพเมฆในใจอยู่
"มีสิ ครั้งก่อนให้พีมถ่ายรูปให้หนูแต่พี่ลืมเอาไว้บนเรือ เดี๋ยวไปเอาให้" ธนกฤตเอ่ยบอกพร้อมเดินกลับไปที่ห้องแต่เมื่อเดินกลับออกมากลับไม่เห็นคนตัวเล็กอยู่ที่เดิมแล้ว
"ผู้การหาไรอยู่ครับ" ชีวินเอ่ยถามอย่างสงสัย พลางเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วกระซิบถาม "เขาว่าเฮียกลัวคุณนาย เรื่องจริงป่ะ"
"จริงป่ะบ้าไรว่ะ ไม่ได้กลัวเว้ย " คนถูกเรียกเฮียเอ่ยบอก มาเรื่องจริงป่ะบ้าอะไร อย่างเขาไม่เรียกว่ากลัวเว้ย
"เกรงใจให้เกียรติเข้าใจมั้ย ไม่ได้กลัว" ธนกฤตเอ่ยบอกโดยไม่ได้ดูเลยว่าคุณนายวัยละอ่อนเดินมาข้างหลังก่อนที่จะทำเป็นเอ่ยเรียกเสียงเข้ม
"พี่ธาม" "จ๋าหนู เอ้ย ไม่ใช่มีอะไรพริกหวาน" ธนกฤตตอบกลับทันทีก่อนที่จะเปลี่ยนคำพูดเมื่อรู้สึกตัวว่าไม่ได้มีแค่เขากับเธอแต่ยังมีต้นเรือตัวดี และอีกหลายๆคน
"ไหนว่าไม่กลัวไง แค่เนี่ยก็พิสูจน์ได้แล้วว่ากลัว" ขัตติยะเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มอย่างล้อเลียน
'เสียหน้ามั้ยล่ะไอ้ธามลูกน้องล้อเลียนหมด ทีนี้มันไม่กลัวเราแล้ว’ ธนกฤตได้แต่บอกตัวเองในใจ ในขณะที่พิมพ์ลภัสหันมองก่อนที่จะยิ้มนิ่งๆ
"น้าๆค่ะ คนที่เคารพเมียในความรู้สึกของพริกหวาน ความจริงเขาไม่ได้กลัวจริง ๆหรอกค่ะ เขาแค่เกรงใจ และให้เกียรติคนที่เขารัก หลายคนกลัวเมียเพราะกลัวว่าเมียจะจับได้ว่าซ่อนเงินซ่อนกิ๊ก แต่พี่ธามเขาเคารพต่อความรัก เขาจึงเกรงใจและให้เกียรติคนที่รัก" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกตามความคิดของเธอ
"พริกหวานคิดว่าผู้หญิงทุกคนชอบที่สามีเกรงใจและให้เกียรติไม่มใครชอบสามีโหดๆไม่เกรงใจกันหรอกนะ แล้วอีกอย่างมีคนบอกว่า เชื่อเมียแล้วเจริญ" เด็กสาวเอ่ยต่อ "ผู้ชายอกสามศอกผ่านการฝึกฝนให้ไม่กลัวอะไรเลยอย่างพี่ธามเนี่ย ไม่มีทางมากลัวมนุษย์เมียตัวเล็กๆอายุน้อยกว่าอย่างพริกหวานหรอก แต่พี่ธามให้เกียรติหนู พวกพี่ๆน่ะหัวเราะแต่คนอื่นระวังจะกลัวเมียจนหัวหดนะ"
"นั่นไง โดนคุณนายสั่งสอนเข้าให้พากันไปไม่เป็นเลย 555" ธนกฤตเอ่ยอย่างขำๆกับท่าทีของบรรดาลูกน้อง
"จำไว้นะพวกนายทั้งหลาย เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือชายชาตรีทั้งหลายคือความน่ากลัวของมนุษย์เมีย" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะโอบเอวเด็กสาวเดินออกไป
"ขอบคุณนะหนูที่แก้หน้าให้พี่" ธนกฤตเอ่ยบอกเมื่อพาเด็กสาวเดินออกมาไกลจากบรรดาลูกน้อง
"หนูพูดตามที่หนูคิดค่ะ หนูไม่เชื่อว่าพี่จะกลัวหนูเหมือนของน่ากลัว แต่พี่รักหนู พี่เลยให้เกียรติและเกรงใจหนู" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก เธอรู้ เขาไม่ได้กลัวเธอแบบผู้ชายทั่วไปแต่รักเลยเกรงใจ
"รู้ซะแล้ว เสียดายจัง" ธนกฤตเอ่ยอย่างเสียดาย ใช่เขารักและให้เกรงเธอ ไม่ได้กลัวอะไรแบบนั้น แต่ก็ยอมไม่ได้ที่ใครมาว่ากลัวเมีย
"หนูเก่งไง 555 ไปถ่ายรูปกันดีกว่า" เด็กสาวเอ่ยบอกก่อนที่จะชวนไปถ่ายรูปกัน
"รู้สึกน้ำทะเลมันหวานว่ะ พวกแกว่ามั้ย" สิชลเอ่ยถามเพื่อนอย่างต้องการแซวผู้การหนุ่ม
"นั่นดิ น้ำทะเลมันต้องเค็มนะ นี่ผู้การกับคุณนายมาทำให้หวานเป็นน้ำเชื่อมซะงั้น" ขัตติยะเอ่ย
จริง ๆน้ำทะเลมันเป็นน้ำเชื่อมมาสักพักแล้วนะ แต่ค่อยๆหวานขึ้นเรื่อยๆ" ชีวินเอ่ย
"โอ๊ยยยย ถ้ากินเข้าไปไอ้เข้มจะเป็นเบาหวานมั้ยเนี้ย" คมินทร์เอ่ย ธนกฤตฟังบรรดาลูกน้องแซวก่อนที่จะส่งรอยยิ้มพิฆาตให้
"พิสูจน์มั้ยล่ะ ต้นหน ต้นปืน ต้นเรือ นายธง อ่อๆ ไอ้ต้นกลนทีด้วยเห็นนิ่งๆแต่แซวกันทางสายตา ไปเลยพากันลงไปชิมน้ำแช่น้ำสักครึ่งชั่วโมง ไป" ธนกฤตเอ่ยบอกส่งยิ้มพิฆาตให้ลูกน้องที่พากันหน้าซีดไปหมด
"เอ้าๆไปสิ ไปชิมดู จะได้รู้ว่าทะเลมันหวานหรือเค็ม" ธนกฤตบอกยิ้มๆ
"พวกแก แก แก แล้วก็แกเชียวฉันเลยซวยไปด้วย" นทีธร ต้นกลหนุ่มผู้ยังไม่ทันได้พูดอะไรแต่ก็ยิ้มล้อเลียน
"ไม่ต้องโบ้ยกัน พวกแกทุกคนแหละ ไปเลย ไป" เสียงเข้มจากผู้การหนุ่มทำให้ทุกคนรีบถอดชุดกระโดดลงไปก่อนที่จะโดนลงโทษ
"555 เป็นไงหวานมั้ย น้ำทะเลมันเค็ม ไม่เป็นหรอกเบาหวานน่ะ แต่ไตเนี่ยไม่แน่" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินหนีไปหาเด็กสาวที่นั่งหลับอย่างสบายใจอยู่แถวหัวเรือก่อนที่จะอุ้มเด็กสาวเข้าไปนอนในห้อง
"ฝันดีครับทูนหัว" ธนกฤตเอ่ยบอกเบาๆก่อนที่จะก้มลงจุมพิตหน้าผากเด็กสาวก่อนที่จะเดินออกไปดูความเรียบร้อยในช่วงที่บรรดาหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆถูกทำโทษ
