บท
ตั้งค่า

บทที่34 เที่ยวบนเรือ

"อย่าทำหน้าแบบนี้สิหนู พี่ต้องไปราชการจริง ๆนะเข้าใจพี่นะ" เสียงหวานนุ่มเอื้องเอ่ยอย่างวิงวอนให้คนที่นั่งร้องไห้อยู่เข้าใจเขาบ้างพรางขยับเข้าไปปาดน้ำตาให้ 'เขาเข้าใจว่าเด็กสาวเสียใจที่เขาผิดสัญญาที่ว่าจะพาเธอไปเที่ยวในช่วงปิดเทอม แต่ดันติดต้องไปราชการรวมทั้งทำภารกิจสำคัญแถมเขายังไม่บอกเธอสักคำจนมาสารภาพตอนนี้ วันก่อนหน้าที่จะไปเพียงหนึ่งวัน

พิมพ์ลภัสปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา เธออยากเข้าใจเขาและอยากจะมีเวลาอยู่กับเขาเต็มที่ ในสมองคิดสับสนทั้งอยากเข้าใจและอยากจะโกรธ หนักๆเข้าน้ำตายิ่งไหลออกมามากขึ้น

"ทำไมพี่ไม่บอกหนูก่อน ได้รับคำสั่งมาตั้งแต่ก่อนไปอาบ อบ นวดแต่กลับปล่อยไว้ไม่บอกจนมาวันนี้ พรุ่งนี้พี่ก็จะไปแล้วกว่าจะกลับหนูก็เปิดเทอมพอดี หนูอยากอยู่กับพี่ ไปไหนมาไหนด้วยกันแต่พี่กลับให้หนูหวังสูงแล้วมาดึงหนูลงตกลงมา ฮือ ๆ หนูโกรธแล้ว พี่จะไปไหนก็ไปเลย" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนที่จะวิ่งออกจากบ้านไปหาอาสาว ธนกฤตรู้ดีว่าถ้าเด็กสาวโกรธตนยังไม่ควรไปง้อ ต้องปล่อยให้เธออยู่กับตีวเองคิดกับตัวเองซัดนิด เธอจะเข้าใจความจำเป็นของเขา

ด้านพิมพ์ลภัสที่มาถึงบ้านของอาเขยนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้านไม่ยอมเข้าไปในบ้านก่อนที่จะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนที่จะลุกขึ้นปาดน้ำตาแล้วเดินกลับมาเอาจักรยานที่บ้านแล้วปั่นออกไป

สี่ทุ่มวันนั้น

"หนูไปไหนมาครับ พี่ตามหาจนทั่ว" ธนกฤตเอ่ยถามอย่างสงสัยและร้อนรน เขาออกตามหาเธอตั้งแต่เที่ยงหลังจากเด็กสาวออกจากบ้านไปได้ครึ่งชั่วโมง

"เชอะ" เด็กสาวทำเสียงในลำคอก่อนที่จะสะบัดบ๊อบเดินไปที่ห้องพร้อมล็อคกุญแจไว้ ธนกฤตได้แต่ถอนหายใจออกมาเธอคงยังโกรธอยู่ คืนนี้เขาคงได้นอนที่โซฟาห้องรับแขกอีกครั้งหลังจากได้นอนกอดเด็กสาวมาตลอด

เช้าวันต่อมา

ก็อกๆ ๆ

"หนู พริกหวาน พี่ไปนะ พี่จะรีบกลับมา พี่รักพริกหวานนะ" ธนกฤตในชุดพร้อมออกเดินเรือเคาะประตูเรียกก่อนที่จะเอ่ยบอกกับประตูเมื่อคนที่อยู่ในห้องไม่ยอมเปิดประตูให้ ความเงียบทำให้ธนกฤตถอนหายใจออกมาก่อนที่เดินลงบันไดแล้วออกจากบ้านไป

"อย่าทำหน้าแบบนั้นดิกว่ะธาม น้องพริกหวานยังเด็ก อีกหน่อยน้องเค๊าจะเข้าใจ เอาล่ะไปกันดีกว่า" เพลิงตะวันเอ่ยบอกเมื่อธนกฤตมาถึงท่าเทียบเรือด้วยหน้าตาไม่สดชื่นเท่าไหร่ พีรวัศ สิงหาและปฐพีที่ยืนอยู่พยักหน้าก่อนที่จะเดินไปขึ้นเรือของตัวเอง ธนกฤตถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนที่จะเดินไปที่เรือก่อนที่จะเห็นลูกเรือของตนพากันยิ้มทะเล้นๆพอเห็นสายตาที่เขามองไปก็พอกันนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เป็นอะไรกันเข้ม ยิ้มอะไรกัน สั่งเดินเรือได้แล้วต้นเรือ" ธนกฤตเอ่ยเสียงเข้มกับนายธงคนสนิทก่อนที่จะเอ่ยสั่งต้นเรือหนุ่ม เรือลำนี้หรือเรือหลวงตรวจอ่าวทุกลำต้องอาศัยความสามัคคีของทุกฝ่ายในเรือถ้าขาดความสามัคคีเรือหลวงลำนี้ก็ไม่สามารถเดินเรือได้

ธนกฤตหันมองชายฝั่งท่าเทียบเรือที่เริ่มไกลออกไปเรื่อยๆจนมองไม่เห็นท่าเทียบเรือก่อนที่จะถูกบางอย่างแสนนุ่มราวกับมือคนมาปิดดวงตาทั้งสองจากด้านหลัง

"ทายสิใครเอ่ย" คมินทร์เอ่ยถามผู้การหนุ่มก่อนที่จะหันมายิ้มให้กับลูกเรือคนอื่นที่ตอนนี้หลายคนมายืนมองผู้บังคับการเรือหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มขำ

"เล่นบ้าอะไรพวกนายอยากถูกทำโทษใช่มั้ยฮ่ะ เอามือออกไปเลยนะมือใครว่ะนุ่มอย่างกับผู้หญิง" ธนกฤตเอ่ยเสียงเข้มทำเอาคมินทร์และคนอื่น ๆพากันกลัว "ไม่กลัวรึไงว่ะเอามือออก"

"ไม่กลัว มีปัญหาม่ะ ท่านผู้การธนกฤต" เสียงหวานเจ้าของมือบางแสนนุ่มเอ่ยบอกทำเอาธนกฤตชะงักไปก่อนที่ดึงมือบางกลับมากอดอกมองผู้การหนุ่ม ธนกฤตหันกลับมามองก่อนที่จะตกตะลึงกับคนที่ยืนตรงหน้า คนๆนั้นคือพิมพ์ลภัสนั่นเอง

"ว่าไง มีปัญหาม่ะ ถ้ามีไฝว้กันได้นะพร้อมเสมอ" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนที่จะหันไปที่คมินทร์และคนอื่น ๆ "ไม่ต้องกลัวหรอกนะน้าๆ เขาบอกว่าหมาขู่มักไม่กัด ผู้การของพี่ๆก็ขู่ไปงั้นแหละจริง ๆอ่ะรักพวกพี่มากจนกัดไม่ลงหรอก ไปๆแยกย้ายไปทำงานได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นพริกหวานรับผิดชอบเอง"

"ครับคุณนาย พวกเรารู้รักษาตัวรอดครับ" คมินทร์เอ่ยบอกก่อนที่นายทหารเรืออีกคนจะพูดขึ้น "เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือผู้การก็คือคุณนาย กลัวผู้การแค่ไหนต้องกลัวเมียผู้การมากกว่า555"

"นี่มันอะไรกันหนู มาอยู่บนนี้ได้ยังไง" ธนกฤตเอ่ยถามหลังจากลูกเรือคนอื่น ๆแยกย้ายไปประจำหน้าที่ของตน

"ก็...เมื่อวานหนูปั่นจักรยานไปหาคุณลุงธีร์ ขอตามพี่ธามไปกัมพูชาด้วย ท่านอนุญาตแล้ว ตอนเช้าหนูเลยปีนหน้าต่างลงมารอบนเรือก่อน พวกพี่ๆน้าๆเขาให้การดูแลดีมากเลยนะพี่ธาม" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกแล้วอมยิ้มเมื่อนึกถึงเมื่อเช้าที่เธอต้องปีนหน้าต่างลงมาทางบันไดที่พีมตะวันเอามาพาดไว้ตามคำสั่ง

"เออจริงสิ พี่ธามต้องจัดการให้หนูนะ เมื่อเช้าหนูให้พีมเอาบันไดลิงไปพาด พอไต๋ลงมาได้ครึ่งทางไอ้บ้าผีพลายมันเอามดแดงมาโยนใส่อ่ะ ดูดิแขนแดงเลย" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกอย่างนึกขึ้นได้ถึงความแสบของคนกวนประสาทพร้อมทั้งชี้ให้ดูตุ่มแดงๆห้าหกจุดบนแขนเนียน

"ไอ้พลายตัวแสบ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ไอ้เด็กบ้านั่นมันอยู่เรือไอ้เพลิง หนูเจ็บมั้ย ทายารึยังค่ะ" ธนกฤตบริภาษลูกเพื่อนรุ่นพี่เลาๆก่อนที่จะหันกลับมาถามอาการของพิมพ์ลภัส

"ทายาแล้ว พี่ไนน์หายามาทาให้แล้ว" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก พี่ไนน์ที่พูดคือนวเมศร์ นักเรียนนายเรือวัย18ปีที่ได้รับโอกาสไปศึกษาดูงานบนเรือหลวงลำนี้

"ไนน์งั้นเหรอ แค่หายาใช่มั้ย" ธนกฤตเอ่ยถามน้ำเสียงเข้ม นวเมศร์เป็นเด็กหนุ่มที่ทั้งหล่อและฮอตมากไม่แพ้พีมตะวันกับไตรณรงค์ 'ไอ้หนุ่มนั่นมันคงไม่ได้แอบมาแต๊ะอั๋งหนูพริกนะ แค่เห็นมันหนุ่มกว่าก็หึงแล้วเว้ย'

"ก็...ก็ทาให้ด้วย" พิมพ์ลภัสอ้อมแอ้มตอบทำเอาคนตัวโตรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

"นวเมศร์ออกมานี่ นวเมศร์อยู่ไหนออกมา" คนขี้หึงเอ่ยเสียงดังจนเด็กหนุ่มผู้ถูกเรียกหาถึงกับวิ่งหน้าซีดมาอย่างงุนงงว่าตนไปทำอะไรให้ผู้การหนุ่มเกือบใหญ่โกรธ

"ผมอยู่นี่ครับ" เด็กหนุ่มขานรับเมื่อเดินมาถึงจุดที่ผู้บังคับการเรือหนุ่มยืนอยู่ ดวงตาคมไม่กล้าเงยขึ้นมองหน้าดุดันของธนกฤตสักนิด

"นายเอายามาให้พริกหวานฉันขอบใจมาก แต่ที่เอายาทาให้ฉันไม่ชอบ ปั่นจิ้งหรีดบนเรือ3รอบ" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่ลูกเรือคนอื่นที่มาแอบมองถึงกับพากันกลืนน้ำลาย 'แค่รอบเดียวก็มึนแล้วนี่สามรอบเจ้าเด็กนั้นจะรอดมั้ย'

"นี่พี่ธามจะบ้าเหรอ ปั่นจิ้งหรีดบนพื้นธรรมดายังโลกหมุนเลยนี่จะให้พี่เค๊าปั่นจิ้งหรีดบนเหรอได้เมากันพอดี พี่ไนน์ไม่ต้องทำค่ะ คนที่สั่งอะไรประหลาดๆเนี่ยทำให้ดูก่อนถ้าพี่ทำได้แล้วสติยังครบพี่ไนน์ค่อยทำ" พิมพ์ลภัสเอ่ยเสียงเขียว พร้อมเอามือกอดอก "ทำดิ ทำให้ดูก่อน แต่เป็นหัวหน้าคนอื่นงั้นเพิ่มเป็นห้ารอบนะ อย่าไร้สาระดิก"

"ไปได้แล้วนวเมศร์ คนอื่น ๆก็แยกย้ายกันไปเลยไป" คนที่ถูกเมียแสดงอำนาจเอ่ยบอกเมื่อทุกคนพากันไปทำหน้าที่ของตัวเองธนกฤตจึงจูงมือเด็กสาวไปที่ห้องพักประจำของเขา

"หนูอย่าทำหน้าแบบนี้สิ พี่ก็แค่หึงเองนะ" ธนกฤตเอ่ยบอกในขณะที่พิมพ์ลภัสยังทำหน้างอใส่

"หึงได้ใครว่า แต่พี่ไนน์เขาหวังดี" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก "แล้วอีกอย่างพี่ไนน์เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่ของหนูด้วย"

"หะ ทำไมพี่ไม่รู้ล่ะ" ธนกฤตเอ่ยอย่างตกใจ ทำไมเขาถึงไม่รู้เมื่อเขาสนิทกับพ่อแม่ของเธออยู่มาก

"พ่อพี่ไนน์เป็นพี่ชายต่างแม่ของคุณแม่ พี่จะรู้จักได้ไงเล่า" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนที่จะหันไปมองรูปถ่ายในกรอบรูปแล้วยิ้มออกมา รูปที่เธอเห็นคือรูปถ่ายตอนแต่งงาน

"พี่เอามาไว้เมื่อไหร่อ่ะ" พิมพ์ลภัสเอ่ยถามก่อนที่จะหยิบขึ้นมาดู ในรูปเธอกำลังชื่นชมซุ้มกระบี่ที่คิดฝันมานานส่วนธนกฤตกำลังมองเธอด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะควงแขนกันลอดซุ้มกระบี่

"พี่ให้ต้นกลเรือที่ไปถ่ายรูปให้หากรอบใส่มาตั้งไว้ตั้งแต่หลังวันงานแล้ว" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดเด็กสาวจากด้านหลัง "รู้มั้ยว่าพี่ชอบยัยตัวแสบที่บังเอิญชนตั้งแต่วันแรกที่พบเลยนะ"

"แล้วทำไมถึงว่าเค๊าอย่างนั้นอย่างนี้" พิมพ์ลภัสเอ่ยถาม เธอจำได้ว่าการเจอกันครั้งแรกของเขาและเธอไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

"ก็หนูยังเด็ก พี่ไม่อยากเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน" ธนกฤตเอ่ยบอก "จำที่พี่พูดวันนั้นที่ร้านกาแฟได้มั้ย"

"ที่ร้านกาแฟเหรอ จำได้มาถึงวันนี้หนูก็ยังสงสัยอยู่เลย" พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก เธอยังจำได้เขาพูดว่า "ก็ไม่อยากยุ่งหรอกแต่มันอดไม่ได้"

"ก็มันอดไม่ได้ไง หนูน่ารักซะขนาดนี้" ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะเอื้อมไปหอมแก้มคนนี้รักเสียฟอดใหญ่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel