ตอนที่ 5
“คุณย่าไม่ให้หยาไปด้วยจริงๆ เหรอคะ”
ปั้นหยาจับมือของคุณย่าวารีเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“ย่ามีแม่แววไปด้วย หยาไม่ต้องเป็นห่วงย่าหรอก เดี๋ยวมะรืนนี้ย่าก็กลับแล้ว ไม่ได้ไปนานเลย”
“แต่หยาก็ยังอดเป็นห่วงคุณย่าไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละค่ะ”
คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนรัก ซึ่งอันนาที่กลับมาพอดีเห็นเข้าก็เบะปากอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาสมทบ
“ย่าสัญญาว่าจะไม่ลืมกินยาเด็ดขาด สบายใจได้แล้วนะหยาหลานรัก”
“คุณย่าสัญญาแล้วนะคะ”
คุณย่าวารีผงกศีรษะตอบรับ ขณะจ้องมองหลานสาวด้วยความเมตตา
“แหม คุณย่าทำเหมือนมีหลานสาวคนเดียวเลยนะคะ”
เสียงเหน็บแนมของอันนาดังขึ้น และก็ทำให้ทั้งคุณย่าวารีและปั้นหยาต้องหันไปมอง
อันนาเดินหน้าบูดบึ้งเข้ามาหยุดตรงหน้า สายตาที่มองปั้นหยานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ประจบเก่งเหลือเกินนะพี่หยา”
“พี่ไม่ได้...”
ปั้นหยากำลังจะอ้าปากอธิบาย แต่คุณย่าวารีจัดการแทนเสียก่อน
“ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะแม่อัน”
อันนาตวัดตามองหน้าคุณย่าวารีอย่างน้อยอกน้อยใจ
“หรือว่าอันพูดผิดไปล่ะคะ ถ้าพี่หยาไม่ประจบประแจงเก่ง คุณย่าก็คงไม่รักหลานลำเอียงแบบนี้หรอกค่ะ”
“แม่อันนา!”
“ทำไมคะ อันพูดแทงใจดำคุณย่าใช่ไหมล่ะคะ”
อันนาลอยหน้าลอยตาอย่างอวดดี
“น้องอัน อย่าพูดจาแบบนี้กับคุณย่าสิจ๊ะ”
“แกอย่ามายุ่ง อีคนสอพลอ!”
อันนาตวาดใส่หน้าของปั้นหยาด้วยความเกรี้ยวกราด ก่อนจะตวัดสายตามองหน้าคุณย่าวารี
“คุณย่าจำเอาไว้เลยนะคะ อันแต่งงานกับพี่แม็กเมื่อไหร่ อันจะไปจากที่นี่ และจะไม่มาเหยียบที่นี่ให้เป็นเสนียดอีกเลยค่ะ”
คุณย่าวารีจ้องหน้าหลานสาวที่ตนเองเลี้ยงดูมากับมือด้วยความผิดหวัง
หล่อนก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมอันนากับปั้นหยาถึงได้มีนิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้ ทั้งๆ ที่หล่อนก็พร่ำสอนและอบรมมาแบบเดียวกัน
“ตามใจแก แม่อันนา”
ยิ่งคุณย่าวารีแสดงท่าทางหมางเมินไม่ใส่ใจมากเท่าไหร่ อันนาก็ยิ่งเกรี้ยวกราดและต้องการเอาชนะ
“แล้วคุณย่าจะต้องเสียใจ เพราะรักหลานผิดคน!”
“ย่าว่าคนที่จะต้องเสียใจคือแกมากกว่ายายอัน”
“อันจะไม่มีวันเสียใจค่ะ”
คุณย่าวารีจ้องหน้าอันนา “คนที่หัวใจมีแต่ความอิจฉาริษยา ไม่มีวันสงบสุขหรอก ไฟร้ายในใจจะแผดเผาจนไหม้เกรียม”
“นี่คุณย่าแช่งอันเหรอคะ!”
“ย่าไม่ได้แช่ง ย่าแค่พูดให้แกมองเห็นสัจธรรมของโลกใบนี้ต่างหาก”
อันนาจ้องหน้าคุณย่าวารีด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินเข้าไปในบ้านทันควัน
ปั้นหยาน้ำตาคลอเบ้า มองตามร่างของญาติผู้น้องไปจนลับสายตา
“คุณย่าขา... น้องอันคงกำลังหงุดหงิด คุณย่าอย่าถือสาอะไรน้องอันเลยนะคะ”
คุณย่าวารีมองปั้นหยาอย่างเอ็นดู
“หยาเป็นคนจิตใจดีมาก ซึ่งมันทำให้ย่าอดที่จะห่วงหยาไม่ได้”
ปั้นหยาระบายยิ้มกว้างให้กับผู้มีพระคุณ แม้ว่าดวงตาจะยังฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาก็ตาม
“หยาเชื่อในความดีค่ะคุณย่า คนเราทำดีก็ต้องได้ดี แม้ว่าผลของมันจะมาช้าก็ตาม”
คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอีกครั้ง ก่อนจะให้พรกับหล่อน
“ย่าขอให้เด็กดีๆ อย่างหยาพบเจอแต่ความสุขนะลูก ใครคิดร้ายก็ขอให้แพ้ภัยไป”
ปั้นหยาพนมมือไหว้คุณย่าวารีด้วยกิริยานอบน้อม “ขอบคุณคุณย่ามากค่ะ หยาจะจำคำสอนของคุณย่าเอาไว้ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดค่ะ”
“ย่ารักหยามากนะลูก”
“หยาก็รักคุณย่าค่ะ”
ปั้นหยาโผเข้ากอดร่างของคุณย่าวารีเอาไว้ ก่อนจะส่งท่านขึ้นรถหรูที่จอดรออยู่
“คุณย่าดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
หล่อนยังอดห่วงคุณย่าวารีไม่ได้ จึงต้องหันไปกำชับกับคนสนิทของคุณย่าอีกครั้ง
“ป้าแววจ๊ะ อย่าลืมให้คุณย่าทานยาตามที่หยาจัดไปให้ด้วยนะจ๊ะ”
“คุณหยาวางใจได้เลยค่ะ ป้าไม่ลืมแน่นอน”
ปั้นหยายิ้มโล่งใจออกมา มองรถหรูที่แล่นจากไปจนลับสายตา จึงหมุนตัวกลับเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งก็เจอกันอันนาที่กำลังนั่งทาเล็บอยู่ในห้องโถงพอดี
“แกมาช่วยทาเล็บให้ฉันหน่อยสิ”
“พี่ไม่ว่างน่ะน้องอัน ต้องไปคุมแม่บ้านทำความสะอาดห้องคุณย่าน่ะ”
อันนาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยาอย่างเอาเรื่อง
“แค่ช่วยทาเล็บให้ฉันนี่ มันหนักหนาหรือไง ทำไมจะต้องปฏิเสธด้วย หึ!”
“พี่ก็เห็นน้องอันทาเองได้นี่จ๊ะ”
“ที่เห็นฉันทาได้นี่ มันเล็บมือย่ะ แต่เล็บเท้าฉันทาไม่ถึง”
ปั้นหยาเอียงหน้าหลบนิ้วเรียวของอันที่พยายามจะจิ้มหน้าผากมนของตนเองได้หวุดหวิด พร้อมกับขยับถอยหลังออกห่างตามสัญชาตญาณ
“งั้นน้องอันก็ไปที่ร้านก็ได้นี่จ๊ะ เห็นปกติน้องอันก็ไปทำเล็บที่ร้านออกจะบ่อย”
“ก็วันนี้ขี้เกียจมีอะไรไหม แล้วแกก็ต้องมาทาเล็บตีนให้ฉันด้วย ไม่อย่างนั้นเห็นดีกันแน่”
อันนาเน้นคำว่า ‘ตีน’ ชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะอมยิ้มสะใจเมื่อเห็นปั้นหยาทำหน้าคล้ายกับจะร้องไห้
“หึ อย่ามาบีบน้ำตา มานี่ มาทาเล็บตีนให้ฉัน”
อันนาเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม และยกขาขึ้นพาดกับโต๊ะกระจกตรงหน้า
“มาสิ ยืนเซ่ออยู่ได้”
แต่เมื่อเห็นปั้นหยายืนนิ่งอยู่ หล่อนก็ต้องตวาดเรียกอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
“เอ่อ... จ้ะ”
ปั้นหยาเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กับฝ่าเท้าของอันนา กำลังจะเปิดขวดน้ำยาทาเล็บอยู่แล้วเชียว แต่เสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาเสียก่อน
“เสียงรถพี่แม็กนี่”
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าของอันนา ก่อนที่หล่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้
“แกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เร็วเข้า”
“เอ่อ... ทำไมล่ะจ๊ะน้องอัน”
ปั้นหยาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นเพื่อเตรียมทาเล็บเท้าให้กับอันนาช้อนตามองคนออกคำสั่งอย่างแปลกใจ
“แกไม่ต้องมาถามหรอก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้สิ เร็วเข้า!”
ปั้นหยาลุกขึ้นทำตามคำสั่งของอันนาทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่เปลี่ยนแปลง
“เอาขาขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะสิ เร็วเข้า”
“เอ่อ... พี่ใส่กระโปรงคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
ปั้นหยาไม่ได้ทำตามคำสั่งนี้ ทำให้อันนาต้องเป็นฝ่ายกระชากขาเรียวของปั้นหยาขึ้นมาด้วยตัวเอง