บทที่ 1-1 เขาชื่อติณณ์
หนึ่งฤทัยนำเอกสารที่ต้องใช้และ USB กับไอแพดไปเข้าห้องประชุม มีหัวหน้าฝ่ายต่างๆ มารออยู่ในห้องบ้างเเล้ว แต่ละคนล้วนเป็นผู้อาวุโสไม่ก็วัยกลางคน มีเพียงเธอที่เป็นหญิงสาวหน้าตาดี ทุกสายตาจึงจับจ้องมาที่เธออย่างช่วยไม่ได้
“เจ้าหญิงของบริษัทมาแล้ว แหม วันนี้สวยมาเชียวนะ เคล็ดลับการหาลูกค้าอยู่ที่หน้าตานี่เอง” คนพูดไม่ได้พูดด้วยเจตนาดี แต่เป็นการเปิดประเด็นให้คนอื่นๆ ข่มใส่
“เก่งจริงนะ อายุแค่นี้ก็ได้เป็นหัวหน้าซะแล้ว อยากจะรู้จริงๆ ว่ามีอะไรดี”
“ผลงานดีไงคะ” หนึ่งฤทัยตอบยิ้มๆ ทีเล่นทีจริง
“หนึ่งว่าหนึ่งก็มีดีอยู่หลายอย่างนะคะ ในเมื่อหนึ่งมีความสามารถที่จะทำเงินให้บริษัท ทางบริษัทถึงได้จ้างงานหนึ่งคะ บางคนอายุงานมากแล้ว แต่ตำแหน่งตันอยู่แค่นี้ ทางบริษัทก็ยังเลี้ยงไว้ หนึ่งก็อยากรู้เหมือนกันคะว่ามีอะไรดี”
หนึ่งฤทัยพูดขำๆ แต่ทุกคนจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าไม่ขำด้วย หนึ่งฤทัยยักไหล่ หมดยุคที่ต้องทนฟังคำเสียดสีอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว ตอนที่เธอเข้าทำงานที่นี่ใหม่ๆ บางคนเคยเกลี้ยกล่อมให้เธอขึ้นเตียงโดยเอาตำแหน่งหน้าที่การงานมาล่อ แต่เธอปฏิเสธไป หนึ่งฤทัยทำงานหนักและผลักตัวเองจนขึ้นมายืนระดับเดียวกับพวกเขาได้ในเวลาเพียงแค่สองปี หนึ่งฤทัยก็ไม่คิดจะทนคำดูถูกหรอกนะ
ใช่ว่าในห้องประชุมจะมีแต่พวกนิสัยเสีย หลายคนก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี ทำงานดีแต่สู้พวกใช้ปากฉอเลาะไม่ได้ เมื่อหนึ่งฤทัยตอกกลับพวกปากร้ายจนหุบปากไปเป็นแถบ พวกเขาก็แอบกดไลน์ส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะหากัน ก่อนจะส่งรูปของผู้อำนวยการคนใหม่ให้หนึ่งฤทัยดูทางไลน์
“หล่อใช่มั้ยล่ะ”
“ว้าวเลยล่ะค่ะ”
“แดดดี้สุดๆ คุณติณณ์รับผิดชอบงานในสาขาต่างประเทศรวมแล้วกว่าสิบหกสาขา เขาได้รับทาบทามจากบริษัทระดับโลกหลายแห่งเชียวล่ะ”
“แล้วทำไมเขาไม่รับข้อเสนอล่ะคะ”
“เอ้า ก็นี่น่ะบริษัทของคุณพ่อเขานี่ มัวแต่บ้างานล่ะสิถึงไม่รู้อะไรเลย สาวๆ กรี๊ดกันทั้งตึก”
“เขายังไม่แต่งงานเหรอคะ”
“ยังไม่ได้แต่ง แต่ถึงจะแต่งแล้ว สาวๆ ก็กรี๊ดอยู่ดี สัปดาห์ก่อนโน้นฝ่ายบุคคลรับสมัครตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ เธอก็ได้เทียบเชิญนี่”
“อ่อ ที่บอกว่าจะคัดจากคนในบริษัทก่อน ถ้าไม่มีใครอาสาก็จะเปิดรับคนนอก”
“ใช่ๆ รู้มั้ยว่าพวกสาวๆ แห่กันไปสมัครเกือบห้าสิบคน แน่นจนฝ่ายบุคคลต้องติดป้ายปิดรับสมัครภายในสองชั่วโมงเลยล่ะ ผลสุดท้ายก็แห้วกันหมด ผอ.ไม่เอาใครสักคน ฮ่าๆ พวกสาวๆ ก็ยิ่งคลั่งกันใหญ่ ระวังไว้นะจ๊ะเจ้าหญิง เธอมีคู่แข่งแล้ว”
“หนึ่งขอยอมแพ้ก่อนเลยค่ะ ให้สาวๆ เขาไปเลย”
หนึ่งฤทัยดูรูป ผู้อำนวยการคนใหม่หนุ่มกว่าที่คิด รูปร่างสูงเพรียวแบบคนที่ออกกำลังกายทุกวัน ใบหน้าของเขาคมเข้ม สันจมูกตรงโด่ง แววตาเป็นประกายหนักแน่นและภูมิปัญญาดีเลิศ เขาเป็นผู้ชายที่แข็งแรงเสียยิ่งกว่าที่หนึ่งฤทัยเคยพบเห็นตามฟิตเนส ทั้งเก่งทั้งหน้าตาดีแบบนี้ หนึ่งฤทัยนึกปลื้มผู้อำนวยการคนใหม่ขึ้นมาทันที
หลังจากรอเวลาไม่นาน ประตูห้องประชุมก็เปิดออกและมีชายหน้าตาหล่อเหลาโผล่เข้ามา ทุกคนรีบลุกขึ้นเพื่อให้เกียรติ หนึ่งฤทัยกำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอผู้อำนวยการคนใหม่ เธอจึงติดพันอยู่กับหน้าจอ ลุกขึ้นยืนตามโดยไม่ได้ละสายตาจากไอแพด
“คุณคือหัวหน้าฝ่ายโฆษณาและการตลาด”
“ค่ะ”
หนึ่งฤทัยเงยหน้าพรวด เบิกตามองคนตัวใหญ่ตรงหน้า เขาสูงมากจนต้องแหงนหน้ามอง อายุน่าจะไม่เกินสี่สิบ เส้นหนึ่งดำขลับดวงตาฉายแววทรงพลัง ฉายประกายฉลาดเฉลียว ไหนจะสันกรามคมสันชวนให้นึกฝันถึง ความกว้างของบ่าและแผงอกของเขากำยำเสียจนหนึ่งฤทัยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแคระ
“ผมอ่านตัวเลขการตลาดในช่วงสองปีมานี้ มันยอดเยี่ยมมาก ผมถูกใจคุณจริงๆ ยินดีที่เราจะได้ร่วมงานกันนะครับ”
เสียงของผอ.คนใหม่กังวานและมีอำนาจ เวลายิ้มแย้มก็จะมีรอยย่นที่หางตานิดๆ หนึ่งฤทัยมัวแต่อึ้งอยู่ กว่าจะสังเกตว่าอีกฝายยื่นมือให้จับ เพื่อนร่วมงานก็ต้องกระทุ้งศอกใส่
“เอ่อ ค่ะ ยินดีเช่นกันค่ะ”
ตัวจริงของเขาดูดีกว่าในรูปเสียอีก เมื่อเริ่มต้นแนะนำหัวหน้าแต่ละฝ่ายอย่างเป็นการ เขาก็ยิ้มอย่างอบอุ่น ไม่ว่าจะขยับอิริยาบทไหนก็มีเสน่ห์ชวนมอง รวมทั้งแผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามตามแบบฉบับผู้บริหารระดับสูง เขาคุยเล่นสร้างความคุ้นเคยแก่ทุกคน เมื่อเข้าสู่โหมดการทำงาน หนึ่งฤทัยก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้อำนวยการคนนี้ถึงกุมบังเหียนงานสำคัญ เพราะเขาฟาดไม่เลี้ยง ลำดับอาวุโสไม่มีผลต่อการพิจารณา ถ้อยคำของเขายิงตรงเข้าประเด็นไม่อ้อมค้อม ประเดี๋ยวเกรี้ยวกราด ประเดี๋ยวก็สุภาพเชือดเฉือน แม้แต่หนึ่งฤทัยเองก็มีประเด็นที่ต้องใส่เนื้องานเพิ่มเติมหลายจุด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผู้อำนวยการดูจากข้อมูลที่นำเสนอในชั่วพริบตาา
“ฟู่วว... ของจริงอ่ะคนนี้”
ช่วงพักเบรก แต่ละคนเป่าปาก ถ้าไม่เละก็อ่วมกันทุกแผนก “ขนาดเอาตัวเลขสวยๆ มาเสนอ ผอ.ดูแค่ปราดเดียวก็ชำแหละงานที่หมกไว้ออกมาเป็นชอตๆ”
“นี่แหละประสบการณ์มันต่างกัน เขาดูแค่ตัวเลขก็มองออกแล้วว่ามีปัญหาตรงจุดไหน”
หนึ่งฤทัยพักดื่มกาแฟ ถึงคนอื่นๆ จะบ่นก็เถอะ แต่เธอจดคำแนะนำดีๆ จากผู้อำนวยการคนใหม่ไว้เพียบ บางอย่างเธอก็ไม่รู้เพราะยังไม่มีประสบการณ์มากพอ พอได้คำชี้แนะดีๆ มา หนึ่งฤทัยก็รู้สึกเหมือนคนที่เพิ่งวิ่งทะลุออกมาจากอุโมงค์เลยทีเดียว
“หนึ่งชอบผอ.ค่ะ”
“หา?”
“เขาจริงใจ ใส่ใจจริงๆ หนึ่งคิดว่าเขาต้องเป็นผอ.ที่เจ๋งสุดๆ แน่นอนเลย”
“คิดแบบนั้นจริงอ่ะ” ทุกคนโห่ “แค่สิบห้านาที ผอ.ก็เพิ่มงานให้ฉันหกงานแล้ว”
“แต่ผอ.ก็เสนอโบนัสให้ถ้าเราทำได้ตามที่ตั้งเป้าไว้นี่คะ หนึ่งว่านี่แหละแฟร์ดี”
“นี่แหละน้าา ออฟฟิศเลดี้ไฟแรง”
ช่วงเย็น มีงานเลี้ยงต้อนรับผู้อำนวยการคนใหม่ หนึ่งฤทัยกับทุกคนในฝ่ายก็ไปที่ร้านอาหารริมแม่น้ำซึ่งเป็นสถานที่จัดงานด้วย ตอนแรกเธอนึกว่าจะเป็นงานเลี้ยงแบบลำลองก็เลยถอดผ้าพันคอของบริษัทไว้ที่รถ แต่ปรากฎว่าท่านผอ.ดันแต่งตัวใส่สูทจัดเต็มเสียฉิบ ผู้น้อยอย่างเธอก็ต้องแต่งตัวให้สุภาพด้วย
“เร็วเข้า ใกล้ถึงเวลาแล้ว”
“ค่ะๆ” หนึ่งฤทัยหลบมาผูกผ้าพันคอที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำของร้านอาหาร แต่ผูกอยู่นานก็เบี้ยว ต้องรื้อแก้ใหม่จนไม่เหลือใครในห้องน้ำแล้ว “เอ่อ... ทบขึ้นบนตรงนี้แล้วก็...”
“ให้ผมช่วยมั้ย”
“ขอบคุณค่ะ”
เหมือนมีเสียงสวรรค์เลย หนึ่งฤทัยอยากจะฉีกผ้าพันคอเครื่องแบบพนักงานนี้ทิ้งอยู่แล้วเชียว เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกทีก็พบว่าคนที่กำลังยืนล้างมืออยู่ที่อ่างถัดไปก็คือผู้อำนวยการติณณ์นั่นเอง