คำเตือน
ตอนที่ 1
คำเตือน
ค่ำคืนนี้ภายใต้รอยยิ้มของสาวน้อยมันมีความสับสนในหัวใจซ่อนอยู่ ชีวิตของเธอที่ดูเหมือนไม่เคยเป็นผู้กำหนดชะตาด้วยตัวเองมันอาจจะดูเหมือนนกน้อยในกรงทองแต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ ความสุขสบายมันไม่เคยมีความสุขเลย
“สวัสดีครับ”
เสียงทักทายที่ดังขึ้นมาขัดจังหวะคนที่กำลังใช้ ความสงบเยียวยาหัวใจทำให้มินดาต้องรีบหันไปมองตามที่มาของเสียง
“คุณธีร์”
มินดาเรียกชื่อชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่บ้านโดยเฉพาะเวลานี้มันดึกมากและก็เป็นวันที่พ่อแม่ของเธอไม่อยู่
“มีงานอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามออกไปเพราะหลังจากที่เธอเรียนจบก็เข้ามาทำงานที่บริษัทของธีภพในตำแหน่งเลขาถึงแม้ว่าฝ่ายชายจะไม่ยินดีรับเธอเข้าทำงานก็ตาม
“ผมมาหาคุณวันนี้ไม่ใช่เรื่องงาน ผมคิดว่าคุณรู้ว่าเรามีเรื่องอะไรต้องคุยกัน”
ธีภพจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง มันยิ่งสร้างความน่าเกรงขามให้กับอีกฝ่ายที่กำลังรู้สึกกลัวในสิ่งที่เขากำลังจะพูดกับเธอ
“ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าคุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน”
มินดาตอบแบบนั้นทั้งที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไรที่จะพาท่านประธานของเธอมาถึงที่บ้านหลังนี้ได้
“เรื่องของเราที่ผู้ใหญ่ต้องการจากตอนแรกที่ผมคิดว่ามันคงเป็นแค่คำพูดล้อเล่นกันสนุกปากตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องจริงที่คุณเองก็น่าจะรู้แล้วว่าผู้ใหญ่วางแผนให้เราแต่งงานกันภายในเดือนหน้า”
ธีภพพูดจบก็เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายเพื่อหวังว่ามินดาจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างแต่กลับเป็นว่าเธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายเงียบอย่างเดียว
“ผมรู้ว่าเรื่องนี้คุณเองไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจแต่อย่าลืมว่าคนที่จะต้องแต่งงานกันจริงๆคือเราสองคนในเมื่อเราไม่ได้รักกันคุณก็ไม่รักผมเราจะใช้เวลาที่เหลือกันทั้งชีวิตอยู่กันแบบไม่มีความสุขหรือยังไง”
ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าเรื่องถึงสาเหตุที่เขาต้องมาวันนี้ตรงๆยังคงพยายามใช้หว่านล้อมเพื่อให้มินดาเห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังจะขอร้องเธอ
“ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่ามันจะมีความสุขหรือเปล่าแต่รู้แค่เพียงว่าเป็นลูกก็ต้องทำตามในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ”
มินดาพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจเพราะมันถูกสั่งจากสมองและจิตสำนึก ครอบครัวของเธอเคยลำบากในเมื่อวันนี้พ่อแม่ของเธอกำลังต้องการให้เธอช่วยเพื่อให้ผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นอย่างที่หวัง เธอในฐานะลูกก็คงจะตัดสินใจอะไรไม่ได้นอกจากยอม ทำตามในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ
“นี่มันสมัยไหนกันแล้วอย่าเอาความกตัญญูมาเป็นข้ออ้างในการที่จะต้องมาอยู่ด้วยกันทั้งที่เราสองคนยังแทบจะไม่ได้รู้จัก อะไรกันเลย เธอคิดว่ามันยุติธรรมกับเราสองคนแล้วหรือ”
ธีภพถึงแม้จะเริ่มพูดด้วยเสียงดังแต่เขาก็ยังคงพยายามใช้เหตุผลแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มรู้สึกว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะมาพูดด้วยเธอไม่พร้อมจะฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น
“แล้วคุณคิดว่าฉันทำอะไรได้ ขนาดคุณอายุมากกว่าฉันตั้งหลายปีเป็นเจ้าของธุรกิจก็ยังไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งผู้ใหญ่เลย”
มินดาหันไปมองสบตาชายตัวสูงตรงหน้าก่อนที่จะรีบ หันหลังเพราะรู้ว่าคำพูดของเธอคงจะสร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่าย
“คุณไม่ต้องกลัวเรื่องนั้น ผมพูดกับพ่อแม่ผมแล้วและนี่ก็คือสาเหตุที่ผมมาหาคุณที่นี่ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องปฏิเสธและไม่ยอมทำตามในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ ชีวิตของผมไม่ได้เกิดมาเพื่อจะแต่งงานกับใครถ้าผมไม่รักและตัวคุณเองก็คงจะไม่อยากอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักคุณใช่ไหม”