บทที่1 ใครจะมาเป็นเจ้าสาวของผม !! 1
บทที่1
ใครจะมาเป็นเจ้าสาวของผม !!
ในห้องคอนโดหรูใจกลางเมือง ร่างสองร่างนอนอิงแอบแนบชิดกันอยู่บนเตียงกว้าง ฝ่ายหญิงรูปร่างอวบไร้อาภรณ์มาปิดบังกาย จนมองเห็นอกสล้างที่เบ่งบานท้าทายสายตาคนที่นอนอยู่เคียงข้าง ภีรวัทน์จับอกนิ่มนวดเคล้นเบาๆแล้วค่อยเพิ่มแรงมากยิ่งขึ้น แต่รุจิราก็ไม่มีทีท่าเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำดวงตาที่ถูกกรีดอายไลเนอร์จนคมเฉี่ยวยังสบตากับดวงตาเข้มคมที่กำลังพราวระยับเชื่อมแบบสายตาคนเจ้าชู้
ภีรวัทน์ขยับยิ้มเมื่อแรงปรารถนาปะทุขึ้นจนแล่นพล่านไปทั่วร่าง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพลิกตัวขึ้นคร่อมหญิงสาว เธอก็ลุกขึ้นมาเสียก่อนพร้อมดึงผ้าห่มผืนบางที่คลุมช่วงล่างของชายหนุ่มออก เผยให้เห็นความเป็นชายที่กำลังลุกสู้พร้อมออกศึกอีกครั้ง
รุจิราขึ้นไปนั่งทับกลางตัวของเขา ตาสบตาอย่างมีความหมาย ก่อนที่สะโพกอวบตึงจะขยับขึ้นๆลงๆจนคนที่นอนอยู่ต้องครางเสียงต่ำในลำคออย่างพึงพอใจในลีลารักของเธอ
เขาคือ...ภีรวัทน์ ธันย์วลี อายุ28ปี ผู้ที่ไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อน ชีวิตเขามีความสุขอยู่กับการทำงานและ...เรื่องบนเตียงกับผู้หญิงคนแล้วคนเล่า
สายลมที่ไม่เคยหยุดนิ่งอย่างเขาก็ยังคงพัดผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะหยุดพักที่ใดที่หนึ่ง
เจ้าสาว...คำนี้คือคำต้องห้ามที่ทั้งชีวิตนี้ เขาก็ไม่มีทางได้พานพบ เพราะเขาไม่เคยคิดจะไปเป็นเจ้าบ่าวของใคร !!
วันต่อมา
“ซื้อขนมครกมั๊ยค้าาา” เสียงเจื้อยแจ้วของแม่ค้าร่างเล็กที่ยืนแหกปากร้องเชิญชวนให้ลูกค้ามาซื้อขนมของตนที่ร้านเพิงเล็กๆข้างทางดังขึ้น ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องหันมามองแต่...ไม่คิดจะซื้อ
“ซื้อหน่อยเถอะค่า” พีระดาตะโกนอีกครั้งจนไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอจะเสียงดังได้ขนาดนี้
“แค่กๆๆ” พีระดาตบอกตัวเองปุๆ รีบคว้าน้ำมาดื่มอึกๆลงคอเมื่อรู้สึกว่าเสียงตัวเองเริ่มจะแหบแห้ง
“ทำไมไม่มีใครซื้อเลย” พีระดาพึมพำด้วยใบหน้าเหี่ยวแห้ง นึกท้อแท้จนอยากจะเลิกขายแต่ก็ทำไม่ได้
รถยนต์คันหรูสีดำมันปลาบราคาหลักล้านค่อยๆคลานเข้ามาจอดที่หน้าเพิงที่ขายขนมครกของเธอ แต่คนในรถกลับไม่ยอมลงมา จนพีระดาต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“แกแน่ใจเหรอวะ ว่าร้านขนมครกร้านนี้จะอร่อย” ภีรวัทน์ที่นั่งอยู่ประจำตำแหน่งถามเพื่อนรักที่นั่งมาข้างๆอย่างไม่ค่อยจะศรัทธาร้านขนมครกร้านนี้สักเท่าไหร่
เขาไม่เข้าใจเลยว่าคุณนายสายพิณจะนึกอะไรขึ้นมา ถึงได้อยากกินขนมครก แถมยังโทรศัพท์มาสั่งแบบบังคับให้เขาซื้อไปฝากอีกด้วย
“ฉันน่ะ ไม่เคยกินเลยนะ ขนมครกน่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่นึกยังไงถึงจะกินขึ้นมา” ภีรวัทน์บ่นอย่างอุบอิบ ในขณะที่ผู้ชายร่างสูงผอมที่มีใบหน้าสุขุมเยือกเย็นฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทั้ง32ซี่
“ฉันขอรับรองว่าแม่ค้าคนนี้...นอกจากสวยแล้ว ยังทำขนมครกอร่อยที่หนึ่ง” พัสนัยชูนิ้วโป้งขึ้นมาเป็นเครื่องการันตีความอร่อย
ภีรวัทน์หันไปมองทะลุกระจกรถที่ติดฟิล์มสีดำอีกครั้ง เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆกรอกน้ำลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า แล้วไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนี้จะสวยอย่างที่เพื่อนบอกเลยสักนิด
“งั้นฉันลงไปซื้อก่อน แกรออยู่ที่นี่ล่ะกัน” ภีรวัทน์หันไปบอกเพื่อนที่เป็นคนบอกทางมาให้ ก่อนจะเปิดประตูรถลงไป
พีระดาที่เพิ่งวางแก้วน้ำลง หันมามองผู้ชายร่างสูงที่ก้าวลงจากรถอย่างมีมาดแล้วก็ต้องตะลึงจนตาค้าง
เขาสวมชุดสูทสีดำที่ช่วยเสริมบุคลิกของเขาให้ดูเด่นสง่า รองเท้าหนังมันปลาบราคาแพง ช่วยบอกได้ดีว่าฐานะทางบ้านของเขาดีขนาดไหน และที่สำคัญก็คือ...ผู้ชายคนนี้ หล่อมาก
คิ้วเข้มยาวพาดอยู่เหนือดวงตาคมกริบที่มีแววเชื่อมๆเหมือนคนเจ้าชู้รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูกุหลาบเหมือนคนมีสุขภาพดีที่ตอนนี้กำลังขยับยกมุมปากขึ้นราวจะส่งยิ้มให้เธอ
เขาดูดีมากจริงๆ ว่าแต่ว่า...คนหล่อๆแบบเขาจะมาเดินทำหล่ออะไรแถวหน้าร้านขายขนมครกของเธอ
เท้าไวเท่าความคิด หญิงสาวรีบเดินรี่เข้าไปทักทายเขาทันที
“มาผิดร้านหรือเปล่าคะ” พีระดาถามอย่างสุภาพ ในขณะที่เขาหันซ้ายที ขวาที แล้วมองหน้าเธอพลางเลิกคิ้วถามอย่างงงๆว่า
“ผิดร้าน ? ”
“ร้านอาหารหรูๆต้องขับรถต่อไปอีกประมาณ3กิโลเมตรค่ะ ที่นี่ขายแต่ขนมครก” หญิงสาวอธิบาย ส่วนเขาก็ขยับยิ้มมากยิ่งขึ้นจนเธอเริ่มรู้สึกตาพร่า
“ผมจะซื้อขนมครก” ครั้นพอเห็นหน้าตาฉงนของเธอ เขาก็พูดต่อออกมาว่า “ผมไม่ได้กินเองนะ แม่ผมต่างหากล่ะ”
“อ๋อ ค่ะ” เธอพยักหน้าหงึกหงัก รับรู้ได้เลยว่าบุรุษที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอนั้นมีเสน่ห์ของความเป็นลูกผู้ชายเต็มเปี่ยมจนเธอสัมผัสได้
พีระดาหน้าร้อนผ่าวเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เธอหันหลังให้เขาพลางเดินมาที่โต๊ะที่วางห่อขนมครกอยู่ในกระจาด ส่วนเขาก็เดินตามเธอมาเงียบๆ
ขายาวๆของเขาก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็ตามเธอทัน ดวงตาคู่พราวมองร่างเล็กๆและสะโพกตึงผายที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงยีนเอวต่ำของเธออย่างรื่นรมย์
“จะรับกี่ห่อดีคะ” เธอหันมาถาม ซึ่งเขาก็รีบเมินหน้าหนีไปอีกทางหนึ่งแทบจะไม่ทัน ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติแล้วหันมาพูดยิ้มๆกับเธอ
“5 ห่อเลยก็แล้วกัน” เขามองมือเล็กๆที่ดูสะอาดสะอ้านที่กำลังหยิบห่อขนมใส่ในถุงให้เขาด้วยแววตาแปลกๆ แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมามองอกอวบที่พุ่งดันผ้าเสื้อยืดของเธอ
ขนาดของหน้าอกที่เขาสามารถคาดคะเนได้ด้วยสายตาว่ามันมีขนาดกี่นิ้วดูเย้ายวนจนเขาอยากจะเห็นของจริงว่าถ้าไม่มีเสื้อมาปกปิด มันจะสวยงามยวนใจเขาขนาดไหน
ภีรวัทน์ถอนสายตาออกจากหน้าอกอวบอย่างอ้อยอิ่งแล้วไต่สายตาขึ้นไปตามลำคอระหงจนมาถึงใบหน้ารูปไข่ที่ดูน่ารักจิ้มลิ้มพริ้มเพราเหมือนเด็กอายุไม่ถึง18ปี
“หนูอายุกี่ขวบแล้ว” เขาถาม เล่นเอาเธอต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขาฉับพลัน
“ฉันอายุ 23 ปีแล้วค่ะ” เธอตอบ รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เขาทำเหมือนเธอเป็นเด็กประถมก็ไม่ปาน
ภีรวัทน์เลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะอายุ 23 ปีแล้ว แต่พอสายตาเลื่อนลงต่ำมาหยุดลงที่หน้าอกของเธอ เขาก็พยักหน้ายอมเชื่อแต่โดยดี
“ผมเชื่อว่าคุณโตแล้ว”
แบบนี้เขาเรียกว่าหน้ามัธยม... นมมหาลัยชัดๆ
เขาคิดพลางหัวเราะหึหึในลำคอ และสายตาของเขาก็คงจะแสดงอาการมากไปหน่อย เพราะหญิงสาวหน้าแดงแปร๊ดไปจนถึงใบหู เธอส่งถุงขนมให้เขา พลางบอกว่า
“60 บาทค่ะ”
ภีรวัทน์ส่งเงินให้เธอ ก่อนจะรับถุงขนมมาแล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถ ถึงแม้ว่าในใจจะอยากรู้จักชื่อของเธออยู่ก็ตาม
ก็ดูท่าทางของเธอเสียก่อนสิ เหมือนแม่เสือน้อยชัดๆ ถ้าเขาถามอะไรซอกแซกที่เกินกว่าลูกค้าจะถามได้ออกไป เขาอาจจะโดนตบเป็นคำตอบก็ได้
พีระดาถอนหายใจเฮือก มองตามร่างสูงที่ดูดีแม้จะมองจากทางด้านหลังผลุบหายเข้าไปในรถ