Episode 1.2 ราชินีแห่งโรส
“น้องข้าโตขึ้นมาก พอจะแต่งงานได้แล้วสินะ” อารยะทักทายน้องชายด้วยรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากความหมายในคำพูดนั้น
“ท่านพี่อารยะหมายถึงเรื่องใด ข้ายังเด็กนัก ยังไม่คิดมีคู่”
“เจ้าโตพอแล้วเอริคาซ จริงหรือไม่ท่านลุง” ผู้นำแห่งโฮโมซีนุสยกคิ้วที่มีรอยบากข้างหนึ่งให้แองกัส
แองกัสมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ยอมรับหรือว่าปฏิเสธ เขาทำเพียงมองนิ่งมาที่ลูกชาย นัยน์ตามีแววกังวลฉายชัดจนเอริคาซใจคอไม่ดี
“พี่จะให้เจ้าแต่งงาน จงเตรียมตัวให้ดีเถิด อย่าให้เสียชื่อตระกูลโรส”
ตระกูลโรสนั้นเป็นต้นตระกูลของสโมทาภรรยาของแองกัส บรรพบุรุษของโรสโดดเด่นเรื่องการบ้านการเรือนและการปรนนิบัติสามี นางมีพี่น้องรวมสี่คนล้วนเป็นสตรีทั้งสิ้น สโมทาเป็นน้องคนสุดท้องแต่งงานกับแองกัสทายาทคนโตของผู้นำโฮโมซีนุสคนก่อน แต่แองกัสกับสโมทานั้นต่างรักสงบ พวกเขาจึงสละอำนาจแล้วอพยพมาจากทางใต้ขึ้นมาตั้งรกรากในที่ราบลุ่มตอนกลางพร้อมกับโฮโมซีนุสกลุ่มอื่นที่รักสงบเช่นกัน พวกเขาทำสวนดอกไม้และสอนการบ้านการเรือนให้กับอิสตรีเพื่อปรนนิบัติสามีที่เป็นผู้นำครอบครัว สตรีที่ผ่านการเล่าเรียนจากที่นี่เลื่องลือไปทั่วจตุรทิศ หากบุรุษใดได้ครอบครองนอกจากบ้านช่องจะสะอาดเรียบร้อย อาหารการกินเลิศรสอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ยังเหมือนมีภรรยาเจ็ดคนรวมอยู่ในสตรีเพียงผู้เดียว เธอจะปรนนิบัติสามีด้วยท่วงท่าจากตำรากามสูตรเจ็ดวันเจ็ดคืนไม่มีซ้ำ แต่ถึงกระนั้นสามีก็มิได้อ่อนแรง แต่กลับแข็งแกร่งราวกับได้ดื่มน้ำอมฤต
อารยะพิศมองน้องชาย เอริคาซมีผิวสีขาวอมชมพู รูปร่างบอบบางราวกับหญิงสาว เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนล้อมกรอบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ คิ้วเรียงเส้นสวยสีเดียวกับเส้นผม นัยน์ตาคมสีสนิม ริมฝีปากกระจับสีเชอร์รีสด ท่วงท่างดงามยามหนุ่มน้อยก้าวเดิน แม้เอริคาซจะซุกซนและดื้อรั้นบ้าง แต่เขาเชื่อว่าสโมทาสามารถขัดเกลาลูกชายให้พร้อมจะเป็นเจ้าสาวของผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดในพรีดิเอิร์ธได้ในเร็ววัน
“ฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึง ข้าหวังว่าราชินีแห่งโรสจะงดงามไร้ที่ติ” สายตาของอารยะดุดัน ยามสโมทาขยับมาดึงลูกชายเข้าไปกอดอย่างปกป้อง เขากระตุกมุมปากแล้วหันไปกล่าวกับผู้เป็นลุง “ท่านลุงรู้ดีว่ากองทัพแห่งโฮโมซีนุสแม้จะแข็งแกร่งไม่เท่าเจ้าแห่งดินแดนทั้งสาม แต่ก็มากเกินกว่าตระกูลโรสจะต้านทาน ดังนั้นท่านลุงอย่าคิดขัดบัญชาข้า ไม่เช่นนั้นเห็นทีโรสคงสิ้นชื่อ”
แองกัสกำหมัดแน่น ริมฝีปากของเขาเม้มสนิท แต่ก็ไม่ได้คิดจะต่อสู้กับผู้เป็นหลานในเวลานี้
“เอาเถอะ ฤดูใบไม้ผลิปีนี้เพิ่งผ่านพ้น หวังว่าเจ้าคงรักษาคำพูด โรสต้องอยู่อย่างสงบสุข”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” อารยะลุกขึ้นแล้วเอ่ยลา “ข้าไปก่อน ยังต้องตามล่าตัวคนร้ายที่มันลอบฆ่าแม่ทัพเฮดิส หากคนของโรสพบเห็นจงส่งตัวมันให้ข้า แต่หากข้ารู้ว่าคนใดในโรสให้ความช่วยเหลือชายชุดดำผู้นั้น ข้าจะฆ่ามันทั้งคู่”
อารยะเดินออกจากคฤหาสน์โรสพร้อมกับกองกำลังกว่าสิบชีวิต เอริคาซมองตามคนกลุ่มนั้นอย่างไม่ชอบใจนัก ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่บิดา
“ท่านพ่อขอรับ ที่พี่อารยะพูดหมายความว่าอย่างไร ลูกต้องแต่งงานกับใครเช่นนั้นหรือ?”
“ท่านพี่ ข้าไม่เห็นควรว่าจะให้เอริคาซแต่งงานกับผู้นำคนใดทั้งสิ้น พวกเขาล้วนโหดเหี้ยมและกระหายในอำนาจ” สโมทากอดลูกชายไว้แล้วอ้อนวอนสามี ดวงตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาที่กักเก็บไว้ตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าอารยะพรั่งพรูออกมาในทันที
“ข้าไม่ได้ห่วงใยลูกน้อยกว่าเจ้าหรอกสโมทา แต่เวลาเช่นนี้นอกจากเออออไปก่อน ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีทางใด” แองกัสกลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด
“มีที่ใดที่เราจะซ่อนตัวได้หรือไม่?”
“แล้วเราต้องซ่อนถึงเมื่อไรกัน เจ้าคิดหรือว่าอารยะหรือว่าผู้นำทั้งสามจะไม่ตามไล่ล่าโรส ในเมื่อพวกเขาเชื่อในตำนาน และลูกเจ้าก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากตำนานนั่นแม้แต่นิดเดียว”