บทที่11 อยากแนะนำลินาให้เบรย์เดน
จู่ๆ จันทร์นิลก็ถูกเบรย์เดนกอดจนสะดุ้งโหยง เธอส่ายหน้าแล้วบอกว่า: “ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
ปีศาจคนหนึ่งกำลังถามเธอถึงเรื่องที่เธอถูกปีศาจอีกคนทำร้าย? แล้วจะให้เธอตอบคำถามนี้ยังไง?
มาริสากำลังคุยกับจันดา บอกว่าสามีของเธอล้มขาบาดเจ็บ ตอนนี้ยังเดินไม่ได้ ดังนั้นก็เลยไม่ได้มาเข้าร่วมงานแต่งด้วย และได้ยินว่าลินายังอยู่ต่างประเทศ อีกไม่กี่วันก็จะกลับมาแล้ว
“รอน้องชายอาการดีขึ้นแล้ว พวกเธอทั้งครอบครัวก็มาที่นี่สิ บ้านสวนที่นี่ใหญ่มาก ห้องก็เยอะด้วย พวกเธออยากมาพักนานแค่ไหนก็ได้” จันดาพูดด้วยรอยยิ้ม เธอในตอนนี้เป็นภรรยาของแอชตัน และเป็นคุณนายของบ้านหลังนี้ เธออยากให้ญาติของเธอรู้ว่า ตอนนี้ชีวิตของเธอดีแค่ไหน
“ได้สิ เดี๋ยวกลับไปฉันบอกเขาให้นะ” มาริสาก็ยิ้มหัวเราะ เธอในอดีตเกลียดจันดากับจันทร์นิลมาก รู้สึกว่าพวกเธอเป็นตัวภาระ ถึงแม้สามีที่ตายไปของจันดาจะทิ้งเงินไว้ให้ก้อนหนึ่ง แต่ไม่นานพวกเขาก็ใช้หมดแล้ว แค่ซื้อเดรสไม่กี่ตัว เครื่องประดับไม่กี่ชิ้นก็ใช้หมดเกลี้ยงแล้ว
แต่ตอนนี้แตกต่างกันออกไป จันดาแต่งงานกับแอชตัน เบรย์เดนก็ยังเป็นผู้ชายที่ได้รับความนิยมที่สุดในชิคาโก ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว
มาริสาว่าแล้วก็มองไปยังจันทร์นิล สายตาของเธอเหมือนกับงูพิษ เพียงพริบตาเดียว จันทร์นิลก็รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว มือที่แนบบนตัวก็กำหมัดแน่น จิกเล็บเข้าเนื้ออย่างแรง ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นก็ถึงเตือนเธอว่า ให้เธออย่ากลัว
“จันทร์นิล ไม่เจอกันนาน เธอสวยขึ้นเยอะเลยนะ” มาริสาเดินไปหาจันทร์นิลแล้วจับมือของจันทร์นิลอย่างสนิทสนม
จันทร์นิลรีบชักมือตัวเองออกมา พยายามข่มตัวเองไม่ให้แสดงความกลัวหรือเกลียดชังที่มีต่อมาริสาให้ชัดเจนเกินไป
เธอเรียกด้วยเสียงสั่น: “คุณน้า”
“ถ้าเธอมีเวลาว่างก็ไปหาพวกเราที่บ้านได้นะ เธอลืมสนามหญ้าผืนนั้นที่เธอชอบไปแล้วเหรอ? ไปปล่อยวัวปล่อยแพะกับน้าเธอได้”
คำพูดของมาริสาทำเอาสีหน้าของจันทร์ซีดเซียวกว่าเดิม
ไม่ เธอไม่ชอบ ไม่ชอบเลยสักนิด!
ตอนเด็ก ทุกวันของเธอต้องไปปล่อยวัวกับแพะ ตอนกลางคืนกลับมา พวกเขายังไล่ให้เธอไปนอนกับพวกวัวแพะอีก
กลิ่นเหม็นของพวกสัตว์ จนถึงวันนี้ เธอก็ยังคงจดจำมันได้
มาริสาโหดร้ายแค่ไหน ผ่านมานานมากแล้ว เจอหน้ากันก็ทักเธอเรื่องนี้เลย อยากให้เธอหวนนึกถึงช่วงเวลาฝันร้ายเหล่านั้น
หลังจากจันดาได้ยินแล้ว ก็ยิ้มแล้วพูดว่า: “นั่นสิ จันทร์นิลชอบอยู่กับพวกวัวแพะมากเลย”
เธอไม่รู้เรื่องนี้เลย แต่หลายครั้งที่เธอกลับไปก่อน ก็เห็นจันทร์นิลกำลังปล่อยแพะ ลินาบอกว่าเธอชอบพวกสัตว์ เธอถามจันทร์นิล จันทร์นิลเองก็ยอมรับเรื่องนี้
เบรย์เดนในตอนนี้ ฟังจากเรื่องที่พวกเขาคุยกัน ยิ่งเป็นจันทร์นิล เขาเห็นว่า หลังจากที่จันทร์นิลเห็นมาริสา สีหน้าก็ซีดเซียวมาก ร่างกายเหมือนจะสั่นเทาเล็กน้อยด้วย
ทำเอาเบรย์เดนรู้สึกแปลกใจ
ถ้าผู้หญิงคนนี้ชอบจริง ก็ไม่ควรมีปฏิกิริยาแบบนี้สิ ท่าทางของเธอดูเหมือนกำลังเผชิญเรื่องราวที่น่าหวาดกลัวอยู่เลย
เขาอดไม่ได้ถามเธอเสียงเบาว่า: “เธอชอบจริงเหรอ?”
จันทร์นิลรีบส่ายหน้า ไม่รู้ว่าทำไม เทียบกับมาริสาและลินาแล้ว เธอกลับรู้สึกว่าผู้ชายข้างๆเธอไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นแล้ว
แย่แล้วสิ! ทั้งที่ผู้ชายคนนี้เพิ่งทำเรื่องราวที่น่ากลัวกับเธอ แต่ว่า เธอกลับรู้สึกว่า อยู่ใกล้เขาสบายกว่ามาริสาและลินาเสียอีก
ความจริงแล้ว เธอกล้าตอบโต้เบรย์เดน แต่กลับไม่กล้าตอบโต้ลินา
มาริสาสังเกตเห็นเบรย์เดน ตอนนี้ สีหน้าของเธอดูดีใจมาก
“คุณเบรย์เดน สวัสดีค่ะ ฉันเป็นญาติของแม่เลี้ยงคุณ ขอถามหน่อยได้ไหมคะ คุณแต่งงานหรือยังคะ? ฉันมีลูกสาวคนหนึ่ง อายุน้อยกว่าคุณหกปี ลูกสาวฉันสวยและน่ารักมาก ไม่ทราบว่าคุณพอจะสนใจอยากทำความรู้จักไหมคะ?”
เบรย์เดนเป็นถึงเจ้าพ่อแห่งชิคาโกตอนนี้ เขามีชื่อเสียงโด่งดัง อายุน้อยแถมยังหล่อเหลาด้วย มีสาวๆมากมายชอบเขากันหมด ลินาก็เคยพร่ำเพ้อบอกว่าอยากแต่งงานกับเขาอีกด้วย
ได้ยินว่า ข้างกายของเขาไม่มีผู้หญิงคนอื่น งั้นถ้าแนะนำลูกสาวตัวเองให้เขา งั้นครอบครัวของพวกเขาก็จะยิ่งรุ่งโรจน์น่ะสิ!
พระเจ้า ขอทรงอวยพรให้สองคนนี้ได้คู่กันด้วยเถิด!
แต่หารู้ไม่ สายตาที่เบรย์เดนมองเธอนั้นเย็นชาและแหลมคมมาก ราวกับจะมองทะลุตัวเธอไป
สีหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เจ้าพ่อมาเฟียที่อายุน้อยที่สุดแห่งชิคาโก เหยียบศพมากมายเพื่อปีนขึ้นมายังตำแหน่งนี้ เพียงแค่เหลือบตามองดูอีกฝ่าย คนทั่วไปก็ทนไม่ไหวกันแล้ว
มาริสาในตอนนี้ก็กำลังตกใจกับสายตาของเบรย์เดนอยู่
ตายแล้ว เธอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า? แต่เบรย์เดนยังอ่อนโยนกับยัยจันทร์นิลนั่นได้เลย ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไปได้นะ!
“แนะนำลูกสาวของคุณให้ผมงั้นเหรอ? คุณหญิงท่านนี้อยากให้ลูกสาวถูกฉีกเสื้อผ้าตัวเปลือยโยนทิ้งข้างถนนถูกพวกคนเร่ร่อนข่มขืนหรือไง หรืออยากให้วันหนึ่งเธอถูกยิงตัวพรุนตายกลางถนน?” เบรย์เดนคิดว่า ตัวเองยังไม่ถึงขั้นที่ต้องให้ผู้หญิงแบบนี้มาแนะนำเรื่องการแต่งงาน เขาเป็นเจ้าพ่อแห่งชิคาโก อยากแต่งงานกับใคร มีเพียงเขาที่ตัดสินใจได้
คนที่จะแต่งงานกับเขา อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาหวั่นไหวได้ เช่นนั้น เขาถึงจะปกป้องเธอเหมือนกับที่ปกป้องพื้นที่นี้ไว้
สีหน้าของมาริสาซีดเผือดมาก
พระเจ้า เธอรู้ว่าเบรย์เดนเก่งกาจทั้งที่อายุยังน้อย แต่ลืมไปว่า เขาก็เป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตเช่นกัน
นั่นสิ ที่เขาสามารถประสบความสำเร็จเหมือนอย่างทุกวันนี้ได้ ที่จริงก็เพราะเขามีนิสัยโหดเหี้ยม ไม่เคยอ่อนข้อให้กับศัตรู เธออยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา ถึงเวลา สองคนทะเลาะกันขึ้นมา เขาคงได้ฆ่าคนแน่ๆ!
งั้นก็ช่างเถอะ ถึงแม้จะเสียดายแค่ไหน แต่ก็ยังดีกว่าที่ต้องเสียชีวิต
ทำเอาจันทร์นิลที่ดูอยู่ข้างๆอดหัวเราะไม่ได้
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า เหมือนมาริสาจะไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นแล้ว ดูสิ ตอนที่หล่อนต้องเผชิญหน้ากับเบรย์เดน ท่าทางที่ตกใจจนแทบฉี่รดกางเกง ดูน่าหดหู่เสียจริง
อย่างน้อยตอนที่เธอถูกเบรย์เดนขู่จะฆ่าหลายครั้ง เธอก็ยังตั้งสติมีสมาธิได้
“เอาล่ะ ไม่คุยเรื่องนี้กันแล้วนะ” จันดาเห็นบรรยากาศของทั้งสองผิดปกติ ก็รีบเข้าไปแยกทั้งสองคนออก เธอจับแขนของเบรย์เดนไว้ เรียกพนักงานเสิร์ฟมา ยกแก้วแชมเปญสองแก้ว แล้วชนแก้วกับเบรย์เดน
“เบรย์เดน ฉันดีใจมากที่ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวใหญ่ของพวกเธอ ฉันรับรองว่า ต่อไปพวกเราจะต้องใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขแน่นอน”
เบรย์เดนชนแก้วกับจันดา และเก็บความเย็นชาที่น่ากลัวบนตัวของตัวเองไว้
เมื่อกี้มาริสาตกใจจนขวัญกระเจิง เห็นเบรย์เดนไม่ได้มองเธอแล้ว ก็ถึงผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย
เธอก็รู้สึกกระอักกระอ่วน อยากหาเรื่องคุย เห็นจันทร์นิลที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ก็เลยลากจันทร์นิลมาคุยด้วย: “จันทร์นิล ลินาชอบบ่นกับน้าว่าคิดถึงเธอ อยากมาเที่ยวหาเธอที่ชิคาโกด้วย พวกเธอหาเวลานัดกันไหมล่ะ”
อารมณ์ของจันทร์นิลก็สลดลงอีกครั้ง
นัดเจอกับลินางั้นเหรอ?
ไม่ๆๆ นั่นไม่ใช่การนัดเจอ แต่เป็นงานของการโดนดูถูกต่างหาก!
ถ้าให้เธอไปเจอลินาคนเดียว เธอรู้สึกว่า ตัวเองจะต้องตายแน่ๆ
แต่ว่า ความรู้สึกของเธอในตอนนี้เหมือนจุกอยู่ในลำคอ พูดอะไรไม่ออก อย่าว่าแต่จะปฏิเสธเธอเลย
โรคร้ายของเธอมักจะกำเริบเมื่อมีคนอื่นพูดถึงลินา มันทำให้เธอดูอ่อนแอไร้ความสามารถ
ตอนนี้ มือข้างหนึ่งจับไหล่ของจันทร์นิลไว้ ลากเธอไปอยู่ข้างหลังของเขา
เป็นเบรย์เดน
รังสีอันทรงพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเบรย์เดน แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเลือดเย็นและพลังพิฆาต สิ่งที่ปกติจันทร์นิลกลัว แต่ในตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาแปลกๆ
เบรย์เดนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ไม่สบายใจของเธอหรือเปล่านะ?
“เด็กสาวคนนี้เหมือนจะไม่ชอบคุยกับผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ จันทร์นิล พวกเราไปเล่นตรงนู้นกันเถอะ” เบรย์เดนกอดเธอไว้ในอ้อมกอด พาเธอเดินไปยังหมู่ผู้คนตรงนั้น
หลังจากที่พวกเขาเดินจากไปแล้ว จันดาก็มองไปยังมาริสา: “เมื่อกี้เธอเกือบก่อเรื่องแล้วนะ เบรย์เดนไม่ใช่คนใครก็ได้ที่จะหาเรื่องได้”
มาริสาลูบหน้าอกตัวเองอย่างขวัญผวา: “พระเจ้าคุ้มครอง ฉันแค่อยากให้ลินาแต่งงานเข้าครอบครัวแบบนี้เอง ต่อไปพวกเราก็ได้จะเจอหน้ากันบ่อยๆ นั่นต้องเป็นเรื่องที่ดีมากแน่ๆ”
มาริสาหาข้ออ้างไปเรื่อยเปื่อย เรื่องการโกหก สำหรับเธอนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ
“แต่ว่า เบรย์เดนไม่ใช่คนปกติทั่วไป เขาไม่เคยอ่อนข้อให้คนนอกเลย มีเพียงแค่ตอนที่เขายอมรับพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา เขาถึงจะมีความอดทนกับพวกเรา ฉันก็รู้จักพ่อของเขาแค่สามเดือน เคยคุยกับเขาชัดเจนแล้ว ฉันไม่สนใจทุกอย่างในบ้านของเขา ฉันแค่รักพ่อของเขาเท่านั้น เขาตัดสินฉัน และรู้ว่าฉันไม่มีเป้าหมายอื่นใดที่จะใกล้ชิดกับครอบครัวของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงอนุญาตให้ฉันเข้าร่วมครอบครัวของพวกเขาได้” จันดาพูดเสียงเบา
มาริสา: “ฉันรู้แล้วน่า”
เธอหันไปมองเบรย์เดนที่โอบเอวของจันทร์นิล ท่าทางดูจะสนิทสนมกับจันทร์นิลมาก
“งั้นทำไมจันทร์นิลกับเบรย์เดนถึงดูสนิทกันขนาดนั้นล่ะ? ฉันได้ยินมาว่า จันทร์นิลเพิ่งจะมาหาเธอเองไม่ใช่เหรอ” มาริสาถาม
“เรื่องนี้ฉันไม่รู้ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมด้วย อาจจะเป็นจันทร์นิลดูเป็นเด็กไม่มีความคิดชั่วร้ายอะไร เบรย์เดนก็เลยดีกับเธอ”
เป็นแบบนั้นจริงเหรอ? มาริสาคิด ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นลินาของเธอก็ไม่เลวเหมือนกัน ลินาไม่เพียงแต่สวยเท่านั้น แถมยังสง่างามด้วย ได้รับฉายาเป็นเจ้าหญิงในหมู่บ้านของพวกเขาด้วย
เธอปลูกฝังนิสัยชนชั้นสูงให้ลูกสาวโดยฝึกให้เธอเต้นและเล่นเปียโนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ลูกเป็ดขี้เหร่อย่างจันทร์นิลที่นอนในคอกวัวตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กจะเปรียบเทียบกับลินาได้อย่างไร?
ครั้งหน้าพาลินามาด้วยดีกว่า มาริสาแอบตัดสินใจ ไม่ว่าเมื่อกี้เบรย์เดนจะพูดจาโหดเหี้ยมแค่ไหน แต่เธอกล้ารับประกันว่า เบรย์เดนจะต้องรักลินาตั้งแต่แรกพบแน่นอน
ตอนนี้ จันทร์นิลถูกเบรย์เดนลากไปบนฟลอร์เต้นรำ ตอนแรกเธอว่าจะไม่อยากเข้าไป แต่เบรย์เดนลากเธอเข้าไป ทำให้เธอต้องเต้นตามเบรย์เดน
แต่พูดตามตรง ออกห่างจากมาริสา เธอรู้สึกอารมณ์ของตัวเองดีขึ้นมาเยอะมาก
ที่จริงเธอก็รู้สึกซาบซึ้งในตัวเบรย์เดน ที่ทำให้เธอออกห่างจากพวกคนชั่วร้ายได้
แต่ นึกถึงก่อนหน้านั้นในห้องหนังสือ เรื่องที่เบรย์เดนทำ จันทร์นิลก็อดไม่ได้คิดว่า ผู้ชายคนนี้เหมือนจะก็ไม่ได้ดีอะไรมาก
“เธอกลัวน้าของเธอมากเลยใช่ไหม?” เบรย์เดนโอบเอวของจันทร์นิลไว้ เต้นไปกับจันทร์นิลแล้วถามเธอไปด้วย
ตอนนี้เอง ทั้งสองใกล้กันมาก ร่างกายแทบจะแนบชิดติดกันอยู่แล้ว จันทร์นิลรู้สึกได้ถึงร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาแนบชิดกับร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอ คางของเบรย์เดนยังโดนเส้นผมของเธอด้วย การสัมผัสที่อ่อนโยนและแนบชิดเช่นนี้ ทำเอาจันทร์นิลรู้สึกอึดอัด
จันทร์นิลพูดเสียงแข็ง: “ไม่กลัว”
“เธอกำลังโกหก” เบรย์เดนพูดอย่างมั่นใจ “ตอนที่คนทั่วไปโกหก สายตามักจะไม่กล้าสบตากับคนที่พูดด้วย และร่างกายของเธอก็แข็งทื่อ แสดงว่าอารมณ์เธอไม่มั่นคง จันทร์นิล ฉันไม่เชื่อว่า แค่ท่าเต้นง่ายๆเธอก็เต้นได้ไม่ดี”
ได้ยินการวิเคราะห์ของเบรย์เดน จันทร์นิลก็เงยหน้ามองเขา: “เบรย์เดน ฉันแนะนำนายไปเป็นหมอจิตแพทย์นะ นายวิเคราะห์จิตใจของคนอื่นเก่งขนาดนี้ งั้นก็ไปเขียนหนังสือขายเถอะ”
“ดูสิๆ พอเป็นฉันก็พูดปร๋อเชียวนะ ทำไมตอนเจอน้าของเธอถึงกลายเป็นคนใบ้ล่ะ?” เบรย์เดนไม่เพียงแต่ไม่กลัวจันทร์นิลจะโกรธ แต่กลับมีความสุขกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าทำไม พอเห็นท่าทางเธอโกรธ เขากลับรู้สึกว่ามันน่ารักดี
เขายังไม่เคยเห็นใครที่กล้าใส่อารมณ์โกรธเขาเลย
ยัยหนูคนนี้ กล้าหาญจริงๆ
ดีกว่าท่าทางที่ไม่มีชีวิตชีวาตอนที่เธอเห็นมาริสาเมื่อกี้เสียอีก
ถึงแม้เขาจะชอบทรมานเธอ เพลิดเพลินกับท่าทางที่เจ็บปวดของเธอ แต่ว่า เขาหวังว่าความเจ็บปวดของเธอนั้นจะมาจากเขา แต่ไม่ใช่ยัยน้าอะไรนั่น
เขาหวังว่าความทุกข์และสุขของเธอจะเป็นเพราะเขา แต่ไม่ใช่คนอื่น
“เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่งหรอก” จันทร์นิลพูด นี่เป็นความลับของเธอ แม้แต่แม่ตัวเองเธอยังไม่ได้บอกเลย ยิ่งไม่อยากให้เบรย์เดนรู้จุดอ่อนของเธอ
“อ้อ งั้นฉันส่งเธอไปหาน้าเธอดีกว่า ให้หล่อนพาเธอไปพักบ้านพวกเขาสองสามวัน เธอว่าดีไหม? ฉันคิดว่า แม่กับน้าของเธอคงไม่ปฏิเสธฉันแน่นอน” เบรย์เดนพูดด้วยรอยยิ้ม มือที่โอบอยู่บนเอวของจันทร์นิลก็จับแน่นมากขึ้น และคอยสังเกตอาการปฏิกิริยาของจันทร์นิลตลอด