ตอนที่ 2
“ช่วงนี้ผมอยากให้คุณช่วยทำหน้าที่เลขาให้คุณโลแกน”
ปกตินีรนาทำงานในตำแหน่งเลขาของนายนิวัติ
“ได้ค่ะ”
คำพูดของนายนิวัติถือเป็นสำสั่งเด็ดขาด เพราะว่าในเมืองไทยก็ถือว่าเขาเป็นประธานบริหารที่มีตำแหน่งสูงสุดในองค์กร
สาเหตุที่นายนิวัติเลือกให้นีรนาช่วยเป็นเลขาให้
โลแกนก็เพราะรู้ดีว่านีรนาเป็นคนทำงานเก่งรอบด้าน เธอมีบุคลิกแคล่วคล่องว่องไว ละเอียดรอบคอบ ทำให้มั่นใจได้ว่าเธอคนนี้จะไม่ทำให้เสียเชื่อสาขาภูมิภาคเมืองไทย สมกับที่บอสใหญ่ของค่ายรถยนต์แบรนด์ยักษ์เดินทางมาดูงานด้วยตัวเอง
สั่งงานแล้วนายนิวัติก็เดินจากไป ทิ้งให้นีรนายืนนิ่งอยู่ในอาการซ่อนสีหน้ากังวลเล็กน้อย
หญิงสาวยอมรับว่าลึกๆ ในใจรู้สึกดีใจและตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกที่รู้ว่าตัวเองจะได้ทำงานใกล้ชิดกับ
บิ๊กบอสสุดหล่อที่ทำเอาสาวๆ ทั้งบริษัทหัวใจละลายไปตามๆ กัน
หากในเวลาเดียวกันนีรนาก็อดหนักใจขึ้นมาไม่ได้ที่จะต้องทำงานใกล้ชิดในฐานะ ‘เลขา’ ประจำตัวของเขา ด้วยก่อนหน้าที่โลแกนจะเดินทางมาถึงเมืองไทยก็มีเสียงร่ำลือว่าเขาค่อนข้างเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือข่าวลือที่ว่าเขาเจ้าชู้
แต่เท่าที่นีรนาเพิ่งได้เห็นในห้องประชุมเมื่อครู่ที่ผ่านมาก็ดูตรงกันข้าม เพราะว่าผู้ชายคนนี้ดูเรียบง่ายเป็นกันเองกับพนักงานทุกคน
โลแกนไม่มีทีท่าว่าจะถือเนื้อถือตัวว่าเป็น ‘Big Boss’ ขององค์กรแต่อย่างใด หากก็ยังนับว่ารวดเร็วเกินไปที่จะสรุปอะไรในตอนนี้... บางทีโลแกนอาจจะเป็นเสือซ่อนลาย... เป็นนักล่าที่ซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้ได้อย่างมิดชิด
นีรนาพาบิ๊กบอสเดินดูการทำงานในแผนกต่างๆ ตามที่โลแกนบอกว่าอยากเห็น เริ่มจากชั้นล่างสุดของตึก ไล่ขึ้นไปจนถึงชั้นที่ยี่สิบโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด นีรนาเสียอีกที่เป็นฝ่ายหอบแฮ่กๆ เพราะต้องพาบอสบ้าพลังคนนี้เดินชมจนทั่วสำนักงานซึ่งกว้างขวางจนได้เหงื่อ แม้จะอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำก็ตาม แต่มีบางจังหวะที่ต้องเดินออกไปในที่โล่งแจ้งซึ่งไม่มีเครื่องปรับอากาศ
“คุณจะรีบกลับไหมครับ”
โลแกนหันมาถาม เมื่อกลับเข้ามาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งในห้องส่วนตัวที่จัดเอาไว้รับรองเขาเป็นพิเศษ เมื่อสาขาเมืองไทยรู้ว่าบิ๊กบอสคนนี้จะเดินทางมาดูงานด้วยตัวเอง
“ถ้ามีงานด่วนดิฉันอยู่ต่อก็ได้ค่ะ”
ร่างบอบบางที่นั่งอยู่อีกโต๊ะใกล้ๆ ภายในห้องเดียวกันหันมาตอบ
“พรุ่งนี้ผมอยากไปดูงานที่โรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ต่างจังหวัด คุณไปกับผมได้ใช่ไหม”
โลแกนหมายถึงโรงงานผลิตชิ้นส่วนและประกอบรถยนต์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี
คำว่า ‘ไปกับผมได้ใช่ไหม’ เป็นคำถามซึ่งคนถามคาดหวังเอาไว้แล้วว่าจะได้รับคำตอบตกลงอย่างแน่นอน เล่นหักคอกันอย่างนี้หญิงสาวปฏิเสธก็คงน่าเกลียด
“ได้ค่ะ... ”
ทั้งที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ทว่านีรนาก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่หญิงสาวก็เข้าใจว่าการที่โลแกนใจร้อนอยากไปเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์ที่ชลบุรีก็เพราะว่าเขามีเวลาอยู่เมืองไทยไม่กี่วัน และคงอยากใช้เวลาอันแสนสั้นที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าที่สุด
วันรุ่งขึ้น
นีรนามารอรับโลแกนที่หน้าโรมแรมหรูระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมที่โลแกนพักอาศัยในระหว่างอยู่เมืองไทย
ตอนแรกนีรนาตั้งใจจะให้พนักงานขับรถของบริษัทเป็นคนขับรถไปส่งเธอกับบิ๊กบอสที่ชลบุรี แต่โลแกนบอกว่าเขาอยากไปกับเลขาเพียงสองคน เพราะสะดวกและคล่องตัวกว่า ทำให้นีรนาต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวของเธอเพื่อการเดินทางในครั้งนี้
“ขอโทษที่รบกวนเวลาวันหยุดของคุณนะครับ... ทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ แทนที่คุณจะได้หยุดพักผ่อนไปเที่ยวกับแฟน แต่ผมก็ฉกเอาตัวคุณมา แบบนี้แฟนคุณคงเกลียดขี้หน้าผมแย่”
โลกแกนรู้ว่าประโยคที่เขาพูดออกมาแบบเดาเอาเอง จะทำให้ได้รู้อีกคำตอบที่เขาอยากรู้ ซึ่งก็คือเรื่องแฟน
“ดิฉันยังไม่มีแฟนค่ะ”
ร่างบอบบางที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับรีบบอก
“เป็นไปได้ยังไง... สวยขนาดนี้ นี่ถ้าผมเป็นหนุ่มไทยคงรีบจีบคุณก่อนใคร”
เขาชำเลืองมองมาทางเธอ
“เอ่อ... ดิฉันไม่ชอบหนุ่มไทยค่ะ”
นีรนาบอกไปตามตรง
“อั๊ยย่ะ... แบบนี้หนุ่มต่างชาติอย่างผมก็พอจะมีความหวังแล้วสินะ”
เขาเหลือบมองเธออีกแวบหนึ่งด้วยดวงตาหวานวาว นีรนารู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก... นี่เขากำลังจีบเธอหรือ? บ้าน่ะ... ดูท่าทางแล้วอีตาโลแกนคนนี้คงไม่น่าจะชอบสาวเอเชียตัวเล็กๆ อย่างเธอ เขาคงพูดเล่นไปอย่างนั้นเอง