บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ไต้ซือ

บทที่ 5 ไต้ซือ

ไป๋ฮูหยินและแม่ทัพใหญ่ไป๋ที่เห็นว่าบุตรสาวบุตรชายมาถึงแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก นางรีบเดินเข้ามาจับมือไป๋จื่อเซียนบุตรชายของตนด้วยท่าทีกระตือรือร้น ก่อนจะหันไปมองเจียงหว่านหนิงคราหนึ่ง

"จื่อเอ๋อร์ เจ้าพาผู้ใดมากัน หรือว่าเป็นภรรยาลับของเจ้า ที่เจ้าเลี้ยงดูเอาไว้นอกจวน"

ไป๋ฮูหยินจ้องมองสำรวจเจียงหว่านหนิงคราหนึ่ง พลางครุ่นคิดในใจ

เอ ใบหน้าก็งดงามใช้ได้ทีเดียว แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูสกปรกไปเสียหน่อย หรือว่า ตายละ รสนิยมจื่อเอ๋อร์ชื่นชอบสตรีไม่อาบน้ำหวีผมเช่นนั้นหรือ

ช่างเถิด ในเมื่อเอาเข้าจวนมาแล้ว ค่อยสั่งสอนนางให้รักษาความสะอาดก็ยังไม่สาย!

ไป๋จื่อเซียนหลับตาลงคราหนึ่ง นับวันท่านแม่ของเขาเริ่มจะเลอะเทอะเกินไปแล้ว ท่านพ่อก็ไม่คิดจะห้ามปรามเลยแม้แต่น้อย

"ท่านแม่ นางไม่ใช่ภรรยาลูกขอรับ นางคือคนที่ช่วยเหลือซู่เอ๋อร์ เราเจอนางที่หน้าหอวารีเมื่อครู่นี้อย่างไรเล่าขอรับ"

"อ่า"

"ท่านแม่ นางลำบากยิ่งนัก ลูกจึงอยากมาขอความกรุณาจากท่านแม่ โปรดรับนางเข้าจวนด้วยขอรับ นางยินดีทำงานแลกเงินขอรับ"

ไป๋ฮูหยินจ้องมองไป๋จื่อเซียนสลับกับมองเจียงหว่านหนิง ในใจลอบเสียดายไม่น้อย แต่ก็ช่างเถิด เมื่อคิดได้เช่นนั้นไป๋ฮูหยินจึงเอ่ยถามเจียงหว่านหนิงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

"แม่นาง เจ้ามาจากที่ใด เป็นบุตรสาวบ้านใดหรือ?"

"เรียนฮูหยิน ข้ามีนามว่าเจียงหว่านหนิง ลี้ภัยสงครามมาจากแคว้นฉางอันเจ้าค่ะ แต่โชคร้ายถูกคนชั่วจับตัวไป ได้สหายช่วยเหลือจนรอดมาได้ บิดามารดาบุญธรรมข้าตายไปหมดแล้ว พวกเขาบอกข้าว่าบิดามารดาที่แท้จริงของข้าอาจจะอยู่ที่แคว้นต้าโจว ข้าจึงออกตามหา แต่กลับถูกคนใจร้ายจับตัวไปขาย โชคดีที่ได้คุณชายและคุณหนูจวนท่านช่วยเหลือไว้เจ้าค่ะ ฮูหยิน ข้ายินดีทำงานทุกอย่างแลกเงินนะเจ้าคะ หากว่าข้าเจอบิดามารดาแล้ว ข้าจะไม่รบกวนฮูหยินอีก"

ไป๋ฮูหยินที่ได้ฟังเรื่องราวของเจียงหว่านหนิงก็รู้สึกสงสารเห็นใจเป็นอย่างมาก อีกอย่างก็คือนางได้ฟังจากปากของไป๋ซู่ฮวามาบ้างแล้ว ว่าเจียงหว่านหนิงเคยช่วยเหลือไป๋ซู่ฮวาเอาไว้

"ท่านแม่ รับนางเข้าจวนเถิดเจ้าค่ะ นางบอกว่านางทำอาหารเป็นด้วยนะเจ้าคะ ให้นางอยู่โรงครัวก็ได้ อ้อ ให้นางมาอยู่กับลูกก็ได้นะเจ้าคะ"

ไป๋ซู่ฮวาเดินเข้าไปจับแขนมารดาของตนก่อนจะเอ่ยวาจาออดอ้อน ไป๋ฮูหยินยิ้มให้เจียงหว่านหนิงคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ

"เอาเถิด ข้าจะรับเจ้าเข้าจวนก็ได้ แต่ยามนี้คนงานข้ามีเยอะแล้ว เจ้ามาอยู่ข้างกายข้าก่อนละกัน ไว้ข้าจะหางานให้เจ้าทำ"

"ขอบพระคุณฮูหยินมากเจ้าค่ะ"

ไป๋ฮูหยินพยักหน้ารับ ก่อนที่นางจะได้ยินเสียงของแม่ทัพใหญ่ไป๋ผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้นมา

"น้องหญิง ไต้ซือรอนานแล้วนะ เจ้ารีบหน่อยเถิด ไต้ซือบอกว่าตะคริวจะกินขาเขาแล้ว!!!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องสำคัญกว่าให้ต้องจัดการ ไป๋ฮูหยินจึงหันมาเอ่ยกับไป๋จื่อเซียนทันที

"จื่อเอ๋อร์ มานี่เร็วเข้า มาให้ไต้ซือดูหน่อย"

"ท่านแม่ ลูกมีงานต้องสะสางขอรับ"

"ครู่เดียวเท่านั้น นี่ซู่เอ๋อร์ เจ้าพาหว่านหนิงไปเปลี่ยนชุดเถิด ให้บ่าวในเรือนหาชุดสาวใช้ที่เหมาะกับนาง แม่ขอจัดการเรื่องราวตรงนี้สักครู่เสียหน่อย"

"เจ้าค่ะ"

ไป๋ซู่ฮวาจับมือเจียงหว่านหนิงเข้ามาในจวน เจียงหว่านหนิงจ้องมองภายในจวนที่ตกแต่งได้อย่างงดงามก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย

ในความตื่นเต้นนั้น นางคล้ายมีบางอย่างที่คุ้นตา

เหมือนกับว่านางเคยเห็นสถานที่เช่นนี้เมื่อนานมาแล้ว แต่เคยเห็นที่ใดนางก็ไม่อาจทราบได้

นางเดินตามไป๋ซู่ฮวามาเรื่อยๆ แต่ทว่าแทนที่ไป๋ซู่ฮวาจะพานางไปเปลี่ยนชุดตามคำสั่งของไป๋ฮูหยิน กลับพานางมาแอบที่ด้านหลังหน้าต่างแทน

"ไป๋ซู่ฮวา เจ้าพาข้ามาแอบทำอันใดตรงนี้กัน?"

ไป๋ซู่ฮวายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยกับเจียงหว่านหนิง

"พาเจ้ามาดูเรื่องสนุกอย่างไรเล่า ดูเอาไว้ ไม่ต้องถามมาก อิอิ"

เจียงหว่านหนิงถูกไป๋ซู่ฮวาพามาแอบดูไป๋จื่อเซียนที่นอกหน้าต่าง นางไม่อาจโต้แย้งได้ จึงทำได้เพียงปล่อยเลยตามเลย

ยามนี้ที่ด้านนอกเรือน ไป๋จื่อเซียนจ้องมองไต้ซือผู้นั้นด้วยแววตาที่เบื่อหน่าย เขาอยากจะเดินหนีกลับห้องเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทว่าท่านแม่กลับไม่ยอมให้เขาจากไปโดยง่าย

"ไต้ซือเป็นเช่นไรบ้าง รู้สาเหตุที่บุตรชายข้าป่วยแล้วหรือไม่?"

ไต้ซือจ้องมองไป๋จื่อเซียนคราหนึ่ง ก่อนจะมองสำรวจเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วจึงตวัดแส้ในมือพลางเดินวนรอบตัวเขา แล้วจึงหันมาเอ่ยกับแม่ทัพใหญ่ไป๋และไป๋ฮูหยิน

"คุณชายท่านนี้มีไออัปมงคล น่าแปลกนัก ไออัปมงคลกำลังกัดกินช่วงล่างของเขาทำให้มิอาจใช้งานได้"

ไป๋จื่อเซียนแสดงสีหน้ารำคาญอย่างไม่ปิดบัง ไออัปมงคลกับผีสิ ถีบยอดหน้าตาเฒ่าผู้นี้สักครั้งดีหรือไม่!!!

"ต้องทำเช่นไรเจ้าคะ มีวิธีแก้หรือไม่?"

ไป๋ฮูหยินเอ่ยถามไต้ซือด้วยท่าทีที่คาดหวัง ไม่ต่างจากแม่ทัพใหญ่ไป๋ที่รอคอยคำ ไต้ซือยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ

"ย่อมมี ข้าจะล้างไออัปมงคลเดี๋ยวนี้ แต่ว่าต้องจ่ายเพิ่มเสียหน่อย"

"ได้ๆ ท่านพี่ นำตั๋วเงินมาเพิ่มอีกเร็วเข้า"

"ได้ๆ น้องหญิง"

ไป๋จื่อเซียนมองการกระทำของบิดามารดาตนเองด้วยความเอือมระอา เขาไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาแม้เพียงคำเดียว เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าไต้ซือผู้นี้คิดจะทำสิ่งใด

เมื่อได้รับตั๋วเงินมาแล้ว ไต้ซือก็เริ่มบริกรรมคาถาพลางทำปากขมุบขมิบ ก่อนจะเดินวนรอบตัวไป๋จื่อเซียนพร้อมกับใช้แส้ตวัดรอบตัวเขาอีกครา แล้วจึงอมน้ำชาเอาไว้ในปาก ก่อนจะพ่นน้ำชาในปากใส่หว่างขาของไป๋จื่อเซียน

เป็นจังหวะเดียวกับที่ไป๋จื่อเซียนยกเท้าถีบไปที่กลางลำตัวของไต้ซือผู้นั้นเข้าพอดี ไต้ซือลงไปนอนกองกับพื้นร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ไป๋ฮูหยินและแม่ทัพใหญ่ไป๋ที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด

"จื่อเอ๋อร์ เจ้าทำสิ่งใดกัน!!!"

"นี่คือไต้ซือที่ท่านพ่อเจ้าหามานะ"

ไป๋จื่อเซียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันไปเอ่ยกับบิดามารดาของตนทันที

"ไต้ซือลวงโลกน่ะสิขอรับ"

"คุณชายใหญ่ คนของศาลต้าหลี่มาถึงแล้วขอรับ"

เหรินห่าววิ่งเข้ามารายงานเขา ไป๋จื่อเซียนพยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเหรินห่าว

"พาพวกเขาเข้ามา"

"ขอรับ"

ไป๋จื่อเซียนมองดูไต้ซือผู้นั้นที่ยามนี้มีใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดคราหนึ่ง

ตอนที่เขากลับเข้าจวนมาเห็นไต้ซือผู้นี้ เขาก็นึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่มีชาวบ้านมาร้องเรียนที่ศาลต้าหลี่ว่าพบไต้ซือหลอกลวงผู้หนึ่ง ประพฤติตนหากินในทางไม่ชอบ เดิมทีเขารู้จักกับใต้เท้าผู้หนึ่งที่เป็นรองผู้ตรวจการศาลต้าหลี่ เขาจึงสั่งการอย่างลับๆ ให้เหรินห่าวไปแจ้งที่ศาลต้าหลี่ทันที

ไม่นานนัก รองผู้ตรวจการศาลต้าหลี่ นามว่า หวังอวี้ ก็เข้ามาที่จวนของเขา ก่อนจะพยักหน้าให้เขาคราหนึ่ง

"ใช่ไต้ซือที่ท่านตามจับอยู่หรือไม่?"

หวังอวี้ปรายตามองไต้ซือผู้นั้นคราหนึ่ง ก่อนจะยกภาพวาดในมือที่นำติดมาด้วยขึ้นมาดู แล้วจึงพยักหน้าให้ไป๋จื่อเซียน

"ใช่แล้ว เจ้าคนชั่วผู้นี้หลอกเงินผู้คนในเมืองหลวงไปไม่ใช่น้อย เดิมทีก็ลี้ภัยเข้ามาขออาศัยที่ต้าโจว แต่กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้ราษฎรของเรา ยามนี้จับตัวได้แล้ว ขอบคุณท่านรองแม่ทัพไป๋เป็นอย่างมาก"

"อืม ไม่เป็นอันใด ผู้ใดคิดร้ายต่อราษฎรเรา ข้าย่อมไม่อาจนิ่งดูดายได้ ลากตัวออกไปเถิด"

แม่ทัพใหญ่ไป๋และไป๋ฮูหยินที่เห็นเช่นนั้นก็ลมออกหูทันควัน

"จื่อเอ๋อร์ หมายความอย่างไร?!!!"

"ท่านแม่ ไต้ซือผู้นี้คือคนที่ทางการตามจับอยู่ขอรับ ท่านทั้งสองคนโดนเขาหลอกแล้ว"

"มารดามันเถอะ!!"

"น้องหญิงใจเย็นๆ เถิด"

ไป๋จื่อเซียนมองดูมารดาของตนที่ปรี่เข้าไปทุบตีไต้ซือผู้นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับอมน้ำชาเอาไว้ในปากแล้วพ่นใส่หน้าไต้ซือผู้นั้นทันที

"ไปพ่นใส่หน้ามารดาเจ้าเถอะ กล้ามาหลอกข้า เอาตั๋วเงินของข้าคืนมา"

หวังอวี้ที่จับคนได้แล้ว ก็พาตัวจากไปทันที เขาไม่อยากถามสิ่งใดให้มากความ อย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นเรื่องภายในจวนตระกูลไป๋

ไป๋จื่อเซียนมองดูเสื้อผ้าตนเองที่ยามนี้ช่วงล่างเปียกชุ่มไปด้วยน้ำชาจากปากของไต้ซือผู้นั้น เขาเบ้หน้าคราหนึ่ง แววตาฉายแววรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง ด้านไป๋ฮูหยินก็หันไปด่าแม่ทัพใหญ่ไป๋ผู้เป็นสามีตนทันที

"เพราะท่าน!!! เราเกือบเสียรู้มันแล้ว"

"ข้าขอโทษ น้องหญิงข้าไม่ได้ตั้งใจ!!!"

"หึ ข้าจะลงโทษท่าน ต่อไปห้ามพกตั๋วเงินออกจากจวนอีก สามวันนี้จงกินข้าวกับผัดผัก ห้ามกินเนื้อเด็ดขาด"

"น้องหญิง!! ไม่ได้กินเนื้อ ตรงนั้นของข้าจะไม่แข็งเอาได้นะ เจ้าทนได้จริงๆ หรือน้องหญิง!!"

"เช่นนั้นก็กินเนื้อวันละมื้อได้ ห้ามนะ ห้ามให้ตรงนั้นอ่อนเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้าจะหย่ากับท่าน!!!"

ไป๋จื่อเซียนถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา เดิมทีเขาก็เข้าใจในเจตนาดีของท่านพ่อท่านแม่อยู่แล้ว เรื่องนี้จะให้คนนอกรู้คงไม่ดีนัก เป็นถึงจวนแม่ทัพ แต่กลับถูกไต้ซือหลอกเอาได้

เจียงหว่านหนิงจ้องมองเรื่องราวตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองไป๋ซู่ฮวาที่หัวเราะออกมาคราหนึ่ง

"ท่านหัวเราะสิ่งใดกัน?"

"เจ้าไม่เห็นหรือ ไต้ซือพ่นน้ำชาเอ่อ..."

เจียงหว่านหนิงไม่ตอบ นางเองก็พยายามที่จะไม่หัวเราะออกมาเช่นกัน

ให้ตายเถอะ จวนแม่ทัพแห่งนี้คล้ายโรงละครงิ้วเลย!!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel