เงารักพิศวาสลวง

66.0K · จบแล้ว
ไอริส
39
บท
45.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ความทรงจำขาดหายไปมันเป็นเช่นไรกันแน่ หญิงสาวต้องรีบหาความจริงให้ได้ก่อนร่างบางจะบอบช้ำด้วยรอยเสน่หาจากริมฝีปากของเขา...

นิยายรักโรแมนติกแก้แค้นโรแมนติก

บทที่ 1

บทที่ 1

‘ผมรักคุณ...แสนขวัญ...ได้โปรด...อย่าไปจากผม’

‘ผู้หญิงแพศยา...ผู้หญิงหลายใจ...ผมเกลียดคุณ...ชาตินี้อย่าได้เจอหน้ากันอีกเลย’

“ไม่...ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น...ฉันรักคุณคนเดียว...อะ”

ร่างบางที่กำลังกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง มือเล็กทั้งสองไขว่คว้ากลางอากาศ เรียวปากขาวซีดพร่ำร้องหาใครบางคน พร้อมกับหยาดน้ำตาอุ่นที่ไหลรินเป็นทางยาวจากหางตาโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว ถูกปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายด้วยเสียงเรียกของน้องสาว

“พี่แสน...พี่แสน...ตื่นค่ะ...ตื่น...”

แสนขวัญ เจ้าของร่างบางมีเหงื่อแตกพราวทั่วหน้าผาก ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งบนเตียง ใบหน้างามซีดเซียวไม่ต่างจากกระดาษขาว ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมมีน้ำตาคลอเบ้า เรียวปากซีดสั่นระริก ขณะหันไปเอ่ยบอกน้องสาว

“พี่...พี่...ฝันร้ายอีกแล้ว...”

ขวัญข้าวผู้ปลุกพี่สาวให้ตื่นจากฝันร้ายพยักหน้ารับคำ เอื้อมมือไปจับมือเล็กเย็นเฉียบของพี่สาวไว้ แล้วเอ่ยปลอบไปด้วย

“ข้าวรู้ค่ะว่าพี่แสนฝันร้าย แต่มันเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น พอพี่แสนตื่นแล้วทุกอย่างก็จะหายไป ไม่ต้องกลัวนะคะ”

แสนขวัญส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตานอง ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นระคนหมองเศร้า

“ไม่...มันไม่มีทางหลุดพ้นไปจากชีวิตของพี่...พี่ฝันถึงแต่เรื่องเดิมๆ ความฝันเหล่านี้มันตามหลอกหลอนพี่ในทุกคืน จนพี่ไม่กล้าหลับตานอนแล้ว”

“พี่แสนยังฝันถึงเรื่องเดิมอีกหรือคะ” ขวัญข้าวเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ใช่...ข้าว...พี่ฝันแบบนี้ทุกคืน”

มือเล็กสั่นเทายกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากหางตา ค่อยๆ บอกถึงคำพูดของใครคนหนึ่ง ซึ่งดังก้องอยู่ในหัวของเธอทุกคืนวัน

“พี่ได้ยินเสียงของใครบางคนเอ่ยบอกรักพี่ และขอร้องไม่ให้พี่ไปจากเขา จากนั้นก็เป็นน้ำเสียงเดิม ที่ตะโกนด่าทอว่าพี่เป็น...เป็นผู้หญิงเพศยา เป็นผู้หญิงหลายใจ...”

แสนรักหยุดพูดไปชั่วขณะ เพียงเพื่อสะอื้นฮักร่ำไห้เพราะความเจ็บปวดใจกับถ้อยคำเค้นด่า อันฝั่งแน่นอยู่ในหัวของเธอทุกนาที

“เขาบอกว่าเกลียดพี่ และสาปส่งว่าชาตินี้อย่าเจอกันอีกเลย”

“เขาคนนั้นคือใครคะ พี่แสนจำชื่อได้ไหมคะ”

ขวัญข้าวหรี่ตามอง ลุ้นอยู่ในใจว่าพี่สาวจะจดจำชื่อของผู้ชายคนนั้นได้หรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องลอบถอนหายใจด้วยความเสียดายกับคำตอบที่ได้รับ

“ทุกครั้งที่พี่พยายามนึกชื่อของเขา มีแค่คำว่า ‘อะ’ ที่แล่นเข้ามาในหัวของพี่ จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วก่อนพี่จะนึกชื่อของเขาออก”

แสนรักยกมืออันเย็นเฉียบคลึงขมับของตัวเอง พร้อมกับหลับตาลง พยายามนึกคิดถึงเจ้าของน้ำเสียง ซึ่งเอ่ยบอกรักและด่าทอเธอในคราวเดียวกัน ทว่า...นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกสักที จนต้องนิ่วหน้าเพราะถูกอาการปวดหัวเล่นงานขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

“พี่...พี่จำไม่ได้...พี่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร...ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน...” หยาดน้ำตาไหลรินลงมาพร้อมกับการตีสีหน้าเหยเก เมื่อปวดหัวอย่างหนัก

“พี่ปวดหัว...”

“พี่แสน...พอแล้วค่ะ อย่านึกถึงเขาอีกนะคะ...”

ขวัญข้าวจับมือเล็กของพี่สาวออกจากการกุมศีรษะตัวเอง ก่อนจะกอดร่างบางสั่นสะท้านไว้แนบแน่น ยกมือลูบไปบนแผ่นหลังเพื่อปลอบพี่สาวให้หายหวาดกลัว

“หยุดคิดนะคะพี่แสน เขาจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้าวอยู่กับพี่แสนแล้ว ข้าวจะดูแลพี่สาวคนนี้เอง”

“ข้าว...พี่คิดถึง...ลูก...”

แทนที่จะทำตามคำขอร้องของน้องสาว แสนขวัญกลับรำพันถึงลูกน้อยในท้อง ที่ต้องสูญเสียไปทั้งๆ เพิ่งเติบโตอยู่ในท้องของเธอได้แค่เพียงสามเดือนเท่านั้น และเมื่อคิดถึงลูก หญิงสาวก็ยิ่งร่ำไห้หนักกว่าเดิม

“ทำไมพี่ถึงโชคร้ายแบบนี้ ต้องสูญเสียความจำและต้องเสียลูกในคราวเดียวกัน...พี่อยากหลับ...หลับไปตลอดกาล โดยไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้กับความเจ็บปวดนี้อีก”

“โธ่...พี่แสน...อย่าคิดแบบนั้นสิคะ”

คราวนี้เป็นขวัญข้าวที่มีน้ำตารื้นขอบตากับความคิดของพี่สาว หญิงสาวทั้งเอ่ยห้าม ทั้งขอร้องพี่สาวในคราวเดียวกัน

“ถ้าพี่แสนหลับโดยไม่ตื่นเลย แล้วข้าวจะอยู่กับใคร...ตอนนี้เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง พี่แสนสัญญากับข้าวนะคะ ว่าจะไม่ทิ้งข้าวไป”

“แต่...พี่ไม่อยากอยู่แบบคนสูญเสียความจำ...”

แสนขวัญสะอื้นฮักจนตัวสั่นโยน เอ่ยบอกถึงความหวาดกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ

“ในหัวของพี่มีแต่ความว่างเปล่า พอลืมตาขึ้นมาในโรงพยาบาล พี่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวพี่ จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง จำไม่ได้ว่าข้าวคือน้องสาวของพี่ จำไม่ได้ว่าใครคือคนที่บอกรักและเค้นเสียงสาปส่งไล่พี่ไปจากชีวิตของเขา และสิ่งที่ทำให้พี่เสียใจที่สุดคือตอนหมอบอกว่า...พี่...แท้งลูก...”

“พี่แสนอย่าร้องไห้ค่ะ ข้าวเชื่อว่าสักวัน ความทรงจำของพี่แสนจะกลับคืนมาเหมือนเดิม แต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะนะคะ”

ขวัญข้าวต้องเข้มแข็ง ทำหน้าที่เอ่ยปลอบพี่สาว ทั้งๆ ในใจนั้นก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน หญิงสาวยังจำได้ไม่มีลืม ในวันที่พี่สาวถูกรถชนต่อหน้าต่อตา เลือดแดงฉานไหลทะลักจากหน้าผากที่เป็นแผลฉกรรจ์ ซ้ำร้ายยังมีเลือดไหลนองเปื้อนกระโปรงสีฟ้าอ่อนจนกลายเป็นสีแดงไปหมด

หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่แสนขวัญนอนหมดสติไม่รู้สึกตัว ซึ่งในระหว่างนั้นเธอแทบทำอะไรไม่ถูก เมื่อชีวิตของพี่สาวแขวนอยู่บนเส้นดายบางๆ ส่วนหลานตัวน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในท้องของแสนขวัญ ไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก เพราะแสนขวัญถูกชนอย่างรุนแรงจนกระทั่งแท้ง!...

ความโชคร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ในวันที่แสนขวัญฟื้นคืนสติ เธอมองทุกคนด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับไม่เคยรู้จักกัน

‘ฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน แล้วพวกคุณเป็นใคร ฉันไม่รู้จักพวกคุณ’

เป็นคำถามที่หลุดออกมาจากปากของคนไข้ ทำให้ขวัญข้าวกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ต้องร้องไห้โฮ เมื่อรู้ว่าพี่สาวสูญเสียความทรงจำไปกับเหตุการณ์ถูกรถชน

“ต้องทำยังไง พี่ถึงจะได้ความทรงจำกลับคืนมา”

ขวัญข้าวกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง กับคำถามปนสะอื้นจากพี่สาว เธอพยายามกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาให้เหือดแห้ง ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามของพี่สาว

“คุณหมอบอกข้าวว่า ต้องกระตุ้นความทรงจำด้วยการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านๆ มา ทั้งเรื่องของเราสองคนเคยไปเที่ยวด้วยกัน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ข้าวกับพี่แสนชอบทำ หรือไม่ก็เอาภาพถ่ายเก่าๆ ที่พี่แสนถ่ายไว้มาให้พี่แสนดู สิ่งเหล่านั้นจะช่วยกระตุ้นให้พี่แสนนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ความทรงจำอาจจะกลับคืนมาในที่สุดค่ะ”

“ข้าวต้องช่วยพี่นะ”

แสนขวัญจับยึดต้นแขนของน้องสาวไว้แน่น ขณะเอ่ยขอร้องเสียงสั่นเครือ

“พี่อยากให้ความทรงจำกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด พี่ไม่อยากอยู่อย่างทรมาน ไม่อยากให้ฝันร้ายตามหลอกหลอนพี่ในทุกคืน”

“ค่ะ ข้าวจะช่วยพี่แสนแน่นอนค่ะ แต่พี่แสนนอนก่อนนะคะ ตอนนี้เพิ่งตีสี่เองค่ะ”

ขวัญข้าวรับคำ พยายามโน้มตัวพี่สาวให้เอนกายลงนอนเหมือนเดิม แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธแถมยังขืนตัวไว้ด้วย

“พี่ไม่อยากนอน ไม่อยากหลับตาลง พี่กลัวความฝันเหล่านั้นจะกลับมาอีก” สีหน้าของแสนรักซีดเซียว ดวงตาอันแดงก่ำเผยความหวาดหวั่นให้เห็น

“ไม่ต้องกลัวนะคะ ข้าวจะนอนข้างๆ พี่แสน จะจับมือพี่แสนไว้ทั้งคืน ฝันร้ายจะไม่กลับมาทำร้ายพี่แสนอีกแน่นอนค่ะ” ขวัญข้าวเอ่ยปลอบ จับกุมมือเย็นของพี่สาวไว้ตลอดเวลา

“พี่ปวดหัว เอายาแก้ปวดให้พี่ก่อน”

แสนขวัญเอ่ยบอกพร้อมกับนิ่วหน้า เมื่ออาการปวดหัวเริ่มเล่นงานหนักจนต้องหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ

“ค่ะๆ ข้าวจะเอายาให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”

ขวัญข้าวกระโจนลงจากเตียงนอน คว้ายาแก้ปวดชนิดเฉียบพลันซึ่งวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียง มายื่นให้พี่สาวหนึ่งเม็ด พร้อมกับยื่นน้ำดื่มให้ด้วย

“ยาได้แล้วค่ะ”

แสนขวัญรีบรับยามากลืนเข้าลำคออย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องดื่มน้ำตามด้วยซ้ำ หญิงสาวชินกับการกินยาแก้ปวดชนิดเฉียบพลันโดยไม่มีน้ำดื่มกลั้วคอ เพราะคราใดที่ถูกอาการปวดหัวเล่นงานอย่างหนัก เธอต้องกลืนยาลงคอให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะปวดหัวรุนแรงถึงขั้นหมดสติได้

“ข้าว...นอนใกล้ๆ พี่นะ...”

แสนขวัญเอ่ยขอร้องเสียงแผ่วเบา ในยามนี้หญิงสาวแลดูไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆ ซึ่งหวาดกลัวกับการต้องนอนอยู่เพียงลำพัง

“ค่ะ ข้าวจะนอนอยู่ใกล้ๆ พี่แสนค่ะ”

ขวัญข้าวคลี่ยิ้มให้ โน้มร่างบางให้เอนกายลงนอน ซึ่งคราวนี้แสนขวัญยอมนอนลงไปบนเตียงแต่โดยดี

“หลับนะคะ พี่แสน ไม่ต้องกลัวนะคะ”

แสนขวัญยังคงถูกความหวาดกลัวเกาะกุมอยู่ทั่วหัวใจ แต่ก็ฝืนหลับตาลง พร้อมกับภาวนาให้ความทรงจำกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เธออยากรู้ว่าเจ้าของน้ำเสียงที่บอกรักและไล่เธอในคราวเดียวกันคือใคร และที่สำคัญ...เขาใช่พ่อของลูกที่เธอต้องสูญเสียไปแล้วหรือไม่...