บทที่ 4 (เงาดอกงิ้ว)
บทที่4
สองสัปดาห์ต่อมาอาการของห่าวซินดีขึ้นจนสามารถพูดได้เป็นบางคำแต่กลับทำให้ชิงซานโมโหเดือดเมื่อบิดายืนยันจะแต่งงานแต่ต้องเลื่อนไปให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นก่อน และโมโหมากขึ้นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ปฏิเสธ หล่อนทำเหมือนการแต่งงานกับคนแก่ทุพพลภาพเป็นเรื่องปกติ
ชิงซานไม่ได้ย้ายกลับบ้านตามที่พี่สามคนต้องการ เมื่อรับรู้เรื่องกำหนดการแต่งงานที่จะมีขึ้นในเดือนถัดมาบิดาเขาแข็งแรงมากขึ้นแต่ก็ยังนอนบนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล เขามาเข้าเยี่ยมพอให้บิดาเห็นหน้าแล้วก็ขอตัวกลับ เพราะการพบเจอว่าที่เจ้าสาวของบิดาทำให้เขาหงุดหงิดอารมณ์เสียทุกครั้ง
ชิงซานขับรถกลับอพาร์ตเม้นท์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวและไม่อยากอยู่คนเดียวจึงโทรตามจื่อรั่วที่เลิกงานแล้วให้แวะมาค้างคืนด้วยเพราะไม่อยากคิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว
“ป๊าคุณเป็นไงบ้าง แข็งแรงพอจะเข้าหอได้หรือยัง อีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานไม่ใช่หรือ” คำหยอกล้อเจือเสียงหัวเราะของผู้ถามเป็นเหตุให้คนฟังเกิดอาการหงุดหงิดใบหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
จื่อรั่วเห็นว่าคำพูดของตัวเองทำให้ชิงซานเสียอารมณ์ก็ตรงเข้ากอดจูบลูบไล้เนื้อตัวปลุกปลอบอย่างที่รู้ว่าเขาชอบให้หล่อนทำ
“ผมว่าจะไม่ไป” ชิงซานไม่มีอารมณ์สนองตอบจึงผละห่างเดินมานั่งบนโซฟาหนังนุ่มแล้วเอนตัวลงนอนหนุนหมอนอิง
“จะได้หรือ พี่ๆคุณต้องไม่ยอมแน่ ป๊าคุณก็อีก ท่านคงอยากให้ลูกๆอยู่พร้อมหน้าในวันสำคัญอย่างนั้น ไม่เอาน่า ป๊าคุณป่วยกายขนาดนี้ อย่าให้ท่านต้องไม่สบายใจเรื่องลูกชายสุดที่รักอีกเลย” จื่อรั่วเดินตามมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกันแล้วยกขาชิงซานขึ้นวางพาดบนตัก
“แต่ผมไม่อยากเห็นหน้ายายบ้านั่น” น้ำเสียงหงุดหงิดของชิงซานยามพูดถึงว่าที่เจ้าสาวของบิดาสะกิดใจจื่อรั่วทุกครั้ง
หล่อนไม่เข้าใจว่าทำไมชิงซานถึงจงเกลียดจงชังหญิงสาวผู้นั้นนักหนา เท่าที่ได้ยินได้ฟังมาก็พอจะรู้ว่า ฮุยยินเป็นหญิงสาวสวยสะดุดตาและก็น่าจะมีคุณสมบัติ ดีงามพอที่บิดาของชิงซานพึงใจ ตัวชิงซานเองก็พูดให้หล่อนมองเห็นภาพว่าฮุยยินไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร จื่อรั่ว จึงคิดว่าเหตุที่ชิงซานแสดงความชิงชังฮุยยินน่าจะมาจากความคิดอคติมากกว่าอย่างอื่น
“คุณไม่ชอบเขาตรงไหน” จื่อรั่วถามตรงๆ
แม้ชิงซานจะไม่เคยพาจื่อรั่วไปรู้จักบิดาหรือพี่ชายพี่สาวของเขาอย่างเป็นทางการ แต่จื่อรั่วได้เห็นฮุยยินครั้งหนึ่งในวันที่ติดรถชิงซานไปเยี่ยมบิดาที่โรงพยาบาลที่ พอดีกับรถของฮุยยินมาจอดเทียบข้าง ชิงซานกำลังจะลงจากรถไม่ยอมลงหล่อนจึงถามเขาทำไมไม่ลงจากรถ ชิงซานตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทันทีว่าไม่อยากขึ้นเยี่ยมบิดาพร้อมกับคนที่เขาไม่ชอบหน้า จื่อรั่วจึงได้รู้ว่าสาวสวยคนนั้นคือฮุยยิน
ฮุยยินเป็นสาวลูกครึ่งรูปร่างหน้าตาสะสวยได้เปรียบสาวเอเชียแท้อย่างหล่อนด้วยลำตัวสูงเพรียวแขนขาเรียวยาวผิวพรรณละเอียดอ่อนออกสีชมพูนวลปลั่ง ความสวยโดดเด่นฉายชัดจนจื่อรั่วลงความเห็นว่า...สวยเพอร์เฟ็กซ์...ทั้งการแต่งกายกิริยาท่าทางดูเรียบร้อยเรียบหรูเป็นผู้ดีไม่เห็นมีอะไรน่าเกลียดน่าชังสักนิด จื่อรั่วเองยังนึกอิจฉาความสวยไร้ที่ติของฮุยยินด้วยซ้ำ
“แต่ผมไม่ชอบ” คำปฏิเสธปั่นปึ่งของชิงซาน ดึงความสนใจให้จื่อรั่วขยับขึ้นนอนทาบทับบนร่างหนาของเขาเพื่อยื่นหน้ามองสบนัยน์ตา
“เหตุผลล่ะ อะไรทำให้คุณไม่ชอบในตัวฮุยยิน” อาการนิ่งงันของชิงซานสะกิดใจจื่อรั่วอีกครั้ง ถ้าไม่ตาฝาด หล่อนเห็นแววไม่แน่ใจแวบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นขึงขังเมื่อกล่าวถึงสิ่งที่หล่อนถาม
“ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ผู้หญิงดีๆแบบไหนถึงอยากแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อคราวลุง ยิ่งสวยเลือกได้แบบแม่นั่นมีเหตุผลอย่างเดียวคือใช้ความสวยหลอกล่อพ่อผมให้แต่งงานด้วยเพื่อหวังเงินทอง เหตุผลแค่นี้พอไหม” ชิงซานเต็มไปด้วยอารมณ์แค้นเคือง
“แต่ที่ฉันรู้มาว่าที่แม่เลี้ยงคุณก็รวยอยู่นะ เห็นว่าแม่เธอเป็นลูกเศรษฐีมีเงินแถมยังแต่งงานกับคนอเมริกันฐานะดี ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเงินทองหรอกนะ” จื่อรั่วทำงานกับบริษัทฮ่องกงที่ร่วมทุนกับอเมริกาในตำแหน่งพนักงานทั่วไป แต่ก็ได้รับเงินเดือนดีเพราะฐานเงินเดือนของพนักงานสูงกว่าบริษัทคนฮ่องกงอย่างธุรกิจครอบครัวสกุลฟ่านของชิงซานที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบกงสี คือ มีพี่น้องลูกหลานเป็นผู้บริหารและจำกัดระดับฐานเงินเดือนของพนักงานทุกฝ่ายต่ำกว่าบริษัทที่ร่วมทุนกับต่างชาติ
“ถ้ารวยจริงจะมาเกาะติดคนแก่อยู่ทำไม เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ผมชวนคุณมาหาความสุขด้วยกันนะ ไม่ได้ชวนมาคุยเรื่องว่าที่เมียป๊า ผมอยากแสดงให้คุณรู้ว่าผมคิดถึงคุณแค่ไหน”
ชิงซานพลิกร่างจื่อรั่วลงด้านล่าง ดึงทึ้งเสื้อผ้าชุดทำงานที่ยังไม่ได้เปลี่ยนออกอย่างใจร้อน เมื่อร่างทั้งสองไร้อาภรณ์กีดขวางต่างก็ปรนเปรอด้วยการจูบลูบไล้เนื้อตัวของกันและกันตามแรงปรารถนาโดยไม่ลุกออกจากโซฟา
จื่อรั่วพลิกตัวกลับให้คู่รักหนุ่มลงนอนด้านล่างและขยับตัวถอยลงทางปลายเท้าดันลำขายาวแข็งแกร่งขึ้นตั้งฉากเพื่อทำสิ่งที่รู้ว่าชิงซานชอบและหล่อนก็ชอบให้เขาทำอย่างเดียวกัน