บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“นายท่าน” เสียงของบรู๊คดังขึ้น เขาทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม ศีรษะยังก้มมองที่ปลายเท้าอยู่เช่นเดิม

“เลิกทำตัวแบบนั้นได้แล้วบรู๊คนี่มันสมัยไหนแล้ว ยังทำความเคารพแบบนั้นอีก เชยเป็นบ้า” นาธานหัวเราะออกมา คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้บรู๊คเงยหน้าขึ้นมามอง “พูดคุยกันไม่มองหน้าไม่รู้สึกแปลกหรือไง”

“พอแล้ว” คาลวินลุกขึ้นจากอ่างแช่น้ำ ร่างกายเปล่าเปลือยถูกคลุมลงมาด้วยเสื้อสีขาวจากมือของคาลิก “ไปที่ห้องทำงาน” เขาออกเดินนำไปก่อน ทิ้งนาธานเอาไว้ในอ่างเพียงคนเดียวแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นักร้องหนุ่มสนใจ เพราะเรื่องของพี่ชายเขาไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย

“ผมขอรายงานครับ” เมื่อประตูห้องทำงานถูกปิดลง เสียงของบรู๊คก็ดังขึ้น

“ว่ามา”

“สายของเราที่อยู่ฝั่งใต้ แจ้งมาว่า ตอนนี้มัวร์ เริ่มรุกล้ำพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ แล้วครับ ความสันติคงสิ้นสุดลงแล้ว”

“ความสันติ….ไม่เคยมีอยู่จริง..” คาลวินหลับตาลงช้าๆ เอนหลังพิงเก้าอี้นวมตัวใหญ่ “คาลิก…ส่งแจ๊คไปสืบดูให้ละเอียด” แจ็คคือสัตว์เลี้ยงของตระกูลซาโลว์ เป็นค้างคาวสีดำที่ถูกเลี้ยงเอาไว้เป็นอย่างดี เมื่อส่งค้างคาวไปที่ใดคาลวินจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ได้ผ่านดวงตาของแจ็คนั้นเอง

“ครับ” คาลิกรับคำสั่งแล้วเดินออกจากห้องไป

“ต้องใช้แจ็คเลยหรือครับนายท่าน ให้คนฝั่งใต้ของเราสืบดูก็ได้ไม่ใช่หรือครับ” บรู๊คคัดค้าน เพราะการส่งแจ็คออกไปจะทำให้คาลวินต้องใช้พลังของตัวเองในการมองเหตุการณ์ผ่านดวงตาของแจ็ค

“มีพลังก็ต้องเอาออกมาใช้..และเวลานี้มันเหมาะสมแล้ว มีอะไรจะรายงานอีกไหม”

“มัวร์ มีจดหมายมาถึงนายท่านด้วยครับ” บรู๊คส่งกระดาษสีขาวมาตรงหน้า ถึงแม้จะไม่ได้มีซองใส่ให้เรียบร้อย แต่เขาก็ยังไม่ได้เปิดอ่าน

“หึ!” คาลวินขย่ำกระดาษในมือทิ้ง และยังไม่หนำใจเขาจุดไฟเผามันเสียตรงนี้ “บอกให้คนของเรา รักษาพรมแดนเอาไว้ให้ดี ถ้าหากมันมาเที่ยวเล่นก็ปล่อยผ่าน ถ้ามันไม่ได้มาเที่ยวเล่นก็ฆ่ามันทิ้งซะ!!”

“รับทราบ”

เสียงเพลงจากลำโพงเครื่องเล็ก ที่คาร่าพกติดกระเป๋ามาด้วยกำลังคลอเพลงสากลเบาๆ เธอกำลังออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะท่าประจำที่เคยทำอยู่เป็นประจำ หลังจากวันที่ไปเดินแบบคาร่าก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง นัดของวิเวียนเธอก็ได้ปฏิเสธไป เพราะกลัวอะไรหลายๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

บ้านเมืองที่ไม่คุ้นเคยเธอต้องการเวลาปรับตัวเป็นอย่างมาก วันแรกที่มาถึงคาร่าผ่อนคลายมาก แต่เมื่อไปเจอเหตุการณ์ของวันที่เดินแบบทำให้เธอเครียดขึ้นมาเสียได้

มาอยู่ต่างเมืองคาร่าเริ่มคิดถึงอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน เธอทานอาหารที่โรงอาหารของที่นี่มาหลายวัน ถึงแม้เมนูจะไม่ซ้ำกัน แต่รสชาติแบบนี้ก็เริ่มเบื่อหน่าย เมื่อออกกำลังกายเสร็จ เธอจึงตัดสินใจเข้าไปหาร้านอาหารไทยที่อยู่ใกล้ที่พักในอินเทอร์เน็ต

ความคิดถึงอาหารไทย มีพลังแกร่งกล้ามากกว่าความกลัว เมื่อเดินลงมารอลิฟต์ประตูลิฟต์ได้เปิดออก เธอก็มองเห็นผู้ชายในฝันของตนเอง นาธานส่งยิ้มมาพร้อมทักทาย

“คาร่าจะไปไหนเหรอ”

“ไปทานข้าวค่ะ แล้วคุณนาธานไม่มีซ้อมเหรอคะวันนี้”

“ไม่ต้องเรียกคุณหรอก ผมอายุเท่ากับวิเวียนเป็นเพื่อนกัน เรียกชื่อก็พอ” รอยยิ้มที่กระชากใจสาวๆ บนเวทีได้ส่งมาให้กลับคาร่า หัวใจที่เต้นอยู่ด้านในอกของเธอกำลังเต้นเร็วมากยิ่งขึ้น

“ค่ะ”

“พอดีผมก็จะไปทานข้าวเหมือนกัน” นาธานหันมองมาที่คาร่า วันนี้ได้มองเห็นใบหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น เธอก็สวยไม่แพ้ใครสีผิวของเธอดูขาวอมชมพูไม่เหมือนผู้หญิงยุโรป

“ฉันออกไปทานข้าวข้างนอกนะคะ จะสะดวกไปด้วยเหรอคะ” คาร่าถามออกมาเพื่อให้แน่ใจ ว่านาธานจะสามารถไปข้างนอกพร้อมกับเธอได้ และยังเป็นการไปข้างนอกด้วยกันสองต่อสอง ถ้าเกิดเป็นข่าวขึ้นมา..

“ไปได้..เดี๋ยวเรียกเพื่อนๆ ไปด้วย คาร่าจะได้สบายใจ” นาธานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเพื่อนๆ ถึงแม้คาร่าจะอยากไปกับเขาเพียงสองคนแต่ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงไม่เป็นข่าวกับนักร้องชื่อดังแบบเขา

“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่จะได้ทานอาหารไทย” วิเวียนมีน้ำเสียงตื่นเต้นเธอมองเมนูในมือด้วยสายตาเป็นประกาย “คาร่าอันไหนอร่อย” เธอคงไม่เคยรับรู้ว่ารสชาติอาหารไทยเป็นเช่นไร แต่ถ้าให้แนะนำคงหนีไม่พ้นเมนูประจำชาติ อย่างเช่นต้มยำกุ้งน้ำข้นรสแซ่บที่แค่คิดต่อมน้ำลายก็ทำงานในที

“ให้ฉันสั่งอาหารเองแล้วกัน ถ้าอยากทานอะไรเพิ่มทุกคนค่อยสั่งนะ” คาร่าหยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิดอ่าน สิ่งแรกที่เธอสั่งคงเป็นเมนูแรกเริ่มที่ทางร้านนำเสนอ ต้มยำทะเลหม้อไฟขนาดใหญ่ ข้าวผัดปู ส้มตำไทย ทอดมัน ไก่ทอดน้ำปลาและยำวุ้นเส้น ของที่คาร่าสั่งเป็นไซส์ใหญ่ทั้งหมด

“ว่าแต่..คาร่าเป็นยังไงบ้างฉันพึ่งเห็นข่าว เกิดอุบัติเหตุในงานเดินแบบไม่ใช่เหรอ ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม” วิเวียนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไร ในงานไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ” คาร่ายิ้มออกมา ทั้งที่ภาพในงานวันนั้นและดวงตาสีแดงยังติดเป็นภาพในหัวไม่จางหาย

“อาทิตย์หน้าบริษัท มีจัดเลี้ยงให้ก่อนวันคริสต์มาส ว่างๆ ไปเดินดูของขวัญกันเถอะ” นาธานเอ่ยชวนทุกคนขึ้น เขาหันมาส่งยิ้มให้กับคาร่าเช่นเดียวกัน ดูเหมือนทุกคนจะเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว

ถ้ามองภายนอก คนในวงของนาธานดูลึกลับ แต่พอคาร่าได้มารู้จักทุกคนน่ารักและเป็นกันเอง จนเธอได้กลายมาเป็นเพื่อนอีกคนของคนในวงนาธาน การรับประทานอาหารมื้อแรกที่นาธานบอกกับทุกคนว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับคาร่าและการเริ่มต้นสัมพันธ์ของเพื่อนที่ดี

“อร่อยมาก เผ็ดด้วย ไม่ไหวแล้วคาร่า ฉันเหมือนจะตายเลย” วิเวียนที่ซดน้ำร้อนๆ ของต้มยำพูดพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นดื่มติดต่อกันหลายครั้ง

“ทานนี่แก้เผ็ด” คาร่าตักข้าวผัดปูวางลงที่จานให้กับวิเวียนตามด้วยไก่ทอดน้ำปลา เพื่อให้เธอทานและคลายความเผ็ด ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง

“นาธานทำไม่ทานน้อยจัง สั่งอย่างอื่นไหม หรืออยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม” คาร่าที่สังเกตเห็นว่านาธานทานอาหารตรงหน้าเพียงเล็กน้อย ส่วนมากเขาจะพูดคุยเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนๆ ฟังมากกว่าจับช้อนตักอาหารเข้าปาก

“ไม่ต้องห่วงเขาหรอก นาธานเป็นคนทานน้อย แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมาก ครั้งหน้าเรามากันอีกนะ” วิเวียนพูดขึ้น หลังจากอาหารคาวเสร็จเรียบร้อย คาร่าจึงได้สั่งอาหารหวานมาให้ทุกคนลองชิมกัน วันนี้ทางร้านมีเมนูพิเศษคือบัวลอยไข่หวาน เพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง อยู่ต่างแดดขนมไทยหาทานได้ยาก และเป็นอย่างที่คิด ทุกคนชอบของหวานมาก ทางร้านทำออกมาได้รสชาติไม่หวานจนเกินไป สำหรับคนที่ไม่ทานหวานก็มีรสชาติให้เลือก

ค่าอาหารในวันนี้นาธานขอรับผิดชอบทั้งหมด สุภาพบุรุษที่ยืนโดดเด่นอยู่กลางร้าน เป็นที่จับจ้องจากคนในร้าน แต่ก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายทุกคนจำต้องรีบออกมาจากร้านอาหาร

“ไปไหนต่อดี” วิเวียนถามคาร่าเมื่อตอนนี้อยู่กันเพียงลำพัง เพราะทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง

“ฉันไม่รู้จักที่นี่เลย วิเวียนมีที่แนะนำดีๆ ไหม”

“แนะนำเหรอ..” เธอทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนดึงแขนให้คาร่าเดินตามมายังที่ที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ในซอยเล็กๆ ที่ถัดมาอีกสามซอย วิเวียนหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่ เมื่อผลักเขาไปเสียงเตือนจากกระดิ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณในทันที

ภายในร้านประกอบไปด้วยไฟสีเหลืองที่มาจากเพดานห้อง วิเวียนยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เธอเดินขึ้นบันไดไม้ที่วนเป็นวงกลม จากชั้นที่หนึ่งจนถึงชั้นที่สามถึงได้หยุดพัก

“ที่นี่คืออะไรเหรอ” คาร่าถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะไม่มีอะไรนอกจากประตูไม้หนึ่งบานเพียงเท่านั้น

“ไปเถอะ” ประตูไม้ถูกเปิดเข้าไปด้านใน ทุกอย่างมันช่างแตกต่างจากสิ่งที่มองเห็นจากภายนอก ห้องขนาดใหญ่ที่มีชั้นวางของตั้งเรียงรายอยู่แนบชิดติดกับผนังห้องทั้งสี่ด้าน

“วิเวียน!!” เสียงเรียกที่แสนจะตื่นเต้นและดีใจดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง

“โรส เป็นไงบ้างสบายดีไหม ไม่ได้แวะมานานเลย นี่คาร่า เพื่อนฉันเอง” เธอรีบแนะนำบุคคลที่มาใหม่ให้โรสทำความรู้จักในทันที

“ฉันบอกพวกเธอแล้วนะ อย่าพาคนอื่นเข้ามาในที่ของฉันง่ายนักสิ” โรสเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับพูดประชิดใบหูของวิเวียน แต่สีหน้าของเธอกลับไม่สำนึกผิดเอาแต่ยิ้มอย่างร่าเริง เพราะวิเวียนรู้จักนิสัยของโรสดี

“นาธานไม่มาด้วยหรอกนะ วันนี้ฉันพาลูกค้ามาให้เธอต่างหากล่ะ มีอะไรเด็ดๆ งัดออกมาแนะนำให้หมดเลยนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel