1
ภพพันธ์มองบรรยากาศรอบกายของท้องทุ่งด้วยความรู้สึกสดชื่น
แรกเริ่มเดิมทีเขาเดินทางมาที่นี่ด้วยความเบื่อหน่าย แต่พอได้เห็นธรรมชาติเช่นนี้ก็รู้สึกสดชื่นไม่น้อย
เขาเดินทางมาที่นี่เพื่อยกเลิกการถอนหมั้นกับสาวบ้านนานามว่ามะปราง
บิดาของเขาเคยเป็นเด็กบ้านนอกมาก่อน ท่านมีเพื่อนรักชื่อมะพร้าว ก่อนบิดาจะเข้ามาเรียนต่อและทำงานที่กรุงเทพ ท่านเคยให้สัญญากับลุงมะพร้าวไว้ว่าหากมีลูกจะให้แต่งงานกัน
ภพธรบิดาของเขาเข้ากรุงเทพฯ ไปเรียนต่อ หลังจากเรียนจบก็เข้าทำงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองใหญ่
อยู่มาวันหนึ่งบิดาได้ช่วยเหลือสองพ่อลูกเอาไว้ โดยท่านเอาชีวิตเข้าแลก ทำให้โดนโจรแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ท่านนอนพักรักษาตัวอยู่นานกว่าจะหายเป็นปกติ และได้รู้ในภายหลังว่าคนที่ช่วยเอาไว้เป็นบุตรสาวและประธานบริษัทที่เขาทำงานอยู่
ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจของบิดา ทำให้พงศกรปู่ของเขา เลื่อนตำแหน่งให้บิดาของเขา ท่ามกลางความไม่พอใจของพนักงานที่ทำงานอยู่ก่อน
แต่บิดาของเขาก็พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเอง ทั้งขยัน มีความเป็นผู้นำ จนสามารถพิชิตใจของพิมพ์พราวมารดาของเขาได้ ทั้งสองพิสูจน์ถึงความรักที่มีต่อกัน จนปู่ของเขาใจอ่อน ยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกัน เมื่อบริษัทประสบปัญหา บิดาของเขาก็สามารถพยุงกิจการให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
มารดาของเขาจึงรักและชื่นชมบิดาเป็นอันมาก ท่านแต่งงานกับมารดาก็มีเขาเป็นลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นการหมั้นหมายและการแต่งงานในอนาคต จึงตกมาเป็นหน้าที่ของเขาเพียงผู้เดียว หากมีพี่น้องคนอื่นก็อาจจะไม่ใช่เขา
บิดาเองก็ไม่ได้บังคับ แต่ก็ยื่นคำขาดให้เขามายกเลิกสัญญาด้วยตัวเองที่บ้านนอกแห่งนี้
บิดาเป็นหนี้บุญคุณลุงมะพร้าวอยู่ จะเรียกว่าหนี้ชีวิตก็ย่อมได้ หากไม่มีลุง
มะพร้าวในครานั้น บิดาก็คงจะตายไปแล้ว ท่านจึงมิกล้าบอกเลิกสัญญาใจลูกผู้ชายที่ให้ไว้ด้วยตัวเอง
ในเมื่อเขาไม่อยากถูกบังคับและไม่อยากแต่ง แถมบิดายังให้โอกาส เขาจึงดั้นด้นเดินทางมาบอกเลิกการหมั้นหมายด้วยตัวเอง
เขาเป็นลูกผู้ชายพอ จะไม่ยอมโดนบังคับอย่างเด็ดขาดและหากว่าลุงมะพร้าวจะโกรธเคือง เขาก็พร้อมที่จะยอมรับทุกอย่างไม่ให้บิดาต้องเดือดร้อน ก่อนเดินทางมาที่นี่
เขาได้ติดต่อมาทางบ้านของลุงมะพร้าวเรียบร้อยแล้ว สาวใช้บอกเขาว่าจะแจ้งแก่ลุงมะพร้าวและป้าพุดกรองถึงการมาของเขา
เขาจึงรีบเร่งเดินทางมาโดยไว จะได้ไม่เสียเวลาชีวิต ตกลงกันเสียให้เรียบร้อย ดีกว่าต้องมีเรื่องค้างคาใจกันอีก ลุงมะพร้าวก็ถือว่าค่อนข้างมีฐานะ เพราะเป็นถึงกำนันของตำบลแห่งนี้ ป้าพุดกรองก็เป็นคนมีฐานะ มีที่ดินมากมาย ตามคำของบิดาที่เล่าประวัติคร่าว ๆ ให้เขาได้ฟัง
บิดาเล่าว่าลุงมะพร้าวมีลูกตอนแก่ แต่งงานนานปลายปีก็ไม่มีลูก จึงไปขอลูกจากพระ ได้บุตรสาวมาคนหนึ่งคือมะปราง
มะปรางอายุห่างจากเขามาก หล่อนอายุเพียงยี่สิบเอ็ด ได้ข่าวว่าเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ในขณะที่เขา อายุสามสิบเจ็ด
ถ้าตอนนั้นมะปรางเกิดก่อนเขาหรือเกิดไล่เลี่ยกัน หล่อนคงเป็นสาวแก่ทึนทึกวัยเกือบสี่สิบ
เขาไม่ได้ดูถูกคนที่หน้าตาฐานะการศึกษาหรือชาติตระกูล แต่เหตุผลที่ว่าเขาไม่รัก ไม่ชอบถูกจับคลุมถุงชนคือเหตุผลหลักของการยกเลิกการหมั้นหมายในครั้งนี้
เอี๊ยด!!! เสียงเบรกรถของศักดิ์ ให้เขาหลุดจากภวังค์ความคิดมากมายถึงเรื่องของบิดาและเพื่อนของบิดา ภพพันธ์ต้องเอ่ยถามคนขับรถหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีอะไรเหรอศักดิ์”
“ควายครับ ควายเดินตัดหน้ารถครับคุณภพ” ศักดิ์รายงานเจ้านายหนุ่ม
“ควายที่ไหน” ภพพันธ์เอ่ยถาม
“น่าจะเป็นควายแถวนี้แหละครับ” ศักดิ์มองควายแล้วยิ้ม เขาเป็นเด็กบ้านนอกมาก่อน เมื่อก่อนก็ขี่ควายเล่น เพิ่งมาเป็นหนุ่มเมืองกรุงฯ ก็ตอนโตนี่แหละ
“เฮ้ย! นั่นอะไร” ภพพันธ์ร้องด้วยความตกใจ เมื่อเด็ก ๆ เอาโคลนมาปารถของเขาแบบนี้
“ไอ้เด็กบ้า” ศักดิ์ลงไปไล่เด็กที่วิ่งแก้ผ้าซัดโคลนใส่กันอยู่
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!” ภพพันธ์ตวาดลั่น เมื่อรถราคาแพงของเขาสกปรกเช่นนี้ เด็กพวกนั้นวิ่งหนีด้วยความตกใจ
ภพพันธ์มองกระจกรถของตนเองอย่างโกรธเคือง กระจกรถของเขาเละไปด้วยโคลน ไม่สามารถที่จะขับไปต่อได้เพราะมองทางไม่เห็น
“จะขับไปต่อยังไงล่ะนี่” ทั้งเจ้านายและลูกน้องบ่นพร้อมกัน
“เราคงต้องขอให้ชาวบ้านแถวนี้ไปส่งครับคุณภพ ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเดินไป” รถที่วิ่งผ่านมาคือรถพ่วงกับรถไถนา ภพพันธ์ทำหน้าเมื่อย แต่ระหว่างเดินกับนั่งรถ เขาเลือกนั่งรถดีกว่า
ภพพันธ์อยากจะบ้าตาย เขาเจ็บก้นไปหมดเพราะรถกระเทือนไปตลอดทาง รู้สึกว่าก้นระบมอย่างที่สุด
แถมลุงคนขับยังพารถตกหลุมตกบ่ออีก ในขณะที่ภพพันธ์กับลูกน้องกำลังนั่งรถเวียนรอบหมู่บ้าน เพราะไม่ถึงบ้านกำนันเสียที
ระหว่างที่ภพพันธ์กำลังสบถอยู่ในใจไปตลอดทาง มะปรางกับสาวใช้คนสนิทกำลังหัวเราะกันอย่างสะใจ
“สะใจจริงๆ เลยจ้ะพี่ดาว” มะปรางหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง ตอนที่คู่หมั้นของเธอติดต่อมา ดาวเป็นคนรับโทรศัพท์ เธอจึงทราบเรื่องนี้ก่อนบิดามารดา