บทที่ 1 เต็มไปด้วยการดูหมิ่น
บริเวณทางเดินโรงพยาบาล มีคนเดินไปเดินมาอย่างต่อเนื่อง
เย่ฝานคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่มุมโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“โรคมะเร็งกระเพาะอาหารของแม่นายแย่ลงเรื่อยๆ ถ้าไม่จ่ายค่าผ่าตัดหนึ่งแสน คงมีชีวิตอยู่ได้แค่หนึ่งเดือน”
น้ำเสียงเย็นชาของหมอเหมือนเข็มทิ่มแทงหัวใจ
เย่ฝานไม่มีปัญญาหาค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนี้หรอก
พ่อบุญธรรมอย่างเย่อู๋จิ่ว ทำงานบนเรือและหายตัวไปเมื่อหนึ่งปีก่อน แม่บุญธรรมอย่างเสิ่นปี้ฉินเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจนต้องเข้าโรงพยาบาล เย่ฝานที่เพิ่งเรียนจบ กลายเป็นเสาหลักของครอบครัว
หนึ่งปีมานี้ เย่ฝานใช้เงินสะสมของครอบครัวในการรักษาแม่บุญธรรมจนหมด กู้สินเชื่อออนไลน์ทุกอย่าง อีกทั้งยังไปแต่งงานแก้เคล็ดเข้าตระกูลถังด้วย
เขาลำบากลำบนอยู่ในตระกูลถัง ศักดิ์ศรีหายไปจนหมด ถึงจะได้เงินหนึ่งแสนมา
แต่เงินนี้หายวับไปกับค่ารักษา
ตอนนี้ทั้งตัวเย่ฝานเหลือแค่มือถือหนึ่งเครื่องกับเงินสิบหยวน
“ต้องการอีกหนึ่งแสน อีกหนึ่งแสน......”
พอคิดถึงตัวเลขที่หมอพูด เย่ฝานรู้สึกสิ้นหวังมาก คนจนตรอกอย่างเขาจะเอาเงินแสนมาจากไหน
แต่เขาปล่อยให้แม่ตายไปแบบนี้ไม่ได้
“ไม่ได้ ฉันต้องยืมเงินแสนมาให้ได้”
เย่ฝานเช็ดน้ำตาแล้วกัดฟันลุกขึ้นยืน “ฉันปล่อยให้แม่เป็นอะไรไปไม่ได้”
เขาตัดสินใจละทิ้งศักดิ์ศรีและไปยืมเงิน
เย่ฝานมาถึงเคาะประตูบ้านลุง
ป้าสะใภ้เปิดประตูด้วยสีหน้าราบเรียบ
เย่ฝานพูดอ้อนวอนป้าสะใภ้ “ป้าสะใภ้ แม่ฉันต้องใช้เงินในการผ่าตัด......”
“มาขอเงินอีกแล้วเหรอ ให้ไปสองร้อยหยวนยังไม่พอเหรอ”
“ไสหัวไปเลยๆๆ ไม่ต้องมาที่นี่แล้ว ฉันไม่มีญาติหน้าเงินแบบพวกนาย......”
ป้าสะใภ้พูดพลางผลักเย่ฝานออกไป จากนั้นปิดประตูเสียงดังปัง
ได้ยินคำพูดเสียดแทงพวกนี้ เย่ฝานโมโหจนตัวสั่น แล้วกำหมัดชกกำแพงทันที
เขารู้ว่าแล้งน้ำใจ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกลุงที่แย่งบ้านตระกูลของพ่อ กลับไม่ยอมให้ความช่วยเลยสักนิด
เย่ฝานจนปัญญา ทำได้แค่แบกหน้าไปยืมเงินญาติคนอื่น แต่ก็โดนปฏิเสธทั้งหมด
พวกเขายังเตือนเย่ฝานว่าอย่ามาวุ่นวายอีก ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจจับเขา
จากนั้นเจ้าของบ้านยังโทรมาบอกอีกว่าถ้าไม่จ่ายค่าเช่าภายในหนึ่งสัปดาห์ เขาจะจัดการห้องของเสิ่นปี้ฉิน
ส่วนบริษัทสินเชื่อออนไลน์ขู่จะเอาชีวิต
เย่ฝานกัดฟันโทรหาถังรั่วเสวี่ยที่ไปเที่ยวมัลดีฟ
พอถังรั่วเสวี่ยได้ยินเขาขอเงิน เธอรีบวางสายด้วยความหงุดหงิดทันที
อับจนหนทาง
ตากลมบนถนนอยู่นาน เย่ฝานเช็ดน้ำตาแล้วมาผับเซียโร
นี่เป็นผับของหยวนจิ้ง แฟนเก่าของเขา ไม่สิ หวงตงเฉียง อดีตรูมเมทของเขายืมเงินห้าล้านมาสานฝันหยวนจิ้งให้เป็นจริง
แน่นอนว่าเงินห้าล้านนี้ทำให้หยวนจิ้งทิ้งเย่ฝานไปหาหวงตงเฉียง
มีกิมมิคของสาวสวยแสนเย็นชา ธุรกิจที่นี่ดีมาก กลายเป็นที่รวมตัวของลูกคนรวยที่จงไห่
ส่วนเย่ฝานกลายเป็นตัวตลก
แม้เย่ฝานรู้สึกอับอายที่มาที่นี่ แต่พอคิดถึงค่าผ่าตัดของแม่ เขาทำได้แค่เดินเข้าไปในผับเซียโร
เขาเชื่อว่าหยวนจิ้งจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต และให้ยืมเงินหนึ่งแสน
ในผับมีคนดีดกีตาร์ ร้องเพลง บรรยากาศครึกครื้นมาก
กลิ่นน้ำหอมที่นี่ทำให้เย่ฝานรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย
เย่ฝานเดินเข้ามาในโถงใหญ่ คนที่อยู่ในนี้เงียบลงทันที
ชายหนุ่มหญิงสาวแต่งตัวหรูสิบกว่าคนหันมามอง
เย่ฝานมองหยวนจิ้งกับหวงตงเฉียง
เขาเห็นความทรงพลังจากนัยน์ตาของหวงตงเฉียง เห็นความดูหมิ่น แต่ไม่เห็นความรู้สึกผิดเลยสักนิด
หยวนจิ้งสวมเสื้อกั๊กทรงเตี้ยเผยให้เห็นท้องสีขาวของเธอ และร่างกายส่วนล่างของเธอก็สวมกางเกงขาสั้นที่ไม่สามารถสั้นไปกว่านี้ได้แล้ว
ผิวขาวเนียนและขาเรียวยาวทั้งสองข้าง บวกกับใบหน้าอันงดงาม ดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมาก
แต่สีหน้าเย่อหยิ่งของเธอ กลับทำให้คนไม่กล้าสบตา
เธอมองเย่ฝานอย่างเฉยเมย ความเฉยเมยนั้นเหมือนมองสุนัขตามข้างทางอย่างไรอย่างนั้น
หยางเชียนเชียน เพื่อนสนิทของหยวนจิ้ง กระโดดลงมาจากเก้าอี้บาร์ทรงสูง
“เย่ฝาน นายมาที่นี่ทำไม”
น้ำเสียงรังเกียจ
เย่ฝานรวบรวมความกล้า “ฉันมา......”
“เราไม่ได้ต้องการคนทำความสะอาด”
หยางเชียนเชียนพูดเย้ยหยัน “นายไปเถอะ”
เธอดูหมิ่นคนจนอย่างเย่ฝานมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วเธอก็เป็นคนที่พยายามจับคู่หยวนจิ้งกับหวงตงเฉียงด้วย
เย่ฝานรีบโบกมือแล้วอธิบาย “ฉันไม่ได้มาทำความสะอาด ฉันมา......”
“น้ำเลมอนยี่สิบแปดหยวน ค็อกเทลร้อยแปดสิบหยวน นายจ่ายไหวไหม”
หยางเชียนเชียนพูดแซะแล้วแสยะยิ้ม “แม้ในกระเป๋านายมีค่าขนมที่ตระกูลถังบริจาคให้ แต่ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย”
หวงตงเฉียงสบถออกมา “ให้ตายเถอะ เฮงซวย วันนี้ดวงไม่ดีเลยที่มาเจอไอ้เขยขยะแต่งเข้าบ้านเมีย”
เรื่องที่เย่ฝานแต่งงานแก้เคล็ดเข้าบ้านผู้หญิง พวกหวงตงเฉียงรู้นานแล้ว
ชายหนุ่มหญิงสาวสิบกว่าคนได้ยินแล้วหัวเราะออกมา
“ฉัน......”
เย่ฝานกัดฟันก้าวเข้ามา เขามองหยวนจิ้งแล้วกำลังจะเอ่ยปาก แต่สาวสวยคนหนึ่งตะโกนว่า
“เอามือสกปรกๆ ของนายออกไปเลย นี่โซฟาหนังแท้เลยนะ”
เธอยังใช้มือปัดไปมาตรงจมูก เหมือนเย่ฝานเพิ่งขึ้นมาจากน้ำเน่าอย่างไรอย่างนั้น
เย่ฝานดึงมือกลับเหมือนโดนงูฉก หน้าแดงไปถึงหู
เขารู้ว่าต้องโดนดูหมิ่นให้อับอาย แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะแล้งน้ำใจขนาดนี้
เขากัดฟันแล้วพูดออกมาว่า “ฉันมาหาหยวนจิ้ง”
“หยวนจิ้ง เราออกไปคุยกันหน่อย......”
เย่ฝานอยากรักษาหน้าที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด
หยวนจิ้งนั่งไขว่ห้าง นิ้วเท้าขาวเนียนสะท้อนแสงไฟ ไร้เสียงเยาะเย้ย ไร้ท่าที แต่นี่คือความเมินเฉยชัดๆ
หวงตงเฉียงยกยิ้มมุมปากอย่างยียวน
“ตอนนี้หยวนจิ้งเป็นแฟนฉัน ไม่ใช่ว่านายอยากมาหาก็มาหาได้”
เขายังแสดงอำนาจด้วยการลูบขาหยวนจิ้ง
เย่ฝานหน้าร้อนผะผ่าว “หยวนจิ้ง ฉันมีธุระกับเธอจริงๆ เราออกไปคุยกันหน่อย”
หยวนจิ้งมองเย่ฝานอย่างเฉยเมย ใบหน้ามีแค่ความเย่อหยิ่งและเมินเฉย เหมือนมองมดตัวเล็กๆ อย่างไรอย่างนั้น
“ไสหัวไป เห็นหน้านายแล้วอยากอ้วก”
หยางเชียนเชียนตะโกนด้วยความหงุดหงิด “อย่ามาทำให้เราอารมณ์เสีย”
พอเห็นหยวนจิ้งไม่ไว้หน้าตัวเองเลยสักนิด เย่ฝานรู้สึกสิ้นหวังและเศร้ามาก แต่เขาก็ยังพูดออกมา
“หยวนจิ้ง ฉันอยากยืมเงินเธอหนึ่งแสน”
เย่ฝานพูดรับประกันว่า
“เธอไม่ต้องกังวล ฉันคืนแน่นอน ฉันเอาบัตรประชาชน ใบปริญญาเป็นหลักประกันได้......”
“หนึ่งแสนเหรอ”
หยางเชียนเชียนตะโกนแบบโอเวอร์
“เย่ฝาน นายจะยืมเงินหนึ่งแสน ทั้งตัวนายยังมีค่าไม่ถึงร้อยหยวนเลย ยังมีหน้ามายืมเงินแสนอีกเหรอ”
เย่ฝานมองหยวนจิ้งแล้วอธิบายว่า “แม่ฉันต้องการเงินค่าผ่าตัด......”
“ฉันรู้ว่ามันกะทันหันเกินไป แต่ฉันรอเอาเงินนี้มาช่วยชีวิตจริงๆ ขอร้องล่ะ”
เขาพูดอาการป่วยของแม่ออกมา หวังว่าหยวนจิ้งจะเห็นใจ
หวงตงเฉียงมองเขาเหมือนคนปัญญาอ่อน
“พ่อนายหายตัวไป บ้านของตระกูลโดนลุงนายแย่งไป ตอนนี้ยังเช่าห้องอยู่ นายเป็นเขยแต่งเข้าบ้านเมีย ยังไม่มีงานทำ นายเอาอะไรมายืมเงินแสน”
เรียนจบมาหนึ่งปี เย่ฝานยุ่งอยู่กับอาการป่วยของแม่ แล้วก็ต้องปรนนิบัติตระกูลถัง ไม่ได้หาบริษัททำงานเลย
ดังนั้นตอนนี้เขายังเป็นคนว่างงานอยู่
“รอแม่ฉันผ่าตัดเสร็จ ฉันจะรีบหางาน ฉันคืนเงินได้แน่นอน”
เย่ฝานอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เขาอยากหันหลังเดินออกไปมาก แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องไปต่อเท่านั้น
“หยวนจิ้ง ขอร้องล่ะ แม่ฉันต้องผ่าตัด ต้องการเงินก้อนนี้จริงๆ......”
ตอนนี้เย่ฝานรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยเหมือนสุนัขจริงๆ
หยางเชียนเชียนพูดอย่างดูหมิ่นว่า “เราไม่ใช่พ่อนาย แม่นายต้องการเงินผ่าตัด เกี่ยวอะไรกับเราไม่ทราบ”
“หยวนจิ้ง ช่วยฉันสักครั้งเถอะ”
เย่ฝานมองหยวนจิ้งแล้วอ้อนวอน “ฉันคืนเงินเธอแน่นอน”
ทุกคนมองหยวนจิ้ง
หยวนจิ้งมองเย่ฝานด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วใช้น้ำเสียงเย็นชากว่าสีหน้าเธอพูดจนทำให้เย่ฝานรู้สึกใจชาวาบ
“มาขอยืมเงินฉัน นายไม่คิดว่าตลกไปหน่อยเหรอ ความเป็นตายของแม่นาย เกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ”
เธอแสยะยิ้ม “นายคิดว่าระหว่างเรายังมีความสัมพันธ์เก่าๆ อีกเหรอ”
“อย่าเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย”
“ไม่มีหงส์ตัวไหนสนใจคางคกหรอก”
เย่ฝานมองหยวนจิ้งด้วยสีหน้าตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะพูดประโยคนี้ออกมา
“นายเข้ามาในสังคมของเราไม่ได้หรอก”
“แล้วนายก็ยืมเงินฉันไม่ได้ด้วย”
“ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับนายสักนิด”
“อ้อ ตอนฉันคบกับนายเมื่อก่อน ตอนฉันป่วยนายให้หยกไท้เก๊กฉัน บอกว่าจะช่วยคุ้มครองให้ฉันปลอดภัย”
“ตอนนี้ฉันคืนหยกไท้เก๊กให้นาย เอาไปคุ้มครองให้แม่นายปลอดภัยนะ”
หยวนจิ้งเอาหยกไท้เก๊กมาจากลิ้นชักที่โต๊ะ แล้วก็โยนใส่มือเย่ฝานด้วยใบหน้าราบเรียบ
“ไปซะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก”
“นายไม่ควรมาผับเซียโร เพราะทำให้ฉันกับพวกหวงตงเฉียงหงุดหงิด”
เสียงเธอราบเรียบมาก ไม่มีการข่มขู่ แต่กลับกดคนอื่นจนจมดิน ราวกับอยู่บนฟ้าแล้วก้มมองมดบนพื้นอย่างไรอย่างนั้น
“เกิดเป็นคนต้องรู้จักเจียมตัว”
หยางเชียนเชียนผลักเย่ฝาน “ไสหัวไป ไอ้คางคก”
ใบหน้าเย่ฝานเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
จู่ๆ หวงตงเฉียงพูดว่า “ฉันให้นายยืมเงินแสนก็ได้”
เย่ฝานตาเป็นประกาย เขาดีใจมาก “จริงเหรอ”
หวงตงเฉียงยิ้มยียวน “คุกเข่า”
เย่ฝานชาวาบไปทั้งตัว นัยน์ตามีความโมโห แต่ก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว
“ตุบ”
เย่ฝานคุกเข่าลงทันที
เจ็บเข่า แต่เจ็บใจยิ่งกว่า
แต่เพื่อแม่ เย่ฝานไม่ลังเลอยู่แล้ว
“ฮ่าๆๆ......”
พวกหยางเชียนเชียนหัวเราะคิกคัก คิดไม่ถึงว่าคนไม่ยอมคนอย่างเย่ฝานจะคุกเข่าตรงหน้าพวกเขาแบบนี้
มีคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป
หยวนจิ้งเชิดคางขาวเนียน มีความเย่อหยิ่งเหมือนองค์หญิง ความดูหมิ่นเพิ่มขึ้นอีก
เป็นผู้ชายที่ไม่มีความห้าวหาญเลย
หวงตงเฉียงไปห้องน้ำ แล้วเอาแก้วกลับมาหนึ่งใบ ในแก้วมีของเหลวสีเหลือง เขาเอามาวางข้างหน้าเย่ฝาน
“คุกเข่าแล้วดื่มมันซะ”
หวงตงเฉียงโยนบัตรธนาคารมาใบหนึ่ง “ฉันให้นายยืมหนึ่งแสน”
เย่ฝานมองของเหลวสีเหลืองแล้วอึ้งไป จากนั้นรู้สึกโมโหมาก
นี่มันปัสสาวะ!
“ไอ้พวกเลว!”
เย่ฝานโยนแก้วออกไป “กลั่นแกล้งคนอื่นเกินไปแล้ว”
พวกหยวนจิ้งส่งเสียงกรี๊ด เละเทะไปทั้งตัว
หวงตงเฉียงเดือดสุดๆ เขาพูดสั่งว่า “จัดการเขา!”
เย่ฝานหันหลังแล้ววิ่งหนี
ลูกผู้ดีมีเงินเจ็ดแปดคนพุ่งเข้าไป
เขาคนเดียวสู้คนจำนวนมากไม่ได้อยู่แล้ว เย่ฝานโดนซัดจนล้มอย่างรวดเร็ว
เขาพิงกำแพงแล้วเอามือสองข้างบังหัวไว้
มือเขาไม่มีความรู้สึกแล้ว เอามือบังหัวตามสัญชาตญาณเท่านั้น
บังหัวได้ แต่ตรงอื่นบังไม่ได้ หลังโดนหมัดหนักๆ ไปหลายหมัด เย่ฝานเริ่มมีเลือดไหลออกมา
หยวนจิ้งกับพวกหยางเชียนเชียนส่งเสียงเฮอย่างสะใจ
ในสายตาพวกเธอ การโต้กลับของเย่ฝานเป็นความผิดมหันต์ ดังนั้นจุดจบเป็นแบบนี้ เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ
“ไอ้สวะ!”
หวงตงเฉียงใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบหัวเย่ฝาน
“พลั่ก......”
เย่ฝานปล่อยมือสองข้างที่กุมหัว ตัวเขาไหลจากกำแพงลงมาบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
เขาสลบไปแล้ว
เลือดไหลออกมาจากฝ่ามือ ซึมเข้าไปในหยกไท้เก๊กโบราณ......
“พรึ่บ......”
แสงกะพริบแล้วหายไป