บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ลูกรัก ลูกชัง

คุณหญิงภัสสรนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำในห้องรับแขก ชุมพลผู้เป็นสามีและภากรขับรถออกจากบ้านไปนานแล้ว สองพ่อลูกเดินทางไปแสดงความยินดีกับภุชงค์ลูกชายคนเล็กของหล่อนแต่หล่อนกลับทำเมินเฉยต่อความสำเร็จที่ลูกพยายามทำเพื่อวงศ์ตระกูลพิริยะวรกุล

ความเป็นผู้ดีเก่าของคุณหญิงภัสสร พิริยะวรกุล กลายเป็นแรงกดดันของลูกชาย 2 คนที่ต้องทำตามความต้องการของแม่ แต่ภากร ลูกชายคนโตสามารถทำตามความฝันของแม่ได้สำเร็จด้วยการเรียนแพทย์และจบมาเป็นนายแพทย์หนุ่มที่ภัสสรภูมิใจมาก ส่วนภุชงค์ ลูกชายคนเล็กนอกจากจะไม่ตามใจแม่แล้วยังทำให้แม่โกรธกับการเข้าเรียนสายดนตรีของเขา

ภัสสรไม่ยอมให้ลูกเรียนดนตรี ไม่ชอบการออกนอกบ้านยามค่ำคืนของลูก ไม่ชอบการคบเพื่อนในที่เป็นนักดนตรีมอซอ หล่อนยื่นคำขาดกับลูกคนเล็กทันที

“แกเลือกเอา ว่าจะอยู่เป็นลูกแม่หรือจะอยู่กับดนตรีบ้าบอนั่น”

“คุณแม่ครับ ผมขอนะครับ ผมอยากเรียน ผมชอบ อย่าบังคับผมเลยนะครับ”

ภุชงค์เลือกที่จะขัดใจแม่แทนการทำลายความฝันของตนเอง วันนี้แม่อาจโกรธแต่วันข้างหน้าหากแม่เห็นความตั้งใจของเขาและเขาไม่ทำตัวเสเพล แม่ต้องเข้าใจเขา

แต่ความคิดของภุชงค์ผิดพลาดทั้งหมดเมื่อภัสสรประกาศตัดขาดความเป็นแม่ลูกและไล่ลูกชายคนเล็กออกจากบ้านโดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

จากวันที่ภุชงค์เดินดุ่มออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณหญิงภัสสร จนถึงวันนี้ 4 ปีเต็มๆ ที่คุณหญิงไม่เคยลืมวันที่ลูกเดินจากไป หล่อนผิดอย่างนั้นหรือที่อยากให้ลูกเดินตามเส้นที่ขีดไว้ ญาติพี่น้องของหล่อนล้วนแล้วแต่ทำงานดี เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยชื่อดัง เป็นนายแพทย์ เป็นทนายความและรับราชการเกือบทุกคน มีบ้างที่ผันตัวเองไปเป็นนักธุรกิจ แล้วทำไมภุชงค์ลูกชายคนเล็กจึงแหวกแนวไปจากพี่ๆ น้องๆ

ข่าวการเป็นนักดนตรีสมัครเล่นกระทั่งเป็นนักดนตรีและนักร้องเต็มตัวของภุชงค์ ภัสสรได้ยินอย่างต่อเนื่องจากภากรและชุมพลแต่หล่อนฝืนทำไม่รู้ไม่เห็นและไม่อยากรับฟัง

“คุณแม่ครับ นายภุทำเทปแล้วนะครับ ผมเห็นข่าวโปรโมทเมื่อวานนี้ ท่าทางไปได้ดีครับ”

ภากรเอ่ยขึ้นในโต๊ะอาหาร ภัสสรนั่งเฉย ไม่มองลูกชาย มือที่กำลังตักกับข้าวชะงักนิดหนึ่งแล้วตักอาหารต่อ

“รีบทานข้าว เดี๋ยวไปทำงานสาย คุณก็เหมือนกัน วันนี้มีสอนเช้าไม่ใช่เหรอคะ”

สาวใหญ่ดุลูกชายแล้วไปลงที่สามีซึ่งอาจารย์ชุมพลหยุดยิ้มทันที ความยินดีกับลูกชายคนเล็กจางไป

อาจารย์สอนกฎหมายมองหน้านายแพทย์หนุ่มแล้วว่า

“คุณหมอภากรครับ รีบๆ ทานครับ เดี๋ยวไปส่งผมช้า ลูกศิษย์ผมจะดุเอานะครับ”

“คุณชุมพล อย่ามาประชดฉันนะ” ภัสสรตาเขียวใส่สามี

“ผมไม่ได้ประชด จะรีบไปจริงๆ ตอนเย็นผมขอกลับค่ำหน่อยนะคุณ จะไปแสดงความยินดีกับตาภุ หัวหน้าวง The friend”

“ไม่ได้ เย็นนี้ฉันจะไปงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายคุณหญิงพนา เขากลับจากเมืองนอก”

ภัสสรค้านเสียงเข้ม ดวงตากลมโตจ้องนิ่งที่ใบหน้าสามีแล้วหันมามองลูกชาย

“แกก็ต้องไปกับแม่ด้วย”

“ผมขอตัวครับคุณแม่ ไม่ผมถนัดงานเลี้ยง คุณพ่อครับ ไปทำงานกันครับ”

ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้รวดเร็ว แม่บังคับเขาไม่ได้เพราะเขารู้ทันท่าน แม่ห้ามพ่อได้แต่ห้ามเขาไปหาน้องชายไม่ได้ ชุมพลลุกตามลูกชายออกไปทิ้งให้ภัสสรนั่งหน้าบึ้งอยู่บนโต๊ะทานอาหารเพียงลำพัง

วงดนตรีน้องใหม่ The friend เปิดตัวขึ้นในผับย่านรัชดา บรรดาคอเพลงป๊อบล็อคที่รู้จักวงน้องใหม่วงนี้มาให้กำลังใจกันแน่นผับ ภากรกับชุมพลมอบช่อดอกไม้ให้กับคนสำคัญในครอบครัวด้านหลังเวที ภุชงค์ถึงกับน้ำตาไหล เขาโผเข้ากอดพ่อกับพี่ชายถึงแม้วันนี้จะไร้เงาของแม่แต่ก็ไม่ทำให้เขาหมดกำลังใจ เขาหวังว่าสักวันแม่ต้องให้อภัยลูกชายหัวดื้อคนนี้

ภุชงค์แนะนำเพื่อนร่วมวงให้พ่อกับพี่ชายรู้จักในคืนนั้น ประโดม ก้องเกียรติ นิยม นเรศและไพลินน้องใหม่ที่เข้ามาในขณะเทปชุดแรกกำลังจะปิดอัลบั้มพอดี หล่อนจึงมีโอกาสร่วมร้องเพลงเด่นในชุด 1 เพลงซึ่งเป็นเพลงที่ภุชงค์เขียนออกมาจากใจ เขาตั้งใจร้องเองเพื่อให้แม่รับรู้ถึงความรักของเขาที่มีต่อท่าน ไพลินจึงเป็นตัวแทนของเขา ใช้น้ำเสียงสดใสปนซึ้งถ่ายทอดอารมณ์แห่งความรักสู่ผู้ฟังโดยเฉพราะคุณหญิงภัสสร

“คุณพ่อครับ ผมฝากซีดีไปเปิดให้คุณแม่ฟังหน่อยนะครับ วันรับปริญญาชวนท่านมาด้วยนะครับ ถ้าท่านไม่มา ผมจะเข้าไปกราบขอโทษท่านเองครับ”

“แม่ไม่ได้เกลียดแกหรอกภุ แค่มีทิฐิมากไปนิด แค่นั้นเอง ถ้าลูกเข้าไปหาแม่ต้องดีใจ เอาไว้วันรับปริญญาพ่อจะพาแม่ไปเอง”

“ถ้าคุณแม่ยอมไปนะครับคุณพ่อ” ภากรเอ่ยขึ้นแล้วยิ้มกับภุชงค์ เขากับน้องรู้จักนิสัยของแม่ดีว่าเป็นอย่างไร ภุชงค์ยิ้มแล้วเข้าไปกอดพี่ชาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel