CHAPTER 9 เพื่อนสนิท
เพื่อนสนิท
“หนูนา เป็นอะไรรึเปล่า?” กรัณสะกิดพรนาราที่นั่งอยู่ข้างๆ
เสียงเรียกของเพื่อนทำให้สติของเธอกลับมา ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอนั่งเหม่อไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วเพื่อนพวกนี้กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่
ตอนนี้พรนารานั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่เคยเจอกันตอนที่อยู่ออสเตรเลีย เหมือนเป็นการนัดพบปะสังสรรค์นักเรียนไทยที่เรียนที่นั่น ไม่ใช่ว่าเธอจะสนิทกับเพื่อนกลุ่มนี้เท่าไรนัก แต่ที่ต้องมาเพราะทนการคะยั้นคะยอไม่ไหว นิสัยของเธอแตกต่างกับเพื่อนกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ได้มีความมั่นใจสูงอย่างที่เพื่อนกลุ่มนี้เป็น แต่เนื่องจากคนไทยที่ไปเรียนที่นั่นต้องจับกลุ่มกันไว้ ทำให้ไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะคบใครหรือไม่คบใคร
ตอนที่เรียนอยู่ที่นั่น เธอมีเพื่อนสนิทชื่อเจสสิก้าหรือเจสซี่ เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เพราะบ้านน้าของเธอกับบ้านของเจสสิก้าอยู่ใกล้กัน ทั้งสองครอบครัวจะจัดงานปาร์ตี้ร่วมกันบ่อยๆ ทำให้เธอคุ้นเคยกับเจสสิก้ามากกว่าคนอื่นทั้งที่นิสัยตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แต่น่าเสียดายที่ในงานเลี้ยงวันนี้ไม่มีเจสสิก้าเพราะเธออยู่ที่ออสเตรเลียมากกว่าที่เมืองไทย นานๆครั้งถึงจะมาเที่ยวเมืองไทยสักที
เจสสิก้าถูกเลี้ยงมาแบบฝรั่ง ทำให้เป็นคนที่มั่นใจสูง แต่ยังมีความอ่อนโยนแบบคนไทยอยู่ เจสสิก้าเป็นคนพูดตรง ไม่อ้อมค้อม แต่จิตใจดี ไม่คิดร้ายกับใคร ต่างกับคนไทยแท้ๆ บางคนที่ต่อหน้าพูดอย่าง ลับหลังพูดอย่าง ซึ่งนิสัยแบบนี้เธอไม่ชอบเลย โดยเฉพาะกลุ่มนี้ที่เธอมักจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาลับหลังอยู่เสมอ ทั้งที่ไม่มีเรื่องจริงเลยสักอย่างเดียว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พยายามปล่อยวางอย่างเดียว ใครจะพูดอะไรไม่ดีก็ช่าง เพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเป็นคนยังไง
สาเหตุที่เธอต้องเจอสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ มาจากคนที่ชื่อนีน่า เธอรู้แต่ว่าที่บ้านของนีน่ารวยมาก พ่อแม่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม ทำให้เพื่อนในกลุ่มต่างพากันเกรงใจ ถึงนิสัยจะแย่แค่ไหน แต่ทุกคนพยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เส้นทางมาเรียนต่อต่างประเทศของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนใช้เงินที่บ้าน บางคนได้ทุน บางคนถึงขั้นปากกัดตีนถีบก็มี เรียกได้ว่าทุก ชนชั้นต้องมาอยู่รวมกันโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวเธอเองไม่เคยสนใจในเรื่องนี้ เพราะเธอเลือกคบคนที่นิสัยมากกว่า
เธอไม่ใช่คนที่ต้องการอยู่ในสังคมที่มีคนจำนวนมาก ขอแค่มีไม่เยอะแต่จริงใจก็พอแล้ว
เจสสิก้าเป็นหนึ่งในนั้น ส่วนอีกคนคือกรัณ
กรัณเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เธอรู้จักมานาน ตั้งแต่เริ่มมาเรียนที่ออสเตรเลียใหม่ๆ รู้จักกันครั้งแรกตอนเข้าครอสเรียนภาษาอังกฤษในระดับเริ่มต้น กรัณใช้เวลาเรียนนานพอๆ กับเธอ เขามีญาติเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นั่น จึงไม่ได้เร่งรีบในการเรียนเท่าไรนัก เพราะเขาสามารถเรียนไปได้เรื่อยๆ โดย ไม่เดือดร้อนอะไร พอมาเจอกับเธอที่หัวช้าและใช้เวลาเรียนนานกว่าคนอื่น เธอกับเขาจึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว เพราะมีอะไรคล้ายๆ กัน
กรัณเป็นสาเหตุที่ทำให้นีน่าไม่ชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรก เพราะ นีน่าสนใจในตัวกรัณมากเกินคำว่าเพื่อน จะว่าไปกรัณเป็นหนุ่มฮอตของที่นั่นเหมือนกัน เพราะเขาเป็นหลานเจ้าของร้านอาหารไทยชื่อดัง ที่ใครๆ ต่างรู้จัก มีแต่เธอเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าเขารวยมากแค่ไหน เพราะกรัณไม่เคยทำตัวหรูหรา หรือใช้ของแบรนด์เนมราคาแพงๆ
พรนาราวางความสัมพันธ์กับกรัณไว้เพียงแค่เพื่อน ถึงแม้กรัณจะเคยบอกว่าเขารู้สึกกับเธออย่างไร เธอก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง เขารู้เหตุผลว่าเธอมีใครอยู่ในใจ เพราะเขารู้เรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ที่ได้รู้จักเธอ
มีเพียงกรัณกับเจสสิก้าเท่านั้นที่รู้เรื่องผู้ชายในฝันของเธอ เพียงแต่ทั้งสองคนไม่เคยเห็น บางครั้งยังล้อเธอด้วยซ้ำ ว่าเจ้าชายของเธอไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงเรื่องที่เธอเพ้อเจ้อไปเอง
ซึ่งเป็นความจริงอยู่ครึ่งเดียว เพราะเขามีตัวตนอยู่จริง เพียงแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่คิดฟุ้งซ่านไปเอง
“หนูนา...เบื่อเหรอ”
กรัณหันมากระซิบกับเธอเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน หลังจากที่เขาเรียกเธอแล้ว แต่เธอก็ยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิม
“อือ....อยากกลับบ้านแล้ว”
เธอตอบเขาไปเบาๆ เช่นกัน เพราะเริ่มรู้สึกอึดอัดที่เห็นสายตาของ นีน่ามองมาอย่างไม่พอใจที่เห็นกรัณเอาแต่สนใจเธอเพียงคนเดียว ไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มเท่าไรนัก
“รันพาหนูนากลับบ้านก่อนนะ พอดีมีธุระต่อ”
เพื่อนของเธอออกหน้าร่ำลาทุกคนในกลุ่มแทนเธอ และคาดว่าพอเธอกับกรัณเดินออกไปแล้ว หัวข้อสนทนาคงจะเปลี่ยนเป็นเรื่องของพวกเธอสองคนทันที
“ครั้งหน้าถ้านัดกัน รันไม่ต้องชวนหนูนาก็ได้นะ นีน่าคงไม่ได้อยากเจอหนูนาหรอก คงอยากเจอรันมากกว่า”
เธอพูดกับเพื่อนไปตรงๆ อย่างล้อเลียน ถึงเขาจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่ชอบเธอมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่เขายังคงปฏิบัติกับเธออย่างดีในฐานะที่เธอได้มอบให้ เขาวางตัวสุภาพ ไม่เคยรุ่มร่ามกับเธอเลยสักครั้ง เขาทำตัวกับเจสสิก้าอย่างไร เขาก็ทำแบบนั้นกับเธอเช่นกัน
“ถ้าไม่ชวนหนูนามาด้วย รันก็หาข้ออ้างหนีออกมาไม่ได้ล่ะสิ”
เธอยิ้มรับกับการเป็นกันชนอย่างไม่เต็มใจนัก โชคดีที่ตอนนี้เรียนจบแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าต้องเจอกันอีกบ่อยๆ เธอคงจะลำบากน่าดูที่ต้องกลายเป็นไม้กันหมาให้กับเพื่อนชายที่ป๊อปปูล่าอย่างเขา
ยิ่งผู้หญิงที่เธอต้องต่อกรด้วย เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างนีน่า เธอคงจะเอาตัวรอดกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดแบบนี้ได้อย่างยากเย็น
“ไปไหนกันดี ดูหนังไหม รันไม่ได้เข้าโรงหนังที่ไทยมานานแล้ว”
เธอตอบรับคำชักชวนด้วยความยินดี เพราะเธอกับเขาก็ไม่ได้ดูหนังที่นี่มานานพอๆ กัน ยังไงก็คงดีกว่ากลับไปนั่งแกร่วอยู่ที่บ้านอย่างเบื่อหน่ายโดยไร้จุดหมาย
กว่าหนังที่เธอดูจบก็ค่ำแล้ว พรนาราจึงโทรบอกที่บ้านว่าจะอยู่ทานอาหารเย็นกับเพื่อนตามคำชักชวน เพราะกรัณรับปากว่าจะไปส่งเธอให้ถึงที่บ้านเลย
“เจสสิก้าบอกว่าจะมาเที่ยวเมืองไทยนะ แต่ติดต่อหนูนาไม่ได้ ก็เลยโทรมาบอกรัน ดีนะที่หนูนาซื้อโทรศัพท์แล้วติดต่อมาที่รัณ ทำให้เราได้เจอกันวันนี้ “
กรัณเอ่ยบอกพรนาราในตอนที่กำลังขับรถมาส่งเธอที่บ้าน เขาพยายามขับรถให้ช้าที่สุดเพราะอยากมีเวลาอยู่กับเธอให้นานที่สุด