CHAPTER 7 หนูนาจะเป็นแอร์
หนูนาจะเป็นแอร์
“พ่อแม่คะ หนูนาคิดว่าจะไปหางานทำค่ะ”
พรนาราคุยกับครอบครัวในเย็นวันนั้น หลังจากคิดได้ว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ถ้าเธอมีงานทำเธอจะได้เจอเขาน้อยลง ถึงเขาอาจจะไม่ได้แวะมาที่ร้านของเธอบ่อยก็ตาม แต่ยังดีกว่านั่งว่างๆ เหมือนรอให้เขามา ทั้งที่จริงแล้วเขาอาจจะไม่มาที่นี่อีกเลยก็ได้ แม่ของเธอยังพูดอยู่เลยว่าไม่ได้เห็นลูกหลานของป้าแววแวะมาที่ร้านนานมากแล้ว ที่ตอนนี้เธอได้เจอเขาบ่อยเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
“ไม่อยากช่วยงานที่ร้านเหรอ”
แม่ของเธอถามทีเล่นทีจริง ในขณะที่กำลังหยิบถุงน้ำหอมมาเปิดดูอย่างตื่นเต้น คนดีใจที่ได้ของชิ้นนี้คืนกว่าเธอ ก็แม่ของเธอนี่แหละ
“แม่ก็รู้ว่าหนูนาทำอะไรไม่เป็น เดือนยังทำอะไรดีกว่าหนูนาตั้งเยอะ”
เธอเปรียบเทียบตัวเองกับลูกจ้างในร้านที่เรียนไม่จบ แต่ทำงานได้ดีกว่าเธอทุกอย่าง ช่วยแบ่งเบางานในร้านได้เยอะมาก ผิดกับเธอที่น่าจะเป็นภาระให้พ่อกับแม่เลี้ยงดูมากกว่า
“หนูนาอยากใช้ความรู้ที่เรียนมาบ้าง เผื่อจะมีอะไรที่หนูนาทำได้ดีกว่านี้” เธอให้เหตุผลอย่างเป็นทางการ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุที่แท้จริงคือเรื่องอะไรกันแน่
“ถ้าหนูนาอยากทำงานจริงๆ ลองสมัครดูก่อนก็ได้ แต่หางานที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ถ้าตั้งใจจริงก็อย่าท้อล่ะ”
พ่อของเธอเอ่ยปากอนุญาตพร้อมทั้งให้กำลังใจไปในตัว
“ตาป้องนี่น่ารักจริงๆ ยังอุตส่าห์ช่วยหาของมาคืนให้”
พอหมดเรื่องของเธอ แม่ก็สาละวนกับการชื่นชมน้ำหอมที่อยากได้มานานแสนนานแทน
“หนูนามีเบอร์พี่ป้องไหม พรุ่งนี้เช้าโทรให้ตาป้องแวะมาเอาขนมที่ร้านหน่อยนะ แม่อยากจะขอบคุณ”
“พี่ป้องไม่ชอบกินขนมพวกนี้นะคะแม่ ส่วนพี่แป้งก็น่าจะเลิกกินไปแล้วเพราะไดเอ็ท”
เธอรู้เพราะเขาเพิ่งจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่าพี่สาวคนสนิทของเธอปฏิเสธอาหารทุกชนิดที่ก่อให้เกิดความอ้วน แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เธอพยายามหาทางหลบหน้าเขาแล้วแท้ๆ แม่ยังจะให้เธอโทรไปตามเขามาอีก
“ไม่เป็นไร ให้ตาป้องไปแจกเพื่อนที่ทำงานก็ได้ หนูนามีเบอร์พี่ป้องใช่ไหม พรุ่งนี้โทรให้แม่ด้วยนะ”
เธอรับคำโดยไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้เลย เขากับแม่เหมือนนัดกันมาไม่มีผิด เพราะผู้ชายที่แม่พูดถึง เพิ่งจะให้เบอร์ของเขากับเธอในวันนี้เอง
‘เบอร์มือถือพี่ เอาเบอร์ของเรามาด้วย’
‘หนูนายังไม่มีเบอร์มือถือค่ะ ไม่รู้จะใช้ติดต่อใคร ก็เลยยังไม่ได้ไปซื้อ’
เขาได้แต่ยิ้มให้กับเหตุผลที่ไม่เข้าท่าของเธอ แล้วบอกให้เธอเก็บเบอร์ของเขาไว้ ถ้าเธอมีเบอร์มือถือเมื่อไร ให้โทรหาเขาทันที
‘เอาไว้โทรคุยกับพี่คนเดียวก็ได้’
คำพูดเหมือนกำลังอ่อยเหยื่อของเขาในตอนนั้น เขาคงพูดโดยไม่ได้คิดอะไร แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนเกือบจะกระเด็นออกมาข้างนอก ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงมีผู้หญิงมาคอยวนเวียนรอบตัวเขามากมายหลายคน ถ้าเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งบ้าง ไม่ใช่เพียงแค่น้องสาวคนเดิมก็คงจะดีไม่น้อย
“หนูนา เหม่ออะไรลูก”
แม่ของเธอยิ้มขำเมื่อเห็นลูกสาวนั่งใจลอยไปไกล พูดอะไรก็เหมือนไม่ได้ยิน
“แม่ว่าอะไรนะคะ” เธอเรียกสติของตัวเองให้กลับมาแล้วตั้งใจฟังสิ่งที่แม่ของเธอกำลังพูด
“แม่ถามว่าหนูนาไม่ลองไปสมัครเป็นแอร์ดูล่ะ ที่บริษัทของพี่ป้องน่าจะมีรับบ้างนะ เผื่อให้ป้องช่วยฝากงานให้”
“หนูนาจะทำได้เหรอคะ”
เธอถามอย่างไม่มั่นใจ เพราะเธอรู้สึกว่าคนที่จะเป็นแอร์โฮสเตสได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ เหตุผลที่เธอหางานทำเพราะต้องการหลบหน้าเขา แม่ยังจะให้เธอไปสมัครงานที่บริษัทของเขาอีก
“ทำได้สิ หนูนาสวยเหมือนแม่ขนาดนี้ พูดภาษาอังกฤษก็เก่ง”
แม่ของเธอเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชมในความสามารถที่มีอยู่อันน้อยนิด หน้าตาที่ละม้ายคล้ายแม่ของเธอ ถึงหลายคนจะบอกว่าเธอเป็นคนหน้าตาดี แต่เธอรู้สึกว่าหน้าตาแบบเธอหาได้ทั่วไปเกลื่อนถนน สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ชื่นชม เพราะอยู่ในช่วงที่สาวๆเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยพอดี มีแต่คนไทยนั่นแหละที่ชมเธอ เพราะตอนอยู่ที่ออสเตรเลีย เพื่อนต่างชาติมักจะบอกว่าเธอเหมือนเด็กเกินไป ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบผู้หญิงทั่วไปเลย
“ไม่ใช่แค่หน้าตาดีกับพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วจะทำได้ทุกคนนะคะแม่”
เธอปฏิเสธอย่างอ่อนใจ เพราะคำพูดที่ให้กำลังใจของแม่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจได้เลยว่าเธอจะทำอาชีพนี้ได้
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่นา พรุ่งนี้แม่จะลองถามตาป้องดู”
แม่ของเธอพูดอย่างมาดมั่น จนเธอเหนื่อยแรงที่จะทัดทาน อีกอย่างงานนี้ไม่ใช่ว่าจะเข้าทำงานกันได้ง่ายๆ ต้องสอบอะไรอีกตั้งเยอะแยะ ปล่อยให้แม่ของเธอคาดหวังไปก่อนคงไม่เป็นไร พอถึงเวลาต้องสอบจริงๆ แม่ของเธอจะเลิกคาดหวังไปเอง เพราะเธอเป็นเด็กที่สอบอะไรไม่เคยติดกับเขาเลยสักครั้ง ตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน